สวัสดีค่ะชาว Dek-D หลังจบ ป.ตรี เรียนต่อเลยดีไหม สาขาไหนดี รูปแบบการเรียนเป็นยังไง บรรยากาศต่างกันหรือเปล่า ฯลฯ คำถามเหล่านี้ต้องอาศัยการคิดอย่างรอบด้าน และตั้งเป้าหมายให้แน่นอน เพื่อเตรียมรับกับความท้าทายบทใหม่ที่รสชาติต่างไปจากเดิมค่ะ
และวันนี้เราจะไปอ่านประสบการณ์น่าสนใจจาก “พี่นัตตี้” เด็กสายวิทย์ที่ชื่นชอบวิชาเคมีและคณิต จึงตัดสินใจเรียนต่อภาคเคมี คณะวิทยาศาสตร์ ต่อด้วย ป.โท สาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีพอลิเมอร์ (Polymer Science and Technology) โดยทั้ง 2 ระดับพี่นัตตี้เรียนจบจาก “ม.มหิดล” ที่เป็นตัวตึงสายวิทย์และการวิจัยของประเทศไทย
“แล้ว ป.เอก จะแค่ไหนกันเชียว?”
คำถามในใจบวกกับแพสชัน พี่นัตตี้ตัดสินใจท้าทายตัวเองอีก 2 ก๊อกด้วยการไปเรียนต่อ ป.เอก ที่ ภาควิชา Chemistry and Biochemistry ภายใต้คณะวิศวกรรมศาสตร์ของ Kyushu University ในประเทศญี่ปุ่น ทราบกันดีว่าญี่ปุ่นคือประเทศที่ทุ่มเทและส่งเสริมการศึกษาวิจัยอย่างสุดตัว โดยครั้งนี้พี่นัตตี้ก็ไปในฐานะนักเรียนทุนรัฐบาลญี่ปุ่น MEXT หรือทุนมงบุโชฯ (Monbukagakusho) เธอจะเล่าตั้งแต่จุดเริ่มต้น การสมัครทุน ความยาก-ความสนุก ตารางชีวิตสุดแน่นของเด็ก ป.เอก รวมถึงการปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่ด้วย // ตามมาเก็บตัวอย่างกันเลยค่ะ!
. . . . . . . . .
วิชานี้ใช่ เคมีมันตรง!
เล่าเหตุผลทำไมถึงเลือกเรียนสายนี้?
“ตอน ม.ปลาย พี่ไม่ค่อยถูกกับฟิสิกส์กับชีวะ แต่ชอบคณิตกับเคมี แล้วพอ ม.6 มีโอกาสฝึกทำแล็บเพื่อสอบเคมีของค่าย สอวน. ทำให้ยิ่งมั่นใจว่าทางนี้ใช่จริงๆ พี่ก็เลยสมัครสอบตรงเข้า ป.ตรี คณะวิทยาศาสตร์ ม.มหิดล พอเข้ามาถึงก็ได้เจอทั้งการเรียนการสอนที่เข้มข้น (ยากโคตร!) และสังคมที่น่ารักอบอุ่นทั้งเพื่อนและรุ่นพี่รุ่นน้องเลย จากนั้นตอน ป.โท ก็ได้เรียนต่อในสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีพอลิเมอร์ ที่คณะวิทยาศาสตร์ ม.มหิดล”
“สำหรับพี่มองว่าเคมีเป็นศาสตร์ที่น่าสนใจ ผลิตภัณฑ์ทุกอย่างรอบตัวเราล้วนต้องผ่านการวิจัยมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์ของบริษัท QA (Quality Assurance) หรือ QC (Quality Control) หรือการคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ขึ้นมา ปรับปรุงคุณภาพให้เป็นไปตามที่บรีฟของบริษัทหรือลูกค้า”
"หลังจากจบ ป.โท พี่ไปต่อ ป.เอก ภาควิชา Chemistry and Biochemistry ที่ Kyushu University ไปด้วยทุนรัฐบาลญี่ปุ่น (MEXT) ครอบคลุมค่าเทอม ค่าใช้จ่ายแบบเต็มจำนวน และค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ"
. . . . . . . . .
การสมัครทุน MEXT ระดับ ป.เอก
สามารถทำได้ 2 แบบ
- ยื่นสมัครผ่านสถานทูต (Embassy Recommendation) สอบข้อเขียนกับทางสถานทูตฯ และทางสถานทูตฯ จะจัดเราไปเรียนตามมหาวิทยาลัยต่างๆ
- สมัครตรงผ่านมหาวิทยาลัย (University Recommendation) **พี่สมัครผ่านวิธีนี้ค่ะ เราต้องหาข้อมูลก่อนว่าอาจารย์ในสาขาและมหาวิทยาลัยไหนในประเทศญี่ปุ่น ที่ทำวิจัยหัวข้อที่สอดคล้องกับความสนใจของเรา จากนั้นส่งอีเมลไปหาอาจารย์เพื่อแนะนำตัว ตกลงกันเรื่องหัวข้อวิจัย ถ้าลงตัวอาจารย์ก็จะเขียนขอทุน MEXT กับทางมหาวิทยาลัย (มหาวิทยาลัยจะได้ทุนจากรัฐบาลอีกทีนึง)
“อาจารย์ที่ปรึกษาของพี่ตอนเรียน ป.โทที่มหิดลซึ่งเรียนจบจากญี่ปุ่นได้แนะนำให้รู้จักกับ Prof. Atsushi Takahara ตอนไปเจอกันที่งานประชุมวิชาการงานหนึ่ง ซึ่งอาจารย์มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง (Field of Specialization) ในด้าน Polymer Science หลังจากนั้นพี่ก็ได้ติดต่อหาอาจารย์เพื่อแนะนำตัวว่าสนใจอยากเรียนต่อ ป.เอก ในแล็บอาจารย์ โดยการส่ง CV ไป หลังจากอาจารย์ติดต่อกลับมาก็ได้มีการดิสคัสกันเกี่ยวกับหัวข้อที่เราสนใจที่จะทำในป.เอก (มีแนบเปเปอร์ของอาจารย์ไปประกอบด้วย)”
- หัวข้อ ป.ตรี – The Synthesis and Study of Air-stable Imidazole-imine Palladium Complexes
- หัวข้อ ป.โท – Compatibility Enhancement of Silica and Natural Rubber Compound using UVA-induced Silane-grafted Saponified Skim Natural Rubber
- หัวข้อ ป.เอก – Change in Microphase-separated Structure and Macroscopic Mechanical Response of Styrenic Triblock Copolymer during Various Deformation Modes
“ในที่สุดอาจารย์ก็ตอบรับและได้ไปเรียนที่ ม.คิวชูค่ะ~ หัวข้อ ป.เอกที่พี่ทำจะเกี่ยวกับการศึกษาโครงสร้างของ Thermoplastic Elastomer เพื่อปรับปรุงให้วัสดุมีความแข็งแรงขึ้น โดย Prof.Atstushi Takahara เป็น Advisor”
. . . . . . . . .
ตีแผ่ชีวิตการเรียนสุดท้าทาย
ต่างจาก ป.โทมั้ย? เรียนอะไรบ้าง?
“ที่ญี่ปุ่น สาขาวิชาที่เกี่ยวกับพอลิเมอร์จัดอยู่ในคณะวิศวกรรมศาสตร์ ที่พี่เรียนเป็นหลักสูตรอินเตอร์ 3 ปี ตอนสมัครยื่นคะแนน TOEIC 820 เพราะเป็นหลักสูตรภาษาอังกฤษ หลักสูตรจะเน้นทำวิจัย มี Coursework แค่ 3 วิชา เพราะเค้าถือว่าเราเรียนพื้นฐานมาเยอะแล้วทั้งในระดับ ป.ตรี และ ป.โท สำหรับวิชา Coursework ใน ป.เอก คือการแชร์ความรู้กันระหว่างอาจารย์และนักศึกษา ด้วยความที่มหิดลสอนมาแบบเข้มข้นมากจนพื้นฐานแข็ง ตอนมาเรียน ป.เอก เลยไม่รู้สึกยากในแง่เนื้อหา แต่อาจท้าทายเรื่องการทำวิจัยมากกว่า”
“สำหรับภาษาญี่ปุ่น พี่เรียนจากที่ไทยไปแค่พื้นฐาน พอไปถึงที่นู่นก็มีไปลงคอร์สภาษาญี่ปุ่นเพิ่มนิดหน่อย ที่ได้ฝึกจริงๆ ก็คือตอนได้พูดกับเด็กในแล็บกับตอนออกไปใช้ชีวิตประจำวัน”
A Day in Life
ชีวิตแต่ละวันประมาณไหน?
- ตื่นเช้าเดินทางมาแล็บ ทำแล็บ
- อ่านเปเปอร์ อ่านหนังสือ
- ได้ผลแล็บ
- วิเคราะห์ผลแล็บ
- อ่านเปเปอร์ อ่านหนังสือ
- ทำแล็บ
- กลับบ้าน
“ระหว่างนี้ต้องบริหารเวลาดีๆ เพราะเรายังมีภารกิจอื่นนอกจากทำวิจัยอยู่ในมหาวิทยาลัยคือ เตรียมตัวอย่างไปทำแล็บที่ศูนย์วิจัยนอกมหาวิทยาลัย และ เตรียมข้อมูลไปนำเสนอผลงานทางวิชาการ (Conference) ด้วย”
ต้องใช้เครื่องมือขั้นสูงที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน
“หัวข้อวิจัยของพี่ต้องศึกษาโครงสร้างของพอลิเมอร์โดยใช้เครื่องมือขั้นสูงที่ชื่อ “ซิงโครตรอน” (Synchrotron) และได้ไปศูนย์ซิงโครตรอนที่ใหญ่อันดับโลกของประเทศญี่ปุ่น ชื่อว่า SPring-8"
“ความยากคือเราไม่เคยรู้จักเครื่องนี้มาก่อน ต้องเริ่มจากการอ่านหนังสือ อ่านเปเปอร์ ปรึกษาอาจารย์ และถามเพื่อนมหิดลที่เคยใช้เครื่องนี้ แล้วที่ยากกว่าคือหลังจากได้ผลกลับมา เราต้องนำผลมาวิเคราะห์ให้ได้ว่าสิ่งที่ได้มาคืออะไร ผลนี้บอกอะไรกับเรา”
“ก่อนไปใช้เครื่องมือที่ SPring-8 ทุกครั้งต้องจอง Beamtime (คล้ายๆ จองที่นั่งในห้องสมุด เพราะมีคนอื่นใช้ด้วย) จากนั้นวางแผนว่าต้องเตรียมตัวอย่างไปเท่าไหร่ เสร็จวันไหน ฯลฯ เตรียมให้ทันก่อนถึงกำหนด อย่างตอนนั้นพี่ไปเดือนละ 1-2 ครั้ง จองครั้งละ 3-4 วันติดต่อกัน กิน-นอน-ทำแล็บที่นั่นเลยค่ะ”
เข้าร่วม Conference แบบชีพจรลงเท้า
“อาจารย์พี่จะชอบให้เด็กในแล็บไปเข้าร่วมประชุมทางวิชาการ (Conference) ช่วง ป.เอกเรียนหลักสูตร 3 ปี พี่เริ่มไป Conference ตั้งแต่ปี 1 เทอม 2 จนเรียนจบรวมๆ ไปมาทั้งหมด 18 ครั้ง นำเสนอผลที่เราวิเคราะห์ได้จากการทำแล็บ (เป็นส่วนหนึ่งของธีสิสเล่มสมบูรณ์)”
“การนำเสนอมี 2 แบบคือโปสเตอร์ (Poster Presentation) ตรงตัวเลยคือเรายืนประจำที่โปสเตอร์ แล้วคนที่สนใจจะเดินเข้ามาคุยหรือดิสคัสกับเรา กับอีกแบบคือนำเสนอปากเปล่า (Oral Presentation) ออกไปพูด 1 คนหน้าห้องต่อหน้าคนเยอะๆ มีช่วงถาม-ตอบประมาณ 1-2 นาที ส่วนตัวพี่ชอบแบบ Poster เพราะมีโอกาสพูดคุยถามตอบกันมากกว่า ได้คำแนะนำเยอะ ไ้ด้เจอ Prof. ใหญ่ๆจากที่ต่างๆ เป็นการได้คอนเน็กชันแบบนึง”
. . . . . . . . .
เล่าสู่กันฟังจากประสบการณ์ส่วนตัว
รีวิวผู้คน เมือง อาหาร สถานที่เที่ยวในญี่ปุ่น
- มหาวิทยาลัยที่พี่เรียนจะอยู่ในจังหวัดฟุกุโอกะ (Fukuoka; 福岡) บนเกาะคิวชู อาหารขึ้นชื่อคือ “ทงคตซึราเมน” จังหวัดนี้ยังเป็นเมืองต้นกำเนิดของร้านราเมนข้อสอบ หรือ “อิจิรันราเมง” (Ichiran Ramen) และ “อิปปุโดะ” (Ippudo) ทั้งคู่ Originated from Fukuoka เลยค่ะ สำหรับคนญี่ปุ่นเองจะนิยมไปตามร้าน local ต่างๆ เพราะราคาเป็นมิตรกว่าและอร่อย
- ที่เที่ยวที่ชอบสุดในญี่ปุ่นคือ Kamikochi ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Japan Alpe ภูเขาและลำธารน้ำใสๆ ตั้งอยู่ทางตะวันออกของจังหวัดนากาโน (Nagano) บรรยากาศเริ่ดมากกกคล้ายประเทศสวิตเซอร์แลนด์
- คนญี่ปุ่นเคร่งเรื่องเวลา ซึ่งมารยาทที่ดีคือควรมาถึงก่อนเวลานัด ถึงจะเท่ากับ “ไม่สาย” สมมตินัดเวลา 10:00AM แล้วมา 10:00AM พอดี แบบนี้จะถือว่าสายค่ะ
- คนญี่ปุ่นเคร่งวินัยและรู้หน้าที่ตัวเอง อย่างเช่น ที่แล็บจะไม่มีแม่บ้าน ทุกวันศุกร์ตอน 4 โมงเย็นตรงเป๊ะ เข็มวินาทีชี้เลข 12 ทุกคนจะวิ่งไปหยิบไม้กวาด จัดการขยะ เก็บและเอาทิ้งเอง ฯลฯ ทุกคนจะต้องมีส่วนร่วมทั้งอาจารย์ นักเรียน และเจ้าหน้าที่ โดยมีการแบ่งหน้าที่แบบละเอียดชัดเจน เช่น น้อง A กวาดพื้นในห้องออฟฟิศ น้อง B เก็บขยะในออฟฟิศ น้อง C กวาดพื้นห้องแล็บ 1
ตอนเรียนพี่เจออาจารย์ที่ตรวจงานละเอียดและเข้มงวดมาก ไม่มีปล่อยผ่านง่ายๆ ซึ่งเป็นข้อดีที่จะช่วยหล่อหลอมให้เราคอบคอบ ระมัดระวัง วางแผนชัดเจนและเป็นระบบ **ระวังเรื่องการพิมพ์ผิด สำหรับที่ญี่ปุ่นถือเป็นความผิดร้ายแรงมากเลย
(เก็บตกภาพเที่ยวญี่ปุ่นเบาๆ~)
. . . . . . . . .
คำตอบสุดท้าย
หาให้ได้ก่อนตัดสินใจเรียนต่อ
“หนึ่งในเหตุผลที่พี่เรียน ป.เอก ก็คือความคิดว่า ป.เอก จะแค่ไหนกันเชียว! พอได้ไปเรียนก็พบว่ามันหนักกว่าที่คิดมากๆ แต่ก็ได้เจอกับประสบการณ์ใหม่ๆ รวมถึงใช้ชีวิตแบบที่ไม่เคยใช้มาก่อนด้วย”
“สุดท้ายนี้ สำหรับใครที่ลังเลกับการตัดสินใจเรียน ป.ตรี -> ป.โท ถ้าเกิดยังชอบเรียนก็ลุยต่อได้เลย สำหรับ ป.โท -> ป.เอก ถามตัวเองก่อนว่าทำไมถึงอยากเรียน เพราะ ป.เอก คือช่วงที่ต้องใช้เวลาและทุ่มพลังกายพลังใจมากถึงมากที่สุด อดทนกับการหาความรู้ รับมือกับความกดดัน และจัดการทุกด้านในชีวิตให้สมดุล ถ้าชั่งน้ำหนักแล้วรู้สึกคุ้มค่าและตอบโจทย์เป้าหมายของเราก็ลุยได้เลยค่ะ”
ชวนอ่านต่อ
#รีวิวญี่ปุ่น ส่องชีวิตเด็กคณะเกษตรฯ 'ม.คิวชู' เที่ยวฟาร์ม นอนป่า ตามหาใบไม้ เรียนสนุกแถมธรรมชาติดีเวอร์!
https://www.dek-d.com/studyabroad/57593
สุโก้ยเดส!รีวิวชีวิตเด็กทุนมงฉบับบ้านนอกญี่ปุ่น เรียน FoodSci + จบไปทำงานในญี่ปุ่นต่อทันที
https://www.dek-d.com/studyabroad/60311/
รีวิว 17 ข้อจากรุ่นพี่ทุนรัฐบาลญี่ปุ่น ตั้งแต่เตรียมขอทุน ปรับภาษา(ปี0) จนจบวิศวะที่ Osaka University! [ป.ตรี]
https://www.dek-d.com/studyabroad/61026/
เรียนจริงทำจริง! แชร์ประสบการณ์เรียนสายอาชีพที่ญี่ปุ่นฉบับ 'เด็กทุนมง' (หลักสูตรธุรกิจล่ามภาษาญี่ปุ่น)
https://www.dek-d.com/studyabroad/60998/
0 ความคิดเห็น