สวัสดีครับชาว Dek-D ทุกคนน~~ ใครกำลังวางแผนเรียนต่อต่างประเทศ โดยเฉพาะสายสุขภาพ ต้องห้ามพลาดบทความนี้เลย เพราะว่าวันนี้ พี่ธัน จะพาไปเปิดรั้วมหาวิทยาลัยชื่อดังของจุดหมายปลายทางยอดฮิตด้านการศึกษาอย่าง “เยอรมนี” ที่มีชื่อว่า “Universität Heidelberg” ซึ่งล่าสุดเพิ่งติดโผมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของโลกในอันดับที่ 84 และอยู่ใน Top 3 ของประเทศอีกด้วย! (จัดอันดับโดย QS World University Rankings 2025)
แต่ดูแค่ตัวเลขอาจจะเห็นไม่ชัดว่าคุณภาพการเรียนการสอนของที่นี่นั้นปังแค่ไหน ดังนั้นเราต้องไปติดตามต่อกันว่าจะมีเรื่องว้าวๆ อะไรบ้างที่ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งใน Top List ที่ใครๆ ก็อยากมาเรียนต่อ ไปดูกันนน!
...............
ประวัติโดยย่อของมหาวิทยาลัย
Universität Heidelberg หรือในภาษาอังกฤษเขียนว่า ‘Heidelberg University’ (มหาวิทยาลัยไฮเดลเบิร์ก) มีชื่อทางการคือ “Ruprecht-Karls-Universität Heidelberg” หรือที่ชาวเยอรมันจะเรียกกันว่า “Ruperto Carola” ที่นี่จัดว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในเยอรมนี เพราะเค้าเปิดสอนมากว่า 600 ปีแล้ว!
จุดเริ่มต้นเกิดขึ้นในปี 1386 เมื่อ Ruprecht I ได้รับอนุญาตจากพระสันตะปาปาให้จัดตั้งมหาวิทยาลัยแห่งนี้ขึ้นในเมือง Heidelberg ที่เขาอาศัยอยู่ และหลังจากนั้นนักวิชาการชาวดัตช์ที่ชื่อว่า Marsilius of Inghen ก็ได้เดินทางจากมหาวิทยาลัยปารีสและดำรงตำแหน่งอธิการบดีคนแรกของมหาวิทยาลัยนี้
ระหว่างช่วงของ “การปฏิรูปศาสนาฝ่ายโปรเตสแตนต์” (Protestant Reformation) การร่าง “ญัตติ 95 ข้อ” (The Ninety-Five Theses) ของมาร์ติน ลูเทอร์ในปี 1518 ก็มีอิทธิพลอย่างมากกับทางมหาวิทยาลัย เพราะว่าหลังจากเหตุการณ์นั้น “กลุ่มลัทธิคาลวิน” (Calvinists) ในเยอรมนีได้ใช้พื้นที่ของมหาวิทยาลัยเป็นที่มั่นของพวกเขา
หลังจากความเปลี่ยนแปลงและความขัดแย้งทางการเมืองต่างๆ ตลอดหลายร้อยปีที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยประสบปัญหาทางการเงิน ซึ่งทำให้ Karl Friedrich แกรนด์ดยุกคนแรกแห่งรัฐบาเดน (Baden) ต้องเข้ามาจัดสรรสถานศึกษาแห่งนี้ใหม่ จึงเป็นเหตุผลที่ชื่อของเขาอยู่ในชื่อมหาวิทยาลัยด้วยนั่นเองครับ
ในช่วงศตวรรษที่ 19 Universität Heidelberg ได้รับการยกย่องอย่างแพร่หลาย ไม่เพียงแต่ด้านการวิจัยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการมีทัศนคติที่เปิดรับในอุดมการณ์ประชาธิปไตย และแนวคิดใหม่ ๆ ด้วย ซึ่งทำให้มหาวิทยาลัยมีชื่อเสียงโด่งดังมากขึ้นและดึงดูดนักศึกษาเป็นจํานวนมากทั้งจากท้องถิ่นและต่างชาติ
ต่อมาสงครามโลกทั้งสองครั้งสร้างความเสียหายในทุกมิติและทำให้เศรษฐกิจหลายประเทศทั่วโลกซบเซา อีกทั้งมหาวิทยาลัยเองก็อยู่ในจุดตกต่ำจากการยึดอำนาจของพรรคนาซี ถึงแม้ว่าหลังจากสงครามจบลงจะใช้เวลานานในการบูรณะ แต่มหาวิทยาลัยก็สามารถกอบกู้ชื่อเสียงเดิมและดึงดูดนักศึกษาต่างให้กลับมาศึกษาต่อได้ โดยในปัจจุบันมีนักศึกษามากกว่า 30,000 คน โดยเป็นชาวต่างชาติราว 5,000 คน
นอกเหนือจากเรื่องความเป็นมาที่ยาวนาน Universität Heidelberg ยังเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่มีความเข้มข้นทางด้านการวิจัยมากที่สุดในทวีปยุโรป มากไปกว่านั้นยังมีบุคลากรและศิษย์เก่าที่ได้รับรางวัลโนเบลถึง 11 คนอีกด้วย เรียกว่าการันตีถึงคุณภาพคับแก้วจริงๆ ครับ
ทำความรู้จักกับเมือง Heidelberg
Heidelberg จัดว่าเป็นอีกหนึ่งเมืองที่สวยงามมากที่สุดในเยอรมนี ด้วยความงดงามของปราสาท เขตเมืองเก่า และแม่น้ำเน็กคาร์ (Neckar) ที่ทั้งหมดถูกล้อมรอบด้วยเนินเขา และทำให้เมืองแห่งนี้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับกวีและนักเขียนยุคโรแมนติกหลายท่าน แต่นี่ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะเมืองนี้ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกมากมายชวนดึงดูดผู้คนจากทั่วทุกหนแห่งจนอยากมาเยือนที่นี่ ยกตัวอย่างเช่น
1. เมืองแห่งวิทยาศาสตร์
นอกจากมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดของเยอรมนีจะอยู่ที่นี่แล้ว เมืองนี้ยังเป็นสถานที่ตั้งของสถาบันและบริษัทวิจัยที่มีชื่อเสียงในระดับสากลมากมาย เช่น German Cancer Research Center (DKFZ), European Molecular Biology Laboratory (EMBL) เป็นต้น
2. ความนานาชาติ
ในแต่ละปีเมือง Heidelberg ต้อนรับนักท่องเที่ยวกว่า 11.9 ล้านคนจากทั่วทุกมุมโลก และประชากรของเมืองเองก็มีจำนวนมากถึง 56,000 คนที่มีภูมิหลังเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งก็มีคนที่เป็นทั้งนักเรียน นักวิทยาศาสตร์ และอีกหลากหลายอาชีพรวมอยู่ที่เมืองนี้
3. พื้นที่สีเขียว
พูดถึงเยอรมนี แน่นอนว่าหลายคนต้องนึกถึงเรื่องอากาศและธรรมชาติบริสุทธิ์ ซึ่งเมือง Heidelberg ก็เป็นตัวอย่างเมืองที่ดีเลยก็ว่าได้ เพราะได้ผสมผสานระหว่างความเป็นชนบทและความเป็นเมืองที่สุดแสนลงตัว ทำให้เป็นอีกเมืองหนึ่งที่เหมาะแก่การพักผ่อน เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอยู่โดยรอบ บวกกับระบบขนส่งมวลชนที่ครอบคลุมและทันสมัย นอกจากนี้ Heidelberg ยังได้รับรางวัลมากมายในด้านความมุ่งมั่นต่อสิ่งแวดล้อม เช่น European Sustainable City Award, Kur- und Heilwald Certificate, Global Green City Award เป็นต้น
4. ประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน
ที่นี่ไม่ได้แค่มีมหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่สุดในประเทศ แต่ตัวเมืองแห่งนี้ก็มีประวัติที่ยาวนาน เห็นได้จากการกล่าวถึงเมืองนี้ครั้งแรกตั้งแต่สมัยวางแผนก่อสร้างเมืองและปราสาทในปี 1196 ส่วนในช่วงยุคทองของ Heidelberg ครั้งนึงก็เคยได้รับสถานะเป็นเมืองหลวงของพาลาติเนต (Palatinate) หรือฟัลทซ์ (Pfalz) เป็นรัฐที่อยู่ภายใต้จักรวรรดิโรมันอันศักสิทธิ์ (Holy Roman Empire) ซึ่งก็ตรงกับช่วงที่มหาวิทยาลัยได้ก่อตั้งขึ้นเช่นกัน
อีกหลายร้อยปีต่อมาในช่วงระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง เมือง Heidelberg เป็นเพียงแค่ไม่กี่เมืองในเยอรมนีเท่านั้นที่ไม่ได้รับผลกระทบจากความเสียหายของสงคราม ทำให้สิ่งก่อสร้างดั้งเดิมต่างๆ ยังคงความสวยงามจนถึงปัจจุบัน
ส่องหลักสูตร ป.โท
หลักสูตรปริญญาโทของ Universität Heidelberg แบ่งออกเป็น 4 ภาคการศึกษา (2 ปี) ซึ่งคณะและสาขาที่เปิดสอนที่นี่ก็น่าเรียนสุดๆ และก็จะเน้นไปที่การทำวิทยานิพนธ์ด้วย โดยแบ่งออกเป็น 4 สายหลักๆ ครบทั้งวิทย์และศิลป์ ดังต่อไปนี้
1. Laws, Economics, and Social Sciences
สาขาย่อย เช่น
- Anthropology (มานุษยวิทยา)
- Corporate Restructuring
- Economics (เศรษฐศาสตร์)
- Law (กฎหมาย)
- International Law (กฎหมายระหว่างประเทศ)
- Political Science (รัฐศาสตร์)
- Psychology (จิตวิทยา)
- Sociology (สังคมวิทยา)
- Sport Science (วิทยาศาสตร์การกีฬา)
2. Liberal Arts and Theology
สาขาย่อย เช่น
- American Studies (อเมริกันศึกษา)
- Ancient History (ประวัติศาสตร์ยุคโบราณ)
- Classical and Modern Literature (วรรณกรรมคลาสสิกและสมัยใหม่)
- Chinese Studies (จีนศึกษา)
- Computational Linguistics (ภาษาศาสตร์คอมพิวเตอร์)
- Egyptology (อียิปต์ศึกษา)
- German as a Second Language (เยอรมันในฐานะภาษาที่สอง)
- History (ประวัติศาสตร์)
- Philosophy (ปรัชญา)
3. Medicine
สาขาย่อย เช่น
- Biomedical Engineering (วิศวกรรมชีวการแพทย์)
- International Health (สาธารณสุขสากล)
- Medical Education (แพทย์ศาสตร์ศึกษา)
- Translational Medical Research (การวิจัยนวัตกรรมการแพทย์)
4. Natural Sciences, Engineering Sciences, Mathematics, and Computer Sciences
สาขาย่อย เช่น
- Biochemistry (ชีวเคมี)
- Biology (ชีววิทยา)
- Computer Engineering (วิศวกรรมคอมพิวเตอร์)
- Computer Science (วิทยาการคอมพิวเตอร์)
- Geography (ภูมิศาสตร์)
- Mathematics (คณิตศาสตร์)
- Physics (ฟิสิกส์)
- Scientific Computing (วิทยาการคำนวณ)
Note: การเรียนปริญญาโทที่ Universität Heidelberg จะแบ่งเป็น 2 รูปแบบ ดังนี้
- Consecutive Study Program – จำเป็นต้องจบปริญญาตรีจากสาขาที่เกี่ยวข้องหลักสูตรในระดับปริญญาโทโดยตรง
- Continuing Study Program – จำเป็นต้องมีประสบการณ์การทำงานในสาขาที่จะศึกษาต่อในระดับปริญญาโท เป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปี
การสมัครเรียน
การสมัครเรียนที่ Universität Heidelberg ไม่ยากเลยครับ เพียงแค่เข้าไปที่เว็บไซต์ heiCO เพื่อสมัครเรียนแบบออนไลน์ พร้อมอัปโหลดเอกสารต่างๆ ที่ทางมหาวิทยาลัยระบุไว้ ยกตัวอย่างคร่าวๆ เช่น
- ใบแสดงวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี
- Transcript แสดงผลการเรียนระดับปริญญาตรี
- วีซ่า
- ผลการทดสอบภาษา
- หลักสูตรภาษาเยอรมัน (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)
- DSH 2
- Goethe-Zertifikat C2
- TestDaF (แต่ละพาร์ตต้องได้คะแนนอย่างน้อย TDN 4)
- ÖSD C2
- Telc Deutsch C1
- หลักสูตรภาษาอังกฤษ (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)
- TOEFL: 79 (iBT), 550 (TOEFL paper-based)
- IELTS: 6.5
- ELS: 112
- SAT: 560 ในพาร์ต Evidence-Based Reading & Writing
- ACT: 21 ในพาร์ตทดสอบภาษาอังกฤษ
- PTE (Pearson Test of English): 53
- GTEC: 1181
- Cambridge: 180 (CEFR ระดับ C1)
- หลักสูตรภาษาเยอรมัน (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)
Note: บางหลักสูตรอาจต้องการเอกสารเพิ่มเติม เช่น CV/Resume, Motivation Letter เป็นต้น
ค่าใช้จ่าย
ค่าธรรมเนียมการศึกษาสำหรับนักเรียนต่างชาติจากประเทศนอกเขตเศรษฐกิจยุโรปจะอยู่ที่ 1,500 EUR หรือประมาณ 59,249 บาท ต่อภาคการศึกษา ความปังคือทางมหาวิทยาลัยยังมีทุนการศึกษาให้อีกมากมาย ยกตัวอย่าง เช่น
- German Scholarship (Deutschlandstipendium)
- Hans-Peter Wild Talent Scholarship
- Amirana Scholarship
นอกจากนั้นก็ยังมีทุนการศึกษาจากทาง “องค์กรแลกเปลี่ยนทางวิชาการเยอรมัน” หรือ DAAD ที่เปิดรับสมัครทุกปี ซึ่งบางหลักสูตรระดับ ป.โท ของ Universität Heidelberg ก็ครอบคลุมอยู่ในทุน Development-Related Postgraduate Courses (EPOS) ที่ได้รับการสนับสนุนจาก “กระทรวงเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา” (BMZ The Federal Ministry for Economic Cooperation and Development) ด้วยนะครับ
มูลค่าทุน & สิทธิประโยชน์
- ยกเว้นค่าเล่าเรียน (ถ้ามี)
- ค่าใช้จ่ายรายเดือน
- ระดับ ป.โท: เดือนละ 934 EUR (≈ 36,823 บาท)
- ระดับ ป.เอก: เดือนละ 1,300 EUR (≈ 51,252 บาท)
- ค่าประกันสุขภาพ, ประกันอุบัติเหตุ และประกันอื่นๆ
- ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ
- อาจได้รับ ค่าที่พักและค่าใช้จ่ายรายเดือนสำหรับสมาชิกในครอบครัวที่ติดตามมาด้วย
Note: อ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยน 1 EUR = 39.43 บาท (20 มิ.ย. 2024)
ช่องทางติดต่อข่าวสารเพิ่มเติม
- เว็บไซต์: https://www.daad-thailand.org/th/
- Facebook: DAAD Thailand
- Line Official: @daadthailand
………….
เป็นยังไงกันบ้างครับหลังจากที่ได้ไปส่องหลักสูตรของทาง Universität Heidelberg การเรียนการสอนมีคุณภาพ โลเคชันก็ปัง น่าเรียนสุดๆ ใครที่สนใจสามารถเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ของทางมหาวิทยาลัยเพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้เลย หรือในส่วนข่าวสารทุนการศึกษาก็สามารถติดตามจากทาง DAAD และ Study Abroad by Dek-D รอบหน้าทางเราจะพาไปเปิดรั้วมอไหน ไปรอดูกันนน Tschüss!~~
เยี่ยมชมเว็บไซต์มหาวิทยาลัยสำหรับใครที่มองหาโอกาสโกอินเตอร์ ตอนนี้มีหลายทุนกำลังเปิดรับสมัคร
ตามไปเช็กกันต่อได้เลยที่ "โปรแกรมค้นหาทุนเรียนต่อนอก by Dek-D"
ติดตามทุนต่อนอกง่ายๆ กับ Dek-D
- Website: www.dek-d.com/studyabroad
- X: @tornokandcourse
- IG: @tornokandcourse
- Facebook: Study Abroad เรียนต่อนอก by Dek-D
- Facebook: Study Guide ไปเรียนต่อนอกกันเถอะ
- TikTok: @tornokandcourse
0 ความคิดเห็น