บทเรียนจาก #TheFaceAllStars ที่สอนให้รู้ว่า ถ้าไม่อยากดราม่า อย่าทำ!

 

          จะใช้ชีวิตกี่ทีก็ไม่มีดราม่า ด้วย...โนค่ะ ไม่ใช่สโลแกนแชมพูยี่ห้อไหน แต่เป็นสโลแกนที่พี่แก้วดู The Face Thailand 4 All Stars แล้วอยากบอกให้เก็บเอาบทเรียนที่ได้ไปใช้ในชีวิตจริง! อย่าคิดว่ารายการเน้นแต่ดราม่า ดูดีๆ ในดราม่านั้น มีเรื่องสอนใจได้เพียบ 

 

บทเรียนที่ 1 : แค่พูดผิด ชีวิตก็เปลี่ยนได้
 

          ถ้าใครตามดูตั้งแต่วีคแรกถึงวีคล่าสุด พี่แก้วเชื่อว่า ดราม่าที่ทุกคนจะต้องจดจำได้ดี ก็คือการที่โจเซฟโดนตัดออกจากห้องดำโดยเมนเทอร์ซอนย่า เพราะเหตุผลว่าพูดจาเหมือนไม่เคารพเมนเทอร์! ถ้ายังจำได้ ในวีคแรกของการคัดคนเข้าทีม โจเซฟคือคนที่ทีมบีริต้า และทีมพลอยซอนย่าต้องการตัว แต่สุดท้ายโจเซฟก็เลือกที่จะเข้าทีมบีริต้า โดยทิ้งท้ายประโยคให้เมนเทอร์ซอนย่าว่า “another life” ซึ่งทางรายการก็แปลมาว่า “ชาติหน้า” อาจจะได้อยู่ทีมเดียวกัน โอ้โฮ! ฟังดูแรงมาก ถึงขนาดซอนย่าบอก เจอกันในห้องดำเมื่อไหร่ พี่ไม่ลืมคำพูดนี้แน่
 

ภาพจาก The Face Thailand 4 All Stars 
 

          ซึ่งจริงๆ แล้วมีหลายๆ คนออกมาให้ความเห็นว่าความหมายของ another life แปลว่า “โอกาสหน้า” เป็นการปฏิเสธแบบสุภาพนะ ไม่ใช่ชาติหน้าแบบที่หลายคนเข้าใจ แต่เกมก็คือเกม พี่ซอนย่าเลือกตัดโจเซฟออกจริงๆ และพูดว่า “ต้องรู้นะคะว่าเราไม่ควรจะหักหน้าเมนเทอร์” แม้สุดท้ายจะมีการปรับความเข้าใจ และโจเซฟอธิบายแล้วว่า “ผมอยากบอกว่าภาษาไทยผมไม่ชัด เลยพูดภาษาอังกฤษว่า maybe another life  ผมไม่ได้พูด next life แปลว่าชาติหน้า ผมนับถือพี่มากครับ” แต่เรื่องนี้ก็สอนให้รู้ว่า คำพูดเป็นนายเรา พูดผิดนิดเดียว ชีวิตก็เปลี่ยนได้ ต่อให้เราไม่มีเจตนาจะไปพูดจาแย่ๆ ใส่ใครก็ตาม เพราะฉะนั้น คิดดีๆ ก่อนจะพูดอะไรนะคะ
 

ภาพจาก The Face Thailand 4 All Stars 

 

 

บทเรียนที่ 3 : อย่าเอาแต่ตัวเองรอด เพราะเราคือทีมเวิร์ก
 

          ใน EP.4  นิกกี้ทำผลงานในมาสเตอร์คลาสได้ดีจนชนะ และได้รับเซฟโซน ไม่ต้องเข้าห้องดำในวีคนั้นแน่ๆ นิกกี้ก็เลยชิลๆ กับการทำแคมเปญ จนชวนเติร์ทเล่นไม่สนใจการแข่ง ทำให้เมนเทอร์คริสถึงกับปวดหัว เมนเทอร์ซอนย่าและเมนเทอร์บีก็ยังตำหนิ ซึ่งในโลกของชีวิตจริงไม่ว่าจะเรียนหรือทำงาน ในขณะที่เพื่อนๆ ในทีมเต็มที่กับงานที่ทำ แต่เรากลับไม่สนใจ เพราะคิดว่ายังไงเราก็รอดแล้ว แบบนี้ดูยังไงก็กินแรงเพื่อน เชื่อเลยว่าคนรอบข้างและในทีมเองก็ต้องไม่ชอบด้วยแน่นอน
 

ภาพจาก The Face Thailand 4 All Stars 
 

          ถ้าเปรียบให้เห็นภาพ คะแนนวิชาสังคมน้องได้เกรดสามแล้วแน่ๆ น้องพอใจกับสิ่งที่เป็น ต่อให้สั่งรายงานกลุ่มมา น้องก็ไม่สนใจทำ ทำบ้างเล่นบ้าง ยังไงก็ผ่านอะ ในขณะที่เพื่อนคนอื่นๆ ในทีมพยายามทำรายงานกันแทบตายเพื่อให้ออกมาดี น้องกลับกินแรงเพื่อนแบบนี้ คิดเอาค่ะว่ามันโอเคแล้วจริงมั้ย
 

ภาพจาก The Face Thailand 4 All Stars 

 

บทเรียนที่ 4 : พูดแทรกขึ้นมากลางคัน ก็เหมือนเถียงคำไม่ตกฟาก
 

          EP เดียวกับที่นิกกี้โดนว่า เติร์ทเองก็โดนเมนเทอร์บีตำหนิที่เถียงเมนเทอร์คริสตอนที่ทำแคมเปญ เป็นการไม่ให้เกียรติกันเลย แต่พี่บียังพูดไม่จบ เติร์ทก็พูดขึ้นมาว่าขออธิบาย จนทำให้เมนเทอร์คริสต้องดุว่านี่แหละ แบบนี้แหละที่เค้าว่า ยังจะทำอีก งานนี้เติร์ทเลยรู้สึกผิดเอามากๆ ซึ่งในชีวิตจริง การที่น้องพูดแทรกใครๆ มันก็ดูไม่น่ารักอยู่แล้ว ยิ่งกับผู้ใหญ่ จะยิ่งดูเหมือนว่าน้องไม่ฟัง แต่ก็ไม่ใช่น้องจะต้องนั่งนิ่งไม่มีปากมีเสียงใดๆ ใครอยากจะอธิบาย อยากจะออกความเห็นอะไรก็ทำได้ค่ะ เพียงแต่รอให้ผู้ใหญ่พูดจบก่อน แล้วค่อยเริ่มต้นพูด การกล้าแสดงออก การเสนอความเห็นไม่ใช่เรื่องผิดค่ะ แต่ทำให้ถูกที่ถูกเวลา และถูกกาลเทศะ จะน่ารักขึ้นอีกเยอะ เชื่อเถอะ
 

ภาพจาก The Face Thailand 4 All Stars 

 

บทเรียนที่ 5 : เคารพในบทบาทของทุกคน
 

          ใน EP.6 ที่เมนเทอร์พลอยและซอนย่าไม่ได้มา ทางรายการก็ยังส่งเมนเทอร์รับเชิญพิเศษอย่างเกรซและซาบีน่ามาแทน ซึ่งงานนี้ทรายออกอาการอย่างเห็นได้ชัดว่าไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ เพราะทั้งคู่ยังอ่อนประสบการณ์ในวงการ ซึ่งหลายคนก็ค่อนข้างไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ทรายแสดงออกมา ถึงจะประสบการณ์น้อย แต่ในเมื่อทางรายการกำหนดบทบาทของเกรซและซาบีน่ามาแล้ว ทรายก็ควรเคารพในการตัดสินใจ เคารพในบทบาทของกันและกัน
 

ภาพจาก The Face Thailand 4 All Stars 
 

          ก็เหมือนกับชีวิตจริงนี่แหละค่ะ บางทีเราก็เลือกไม่ได้หรอกว่าใครจะมาเป็นผู้นำหรือหัวหน้าเรา แต่ในเมื่อเราเข้ามาอยู่ในทีมแล้ว เราก็ต้องให้โอกาส ให้เกียรติและเคารพกัน ทีมถึงจะไปรอด  หัวหน้าห้องที่ครูเลือกมาอาจไม่ถูกใจเรา เราอาจมองว่าเค้าไม่มีความสามารถ แต่เมื่อเข้ามาแล้ว ก็ลองให้โอกาสและคอยสนับสนุนกันไป สุดท้ายถ้าเค้าไม่ดีจริงๆ ก็ดูที่ผลงานแล้วค่อยว่ากันเนอะ
 

ทรายบอกกับรายการว่า "ดีใจก็ดีใจ อีกใจก็...รายการแกล้งอ่อวะ
เมนเทอร์มันคือต้องใช้ประสบการณ์ มันไม่ใช่แค่ใครเก่งไม่เก่ง"
แต่สุดท้ายแล้ว ทรายก็ยอมรับในความตั้งใจของทั้งคู่ในฐานะเมนเทอร์พิเศษจนได้
ภาพจาก The Face Thailand 4 All Stars 

 

บทเรียนที่ 6 : เสียสละ มีน้ำใจ ได้ใจคนดู
 

          การเป็นฮีโร่ ไม่ใช่แค่ออกมากู้โลก ปกป้องดวงดาว การที่คุณออกโรงปกป้องเพื่อนๆ เหมือนที่โจเซฟอาสาเข้าห้องดำ เพื่อให้เทียและสกายยังอยู่ในทีม ทั้งที่ตัวเองได้เซฟโซนแท้ๆ โจเซฟทำไปเพราะจริงใจ ไม่ได้หวังผล แต่ก็โดนใจคนดูแบบสุดๆ จนทุกคนชื่นชม กลายเป็นฮีโร่ของทีม เห็นมั้ยคะ การทำอะไรด้วยความจริงใจ น้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ก็ช่วยให้ทีมไปรอดและได้รับคำชมได้นะ
 

ภาพจาก The Face Thailand 4 All Stars 

 

บทเรียนที่ 7 : อย่าตัดสินคนเพียงแค่เห็นไม่กี่นาที
 

          ฟังหูไว้หู อย่าตัดสินคนเพียงแค่เห็นแวบเดียว คุณไม่รู้หรอกว่าตัวตนจริงๆ หรือความคิดที่เค้าทำสิ่งนั่น มันคืออะไรกันแน่ มันก็แค่การตัดต่อ มันก็แค่เสี้ยวนาที แต่หลังจากซีนนั้นเกิดอะไรบ้างคุณไม่รู้เลย ก็เหมือนชีวิตจริงแหละค่ะ น้องตัดสินคนเพียงแค่เห็นจากในโซเชียลไม่กี่สเตตัสไม่ได้หรอก บอกว่าเค้าเลว เค้าแย่ เพราะสิ่งที่เค้าแชร์มาไม่ได้นะคะ เค้าอาจจะไม่ได้เป็นแบบนั้นเลยก็ได้ แค่เราไม่เคยรู้มาก่อน
 

หลายคนตัดสินเมนเทอร์พลอยเรื่องล้อเลียนเสียงริต้า ว่าพลอยร้าย พลอยไม่มีมารยาท
จนตามไปด่าถึงในไอจีพลอย เอาจริงๆ แล้ว พลอยเป็นแบบที่ทุกคนตัดสินจริงๆ หรือเปล่า?
หลังฉากมีอะไรมากกว่านั้นมั้ย ก็ไม่มีใครรู้ได้ แต่เราตัดสินเค้าไปก่อนแล้ว
ภาพจาก The Face Thailand 4 All Stars 

 

          ในเมื่อชีวิตจริงมันตัดต่อไม่ได้ เพราะฉะนั้น จะทำอะไรคิดดีๆ แล้วลองเอาบทเรียนจากรายการนี้ไปปรับใช้ได้ ชีวิตจะได้ไร้ดราม่า แล้วน้องๆ ล่ะคะ ดูแล้วคิดว่าบทเรียนจากดราม่าไหนที่โดนใจบ้าง มาแชร์กันค่ะ