ไม่อ่านถือว่าพลาด! เคลียร์ชัด 10 ข้อควรรู้ก่อนยืนยันสิทธิ์เคลียริงเฮาส์

         4 วันขีดเส้นตาย! กลับมาอีกปี 1 แล้ววว!! น้องๆ ที่สอบรับตรงจำได้ไหมคะว่า "วันที่ 25-28 เมษายน 2560" เป็นวันอะไร แง้มมาขนาดนี้ ก็บอกให้รู้เลยเถอะว่าเป็นวันแห่งการ "ยืนยันสิทธิ์เข้าศึกษาผ่านระบบเคลียริงเฮาส์" นั่นเอง น้องๆ อาจจะยังนึกภาพไม่ออกว่าเจ้าสิ่งนี้สำคัญยังไง? ตัดสินอนาคตเราขนาดไหน?
 


 
         วันนี้ "เคล็ดลับเทคนิคแอดมิชชั่น" เลยขอมาเคลียร์ชัดทุกอย่างเกี่ยวกับ "10 ข้อควรรู้ก่อนยืนยันสิทธิ์เคลียริงเฮาส์" ใครยังข้องใจเกี่ยวกับระบบรีบเข้ามาอ่านเลย จะได้ไม่พลาดค่าาา

1. อย่าคิดว่า "ทุกมหา'ลัยเข้าร่วมเคลียริงเฮาส์"
         เชื่อไหมว่าทุกวันนี้ยังมีน้องๆ เข้ามาถามในบอร์ดแอดมิชชั่นอยู่เรื่อยๆ ว่า "มหาวิทยาลัย A เข้าร่วมเคลียริงเฮาส์ไหม?" แล้วพี่ๆ ก็ต้องไปตามเช็กกันอีกรอบค่ะว่าเข้าร่วมไหมน้าาา ซึ่งทั้งหมดนี้ก็แปลได้ว่า ไม่ใช่รับตรงทุกมหาวิทยาลัยจะเข้าร่วมผ่านระบบเคลียริงเฮาส์นะคะ แม้กระทั่งมหาวิทยาลัยเดียวกัน บางโครงการร่วมเคลียริงเฮาส์ บางโครงการไม่เข้าร่วมก็ยังมี
         ดังนั้น เช็กให้ดีค่ะว่าโครงการรับตรงที่น้องๆ ไปผ่านด่านสอบมาได้นั้นเข้าร่วมเคลียริงเฮาส์หรือเปล่า สำหรับตอนนี้ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ตามไปดูรายชื่อมหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมกันดีกว่าค่ะ        
         
         ๐ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
         ๐ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
         ๐ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
         ๐ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
         ๐ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
         ๐ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
         ๐ มหาวิทยาลัยนครพนม
         ๐ มหาวิทยาลัยมหิดล
         ๐ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
         ๐ มหาวิทยาลัยศิลปากร
         ๐ กลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย
    

2. ต้องยืนยันสิทธิ์เคลียริงเฮาส์ไหม? เช็กให้แน่!
         อย่างที่พี่เมก้าบอกไว้นะคะว่า ไม่ใช่ทุกมหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมเคลียริงเฮาส์ สำหรับน้องๆ ที่อยากรู้ว่าโครงการรับตรงที่เราสอบติดนั้นเข้าร่วมเคลียริงเฮาส์หรือเปล่า? แล้วเราต้องยืนยันสิทธิ์ไหม? เช็กง่ายๆ ได้ด้วยตัวเองเลยค่ะ ให้น้องๆ เปิดระเบียบการรับตรงของโครงการที่สมัครไว้ขึ้นมา แล้วเลื่อนไปเช็กกำหนดการรับสมัครค่ะ ตามปกติจะมีข้อมูลชี้แจงไว้ว่า "ยืนยันสิทธิ์เข้าศึกษากับทาง ทปอ." ซึ่งก็หมายความว่าโครงการนั้นเข้าร่วมเคลียริงเฮาส์แน่ๆ เราต้องเข้าไปยืนยันสิทธิ์ค่ะ แต่ถ้าในระเบียบการไม่มีระบุไว้ ก็อาจเป็นไปได้ว่ารับตรงที่น้องไปสมัครนี้ ไม่ได้เข้าร่วมเคลียริงเฮาส์ค่ะ

         แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะพลาดการยืนยันสิทธิ์นะคะ เพราะถ้ารับตรงของน้องเข้าร่วมเคลียริงเฮาส์จริง อีกผู้ช่วยสำคัญที่จะบอกให้เรารู้ก็คืออาจารย์ผู้สอบสัมภาษณ์หรือพี่เจ้าหน้าที่ในคณะที่น้องสอบติดนั่นเอง ดังนั้น ถ้าคุ้นๆ ไม่ค่อยมั่นใจ หรือจำไม่ได้ว่า เราต้องเข้าไปยืนยันสิทธิ์เคลียริงเฮาส์หรือเปล่า โทรศัพท์ไปสอบถามโดยตรงเลยดีกว่าค่ะ จะได้ไม่มานั่งกังวล กลัวจะพลาดรับตรงด้วย!  


3. ยืนยันสิทธิ์เคลียริงเฮาส์ได้ "ต้องมีรหัส!"
         น้องๆ ที่สมัครเข้าโครงการรับตรงผ่านระบบเคลียริงเฮาส์จะรู้กันดีค่ะว่า "รหัสสำคัญยิ่งกว่าชีวิต" เพราะรหัสที่ว่ามานี้ เราต้องใช้เป็นบัตรผ่านเข้าระบบไปยืนยันสิทธิ์รับตรง ถ้าน้องๆ ไม่มีรหัสก็แปลได้ 2 อย่างคือรับตรงที่ไปสอบมานั้นไม่ได้เข้าร่วมเคลียริงเฮาส์ หรืออีกกรณีก็คือรับตรงเข้าร่วมเคลียริงเฮาส์ แต่เราเผลอทำรหัสหาย O_O! อย่างหลังนี้งานเข้าแน่ๆ เพราะจะไม่มีรหัสไปยืนยันสิทธิ์ ต้องไปทำเรื่องขอรหัสใหม่กันวุ่นวาย  
         หากถามถึงที่มาของรหัสผ่านว่าได้มาจากไหน ก็วกกลับไปที่ข้อ 2 วันที่น้องๆ ไปสอบสัมภาษณ์จะได้รหัสผ่านติดไม้ติดมือมาด้วย บางที่เปิดให้รับรหัสด้วยตนเองวันนั้นเลย บางที่ก็รับรหัสผ่านทางเว็บคณะ/มหา'ลัย สอบติดหลายที่ก็จะได้รับมาหลายรหัส เวลาเข้าเว็บไซต์ไปยืนยันสิทธิ์ก็สามารถเลือกใช้รหัสผ่านของรับตรงที่ใดก็ได้ เพราะระบบจะดึงข้อมูลทั้งหมดมาพร้อมกันค่ะว่าเราติดที่ไหนบ้าง อันนี้จะเซฟหน่อย เพราะน้องๆ คงไม่มีทางลืมรหัสผ่านยกเซ็ตหรอกเนอะ T T รู้แบบนี้แล้วก็รีบเตรียม Password ไว้ให้เรียบร้อยนะคะ เดี๋ยวหาไม่เจอแล้วจะยุ่ง!   

4. ยืนยันสิทธิ์ผ่านระบบ ทปอ. เท่านั้น
         ยังคงมีน้องๆ เข้าใจผิดอยู่ว่าติดรับตรงแล้ว ยืนยันสิทธิ์กับคณะแล้ว เท่ากับว่ามีที่เรียนแล้ว แต่สำหรับรับตรงผ่านระบบเคลียริงเฮาส์ มันยังไม่จบ น้องๆ ต้องเข้ามายืนยันสิทธิ์เข้าศึกษาผ่านระบบออนไลน์ของ ทปอ. อีกครั้งหนึ่งด้วย โดยเข้าไปที่ www.aupt.or.th เว็บนี้เว็บเดียว และต้องเข้าไปยืนยันสิทธิ์ตามระยะเวลาที่กำหนด ภายใน วันที่ 25-28 เมษายน 2560 เท่านั้น งานนี้พลาดแล้วพลาดเลย ไม่มีแก้ตัวนะคะ

5. ยืนยันสิทธิ์เพียง 1 โครงการ เปลี่ยนใจได้ 3 ครั้ง
         สำหรับน้องๆ ที่พิชิตรับตรงได้หลายโครงการหลายมหาวิทยาลัย สิ่งที่ต้องทำก็คือตัดสินใจยืนยันสิทธิ์เพียง 1 โครงการ 1 สถาบันเท่านั้นค่ะ โดยการยืนยันสิทธิ์นี้ น้องๆ สามารถเปลี่ยนไปเลือกโครงการอื่นที่สอบติดได้ แต่ห้ามเกิน 3 ครั้ง เมื่อเปลี่ยนใจเกิน 3 ครั้งเมื่อไหร่ ระบบจะยึดข้อมูลครั้งสุดท้ายที่ได้ยืนยันสิทธิ์เป็นสำคัญ โดยที่เราไม่สามารถแก้ไขข้อมูลอะไรได้อีกแล้ว นอกจากกดสละสิทธิ์ทั้งหมดภายในเวลาที่กำหนดค่ะ ดังนั้น ก่อนตัดสินใจยืนยันสิทธิ์ คิดทบทวนให้ดีว่าอยากเรียนที่ไหนกันแน่ จะได้ไม่ปล่อยให้คณะในฝันหลุดมือไปซะเฉยๆ ค่ะ

6. ยืนยันสิทธิ์ชีวิตเปลี่ยน 3 ด้าน


 
         เมื่อน้องๆ ตัดสินใจยืนยันสิทธิ์เคลียริงเฮาส์ชีวิตเราจะเปลี่ยนไป 3 ด้านคือ
         1. มีที่เรียนทันที โดยที่เรียนนั้นก็คือสถาบันที่น้องๆ ตัดสินใจเข้าศึกษาต่อในโครงการที่ได้ยืนยันสิทธิ์เคลียริงเฮาส์ไปนี่แหละค่ะ     
         2. สละสิทธิ์รับตรงผ่านเคลียริงเฮาส์โดยอัตโนมัติ เพราะตามกฎต่อให้สอบติดหลายโครงการ แต่เราเลือกยืนยันสิทธิ์ได้เพียง 1 โครงการเท่านั้นค่ะ ดังนั้นรับตรงที่เข้าร่วมเคลียริงเฮาส์ที่เหลือ จะถูกสละสิทธิ์ทั้งหมด
         3. หมดสิทธิ์แอดมิชชั่น ภายหลังจากที่น้องกดยืนยันสิทธิ์ ทปอ. จะส่งรายชื่อไปตัดสิทธิ์การคัดเลือกในระบบแอดมิชชั่นทันทีค่ะ


7. ยืนยันสิทธิ์เคลียริ่งเฮ้าส์ ไม่ตัดสิทธิ์รับตรงอื่น
         อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่ายืนยันสิทธิ์เคลียริงเฮาส์ปุ๊บ น้องๆ จะถูกตัดสิทธิ์รับตรงอื่นปั๊บนะคะ การถูกตัดสิทธิ์รับตรงในที่นี้ จะตัดเฉพาะรับตรงที่เข้าร่วมเคลียริงเฮาส์เท่านั้น แต่รับตรงอื่นที่อยู่นอกเหนือจากเคลียริงเฮาส์ หรือรับตรงที่ประกาศผลหลังยืนยันสิทธิ์เคลียริงเฮาส์ไปแล้ว ก็ยังสามารถสมัครสอบ พอสอบติดก็เลือกได้ว่าจะเรียนที่ไหน และรายงานตัวเข้าเป็นนักศึกษาได้ตามปกติ ไม่มีการกีดกั้นกันแต่อย่างใดค่ะ  

8. ยืนยันสิทธิ์แล้ว "ควรเกาะติดสถานการณ์"
         หลังจากยืนยันสิทธิ์เรียบร้อย อาจมีน้องๆ หลายคนที่ยังไม่นิ่งนอนใจในสถานการณ์ค่ะ บางคนก็นั่งคิดนอนคิดว่ายืนยันสิทธิ์แล้วต้องทำอะไรต่อนะ? ความจริงก็คือหลังจากนี้ทาง ทปอ. จะส่งรายชื่อน้องๆ ที่ได้เข้าไปยืนยันสิทธิ์เคลียริงเฮาส์กลับไปทางคณะ/มหาวิทยาลัยนั้นๆ เพื่อประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้าศึกษาอีกครั้ง หน้าที่ของน้องๆ ก็คือรอติดตามประกาศจากทางมหาวิทยาลัยว่าเราได้เข้าเรียนแน่ๆ ไม่มีปัญหาติดขัดอะไร จากนั้นก็ค่อยไปชำระค่าธรรมเนียมการศึกษา หรือดำเนินการอื่นๆ ตามประกาศขั้นตอนและข้อบังคับที่ทางมหาวิทยาลัยกำหนดขึ้น ดังนั้น ถึงผ่านเคลียริงเฮาส์มาแล้ว ก็อย่าเพิ่งวางใจนะคะ เกิดไม่ทำตามแล้วถูกตัดสิทธิ์ขึ้นมาจะเดือดร้อน T T   

9. ยืนยันเคลียริงเฮาส์แล้วเปลี่ยนใจ สละสิทธิ์ได้!


 
         น้องๆ ชอบสงสัยค่ะว่า ถ้ายืนยันสิทธิ์เคลียริงเฮาส์ไปแล้ว เกิดเปลี่ยนใจ ขอกลับมาสละสิทธิ์ได้ไหม? คำตอบคือได้!! แต่ต้องสละสิทธิ์ภายในวันที่ ทปอ. กำหนดคือวันที่เปิดให้ยืนยันสิทธิ์รับตรงผ่านเคลียริงเฮาส์ วันที่ 25-28 เมษายน 2560 เท่านั้น มีเวลาให้ลังเลแค่ 4 วัน ดังนั้น คิดให้ดีและคิดให้เร็วก่อนตัดสินใจนะคะ เพราะถ้าพ้นกำหนด จะไม่สามารถสละสิทธิ์ได้อีก

10. อยากทิ้งเคลียริงเฮาส์ไปแอดมิชชั่น ต้องเด็ดขาด!
         พี่เมก้าได้เกริ่นไว้ในข้อ 9 แล้วว่า ถ้าเปลี่ยนใจไม่ไปต่อในรอบเคลียริงเฮาส์สามารถสละสิทธิ์ได้ ซึ่งส่วนใหญ่น้องๆ ที่เปลี่ยนใจเท ก็เพราะอยากไปต่อในรอบแอดมิชชั่นนี่แหละค่ะ คำตอบสำหรับเรื่องนี้คือทำได้นะคะ แต่ถ้าอยากไปแอดมิชชั่นจริงๆ ต้องเด็ดขาด กดปุ่มสละสิทธิ์ไปแล้ว อย่าเผลอกลับเข้ามากดปุ่มยืนยันสิทธิ์เข้าเรียนอีก เพราะระบบยึดข้อมูลหลังสุดนะบอกเลย! บางคนมั่นใจว่ายังไงต้องไปแอดมิชชั่นแน่ๆ ถึงกับไม่กล้าเข้าเว็บมายุ่งเกี่ยวกับระบบเคลียริงเฮาส์เลยค่ะ กลัวไปกดโดนปุ่มยืนยันสิทธิ์แล้วจะยุ่ง เพราะถ้าจะสละสิทธิ์เคลียริงเฮาส์แค่อยู่เฉยๆ ไม่ต้องเข้าระบบมากดปุ่มสละสิทธิ์ ก็ถือว่าเป็นการสละสิทธิ์โดยอัตโนมัติเหมือนกัน สามารถไปแอดมิชชั่นได้อย่างสบายใจเลย!

         ทั้งหมดนี้ก็คือ "10 ข้อควรรู้ก่อนยืนยันสิทธิ์เคลียริงเฮาส์" ที่พี่เมก้านำมาฝากน้องๆ นะคะ ขั้นตอนทั้งหมดไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด แค่น้องๆ ให้ความใส่ใจกับข้อมูลสำคัญและเวลา ทุกอย่างก็จะผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ :)
พี่เมก้า
พี่เมก้า - Columnist นักข่าวสายการศึกษา ที่มีความสุขกับการแต่งฟิค อ่านฟิค เพ้อถึงยัมมี่ฟู้ดไปวันๆ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

1 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด