ขออย่าให้มีคนเกลียดได้ไหม ความในใจซุป'ตาร์อดีตเน็ตไอดอล "เต้ย จรินทร์พร"

 

___________________

 

          ถ้าย้อนไปเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ในเว็บบอร์ดคนน่ารักของเว็บ Dek-D.com ก็ต้องมีกระทู้ของเด็กสาวหน้าใส ยิ้มสวย "เต้ย จรินทร์พร" เต็มไปหมด เรามาย้อนดูซิว่า กว่าจะเป็นซูเปอร์สตาร์ดังขนาดนี้ ชีวิตเน็ตไอดอลของเต้ยเป็นยังไงบ้าง     

 

กระทู้รวมคนน่ารัก 1 ในนั้นก็จะมีรูปเต้ย
 

          ตอนอยู่ในโรงเรียนเต้ยก็เป็นเด็กปกติทั่วไปนะคะ ไม่โดดเด่นอะไร ไม่เป็นเด็กกิจกรรมเลย แถมเลี่ยงกิจกรรมซะด้วยซ้ำ  แต่เต้ยจะโตมากับอินเทอร์เน็ต โตมากับคอมพิวเตอร์ เราก็จะได้เล่นเกม รู้จักคอมพิวเตอร์ก่อนคนอื่น ยุคนั้นก็จะฮิตเล่นโปรแกรมแชท Pirch 98 เล่น ICQ โพสต์รูปลงใน Hi5 ในไดอารี่ออนไลน์ 
 

          สมัยนั้นการเซฟรูปคนน่ารักเก็บไว้ในคอมเป็นเรื่องปกติมาก เต้ยเองก็เซฟรูปคนอื่นเหมือนกัน ก็น่าจะเป็นช่วงม.ต้น ที่เริ่มมีคนเอารูปไปลง ถ้าให้เต้ยนึกย้อนกลับไปที่แรกก็น่าจะเป็นเว็บบอร์ดของโรงเรียน หลังจากนั้นก็เริ่มมีคนเอาไปลงเว็บ Dek-D.com ตอนแรกเต้ยก็ตกใจนะ เฮ้ย! ทำไมมีรูปเราด้วย 555 พวกกระทู้รวมเด็กน่ารักจากบดินทรเดชา 1 ในนั้นก็จะมีรูปเรา ช่วงนั้นเพื่อนๆ ก็จะแซวว่าพี่เต้ยเด็กดีๆ น้องเต้ยเด็กดีๆ

 

( ภาพจาก instagram @toeyjarinporn )
 

          ตอนนั้นเต้ยยังไม่ได้รู้จักคำว่า 'เน็ตไอดอล' นะ มันยังไม่เคยมีคำนี้เกิดขึ้น เมื่อก่อนเราไม่เคยได้รายได้อะไรจากการเล่นอินเทอร์เน็ต เราไม่มีการรีวิวสินค้า ตอนนั้น Facebook ก็ไม่มี Instagram ก็ไม่มี การขายของออนไลน์ก็ยังไม่มี เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการเล่นเน็ตมันจะต่อยอดเป็นอะไรได้บ้าง เราแค่เป็นเราอย่างเดียว ไม่ได้คิดด้วยซ้ำว่าจะต้องโด่งดัง แต่การเล่นเน็ตของเรามันทำให้มีคนมาเห็นเรามากขึ้น รู้จักเราเยอะขึ้น แล้วก็มีคนเรียกเข้าไปแคสต์งาน
 

          เต้ยเริ่มถ่ายโฆษณา ถ่ายนิตยสารตั้งแต่ ม.3 แล้วก็มีแคสต์งานเรื่อยๆ คิดแค่ว่าอยากทำงาน เพราะได้เงินไปช็อปปิ้งแค่นั้น โมเดลลิ่งส่งประกวด UTip ก็ไปเพราะได้เงิน แต่เต้ยไม่ได้ใฝ่ฝันว่าจะเข้าวงการเลยนะ ตอนม.6 ที่โรงเรียนจะมีจัดแฟชั่นโชว์ แล้วปีนั้นเต้ยเป็นแม่งาน ก็เลยคิดว่าเราจะเอาพอร์ตไปสอบเข้าคณะเกี่ยวกับแฟชั่น แต่พอถึงเวลาจริงๆ ก็สอบตรงเข้าการแสดง คณะศิลปกรรมศาสตร์ มศว ไปเลย เต้ยรู้สึกว่าโชคดีมากที่ได้เรียนคณะนี้ เพราะมันสอนอะไรเราเยอะมาก ทำให้เรารักในการแสดง จากที่เมื่อก่อนแค่ทำเพื่อเงิน แต่เราเปลี่ยนวิธีคิดไปเลย กลายเป็นว่าเราไปทำงานเพื่ออยากให้งานออกมาดี เราอยากที่จะพัฒนาตัวเอง แล้วมันก็ทำให้เราทำงานอย่างมีความสุข

 

( ภาพจาก instagram @toeyjarinporn )
 

เคยมีคนบอกว่าพ่อเราเป็นเจ้าของห้างโรบินสัน
 

          เต้ยโตมากับการโดนคอมเมนต์อะค่ะ แต่ก่อนเคยเข้าไปอ่านคอมเมนต์ ก็มีบอกว่าเต้ยไปทำศัลยกรรมมา ซึ่งเต้ยดัดฟันแล้วก็ใส่บิ๊กอายอย่างเดียว ตอนนั้นเรายังเด็กมากและเราก็ยังไม่ได้ทำอะไรจริงๆ ตอนนี้ทำตาก็บอกว่าทำตามา เคยมีคนบอกว่าพ่อเราเป็นเจ้าของห้างโรบินสัน ให้เงินขอทานเป็นพันๆ เดี๋ยวๆ เต้ยไม่ได้รวยขนาดนั้น แล้วมันก็จะมีคนที่เอารูปเราไปปลอมคุย MSN หลอกคุยกับคนโน้นคนนี้ ให้ซื้อบัตรเติมเงินให้ แล้วก็ชอบมีคนเข้ามาทัก เข้ามาคุยเหมือนรู้จักกันมาก่อน คุยในเรื่องที่เราไม่รู้เรื่อง เต้ยก็จะงงๆ อะไรอะ ไม่เห็นรู้เรื่องเลย 

( ภาพจาก instagram @toeyjarinporn )
 

สวดมนต์ก่อนนอนทุกคืน ขออย่าให้มีคนเกลียด
 

          ในเว็บมันมีคอมเมนต์ที่หลากหลายมากๆ แล้วมันก็ทำให้เราเศร้า เราไม่ได้รู้จักว่าคุณคือใคร คุณก็ไม่ได้รู้สักหน่อยว่าจริงๆ แล้วเราเป็นยังไง ทำไมถึงมาว่ากันอย่างนี้ ช่วงนั้นก็เสียใจมาก เศร้ามาก รู้ปะ ก่อนนอนเต้ยต้องสวดมนต์ภาวนา ขออย่าให้มีคนเกลียดเราได้ไหม ขอให้มีแต่คนรัก อย่ามีใครเกลียดเราเลย เพราะว่าตอนนั้นเต้ยทุกข์มาก เครียดไปหมด คิดว่าทุกคนที่เดินผ่านเราต้องไม่ชอบเราแน่ๆ แค่ไม่กี่คอมเมนต์ที่เขาว่าเรา ทำให้เราไม่มีความมั่นใจเลย

 

( ภาพจาก instagram @toeyjarinporn )
 

เต้ยไม่เข้าเว็บ Dek-D เลยนะ เพราะคอมเมนต์มันทำร้ายเรา
 

          เพื่อนๆ ก็จะบอกว่าอย่าเข้าไปดูเลย แต่บางทีก็ห้ามใจไม่ได้ แต่พอเขาไปเห็นก็ร้องไห้ทุกครั้ง บอกตรงๆ เลยว่าตอนนั้นเต้ยไม่เข้าเว็บ Dek-D เลย เพราะมันทำร้ายเรา ทั้งๆ ที่ Dek-D ไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะ เราไม่รู้สึกแย่กับเว็บนะ แต่การเห็นคอมเมนต์ไม่ดีๆ มันก็ทำร้ายจิตใจกันเกินไป แต่วันนึงเต้ยก็คิดได้เองว่าช่างมันเถอะ! เราไม่สามารถไปบอกความจริงกับทุกคนได้ เพราะฉะนั้นเราก็ทำตัวเองให้ดีที่สุด ไม่ต้องสนใจว่าใครจะคิดยังไงกับเรา หลังจากนั้นเต้ยก็ใช้ชีวิตให้ตัวเองมีความสุข พอเปลี่ยนวิธีคิดได้ ก็แฮปปี้มากกก
 

          เราก็ใช้ชีวิตมาแบบสบายๆ มา 7- 8 ปีเลยนะ แต่ช่วงปีที่ผ่านมา เต้ยก็กลับมาโดนคอมเมนต์จากโลกอินเทอร์เน็ตอีกครั้ง แต่คราวนี้มันกว้างเดิม กลายเป็นเพจนู้นเพจนี้เต็มไปหมด ทีนี้ก็เลยช็อคหนักเลยค่ะ ตอนนี้ก็กำลังพยายามคิดว่าช่างมันเถอะ ถ้าเขาสามารถคิด วิเคราะห์ แยกแยะได้ เราคงดีใจ แต่ถ้าเขาจะตัดสินเราจากแค่การอ่านพาดหัวข่าว เราก็ทำอะไรไม่ได้จริงๆ 

 

( ภาพจาก instagram @toeyjarinporn )
 

เต้ยจะไม่ตัดสินใคร จากคำพูดของใคร
 

          แต่ก็ต้องขอบคุณมากเลย เหตุการณ์ตอนนั้น กับคนเหล่านั้น ที่ทำกับเราอย่างนั้น ณ เวลานั้น มันก็เป็นเหมือนภูมิคุ้มกัน ทำให้เรากลายเป็นคนที่นึกถึงจิตใจคนอื่น ตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงทุกวันนี้เต้ยไม่เคยตัดสินคนอื่นเลยนะ นึกถึงใจเขาใจเราตลอดเวลา เวลามีข่าว หรือมีใครมาพูดเรื่องนู่นนี่ให้ฟัง เราจะไม่เชื่อ 100% เพราะคิดว่าทุกคนมีเหตุมีผลของตัวเอง เต้ยไม่อยากใจร้ายไปตัดสินใคร เพียงเพราะคำพูดของใคร 
 

          เต้ยโตมากับอินเทอร์เน็ตตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม แล้วเต้ยก็รู้สึกใจหายจริงๆ กับการเติบโตของสังคมอินเทอร์เน็ตที่มันกว้างมากจนควบคุมไม่ได้ เพราะฉะนั้นพวกคุณต้องเสพมันอย่างมีสติ แล้วอย่าพลั้งเผลอวิจารณ์ใคร หรือด่าใครเพราะแค่รู้สึกสนุก

( ภาพจาก instagram @toeyjarinporn )
 

เต้ยสวยสู้ใครไม่ได้ แต่เต้ยรู้ว่าต้องสู้กับตัวเอง
 

          ถ้าถามว่าใช้เวลานานมั้ยกว่าจะมาถึงจุดนี้ เราว่าเราเป็นคนที่ใช้เวลานานกับทุกอย่างเลยนะ ถ้าปลูกต้นไม้ก็คือเริ่มต้นตั้งแต่เป็นเมล็ด แล้วค่อยๆ โตขึ้นทีละนิดๆ เอ๊ะ ทำไมกิ่งก้านมันไม่โต ก็ค่อยๆ หาวิธีตัดกิ่งออก เพื่อให้แตกหน่อและโตต่อไป เริ่มต้นจากเล่นโฆษณา เป็นนักแสดงรับเชิญ ก็มาเป็นบทนางเอกซีรีส์วัยรุ่น แล้วก็ค่อยๆ ไต่ขึ้นมาเรื่อยๆ จนมาถึงจุดนี้เต้ยว่ามันเป็นโบนัสของชีวิตแล้วค่ะ เพราะเต้ยไม่เหมือนนางเอกคนอื่นๆ ไม่ได้สูง ไม่ได้สวย หุ่นดี หน้าตาเป๊ะ ไม่ได้เป็นสูตรสำเร็จของคนสวย เราสู้ใครไม่ได้ แต่เรารู้ว่าเราต้องสู้กับตัวเอง พัฒนาตัวเองในด้านการแสดงต่อไปค่ะ 

 

          กว่าจะมายืนอยู่จุดนี้ได้ ก็เรียกได้ว่าผ่านมาเยอะ เจ็บมาเยอะเหมือนกันนะคะ แต่เพราะความน่ารักทั้งหน้าตาและจิตใจที่ทำให้ "พี่เต้ย Dek-D" เติบโตมาเป็น "เต้ย จรินทร์พร" นางเอกแถวหน้าของเมืองไทย พี่แพมอยากรู้จังเลยว่าน้องๆ ชาว Dek-D แถวนี้มีใครเคยเข้ามาหวีดความคิวต์ของพี่เต้ยในเว็บ Dek-D กันบ้าง? แล้วชอบพี่เต้ยที่ตรงไหน? มาเมาท์กันเร็ว