"โบ๊ท ธารา" นำทีมนักแสดง "Mr.Merman แฟนฉันเป็นเงือก" เมาท์เบื้องหลังสุดโหด มัน ฮา!

 

• การถ่ายทำฉากใต้น้ำ ใช้ชีวิตกินนอนอยู่บนเรือกลางทะเล 4 วัน 3 คืน!
• กว่าจะมาเป็นเงือก ทุกคนต้องไปเรียน ไปฝึก และไปสอบดำน้ำ เพื่อเอาใบอนุญาตซะก่อน
• คิดว่าเป็นหนังรักใสๆ แต่จริงๆ มีฉากบู๊ขั้นสุด ถึงขั้นต้องวิ่งหลบระเบิด!
• แบกหางแต่ละครั้ง หนัก 20 กว่ากิโลกรัม เวลาลงน้ำยังต้องเอาตะกั่วถ่วงน้ำหนักไปอีก!

          เราอาจจะเคยได้เห็นละครไทยที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับเงือกผู้หญิงกันมาซะมาก แต่คราวนี้จะเป็นครั้งแรกที่มีเงือกผู้ชายปรากฏขึ้นมาบ้าง งานนี้พี่มิ้นตี้เลยไม่พลาดที่จะพาไปเจาะเบื้องหลังกับ 3 เงือกหนุ่ม นักแสดงหลักจากละครเรื่อง 'Mr.merman แฟนฉันเป็นเงือก' อย่าง โบ๊ท ธารา, เกี๊ยก วัทธิกร และเบสท์ วิชยุตน์ ที่บอกเลยว่าเบื้องหลังนั้นทุ่มเทกันสุดๆ !


 

 

          'Mr.merman แฟนฉันเป็นเงืิิอก' เรื่องราวของ 3 เงือกหนุ่ม ที่ได้ย้ายถิ่นฐานเข้ามาอยู่ ณ เมืองริมทะเล เพื่อสืบเรื่องราวการทำโปรเจ็กต์ลับของมนุษย์ ที่มันอาจส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของเงือกที่กำลังจะสูญพันธ์ เพราะพวกเขามีความหวังว่า สักวันนึงเผ่าพันธุ์เงือกจะสามารถอยู่ร่วมกับมนุษย์ได้อย่างเป็นปกติ

 

          โบ๊ท : ผมรับบทเป็น 'ทะเล' ครับ เป็นเงือกที่มีความติสท์ โลกส่วนตัวสูง ไม่ค่อยพูด แต่ถ้าพูดออกมาทีนึงคือเจ็บจี๊ด! แทบฟังไม่ได้เลย เรื่องนี้เล่นคู่กับพี่น้ำหวาน (รับบทเป็น 'ฟ้าฝน') คู่เราก็จะเป็นแบบพ่อแง่ แม่งอน กัดกัน ฟอร์มใส่กัน ก็คือรู้ความต้องการของตัวเองกันลึกๆ แต่ว่าไม่แสดงออก

 

โบ๊ท - ธารา ทิพา รับบทเป็น ทะเล

 

           เกี๊ยก : ผมรับบทเป็น 'พายุ' จะเป็นเงือกสไตล์ที่ค่อนข้างซีเรียสกับกฎของการเป็นเงือก เพราะในอดีตเคยไปรักกับมนุษย์ แล้วฝังใจว่าเคยทำให้เขาตาย เพราะเวลาเราไปจูบกับมนุษย์ เขาจะกลายเป็นเงือก แต่ว่าจะอยู่ได้แค่ 2 เดือน แล้วจะกลายเป็นฟองสบู่แตกสลายหายไป พอเวลาผ่านไปประมาณ 5 ปี ก็ได้มาเจอกับผู้หญิงคนเดิม ก็คือ 'น้องเดียร์' (รับบทเป็น 'ข้าวฟ่าง') แต่ว่าเขาความจำเสื่อม เราก็ไม่แน่ใจว่า เขาใช่คนเดียวกันมั้ย แล้วจะมีวิธีแก้ไขมั้ยถ้าเราไปทำใครกลายเป็นเงือก

 

เกี๊ยก - วัทธิกร เพิ่มทรัพย์หิรัญ รับบทเป็น พายุ

 

          เบสท์ : ผมรับบทเป็น 'แพลงตอน' หลักๆ ก็จะใช้ชีวิตอยู่ที่โรงเรียน เจอกับพี่พลอยใส (รับบทโดย 'น้ำหนึ่ง') ที่มาตามจีบเรา แต่ด้วยความที่เราเป็นเงือก และอยู่บนโลกมานาน ทำให้เราก็พอจะรู้ว่าผู้หญิงคนนี้จะมาไม้นี้นะ แต่ก็แกล้งทำเป็นไม่รู้ อารมณ์ประมาณจีบกันแบบวัยรุ่น น่ารักใสๆ ครับ

 

เบสท์ - วิชยุตน์ ลิ่มรัตนะมงคล รับบทเป็น แพลงตอน

 

          โบ๊ท : จริงๆ พี่น้ำหวานเป็นคนที่ว่ายน้ำไม่เป็น แต่ต้องมาเป็นเงือกที่ลงน้ำบ่อยกว่าพวกผมอ แถมยังเป็นครูสอนว่ายน้ำอีก เขาก็เลยไปฝึกว่ายน้ำ ไปเรียนเพิ่มเอง มีฉากนึงที่เขาต้องช่วยเด็กจมน้ำ แต่เขากระโดดน้ำไม่เป็น! เราก็นึกขึ้นได้ว่า อ่อ...เขาว่ายน้ำไม่เป็น ก็ต้องมาปั้นกันในฉาก เพราะครูสอนว่ายน้ำอย่างน้อยท่าก็ต้องสวย แต่พอเขากระโดดลงไป ดันเหมือนคนจะจมน้ำ ที่ไปช่วยคนจมน้ำด้วยกัน 555 แต่เขาก็สู้มาก กระโดดไปเรื่อยๆ จนตัวแดงไปหมดเลย


 

          เกี๊ยก : ตอนแรกคิดว่าเรื่องนี้จะเป็นแบบแฟนตาซี สดใส ฟรุ้งฟริ้ง วัยรุ่นจ๋าแต่ความจริงแล้วมัน deep และซีเรียส ไม่ได้ออกไปแนวโบราณคดี พูดคำกลอน แต่จะเป็นเงือกแบบใหม่ ที่ค่อนข้างจะวัยรุ่น ทันสมัยมากครับ
 

          เบสท์ : ตอนแรกที่ได้ยินคำว่า 'เงือก' ก็นึกถึงเด็กอนุบาล เด็กประถม ไม่มีความรัก ไม่มีบู๊ แต่พอมาถึงจริงๆ ดันเจอทุกอย่างเลย 555


 

          โบ๊ท : คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าจะมีฉากบู๊ ตอนแรกกลัวมากว่าจะมีฉากบู๊ในทะเล แต่โชคดีที่ไม่มี 555 ส่วนฉากที่มีก็เรียกว่าจริงจังมาก ถึงขึ้นต้องวิ่งหลบระเบิดกัน เป็นละครเงือกที่มีคิวบู๊จริงจังขั้นสุด ต้องห้ามพลาดเลยครับ

 

 

          โบ๊ท : ตอนที่หล่อหาง เราใช้เวลาประมาณ 2 เดือนกว่าหางจะเสร็จ ซึ่งระหว่างนั้นมีเวลาทำน้ำหนักกันมากมาย 555 แต่ก็จะโดนขู่ตลอดว่า ถ้าหางใส่ไม่ได้ต้องหล่อใหม่ และจ่ายเงินเองนะ 555


 

          โบ๊ท : พวกเราว่ายน้ำกันเก่งอยู่แล้ว แต่มีทักษะที่ต้องไปเรียนเพิ่ม ก็คือ 'การดำน้ำ' ต้องไปฝึก ไปเรียน และไปสอบเอาใบอนุญาตดำน้ำที่ถูกต้องตามกฎ เพราะเราต้องไปถ่ายในทะเลจริงๆ แล้วก็ไม่ได้ดำแค่ผิวน้ำ แต่ลงไปลึกเลย เป็น scuba diving แบบเต็มรูปแบบ

          เบสท์ : ต้องดำลงไปในทะเล ที่ลึกลงไป 10 - 15 เมตรเลยครับ


 

         โบ๊ท : นอกจากเรื่องดำน้ำ ก็จะมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ต้องเก็บ อย่างการต้องว่ายน้ำให้เหมือนปลา เหมือนเงือก เรื่องการพับเข่า งอขา เพื่อให้ออกมาพลิ้วที่สุด เลยมีการซ้อมตลอดเวลา

​          เกี๊ยก : ก็คือ...เรื่องนี้ผู้ชายเอวพลิ้วทุกคนครับ 555

 

 

          โบ๊ท : อันที่จริงผมเคยเป็นนักกีฬาว่ายน้ำมาก่อน พี่เกี๊ยกก็เคยเป็น แต่เป็นตอนเด็กแล้วก็เลิกไว ส่วนผมเป็นตั้งแต่อายุ 8-9 ขวบ จนถึงอายุ 15-16 ปี ทักษะใต้น้ำก็เลยดีกว่าชาวบ้านเขา ก็เลยจะเป็นแบบ...จะไปไหนก็ไป เขาไม่ห่วง จนสุดท้ายก็รู้สึกว่า...ทำไมถึงทิ้งเราแบบนี้นะ


 

          เบสท์ : ต้องบอกก่อนว่าผมคือคนที่มาทีหลังสุด เลยมีเวลาซ้อมน้อย พอถึงเวลาไปดำจริงๆ คนอื่นกลายเป็นเงือกหมดแล้ว เหลือแต่ผมที่เป็นหนอน 555 ก้นจะโด่งๆ หน่อย ต้องใช้เวลาพักนึงในการแก้ไขตรงนี้ครับ

 

 

          โบ๊ท : ฉากใต้น้ำ เราไปถ่ายกันที่เกาะอาดังราวี จ.สตูล ด้วยความที่เวลาถ่าย เราจะดำน้ำกันแบบ scuba diving ซึ่งมันมีข้อจำกัดเยอะ จะลงได้แค่ประมาณวันละ 3 รอบ ครั้งละ 45 นาที ก็ไปกินนอนกันบนเรือ 4 วัน 3 คืน เช้าถ่าย เที่ยงถ่าย เย็นถ่าย ส่วนในสตูดิโอจะมีนานสุด คือตั้งแต่เช้ายัน 3-4 ทุ่มครับ


 

          โบ๊ท : เวลาถ่ายในสตูดิโอทุกอย่างมันค่อนข้างที่จะควบคุมได้ 100% แต่ในทะเลคือยากมาก ควบคุมไม่ได้เลย ต้องปรับตัวเองตลอดเวลา


 

          โบ๊ท : เวลาอยู่บนบกหางมันจะหนักมาก ประมาณ 20 กิโลกรัมกว่าๆ แต่เวลาลงไปอยู่ในทะเลมันไม่ได้หนักอย่างที่คิด เพราะความหนาแน่นของหางมันน้อยกว่าน้ำ หางมันก็จะลอย ต้องเอาตะกั่วถ่วงเพิ่มน้ำหนักด้วยซ้ำ

 

 

          เกี๊ยก : ฉากที่เสี่ยงและเสียวที่สุดสำหรับผม เป็นฉากที่ต้องว่ายน้ำกับฉลาม ซึ่งตอนแรกผมนึกว่าเป็นมุก 555 ยังดีที่ว่ายในอะควาเรียม แต่ถึงยังงั้นก็ยังเสียวและตื่นเต้นมากอยู่ดี


 

          โบ๊ท : จะคุยกับแม่ครับ...ถามแม่ว่าเอายังไงดี? แต่จริงๆ ถ้าอยู่คนเดียว คงตกใจ และคิดว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง หลังจากนั้นก็จะไปว่ายน้ำดู ว่าจะหายใจได้ทางเหงือกเหมือนปลามั้ย แล้วจะว่ายได้พลิ้วแค่ไหน

          เกี๊ยก : ก็คงจะไปดำน้ำเล่น แล้วก็หาผู้หญิงสักคนจูบ เพราะว่า 10 ปีของมนุษย์เท่ากับ 1 ปีของเงือก เพราะฉะนั้นจะมีอายุมาก ไม่อยากอยู่คนเดียว กลัวเหงา

          เบสท์ : ผมจะไม่ซีเรียสกับมัน คงจะดำน้ำไปเรื่อยๆ เพราะจากที่ไปดำน้ำมา โลกใต้น้ำเป็นอะไรที่สวยและน่าหลงใหลมาก อยากจะดำไปเรื่อยๆ แล้วไปโผล่ในที่ที่เขาบอกว่าสวย แต่เราไม่มีตังค์จะไป อย่างเช่นมัลดีฟ

 

 

          โบ๊ท : สำหรับละคร 'Mr.merman แฟนผมเป็นเงือก' ก็จะเป็นครั้งแรกที่จะมีนายเงือก หรือว่าเงือกผู้ชายเกิดขึ้นมาในเมืองไทย แถมไม่ได้มีแค่ 1 แต่มีถึง 3 ตัว และยังจะมีเซอร์ไพรส์ในเรื่องอีกมากมาย ทั้งการถ่ายทำ ภาพ บท ทำออกมาแบบเต็มที่ ถ้าพลาดเรื่องนี้ จะเหมือนพลาดอะไรสักอย่างที่วงการละครมีสิ่งนี้เกิดขึ้นมาเลยครับ!

          เกี๊ยก : ผมอยากให้รอดูซีนพวกใต้น้ำ เพราะตอนที่เราลงไปแล้วเราเห็นด้วยตาว่ามันสวย มันดีมาก จนคิดว่ามันน่าจะคุ้มที่จะให้คนได้เห็นภาพที่เราไปเจอตรงนั้นมา เพราะคิดว่าคงไม่ค่อยมีคนได้เห็นกัน ถ้าไม่ได้ดำน้ำลงไปดูจริงๆ 

          เบสท์ : อยากให้ติดตามชม เพราะ มีทั้งภาพสวย อารมณ์ดี สนุก เยอะแยะเต็มไปหมด จนเลือกไม่ได้ว่าชอบฉากไหนที่สุด อยากให้ลองติดตามกันครับ

 

 

          เริ่มออนแอร์ตอนแรกไปแล้ว สำหรับละครเรื่อง 'Mr.Merman แฟนฉันเป็นเงือก' ออกอากาศทุกวันจันทร์ - พฤหัสบดี เวลา 19.05 น. และวันศุกร์ เวลา 18.45 น. ทางช่อง 3 น้องๆ คนไหนได้ดูตอนแรกแล้วบ้าง เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย? มาคอมเมนต์พูดคุยกันได้นะคะ ^^