สวัสดีค่ะชาว Dek-D เนื่องจากโครงการเรือเยาวชนเอเชียอาคเนย์” (Ship for Southeast Asian and Japanese Youth Program) ครั้งที่ 48 ประจำปี 2567 กำลังเปิดรับสมัครจนถึง 22 เมษายน 2567 ก่อนหน้านี้เรามีโอกาสได้ฟังประสบการณ์ส่งตรงจาก “พี่มอมแมม – ณัฐพร อุณหบัณฑิต” เด็กโครงการเรือเยาวชนอาคเนย์รุ่น 47 ก็เลยรีบมาบอกต่อความดีงามให้น้องๆ รู้ว่า โครงการนี้ทำถึงสุดๆ! แลกเปลี่ยนฟรี ดูแลดีเวอร์
และแม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 จะทำให้รุ่น 47 ได้ไปประเทศเดียวคือญี่ปุ่น แต่ก็ยังเจอประสบการณ์ที่คุ้มค่าสุดๆ แล้วรุ่น 48 ที่กำลังเปิดรับสมัคร ได้ไปเยือนทั้งญี่ปุ่น เวียดนาม และอินโดนีเซีย จะมันส์ขนาดไหน? ใครอ่านรีวิวนี้จบแล้วเช็กคุณสมบัติว่าผ่านเกณฑ์ อยากส่งใบสมัครไปพิสูจน์ว่าจะคุ้มค่าจริงมั้ย ตอนนี้ยังทันนะคะ~
ถ้าพร้อมแล้วตามมาขึ้นเรือเก็บข้อมูลเตรียมสมัครด้วยกันเลยค่าา
. . . . . . . . .
ก่อนอื่นมาอ่านโพสต์ประกาศรับสมัครของปีนี้กัน // พี่มอมแมมเป็นผู้จัดทำเนื้อหาและ Artwork บนเพจ TPY ของรุ่นและโปสเตอร์การรับสมัครรุ่น 48 เลย สวยปังมากกก!
. . . . . . .
1
เท้าความประสบการณ์พี่มอมแมม
ช่วงก่อนสมัครโครงการเรือฯ
สวัสดีค่า ชื่อ “พี่มอมแมม” นะคะ เรียนจบ ป.ตรี จากคณะ Modern Trade Business Management ภาคอินเตอร์ของสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ และได้ทุนรัฐบาลไต้หวัน MOE ไปเรียนจบโทด้าน HR ที่ National Taiwan Normal University หรือ Shīdà 師大 (NTNU) ค่ะ ใครสนใจอยากเรียนต่อไต้หวัน ลองแวะไปอ่านรีวิวพาร์ตแรกได้ค่ะ >> https://www.dek-d.com/studyabroad/62293/
ก่อนหน้านี้แมมเคยเข้าร่วมหลายกิจกรรม เช่น
- โครงการ JENESYS ประเทศญี่ปุ่น
- เป็นตัวแทนประเทศ (Ambassador) เข้าร่วมงาน EXPO 2020 Dubai ประเทศดูไบ
- Workshop ค่าย Youth Istanbul Project ประเทศตุรกี
- โครงการ YSEALI Academy: Creative AI and Cultural Influence จากทาง Fulbright University Vietnam กิจกรรม on-site 7 วัน
- อื่นๆ เช่น เคยเป็นตัวแทนไปเล่าเกี่ยวกับการเรียน Work-based Education ให้กับหน่วยงานการศึกษาด้านอาชีวะที่ประเทศนิวซีแลนด์ หรือการพูดเรื่อง Global Citizen ให้กับมหาวิทยาลัยในเวียดนาม
แนะนำว่าถ้าในอนาคตน้องๆ ตั้งใจจะสมัครทุนหรือโครงการไหน ให้คอยโน้ตว่าโครงการหรือทุนอะไรเปิดช่วงไหนบ้าง -> วางแผน timeline การเตรียมตัว -> บิ๊วพอร์ตให้ตรงกับ Core Value ของโครงการนั้น และทุกครั้งที่ไปเข้าร่วม เรามานั่งตกผลึกว่าอะไรคือสิ่งที่ได้กลับมา เช่น ไปสังเกตวัฒนธรรมการใช้ชีวิต การเรียน ฯลฯ จะช่วยให้เราปรับตัวได้กับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ได้ดีขึ้น
. . . . . . .
2
สมัครแล้ววืด แต่อย่าเพิ่งนอยด์
จังหวะชีวิตสำคัญมาก
แมมรู้จักโครงการนี้ตั้งแต่ปี 2 สมัครติดสำรอง แต่ความโหดคือถึงจะติดสำรองหรือตัวจริง ก็ต้องเข้าค่าย 10 วันเป็นหนึ่งในกระบวนการคัดเลือก ซึ่งตอนนั้นถ้าเกิดแมมเข้าค่าย จะต้องซ้ำชั้นมหาวิทยาลัยที่กำลังเรียนด้วย ก็เลยฮึบ! โอเค เก็บไว้ใจก่อน รอตอนพร้อมจริงๆ แล้วในที่สุดตอนปี 2023 แมมเรียนจบจากไต้หวันกลับมาทำงานที่ไทย มีเวลาไปโครงการเรือแล้วค่ะ แถมคราวนี้ติดตัวจริงด้วย~
โครงการเรือเยาวชนเอเชียอาคเนย์ (Ship for Southeast Asian and Japanese Youth Program) ครั้งที่ 47 ประจำปี 2566 ผู้เข้าร่วมจะได้แลกเปลี่ยนระยะสั้นในฐานะทูตเยาวชนเพื่อเจริญสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศ พร้อมสร้างเครือข่ายร่วมกับเพื่อนๆ จากภูมิภาคอาเซียนและประเทศญี่ปุ่น
ปกติโครงการนี้จะเป็นการนั่งเรือ 50 วันไป 4 ประเทศในอาเซียน เช่น ไปสิงคโปร์ อยู่ที่นั่น 4 วัน ตามด้วยประเทศอื่น และปิดท้ายที่ประเทศญี่ปุ่นค่ะ แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ปีของแมมเป็นกิจกรรมออนไลน์และไปที่ "ญี่ปุ่น" ประเทศเดียว
. . . . . . .
3
การคัดเลือกจะมี 3 ด่าน
เตรียมตัวยังไงดี?
Note:
- รีวิวจากประสบการณ์ส่วนตัว และอ้างอิงจากกระบวนการคัดเลือกของรุ่นแมม ซึ่งรายละเอียดกิจกรรมต่างจากปีนี้พอสมควร ศึกษารายละเอียดปีที่สมัครให้ดี
- โครงการเรือเยาวชนเอเชียอาคเนย์” (Ship for Southeast Asian and Japanese Youth Program) ครั้งที่ 48 ประจำปี 2567 ดูรายละเอียดได้ที่ https://www.dek-d.com/studyabroad/64291
- สำหรับโพสต์เฟซบุ๊กด้านล่างนี้คือประกาศรับสมัครของรุ่น 47 ค่ะ
ด่านแรก Essay + VDO
ด่านแรกสุดคือเขียน Essay และทำคลิปวิดีโอนำเสนอความสามารถพิเศษ (ความยาว 3 นาที) ตอนนั้นแมมโชว์ความสามารถในการจดประชุมแบบ Real-time ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับช่วง Discussion *หากครบ 200 ใบสมัครแล้วโครงการจะปิดทันที ใครสนใจต้องรีบสมัครนะคะ
Tips
- 1 นาทีแรก แนะนำตัวว่าเราคือใคร *เปิดให้ปัง แต่งกลอน ขับเสภาอะไรได้ก็ทำไปเลย เล่นให้ใหญ่เข้าไว้ค่ะ!! 55555
- 1 นาทีต่อมา เล่าถึงสตอรี่ความสนใจในตัวโครงการ อะไรทำให้เรามาสมัคร ตั้งใจจะทำอะไรบ้าง คาดหวังอะไรจากโครงการนี้
- 1 นาทีสุดท้าย โชว์ความสามารถพิเศษ และพ่วงปิดท้ายว่าทำไมเราถึงควรได้รับเลือก
ด่านต่อมาคือเข้าค่าย 2 วัน
โครงการจะคัดเลือกจากรอบแรกเหลือ 40 คน แล้วมาเข้าค่ายด้วยกัน โดยปีของแมมเข้าค่าย 2 วัน ครึ่งเช้าได้รู้จักที่มาที่ไปของโครงการ สิ่งที่รุ่นพี่เคยทำ ฯลฯ ครึ่งบ่ายทำกิจกรรมกลุ่มวน 4 ฐาน และจะมีตัวย่อที่เราต้องรู้เยอะมากกกเพราะต้องเจอจนถึงตอนไปค่าย แมมขออธิบายตัวย่อพร้อมกับรีวิวไปด้วยเลย
ฐานที่ 1 Discussion Group (ตัวย่อคือ “DG”) อภิปรายกลุ่มเกี่ยวกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SGDs) แต่ละปีโครงการจะมีลิสต์มาให้ประมาณ 8-10 หัวข้อ แต่ปีของแมมมี 5 หัวข้อคือ
- การศึกษาที่มีคุณภาพ (Quality Education)
- ความเสมอภาคระหว่างเพศและการเสริมพลังสตรี (Gender Equality and Women's Empowerment)
- พลังงาน มาตรการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สังคมที่มุ่งเน้นการรีไซเคิล (Energy, Climate Change Measures, Recycling-Oriented Society)
- การเติบโตทางเศรษฐกิจ และเมืองและชุมชนที่ยั่งยืน (Economic Growth and Sustainable Cities and Communities)
- สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Good Health and Well-being)
คำถามที่แมมเจอคือเราคิดว่าประเด็นไหนสำคัญที่สุด โดยให้กระดาษเรามาจด 1 นาที และลุกขึ้นพูด 2 นาที แนะนำว่าก่อนไปค่ายให้ทำความเข้าใจเรื่อง SDGs มาอย่างดีมากๆ เก็งมาให้ครบทุกหัวข้อเลย แต่ควรมีอย่างน้อย 1 หัวข้อเป็นไม้ตายที่เราแม่นสุด
SDGs (Sustainable Development Goals) คือ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน 17 เป้าหมาย ซึ่งเป็นกรอบทิศทางการพัฒนาของโลก ที่องค์การสหประชาชาติ (United Nations: UN) กําหนดขึ้น เพื่อให้ประชาคมโลกตกลงร่วมกัน โดยมีเป้าหมาย 17 ข้อ เพื่อช่วยแก้ปัญหาที่โลกกำลังเผชิญอยู่ เช่น ความยากจน ความไม่เท่าเทียม สภาวะโลกร้อน ความเหลื่อมล้ำ ความสันติสุข เป็นต้น ซึ่งคาดว่าจะทำสำเร็จได้ภายในปี 2030 อ่านต่อได้ที่ https://www.dek-d.com/studyabroad/52771
ฐานที่ 2 Post Program Activity (ตัวย่อคือ “PPA”) แบ่งคนออกเป็น 2 กลุ่ม นำเสนอโครงการเพื่อสังคมที่เราอยากทำหลังจากกลับจากค่ายนี้ สิ่งที่วัดได้จากฐานนี้คือ Soft Skills อย่างทักษะการทำงานเป็นทีม การนำเสนอ การแจกจ่ายงาน วิธีการสื่อสาร ฯลฯ
ฐานที่ 3 คุมสอบโดยรุ่นพี่ที่เป็นนักการทูต เขาจะแจกโจทย์ให้จับคู่ 2 คน ยืนข้างหน้า มีป้ายชี้ข้างบนว่าเราได้หัวข้ออะไร จากนั้นไม่ได้พูดนำเสนอ แต่รับบทเหมือนเป็นพิธีกรชวนคุย สิ่งที่เขาต้องการดูคือเรื่องการมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนๆ และวิธีการพูดของเราว่าดูเป็นมืออาชีพขนาดไหน
ฐานที่ 4 มีเกมให้เล่นเป็นแนวจิตวิทยา ทดสอบความเชื่อใจกันภายในกลุ่มและทักษะการโน้มน้าวใจ แมมแนะนำให้แสดงความคิดเห็นของตัวเองออกไป แต่ต้องไม่ลืมว่าเราอยู่บนพื้นฐานของข้อตกลงร่วมกับผู้อื่นด้วย
หลังจบคัดเลือกจะมีรุ่นพี่ SSEAYP และสะท้อนประสบการณ์ที่ได้รับจากโครงการ แล้วจะมีช่วงนึงที่พี่ข้าราชการมาเล่าให้ฟังว่าประเทศไทยมีการดำเนินการเรื่อง SDGs มากน้อยแค่ไหน อย่างไรบ้าง **เราจะใช้ข้อมูลนี้เพื่อตอบคำถามตอนสัมภาษณ์ช่วงบ่าย ประกอบกับสิ่งที่เราเตรียมทำการบ้านมาก่อนเข้าค่าย
ปิดท้ายด้วยการสัมภาษณ์
ส่วนตัวคิดว่าไม่ยาก แต่ต้องเตรียมตัวมาดีๆ กรรมการที่สัมภาษณ์เรามีหลายคน เช่น รุ่นพี่โครงการเรือรุ่นก่อนๆ ที่เป็น National Leader (ตัวย่อคือ “NL”), หัวหน้าสมาคมเรือ ฯลฯ สิ่งที่เขาต้องการวัดคือเรารู้อะไรเกี่ยวกับอาเซียนและญี่ปุ่นบ้าง, ทำไมถึงอยากไป (โชว์ไฟในนัยน์ตาของเราออกไปค่ะ!) และโชว์ความสามารถพิเศษ ตอนนั้นแมมจัด Rap ไปหนึ่งค่าา 5555
และแล้วก็ถึงเวลาประกาศผล
- ปีแมมผลออกประมาณ 2 สัปดาห์หลังค่าย โดยจะประกาศทั้งตัวจริงและตัวสำรอง
- ก่อนเริ่มกิจกรรมประมาณ 1 สัปดาห์ เราจะได้รู้ว่าพักที่ไหน ทำกิจกรรมอะไรช่วงไหนบ้าง + มีข้อมูลจากรุ่นพี่ที่แชร์ต่อมาด้วย ทำให้เตรียมตัวได้ดีขึ้น
. . . . . . .
4
ทุกคนบนเรือ = ตัวแทนประเทศ
สุดท้ายแล้วคนที่ผ่านการคัดเลือกและได้มาอยู่บนเรือ จะมีดังนี้
- เยาวชนจากประเทศในภูมิภาคอาเซียน จำนวน 90 คน (ประเทศละ 10 คน)
- เยาวชนจากประเทศญี่ปุ่น จำนวน 20 คน
- หัวหน้าคณะผู้แทนเยาวชน (NL) จำนวน 10 คน *ประเทศละ 1 คน
เพื่อนในรุ่นแมมมาจาก background หลากหลายมาก มีทั้งนักการเมือง นักธุรกิจ นักสังคม นักเรียน หลายคนเคยเข้าร่วมโครงการอื่นมาแล้ว เช่น YSEALI หรือ ASEAN Foundation แต่จุดร่วมที่แต่ละคนมี แมมสังเกตว่าเขาจะกล้าพูดกล้าแสดงออกมากๆ
**เสริมเรื่องตัวย่อต่อมาที่ควรรู้จัก คือ Participant Youth หรือ “PY” ถ้าเป็นคนไทยก็ TPY ส่วนชาติอื่นๆ ก็อาจจะ LPY (ลาว), MAPY (มาเลเซีย), MYPY (เมียนมาร์) เป็นต้นค่ะ
. . . . . . .
5
กิจกรรมออนไลน์ 2 วัน
เจอเพื่อนครั้งแรก & วางตำแหน่งในรุ่น
ก่อนไปญี่ปุ่น รุ่นของแมมจะได้ทำกิจกรรมออนไลน์ร่วมกันวันที่ 12 และ 19 พ.ย. 66 (2 วัน) ช่วงนี้คือการเจอเพื่อนๆ ครั้งแรก แล้วเขาจะแบ่งกลุ่มตามหัวข้อ DG หรือ Discussion Group เช่น แมมอยู่ในกลุ่ม DG “การเติบโตทางเศรษฐกิจและชุมชนยั่งยืน” (Economic Growth and Sustainable Community)
กลุ่ม DG มาจากไหน? โครงการจะมีลิสต์มาให้เราเลือก 3 อันดับ ตั้งแต่ตอนกรอกแบบฟอร์มสมัคร SSEAYP เลย // ก่อนวันค่ายแมมอ่านนโยบายประเทศไปเยอะเป็นความรู้ติดตัว พอถึงเวลาทำกิจกรรม เยาวชนแต่ละประเทศจะมีความรู้มาแชร์กันแบบลึกและกว้าง รวมถึงนำเสนอเรื่องชูโรงของประเทศตัวเองด้วย
Note: ประเด็นด้านเศรษฐกิจค่อนข้างครอบจักรวาล และเชื่อมโยงไปถึง SGDs ข้ออื่นๆ เช่น ข้อ 8 Decent Work and Economic Growth, ข้อ 9 Industry, Innovation and Infrastructure, ข้อ 11, Sustainable Cities and Communities และข้อ 17 Partnerships to achieve the Goal จากที่แมมสืบค้นมาคือประเทศไทยเตรียมพร้อมกับ SDGs ข้อนี้ไว้เยอะเลยค่ะ!
เริ่มแรกคือสมาคมเรือฯ จะเล่าภารกิจที่ต้องทำทั้งหมด จากนั้นเป็นกิจกรรมให้ทั้ง 10 คนสนิทกันมากขึ้น และคัดเลือกคนที่จะมาเป็นตำแหน่งต่อไปนี้ของรุ่น ให้ฟีลครูประจำชั้น ที่มีหัวหน้าห้อง และรองหัวหน้าดูและเพื่อนๆ ในทีม
- Youth Leader หรือ YL
- Assistant Youth Leader หรือ AYL *เพื่อนๆ โหวตให้แมมเป็นตำแหน่งนี้
- National Leader หรือ NL
. . . . . . .
6
ช่วงไปญี่ปุ่น แยกกันไปตามจังหวัด
ตาม Solidarity Group (ตัวย่อ “SG”)
ตัวย่อใหม่มาแล้วค่าาา 5555 บางคนอาจจะสังเกตเห็นจากในโปสเตอร์ข้างบนแล้ว กลุ่ม SG ของแมมคือ จังหวัดไอจิ (Achi, 愛知) หมายความว่าช่วงที่ไปประเทศญี่ปุ่น เราก็จะได้ไปจังหวัดนี้ มีโฮสต์ดูแลอย่างดี แบบดีมากๆ!
หลังจากนั้นจะเข้าสู่ช่วง Discussion Group มี Facilitator เป็นผู้นำการอภิปราย แล้วให้การบ้านไปทำเพื่อให้พอรู้สเกลงานค่ะ ซึ่งด้วยความที่แต่ละคนมาจากหลาย background โครงการนี้จะให้เราไปดูว่าพื้นที่ที่เราไปเขาส่งเสริมด้านนี้ยังไงบ้าง การบ้านคือถ่ายรูปแถวเขต, ตำบล, เมือง ฯลฯ ดูเรื่องการออกแบบผังเมือง (Urban Planning) ว่าตรงไหนที่สามารถปรับหรือพัฒนาได้
ระหว่างทำ DG เราจะได้ไป Company Visit ดูงานที่บริษัทญี่ปุ่นแบบเต็มที่ 1-2 วัน
- เยี่ยมชมฐานผลิตของ Toyota ที่เมืองนาโกย่า (Nagoya) ในจังหวัดอะจิ (Achi) เมืองนี้จะเด่นเรื่องอุตสาหกรรมการผลิตรถ ตอนนั้นแมมได้เจอผู้ว่าฯ ของเมืองด้วย เพราะเราไปช่วงที่เขากำลังผลักดันนโยบายเศรษฐกิจเรื่องการสนับสนุนการมีให้คนทำ Startup พอดีเลยค่ะ (ญี่ปุ่นมีพื้นที่เศรษฐกิจ 3 จังหวัด หนึ่งในนั้นคือ อะจิ)
- เยี่ยมชมบริษัท HITOTOWA ที่ดูแลด้านผังเมืองโดยตรง
- เยี่ยมชมสถานที่จัดงาน Expo ของประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี 2015 ปัจจุบันสถานที่นี้ถูกเปลี่ยนมาเป็น Studio Ghibli แล้วค่ะ ซึ่งแมมแฮปปี้มากกกเพราะก่อนหน้านี้เคยไปงาน Expo ที่ประเทศดูไบ
- จังหวะตกหลุมรักกับซากุระบานในช่วงเดือนพฤศจิกายน ซึ่งปกติจะบานที่ Obara Fureai Park ที่ไอจิเท่านั้น (ยังค่อนข้างเป็น Unseen ของคนไทยอยู่) แมมไปเจอช่วง Rare Sakura ซากุระที่ซ้อนไปกับใบเมเปิลค่ะ สวยมาก TT
- เข้าร่วม Workshop ทำกระดาษ และเรียนรู้คำศัพท์ภาษาญี่ปุ่น
ได้เจอเจ้าหญิงญี่ปุ่น และนายกของญี่ปุนด้วยค่ะ~
(*เฉพาะ NL YL AYL)
. . . . . . .
7
ภารกิจลุยงานแบบสับ
รับผิดชอบทั้งเบื้องหน้า & เบื้องหลัง
- ก่อนมาค่ายเราต้องศึกษาเรื่อง SDGs มาอย่างดี ต้องรู้เกี่ยวกับโครงการ SSEAYP และนโยบายภาครัฐของประเทศตัวเองที่เชื่อมโยงกับเป้าหมายการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนนี้ด้วย
- หลังจากเข้ามาเป็น SSEAYP นอกจากภารกิจหลัก ทุกคนจะมีหน้าที่เบื้องหลังเหมือนทำโปรเจ็กต์ใหญ่ เตรียมการแสดง Cultural Performance โชว์ความเป็นประเทศเราว่าปั๊วะปังแค่ไหน สแตนด์เชียร์ต้องเวอร์วัง โดยดูแลเบื้องหลังเองทั้งหมด เช่น
- ทีม Costume ดูเรื่องเครื่องแต่งกาย (ชุดประจำชาติกับชุดลำลอง)
- ทีม Performance สายครีเอทีฟ วางแผนการแสดง
- ทีม Sponsor หาผู้สนับสนุนเรื่องงบในโครงการ
- ทีม Media ดูแลเรื่องการสื่อ ภาพ ประชาสัมพันธ์ต่างๆ
**Unity คือความเก๋ เราสามารถทำถึงหรือทำเกิน จัดเต็มให้เวอร์เลยก็ได้ อาจจะตัดชุดแบบใส่ความเป็นตัวเองลงไป ทำโลโก้ ทำเสื้อ มี Pin มีป้ายชื่อของประเทศ
3. คนในรุ่นต้องคุยกันว่าจะนำเสนอ SSEAYP ของรุ่นเราให้ออกมาเป็น way ไหนดี เช่น ปีของแมมตกลงกันว่าจะทำธีม Arun Fiesta คำว่า Arun มาจาก “วัดอรุณ” ถ่ายงานกันที่นั่น ทุกคนจะมีคาแรกเตอร์สนุกสนานและเป็นทางการในเวลาเดียวกัน สีของรุ่นคือ แดง-ทอง นอกจากนี้คือมีประกวดทำโลโก้ของทีม (ตอนนั้นแมมชนะด้วยค่ะ เป็นหนึ่งในเรื่องที่ภูมิใจมากๆ)
4. ระหว่างทำกิจกรรมบนเรือ เราต้องแบ่งเวลามาซ้อมการแสดง และสร้างสัมพันธไมตรีกับเพื่อนๆ ที่ทำงานใน Thailand Contingent ไปด้วย
5. หลังกลับจากโครงการ เริ่มแพลน Post Program Activity ซึ่งของแมมทำเป็นรูปแบบ Workshop เพื่อช่วยสร้างความตระหนักให้น้องๆ กับภัยบนโลกออนไลน์ งานนี้เรามีการทำร่วมกับ OUR เพื่อทำให้งานออกมามีสาระความรู้ที่สนุกและใช้ได้จริง เราจะจัดกันที่จังหวัดมุกดาหาร วันที่ 15-16 มิถุนายน 2567 หากใครอยากสนับสนุนกำลังทรัพย์ สิ่งของ หรืออยากมาร่วมงานกับเราก็บอกได้เลย
ในภาพรวม กิจกรรมในโครงการจะเริ่มประมาณช่วงเช้า 8:00-9:00 และจบลงตอน 21:00 ของทุกวัน ตอนทำกิจกรรมเขาจะ mix กันระหว่าง DG และ SG คละกันประเทศละ 2 คน ทำให้เราได้เจอเพื่อนใหม่ตลอดทั้งคนในอาเซียนและคนญี่ปุ่น อาจจะเครียดช่วงแรกๆ แต่สนุกจนไม่รู้ตัวเลยว่านี่ผ่านมา 10 วันแล้วเหรอคะเนี่ย! ไวมากกก
8
เช็กลิสต์คุณสมบัติและทักษะ
ขาดไม่ได้สำหรับโครงการเรือ
- การเคารพให้เกียรติผู้อื่น ให้จังหวะคนอื่นพูดแล้วเราเป็นฝ่ายฟังด้วย ตัวแทนทุกคนต้องการโชว์ของประเทศตัวเอง แต่จะโชว์ยังไงถึงดูให้เกียรติและน่ารัก และเมื่อถึงช่วงที่เราพูด ไม่ควรเป็นการพูดลอยๆ ควรจะมีข้อมูล backup เสมอ
- ความรับผิดชอบต้องสูง บริหารเวลาได้ดี และมีสกิลทำสื่อนำเสนอให้น่าสนใจ
- ตอนสมัครโครงการ ไม่ได้กำหนดให้ส่งคะแนนวัดระดับภาษาอังกฤษ แต่แมมแนะนำให้สื่อสารภาษาอังกฤษได้ในระดับ Daily Conversation ถึงภาษาไม่แข็ง ก็ต้อง “กล้าสื่อสาร” เพราะเราต้องมีส่วนร่วมกับบทสนทนาที่เกิดขึ้นตลอดกิจกรรม
. . . . . . .
9
สรุปความประทับใจ
เต็มสิบ ไม่รู้จะหักตรงไหน
แมมผ่านมาหลายโครงการมาก แต่ SSEAYP ก็ยังเป็นประสบการณ์ใหม่ที่น่าตื่นเต้น ประทับใจหลายอย่างจนอยากมาแชร์ให้น้องๆ ที่สนใจลองสมัครไปเจอโอกาสดีๆ แบบนี้
- การเตรียมงานที่ยิ่งใหญ่อลังการ และกิจกรรมทุกอย่างรันตามตารางที่วางไว้เป๊ะ ไม่มีหลุดสักนิด จนรู้สึกสงสัยเลยว่าทำไมเขาเตรียมการได้ดีและเป็นมืออาชีพขนาดนี้
- เจ้าหน้าที่และโฮสต์ดูแลดีมากๆ แมมแนะนำให้เตรียมของไปให้โฮสต์ตอนจบ (จัดแบบปังๆ เลยก็ได้ เพื่อให้รู้สึกไม่ติดค้างเกินไป) เราสามารถซื้อของฝากได้ตอนอยู่สนามบินหรือลงพื้นที่นิดหน่อย ถ้าซื้อเยอะก็อาจเตรียมเงินไว้สัก 5,000-10,000฿
- มีโอกาสได้เที่ยวประเทศญี่ปุ่นแบบ Local จริงๆ และยังมีโอกาสเจอทั้งนายกและเจ้าหญิงของประเทศญี่ปุ่น เห็นได้ชัดว่าเขาให้ความสำคัญกับ Youth มากจริงๆ
- สนุกกับการได้เจอและร่วม DG กับเพื่อนๆ เปิดโลกกรณีศึกษาจากประเทศต่างๆ ว่าเขาครีเอทีฟกันขนาดไหน รวมไปถึงเกร็ดที่น่าสนใจ เช่น โครงการ “One Tambon One Product” หรือ OTOP ของไทย ต้นแบบมาจาก “One Village One Product” ของประเทศญี่ปุ่น
. . . . . . .
10
The Next Chapter
แมมตั้งใจว่าจะทำโปรเจ็กต์ตัวเอง คือจดสรุปโน้ตเป็นภาพ (Visual Take Note) ทำ Short VDO ใน Supermommam Page ระหว่างที่รอเรียนจบ ป.โท ที่ไต้หวัน ซึ่งตอนนี้ก็เต็มที่กับทุกกิจกรรมจนเราละเลยเรื่องการฝึกภาษาไปบ้าง ถ้าทำได้ ภาษาที่สามจะจีนหรือญี่ปุ่นก็ควรจะฝึกพูดไว้ให้ได้เพื่อเป็นใบเบิกทางสู่การงานอาชีพเราในอนาคตค่ะ
และแวะมาบอกข่าวน้องๆ ที่สนใจว่า ปีหน้าจะมีจัดโครงการ SICA ที่ประเทศไทย
SICA คือโครงการเรือที่จัดทุกปีแต่เวียนประเทศ เพราะหลังกลับจากญี่ปุ่น อาเซียนก็อยากทำกันเองด้วย (มีค่าใช้จ่าย) บอกเลยว่าความแน่นแฟ้นของโครงการนี้สูงมากกก และเป็นจุดเริ่มต้นความรักของคู่สามี-ภรรยาหลายคู่แล้วนะ
สำหรับใครที่มองหาโอกาสโกอินเตอร์ ตอนนี้มีหลายทุนกำลังเปิดรับสมัคร
ตามไปเช็กกันต่อได้เลยที่ "โปรแกรมค้นหาทุนเรียนต่อนอก by Dek-D"
ติดตามทุนต่อนอกง่ายๆ กับ Dek-D
- Website: https://www.dek-d.com/studyabroad
- X: tornokandcourse
- IG: tornokandcourse
- Facebook: Study Abroad เรียนต่อนอก by Dek-D
- Facebook: Study Guide ไปเรียนต่อนอกกันเถอะ
- TikTok: @tornokandcourse
0 ความคิดเห็น