ย้อนยุค! มุมมองความรักแบบหนุ่มสาว #บุพเพสันนิวาส มันเป็นแบบนี้นี่เอง


 
Spoil
  • เป็นหญิงยุคกรุงศรีฯ ต้องรักนวลสงวนตัว จับมือถือแขนชายใดหาใช่เรื่องดีไม่
  • จีบกันให้หวานเลี่ยน ให้ใช้โคลงกลอนเป็นสื่อรัก
  • ลูกสาวบ้านไหนอายุเลย 20 ปี แล้วยังไม่ออกเรือน ถือว่าขึ้นคาน มีแต่คนนินทา
    ________________________________
     
          ถ้าให้ย้อนไปในยุคกรุงศรีอยุธยาแบบการะเกด น้องๆ จะทำไงคะ? ตื่นเต้น ดีใจ หรือทำตัวไม่ถูก  เพราะวัฒนธรรม คำพูดคำจา และการใช้ชีวิตก็ต่างจากที่เราเป็นในปัจจุบันมาก แม้แต่มุมมองความรักก็ต่างกันสุดๆ อยากรู้ว่าต่างกันอย่างไร เค้ารักกันยังไง ตามไปส่องกันค่ะ

 
รักกันแค่ไหน แต่ไม่ใช่จะแตะเนื้อต้องตัวกันได้นะ
 
          ไม่ใช่ว่ารักกัน ต้องตาต้องใจกัน แล้วจะเข้าหากันได้ง่ายๆ จะมาจับมือถือแขน หรือเดินควงกันทั่วตลาดนี่ไม่ได้เด็ดขาด เป็นหญิงต้องรักนวลสงวนตัว ดูอย่างช่วงแรกๆ ที่การะเกดยังร้ายอยู่ คุณพี่หมื่นกับจันทร์วาดก็มีพบเจอและถูกใจกัน แต่ก็ได้แค่มองตา และยืนห่างกันเป็นวา ไม่ใช่ว่าจะเข้าใกล้กันได้ง่ายๆ ซะหน่อย หรือฉากที่การะเกดอ้อนวอนเกาะแขนพี่หมื่น แล้วพี่หมื่นมองแบบดุๆ นี่ก็แสดงให้เห็นว่าเป็นการกระทำที่ไม่ควรยิ่งนัก ถ้ายังไม่หมั้นหมายหรือแต่งงานกันห้ามทำเด็ดขาด
 

ภาพจากละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส

 
          หรืออย่างฉากที่การะเกดผายปอดให้คุณพี่ ชาวบ้านชาวช่องเห็นกันทั้งตลาด ก็กลายเป็นขี้ปากทุกคน นินทากันไปเพียบ จนพี่หมื่นออกตัวว่าจะออกเรือนเพื่อลบคำครหานั่นเอง
 

ภาพจากละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส

 
จีบกันให้หวานซึ้ง ต้องท่องโคลงกลอน
 
          ถ้ายุคนี้จะจีบกันที ก็ส่งสติ๊กเกอร์ไลน์น่ารักๆ  หรือร้องเพลงรักสักเพลงให้ แต่ในยุคนั้นมันมีที่ไหนล่ะ ความบันเทิงในการจีบกันก็ต้องการแต่งโคลงกลอนที่แฝงความหมายหวานเลี่ยนเจียนตายให้กันนี่แหละเจ้าค่ะ ที่จะอินสุดๆ แบบฉากที่คุณพี่หมื่น แม่จันทร์วาด และการะเกดแต่งโคลงกลอนแก้กันไปมานั่นแหละ
 
"ตะวันลับเหลี่ยมเจ้า เจียมจันทร์
แสงบ่เรืองกระสัน สู่ฟ้า
เมฆลอยบังพลัน สุดส่อง
คิดจึ่งเจียมตัวข้า ต่ำต้อยเทียมดิน"

ความหมายประมาณว่าตัดพ้อ น้อยใจ ว่าไม่มีแสงตะวัน เมฆบัง ก็ไม่มีโอกาสมองเห็นจันทร์แล้ว

 

"ตะวันลับเหลี่ยมเจ้า เมฆบัง

นกส่งเสียงยังรัง แซ่ซ้อง
จันทร์ฤาแลหลัง ถึงเมฆ
ดาวจึ่งเจียมจิตป้อง ไป่สู้เทียมจันทร์"

นี่ก็ไม่รู้ว่าให้กำลังใจ หรือจะอ่อยเบาๆ กันแน่ ประมาณว่าถึงจันทร์โดนเมฆบัง
แต่ดาวยังพยายามขึ้นไปอยู่คู่จันทร์ให้ได้


 
คลุมถุงชนเป็นเรื่องธรรมดา
 
          หญิงสาวสมัยอยุธยา ส่วนใหญ่ไม่ได้มีอิสระในความรักมากนักหรอกค่ะ ก็วันๆ อยู่แต่ในบ้านในเรือน ไปตลาด ไปวัด ไม่ได้คบค้าสมาคมมีชมรมหรือออกไปเดินห้าง จะได้เจอหนุ่มที่ไหน แน่นอนว่าความรักส่วนใหญ่ก็เลยเกิดจากที่พ่อแม่หรือผู้ใหญ่หามาให้ ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดา และสาวๆ สมัยนั้นก็มักจะเชื่อฟังพ่อแม่ ดูอย่างชีวิตการะเกดสิคะ คุณพ่อเป็นสหายกับออกญาโหราธิบดี (พ่อของคุณพี่หมื่น) จนมีคำมั่นสัญญาต่อกัน ว่าจะให้ลูกแต่งงานกัน ทั้งที่การะเกดยังไม่เคยเห็นหน้าพี่หมื่นมาก่อนเข้าบ้านเลยด้วยซ้ำ
 

ภาพจากละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส
 
          ส่วนจันทร์วาดเองก็ปักใจกับคุณพี่หมื่น เพราะพ่อแม่ก็ชื่นชมและสนับสนุน ผู้ใหญ่ก็ให้เข้าๆ ออกๆ บ้าน และต้อนรับขับสู้อย่างดี หรือแม้แต่แม่มะลิ ก็แต่งงานกับฟอลคอน ทั้งที่ไม่ได้ยินยอมพร้อมใจสักเท่าไหร่ และแม้ฟอลคอนจะมีเมียพระราชทานอยู่แล้ว แต่ฟอลคอนก็เพียงแค่ส่งนางกลับคืนวังตามเดิม (เดี๋ยวๆ แบบนี้ก็ได้เหรอ) เห็นมั้ยคะ สาวสมัยนั้นไม่ค่อยมีอิสระทางความรักสักเท่าไหร่ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีคนที่รักกันจริงๆ นะ
 

ภาพจากละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส

 
สาวกรุงศรีฯ ถ้า 20 ปีแล้วยังไม่แต่งงาน คือขึ้นคานแล้วนะ
 
          สาวคนใดที่ปล่อยให้อายุล่วงเลยถึงวัยออกเรือน แต่ยังไม่มีคู่ครองสักที ก็มักจะโดนมองไม่ดี แสดงว่านางจะต้องมีสิ่งใดที่พิกลพิการจนชายใดไม่อาจเหลียวแล ซึ่งสมัยก่อนสาวๆ จะออกเรือนกันตั้งแต่แรกรุ่น อายุ 15-16 ปีแล้วล่ะ ใครอายุล่วงเลยไปไกล ก็ชักจะไม่ดี เหมือนตอนที่คุณลุงพูดกับคุณพี่หมื่นว่า "แม่การะเกดเป็นนางเทื้อเรือนอยู่นี่ ก็เพราะลูกประวิงเวลาอยู่อย่างนี้ อายุนางก็เลย 20 ปีไปแล้ว เขาลือกันไปสามบ้านแปดบ้าน" ในเรื่องการะเกดเป็นนางเทื้อคาเรือน หรือที่สมัยนี้เรียกว่าขึ้นคานนั่นแหละค่ะ ขนาดการะเกดเองก็เจ็บช้ำน้ำใจ ถึงขั้นว่า "กูคร้านจะคอยแล้วนะ" ลองเทียบกับสาวสมัยนี้สิ อายุ 30 ปีแล้วยังไม่มีแฟนก็มีเยอะไป ชิลจะตายเนอะ
 

ภาพจากละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส

 
          ยุคสมัยเปลี่ยน วัฒนธรรมและการใช้ชีวิตก็เปลี่ยนตาม ไม่ใช่เรื่องแปลกค่ะ สมัยนี้อาจจะมีอิสระทางความรักและการแสดงออกที่มากกว่า แต่คิดไว้เสมอว่าทำอะไรก็อย่าให้มันเกินลิมิต มีสติตลอดนะ ส่วนน้องๆ ยุคนี้ ถ้าให้ย้อนไปยุคกรุงศรีแบบการะเกดได้ จะแอบเอาการแสดงความรักยุคนี้แบบไหนไปเผยแพร่บ้างเนี่ย

 
พี่แก้ว
พี่แก้ว - Columnist คอลัมนิสต์ชีวิต 150 เซนฯ ถือคติอกหักเรื่องเล็ก แต่มีแฟนไม่ตรงสเป็กสิเรื่องใหญ่

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด

4 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
กำลังโหลด