ไอดอลผู้ทำตามความฝัน “ฟ้อนด์” #BNK48 กับเส้นทางสู่วงการบันเทิง!



 
          Spoil
  • ไอดอลของฟ้อนด์ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นตัวฟ้อนด์เอง!
  • เกิดมาก็รู้เลยว่าวงการบันเทิงนี่แหละ คือสิ่งที่ใช่สำหรับฟ้อนด์
  • คิดบวกเข้าไว้จะได้เป็นคนที่มีความมั่นใจแบบฟ้อนด์
          _____________

 
          ใครที่ได้ดู MV JABAJA จะต้องสะดุดเข้ากับทรงผมที่เป็นเอกลักษณ์ของฟ้อนด์อย่างแน่นอน แต่ไม่ว่าจะทำผมทรงไหนฟ้อนด์ก็น่ารักในสายตาของเหล่าโอตะอยู่แล้วใช่มั้ยคะ แต่ฟ้อนด์ยังน่ารักได้กว่านี้อีกนะ! ถ้าอยากรู้ว่าจะน่ารักขนาดไหน ตามมาเลย!

 


 
วงการบันเทิงนี่แหละคือสิ่งที่ใช่สำหรับฟ้อนด์

          ความฝันแรกตอนหนูยังเป็นเด็กๆ คือหนูอยากเป็นนักบินอวกาศค่ะ พอได้เรียนแล้วหนูชอบนะแต่หนูว่ามันคงเป็นไปได้ยาก หนูก็เลยเปลี่ยนความคิดแล้วบอกแม่ว่าหนูอยากเป็นหมอฟัน แต่หนูเป็นคนกลัวเลือด เห็นเลือดแล้วหนูมือไม้อ่อน หนูก็เลยคิดว่าหนูไม่ได้ชอบการเป็นหมอจริงๆ แต่ทางในวงการบันเทิงคือสิ่งที่ใช่สำหรับหนูมากกว่า หนูรู้สึกว่าหนูเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ ตอนเด็กๆ หนูส่องกระจกแล้วบอกตัวเองว่าอนาคตหนูต้องอยู่ในวงการบันเทิงแน่ๆ 


เป็นเจ้าแม่กิจกรรมแต่ก็ไม่ทิ้งการเรียน

          หนูทำกิจกรรมเยอะมากค่ะ ตั้งแต่อนุบาล หนูขึ้นแสดงงานทุกงานเลยค่ะของโรงเรียน ทั้งรำ เต้น ไปแข่งวิชาการ แข่งตอบคำถาม เล่นละครเวที เชียร์ลีดเดอร์ ดรัมเมเยอร์ ทำทุกอย่างเลยค่ะ ทุกงานหนูต้องได้ทำ เพราะหนูชอบทางนี้จริงๆ ถ้าตอนเรียนเราก็ต้องตั้งใจเรียนให้มากที่สุดเพราะว่ามันมีโอกาสน้อยมากที่เราจะมีเวลาเรียน เพราะงั้นเราก็ต้องเก็บเกี่ยวช่วงเวลานี้ให้มากที่สุด พอทำกิจกรรมเราก็ต้องทำตรงนั้นให้ดีที่สุดด้วยเหมือนกันค่ะ เราต้องทำทั้งสองอย่างให้ดีที่สุด มันถึงจะไปรอด


เส้นทางที่ฟ้อนด์เลือกเอง

          หนูเริ่มจากการไปแคสโฆษณา ละคร ซีรีส์ก่อน แล้วงานที่หนูได้ไปแคสหนูเป็นคนหาด้วยตัวเองทั้งหมดเลย ตอนนั้นหนูยังอยู่หัวหินค่ะหนูรู้ว่าพ่อกับแม่คงไม่มีเวลาหาให้หนูได้แน่ๆ หนูเลยทำทุกวิถีทางเป็นปีๆ กว่าจะหาได้ว่าหนูควรเข้าวงการยังไง จนวันนึงหนูมีโอกาสได้ไปแคส พอหนูได้แคสงานหนึ่งก็มีโอกาสได้ไปแคสงานต่ออีกเรื่อยๆ จนหนูได้เล่นบุพเพสันนิวาสหลังจากนั้นมันมีงานเข้ามารัวๆ เลย ซึ่งมันเป็นจังหวะเดียวกับที่หนูมาออดิชั่น BNK48 พอดี ทำให้ตอนนั้นหนูต้องเลือก แต่สุดท้ายหนูก็เลือก BNK48 เพราะหนูรู้สึกว่าหนูได้ทำอะไรที่หลากหลายกว่า

 


มีตัวเองเป็นไอดอล

          ไอดอลของหนูคือตัวหนูเอง หนูรู้สึกว่าไม่เคยมีใครเป็นไอดอลหนู เหมือนหนูแค่มองกระจกมองตัวเองแล้วเอาตัวเองนี่แหละเป็นไอดอล พอหนูมองกระจกแล้วหนูจะรู้ว่าหนูต้องทำอะไรบ้าง อย่างเรื่องเต้น หนูไม่เคยเรียนเต้นเลยค่ะ ถ้าเรียนเต้นจริงๆ จังๆ ก็ตอนที่เข้ามาเป็น BNK48 นี่แหละ ทั้งชีวิตก็คือเรียนกับตัวเองเรียนกับกระจก ชีวิตหนูอยู่แต่กับกระจก ขาดกระจกไม่ได้จริงๆ ถ้าไม่มีกระจกหนูจะไม่มีความสุข


มั่นใจและคิดบวกเข้าไว้

          หนูว่าความมั่นใจมันอยู่ที่ลักษณะส่วนตัวของแต่ละคนมากกว่า เพราะว่าน้องหนูกับหนูคนละขั้วกันเลย น้องหนูเป็นคนขี้อายมากไม่กล้าแสดงออก แต่หนูกล้าแสดงออกตั้งแต่เด็ก เราต้องคิดบวกไว้ค่ะ อย่าเพิ่งบอกว่าตัวเองทำไม่ได้ ถ้าเราคิดว่าเราทำได้มันจะมีความกล้ามากยิ่งขึ้น ต้องมีความมั่นใจในตัวเองไว้ก่อน  ความมั่นใจมันเป็นสิ่งที่ดีนะคะ

 


กดดันแต่พยายามปล่อยวาง

          จริงๆ พอเข้ามาเป็น BNK48 ก็กดดัน เพราะว่าเราเคยผ่านผลงานมาแล้ว คนก็อาจจะมีการคาดหวังกับเราบ้าง หนูก็พยายามไม่คิดค่ะ เพราะถ้าคิดเราก็จะยิ่งกดดันแล้วจะทำออกมาได้ไม่ดี ก็เลยปล่อยวางแล้วทำตัวให้เป็นปกติ ตอนเข้าไปออดิชั่น BNK48 หนูก็รู้สึกว่าหลายๆ คนก็อาจจะมีคนรู้จักหนู หนูก็รู้สึกเขินๆ เกร็งๆ แต่ว่าพอเข้าไปทุกคนก็เฟรนด์ลี่ น่ารัก แล้วมันก็ดีกว่าที่เราคิดไว้ค่ะ

 
การเป็น #BNK48 ไม่ง่ายอย่างที่คิด

          การเป็น BNK48 คือท้อมากๆ มันมีหลายครั้งมากที่รู้สึกท้อจนร้องไห้ แต่ว่าหนูก็พยายามคิดในแง่บวกแล้วก็พยายามลืมสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกไม่ดีไป แล้วก็กลับมาเป็นปกติและสนุกไปกับสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ค่ะ บางทีมันอาจจะมีบ้างที่อยากเป็นคนปกติจะได้มีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น แต่หนูรู้สึกว่าการเป็น BNK48 มันดีกว่าค่ะ หนูรู้สึกชอบแล้วก็ไม่ได้รู้สึกว่าถูกละเลยความเป็นส่วนตัวเท่าไหร่ 

 


ในอนาคตของฟ้อนด์

          ในอนาคตหนูอยากเรียนสายนิเทศค่ะ ไม่ก็บริหารไปเลย หนูอยากเรียนอะไรที่เราต้องได้เอาไปใช้ในอนาคต เพราะว่าหนูเห็นบางคนเรียนจบมาก็อาจจะไม่ได้ทำงานตรงตามสาย ก็เลยอยากเรียนอะไรที่จบมาแล้วได้ใช้มากกว่า หนูอยากทำงานในวงการบันเทิงแล้วก็ทำธุรกิจส่วนตัวไปด้วย ถ้าถามว่าให้เป็น BNK48 ต่อมั้ย ตอนนี้ยังอยากเป็นอยู่ค่ะ


อยากเป็นไอดอลต้องใจรัก

          ฝากถึงทุกคนที่อยากเป็น BNK48 นะคะ ฟ้อนด์ก็อยากจะบอกว่าต้องมีใจรักจริงๆ ค่ะ เพราะว่าถ้าไม่ใจรักจริงๆ อาจจะเหนื่อย พอเข้ามามันก็จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงเยอะมากๆ ทุกอย่างเลย ไม่ได้ง่ายเหมือนที่เราเคยจินตนาการไว้ก่อนเข้า เพราะหนูก็เคยคิดว่ามันง่าย แต่จริงๆ พอได้เข้ามาแล้วมันมีอะไรมากกว่าที่คิดไว้มากๆ ถ้าใครที่จะเข้ามาก็สู้ๆ นะคะ หนูเป็นกำลังใจให้

 
        

          เป็นยังไงกันบ้างคะอ่านจบแล้ว ต้องยิ้มเอ็นดูในความน่ารักของฟ้อนด์กันเลยใช่มั้ย เหล่าโอตะหรือน้องๆ ชาว Dek-D ประทับใจมุมไหนของฟ้อนด์หรือมีเรื่องน่ารักๆ ของฟ้อนด์อยากจะแชร์ให้เพื่อนๆ ฟังก็มาคอมเมนต์บอกกันได้น้า 



 
พี่มิ้นมิ้น

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

6 ความคิดเห็น

กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
กำลังโหลด
Kenshiro76 Member 18 ก.ค. 62 04:57 น. 4

ขอบคุณสำหรับข้อมูลในบทความนี้ครับ น้อง Fond เป็นเด็กที่มีความสามารถและไฟแรงจริงครับ, ผมรู้สึกชอบแนวความคิดของเธอนะ สวัสดีครับ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
still'lip_ssi Member 20 ก.ค. 62 10:38 น. 6

น้องเป็นเด็กรุ่นใหม่ไฟแรงมากกกกกกก รู้จักตัวเองตั้งแต่เด็กและก็ทำตามความฝันไปสุดๆเลย ในอนาคตข้างหน้าอยากเห็นน้องอยู่ในวงการบันเทิงไปอีกนานๆเลย อยากเห็นเล่นละคร หนังอะไรงี้ด้วย ตอนรู้ว่าน้องได้เป็นเซ็นเตอร์จาบาจาคู่กับเป็ดก็ดีใจมากๆ ><

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด