Spoil
- หนังโรแมนติกคอเมดี้มีอิทธิพลกับความคิดของคน
- หนังจบที่การแต่งงาน แต่ชีวิตจริงมันเพิ่งเริ่ม!
- วิ่งหารักแท้ ทั้งที่นี่มันโลกแห่งออนไลน์แล้ว
__________
ปฎิเสธไม่ได้เลยจริงๆ ว่าหนังโรแมนติกคอเมดี้ หรือหนังรอมคอม ยังคงเป็นหนังยอดนิยมของคนทั่วโลก โดยเฉพาะสาวๆ เพราะเวลาดูแล้วโลกสดใส เคลิ้มตามไปทุกที ดูยังไงก็คิดว่าไม่เป็นพิษเป็นภัย แต่ในอีกมุมนึง คุณอาจไม่รู้ว่า มันมีอันตรายต่อความสัมพันธ์ของคุณได้เช่นกัน!
สาวๆ มักคาดหวังให้รักเหมือนหนังโรแมนติก
เป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้หญิงมักจะอินกับหนังรักมากกว่าผู้ชาย แต่ก็มีหลายคนที่อินจนมันมีอิทธิพลกับความคิด นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแฮเรียต-วัตต์ (Heriot Watt University) ในสก็อตแลนด์ก็คิดเช่นกัน จึงทำการศึกษากับคนที่ดูหนังโรแมนติกคอเมดี้ (หนังปี 1995-2005) ทั้งหมด 40 เรื่อง แล้วตอบแบบสอบถามถึงความสัมพันธ์และความคาดหวังในความรักของพวกเขา จนพบว่าหนังเหล่านี้มีอิทธิพลกับการปลูกฝังความเชื่อในมุมผิดๆ ว่าความรักจะต้องจบลงที่ความสมบูรณ์แบบ และการตกหลุมรักใครสักคนเป็นเรื่องง่ายๆ ที่อาจไม่ต้องใช้ความพยายามใดๆ ในการจีบก็สำเร็จได้
มองตาก็รู้ใจ ทำไมต้องพูดให้มากเรื่อง
ดร.โฮล์มส์ นักจิตวิทยาที่เคยให้คำแนะนำคู่รัก พบว่าคู่รักที่เป็นแฟนหนังโรแมนติกคอเมดี้ตัวยง อย่างเรื่อง You’ve Got Mail หรือ The Wedding Planner มักจะมีปัญหาในการสื่อสาร เพราะพวกเขาเชื่อว่า คนเป็นแฟนกันอยู่ด้วยกันขนาดนี้แล้ว ก็น่าจะเข้าใจกัน แค่มองตาก็รู้ใจ ไม่ต้องพูดออกไปก็ได้ พวกเขาจึงละเลยการพูดคุยและทำความเข้าใจกับคนรัก หนังปลูกฝังให้คนเชื่อว่าการคบกันนั้นมีแต่เรื่องเพอร์เฟ็กต์สุดๆ ทั้งที่ความจริงเราต่างก็รู้ว่าในทุกความสัมพันธ์มันมีอุปสรรคเสมอ มีความพลิกผัน มีความไม่สมบูรณ์แบบ มันไม่มีอะไรที่ดีพร้อมตลอดหรอก
เดทในชีวิตจริง มันเหมือนหนังซะที่ไหน!
ทีนี้มาเทียบฉากต่อไปเลยค่ะ หนังโรแมนติกคอเมดี้ฉากไหนบ้างที่ต่างจากชีวิตจริง ฉากแรกเลยก็คือเดทแรก! ที่ในหนังมักจะนำเสนอความสนุกสนานของการแปลงโฉมตัวเอง การออกไปพูดคุยและทำความรู้จักกันอย่างหวานซึ้งภายใต้บรรยากาศร้านอาหารสวยๆ มีกุหลาบและแชมเปญ แต่เรื่องจริงเหรอ เดทไม่ใช่เรื่องง่ายและน่าสนุกเสมอไป เพราะแค่คิดว่าจะใส่อะไร จะไปทำอะไรบ้าง ก็วุ่นวายปวดหัวแล้ว ไหนจะต้องทำตัวยังไงต่อหน้าเค้าอีก แล้วจริงๆ คนเราก็มักจะประหม่าและทำตัวไม่ถูกเมื่อต้องอยู่กับคนที่เพิ่งรู้จักหรือเพิ่งคบกันไม่นาน มันไม่ราบรื่นขนาดนั้นหรอก นี่แหละคือสิ่งที่หนังไม่ได้บอกเรา
ฉากวิ่งหารักแท้ ชีวิตจริงจำเป็นแค่ไหน
หนังโรแมนติดคอเมดี้ส่วนมากจะต้องมีฉากวิ่ง ยิ่งช่วงท้ายๆ เรื่อง ที่แต่ละคนเพิ่งรู้ใจตัวเอง จะต้องวิ่งตามหาคนรัก วิ่งไปสนามบิน วิ่งไปงานแต่งงาน ไปให้ทันสิ่งที่จะเกิดขึ้น ซึ่งก็มักจะทันทุกที แต่ชีวิตจริง เดี๋ยวนี้เค้าไม่วิ่งกันแล้วมั้ยละ คิดว่าสวมวิญญาณพี่ตูนก้าวคนละก้าวแล้วจะไปทันจริงๆ เหรอ ที่สำคัญ มันไม่เท่หรอกนะ ถ้าจะวิ่งไปหยุดงานแต่งงานของแฟนเก่าหรือเพื่อนสนิท เพื่อจะไปบอกเค้าว่าเรารักเค้ามาก และหวังว่าสุดท้ายแล้วเค้าจะกลับมาเลือกเรา เพราะในชีวิตจริง การทำแบบนั้นมันเป็นเรื่องที่ไม่สมควรเท่าไหร่หรอกนะ
อย่างล่าสุดกรณีสาวจีนสวมชุดเจ้าสาวบุกงานแต่งงานแฟนเก่า คุกเข่าเพื่อขอคืนดี จนกระทั่งเจ้าสาวตัวจริงโกรธและเดินลงจากเวทีไป กลายเป็นเรื่องที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมออนไลน์เป็นอย่างมาก
ความรักไม่ได้จบที่การแต่งงาน
เมื่อมาถึงตอนจะจบ ส่วนใหญ่แล้วหนังจะฉายให้เห็นฉากแต่งงานอย่างมีความสุข แฮปปี้เอนดิ้งสุดๆ แต่ไม่ค่อยฉายต่อจากนั้นว่าชีวิตคู่ของทั้งสองคนจะไปต่อยังไง ซึ่งในความจริง การแต่งงานไม่ใช่จุดสิ้นสุดของชีวิตสักหน่อย แต่มันคือจุดเริ่มต้นต่างหาก! เรายังต้องเจอทั้งการทะเลาะเบาะแว้ง ทั้งการปรับตัวเข้าหากัน และปัญหาอีกมากมาย ชีวิตยังต้องเจออะไรอีกเยอะเลย
เอาจริงๆ แล้ว พี่แก้วว่าไม่ว่าหนังประเภทไหนก็ตาม ก็ควรมีวิจารณญาณในการรับชม อย่าปล่อยให้มันมามีอิทธิพลกับความคิดของเรา จนทำให้ชีวิตรักต้องพังทลายเลยดีกว่าค่ะ ขอให้คิดไว้ตลอดว่าหนังก็ต้องมีส่วนแต่งเติมให้ดูสนุกและลุ้นตามอยู่แล้ว ถ้าสมจริงมาก คนก็อาจจะไม่ดู จริงมั้ยล่ะ
แล้วน้องๆ ล่ะคะ ใครเป็นคอหนังโรแมนติกคอเมดี้บ้าง คิดว่าฉากไหนอีกบ้างที่มันแทบจะเป็นจริงไม่ได้เลย มาแชร์กันหน่อยค่ะ
0 ความคิดเห็น