เจาะเบื้องหลัง "พี่เจี๊ยบ" ช่างแต่งหน้า ผู้แปลงโฉมซุป'ตาร์ในรายการ Sing Your Face Off!

 

 

          ถ้าพูดถึงรายการประกวดร้องเพลงตอนนี้ในช่องทีวีไทยก็มีเยอะมาก เลือกดูกันไม่หวาดไม่ไหว แต่มีอยู่หนึ่งรายการที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน ดูแล้วตื่นตาตื่นใจทุกครั้งก็คือรายการ "เปลี่ยนหน้าท้าโชว์  Sing Your Face Off" รายการที่จะจับซุป'ตาร์ของเมืองไทย มาแปลงร่างเป็นศิลปินชื่อดังทั่วโลก

          เชื่อว่าน้องๆ ชาว Dek-D ที่ได้ดูรายการนี้ ก็ต้องสงสัยเหมือนกันว่า เหมือนอะไรเบอร์นี้ ทำได้ยังไงคะพี่ วันนี้พี่แพมก็เลยจะพาไปไขข้อข้องใจด้วยการไปสัมภาษณ์ "พี่เจี๊ยบ ฐาน ธัญศญาพร" สเปเชียลเอฟเฟ็กต์เมกอัพอาร์ตติสต์ชื่อดัง ผู้คร่ำหวอดในวงการบันเทิงมากกว่า 30 ปี แล้วเป็น ทีมงานผู้อยู่เบื้องหลังการแปลงร่างของรายการนี้ทั้ง 3 ซีซั่น

 

 

          "ในการแต่งหน้าดาราคนนึง เริ่มต้นอย่างแรกคือ ต้องประชุมก่อนเลยว่าใครจะแต่งเป็นใคร? แล้วเราจะต้องทำแค่ไหน? วิเคราะห์ออกมาก่อนว่าจะเหมือนได้กี่เปอร์เซ็นต์? บางเคสก็อาจจะเหมือนน้อย บางเคสก็อาจเหมือนมาก ก็ต้องสรุปกันก่อนว่าได้แค่ไหน หลังจากนั้นก็ "ถอดโม" (ทำแม่พิมพ์ที่เป็นรูปร่างหน้าตาของผู้เข้าแข่งขัน) แล้วพอได้โจทย์มาว่าต้องแต่งให้เป็นใครปุ๊ป เราก็ต้องไปหารูปแบบทั้ง 360 องศา
 

          แล้วก็ลงมือปั้นบล็อกเพื่อให้เหมือนกับอีกคนนึง รวมๆ แล้วกว่าบล็อกจะออกมาสำเร็จเป็นคนๆ นึง ต้องใช้เวลาขั้นต่ำ 7 วัน จนวันแข่งขันก็ต้องมาเมคอัพดาราอีก ก็ปาเข้าไป 3 - 5 ชั่วโมงแล้ว แต่งดารา 1 คนก็ต้องใช้ทีมงานตั้งแต่ 2 คน มากสุดก็ 8 คนช่วยกันทำ ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของแบบที่เราจะต้องแต่ง แต่บอกเลยว่ายากทุกขั้นตอนจริงๆ"

 

 

          "คนที่ยากที่สุดอาจจะไม่ได้เหมือนที่สุด ความยากง่ายมันขึ้นอยู่ที่ว่าเราต้องทำอะไรบ้าง เช่น ถ้าเราต้องเพิ่มหัวล้านเข้าไป หรือว่าจะต้องเพิ่มเนื้อ ต้องเปลี่ยนเป็นคนอ้วนก็จะยากมาก ซึ่งหลายๆ คนก็จะมีความยากง่ายแตกต่างกันไป ตอนที่เเต่งพิม พิมประภา ให้เป็นโหน่ง ชะชะช่า ก็เป็นโจทย์ที่หินเหมือนกัน เพราะต้องใส่หัวล้าน ต้องทำเป็นคนอ้วน ต้องเปลี่ยนให้เป็นผู้ชายด้วย ยากก็จริงแต่มันก็อาจจะไม่ได้ออกเหมือนที่สุด"

 

 

          "คนที่มีกระแสฮือฮาอย่าง นัททิว ที่แต่งเป็น อดัม เลอวีน อาจจะแต่งไม่ยากเท่าโหน่ง แต่ก็ออกมาได้เหมือนมาก จะมีส่วนยากก็ตรงที่ต้องเปลี่ยนหน้าให้เป็นโครงของฝรั่ง แต่ที่ยากยิ่งกว่าก็คือต้องมีแทททูทั่วทั้งตัว ส่วนเรื่องหุ่นจริงๆ ของนัททิวเขาก็มาดีอยู่แล้ว เราก็เน้นเพิ่มแสงและเงาให้มันชัดยิ่งขึ้นเท่านั้นเอง" 
 

 

          "ส่วนที่ยากที่สุดก็ต้องยกให้ผิวตัว ถ้าเขาต้องถอดเสื้อ เราก็ต้องทำสีผิวตัวให้เนียนไปกับผิวของใบหน้า อย่างตอนที่เป็นคนแก่ ต้องแต่ง กระแต อาร์สยาม ให้เป็น แม่ผ่องศรี วรนุช เราก็ต้องทำส่วนมือให้เหี่ยว ให้แก่ ในระดับเดียวกับที่ทำเราแต่งหน้าเอาไว้ บางทีต้องทำฟัน ทำยันเหงือกไปเลยก็มี" 

 

เก็บหมดทุกรายละเอียดจริงๆ ค่ะ ยอมใจ

 

          "บางคนที่เห็นว่าไม่ได้แต่งเยอะ แต่ให้ฟิลลิ่งที่เหมือนมากๆ อย่าง อาริอานา แกรนเด พี่ก็วิเคราะห์แล้วว่าน้องพิมไม่จำเป็นต้องปั้นแต่งอะไรเพิ่ม แค่ใส่แสงเงา แต่งตัว ทำผมลงไปก็เหมือนแล้ว อย่างตอนที่นัททิวเป็น แหลม 25 Hours ชิ้นเนื้อก็ไม่จำเป็นเลย แค่เปลี่ยนคิ้ว เปลี่ยนทรงผม ติดหนวด ใส่แว่นเข้าไปก็เป๊ะเลย แต่การแต่งน้อยกว่าไม่ได้แปลว่าลำเอียงนะ คือเราให้ความสำคัญกับทุกคนเท่ากันอยู่แล้ว"

 

 

         "เวลาแปลงโฉมผู้เข้าแข่งขันแต่ละครั้ง เราก็จะพยายามไม่เพิ่มชิ้นเนื้อให้หนามาก ถ้าคนไหนต้องแปะชิ้นเนื้อเยอะ เราก็จะเลี่ยงการใช้ซิลิโคน ไปใช้โฟมลาเท็กซ์แทน ถึงจะดูแข็งกว่าแต่น้ำหนักจะเบากว่า ไม่งั้นมันหนักเกินไป ศิลปินอาจจะรับไม่ไหว แต่จะแยกส่วนของปากบนกับปากล่างออกจากกันอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นปากก็จะขยับง่ายขึ้น เวลาทานข้าว พูดหรือร้องเพลงก็ทำได้เป็นปกติ"  

 

          "ถ้าถามว่าชอบใครมากที่สุด พี่ก็ชอบเหมือนๆ กับที่น้องๆ หลายคนชอบนั่นแหละ คือเราให้สายตาของผู้ชมเป็นคนตัดสินไง อะไรที่คนพูดถึงเยอะ อะไรที่เป็นกระแส แสดงว่ามันผ่านมาพิสูจน์จากหลายๆ สายตามาแล้วว่ามันดี อย่าง แบงค์ แคลช อย่างพี่เป้า สายันต์ สัญญา อย่างอดัมที่ฮือฮาว่าเหมือนมาก นั่นก็แปลว่าเราประสบความสำเร็จ"

 

 

          "จริงๆ พื้นฐานของการแต่งสเปเชียลเอฟเฟ็กต์ ก็เริ่มต้นที่การแต่งหน้าสวยงามก่อน ต้องเรียนรู้เรื่องการใช้สี แสงและเงาต่างๆ หลังจากนั้นค่อยมาเพิ่มเติมทักษะด้านการวาด การปั้น และต้องลึกไปอนาโตมี่ หมายถึงทุกส่วนของร่างกายมนุษย์ สมมุติว่าเราจะทำผีซักตัวนึง เราก็ต้องดูว่าเส้นเลือดต้องวาดยังไง กล้ามเนื้อเป็นยังไง อย่างเวลาต้องเปลี่ยนโครงคนเอเซียให้เป็นยุโรป เราก็ต้องรู้ว่าร่างกายของคนแต่ละแบบมันต่างกันตรงไหน ก็ต้องสังเกตลักษณะของผู้คนเยอะๆ"

 

 

          "คุณสมบัติของเมคอัพอาร์ตติสต์ที่ดี หลักๆ ก็ต้องเป็นคนที่มีศิลปะในตัวเอง มีจินตนาการ ต้องมีมโน แล้วที่สำคัญร่างกายต้องแข็งแรง มีความอดทนสูงด้วย เพราะเวลาแต่งเอฟเฟ็กต์ คนที่ถูกแต่งต้องสบายที่สุด เพราะมันใช้เวลานาน ส่วนเราเองต้องเป็นฝ่ายยืน ต้องมูฟไปมา กว่าจะเสร็จงานร่างก็มีพังกันบ้าง สุดท้ายก็ฝากถึงน้องๆ ที่อยากทำอาชีพนี้ว่า ให้ใฝ่เรียนรู้ ฝึกฝนเยอะๆ แล้วต้องมีความรับผิดชอบ การตรงต่อเวลา และการปรับตัวทำงานรวมกับผู้อื่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด" 

 

          วันเสาร์ที่ 2 กันยายน เวลา 18.20 น. รายการ Sing Your Face Off ซีซั่น 3 ก็จะออนแอร์เป็นตอนสุดท้ายแล้ว พี่เจี๊ยบก็แอบกระซิบว่ารอดูทีเด็ดได้เลย โดยเฉพาะโชว์ของเป๊กกี้ ศรีธัญญา ที่ว่ากันว่าเป็นงานที่โหดหินที่สุดในซีซั่นนี้แล้ว