ฟิต 1 ปี เข้าหมอได้ [แนะนำการเตรียมตัวสอบ 9 วิชาสามัญ] by Youngdreamer60
กระทู้จะเกี่ยวกับ การเตรียมตัวสอบนะ เพราะงั้นหนังสือ+ที่เรียนพิเศษ ส่วนใหญ่จะอยู่ในกระทู้ที่เคยเขียนไปแล้วนะ
https://www.dek-d.com/board/view/3749022/
ก่อนเข้าสู่ content ของเรา ขอโชว์คะแนนก่อนละกัน (พี่สอบของปี 60นะครับ)
ก็พูดได้เต็มปากว่าเข้าแพทย์จุฬาได้ด้วยเลข จริง ๆ เพราะเป็นหนึ่งในสองวิชาที่มีน้ำหนักเยอะ (14%) อย่างที่เคยเล่าในกระทู้ ว่าพี่ใช้เวลาเตรียมสอบแค่ 2 เดือน
ภาพรวม
-เก็บ “เลข” ฟิสิกส์ เคมีภายในปิดเทอมก่อนขึ้น ม.6 (ไม่ควรเกินเทอม1)
-ฝึก “ภาษาอังกฤษ”ตลอด อย่างสม่ำเสมอ
-เก็บ ชีวะของ ม.6 เทอม 1 ก่อนเปิดเทอม และเก็บที่เหลือก่อนเปิดเทอม 2 (ไม่ควรเกินปีใหม่)
-เก็บ ไทย ความถนัด ควรเริ่มตอนปลายเทอม1 (เริ่มไม่ช้ากว่าปีใหม่) และจบทันให้มีเวลาทำโจทย์ (โจทย์สำคัญกว่าเนื้อหา)
-เก็บ สังคม ควรเริ่มตอนปลายเทอม 1(เริ่มไม่ช้ากว่าปีใหม่) และจบทันให้มีเวลาทำโจทย์ (เนื้อหาสำคัญกว่าโจทย์)จากตารางจะเห็นว่าเทอม 2 ก่อนปีใหม่ จะว่าง ๆ แต่! จริง ๆ ไม่ว่างนะครับ มันคือช่วงของการฝึกโจทย์
มาดูแต่ละวิชากันบ้างดีกว่า
เลข (14%)
จริง ๆ เคยเขียนวิธีการเตรียมตัวของวิชานี้ไปแล้ว (อันนั้นสำหรับคนที่ไม่อยากเร่งรัดมาก ลิงค์อยู่นี่นะครับผม https://www.dek-d.com/board/view/3831138/ )
เพราะฉะนั้นจะมานำเสนออีกวิธีนึงสำหรับคนขยันเตรียมตัวแต่เนิ่น ๆ หน่อย โดยการเก็บเนื้อหาตั้งแต่ “ปิดเทอมใหญ่”
หลักการ
-วิชานี้น้ำหนักเยอะ ห้ามทิ้ง!
-วิชานี้โจทย์และเนื้อหาสำคัญพอ ๆ กัน
-วิชานี้เนื้อหาจำกัด แต่เทคนิคไม่จำกัด (ซึ่งหาได้จากการทำข้อสอบ)
-แนวค่อนข้างซ้ำเดิม แม้ไม่เท่าฟิสิกส์ ข้อสอบเก่าจึงสำคัญ
-สถิติ กับแคลมักจะออกเหมือนเดิม
กระบวนการ
-เก็บเนื้อหาให้จบก่อนเปิดเทอม 1(จริง ๆ ไม่จำเป็น เหมือนกันกระทู้ก่อนที่แนะนำไป เพราะปีน้องสอบช้า) แต่ถ้าได้ก็ดี แน่นอนว่าอย่าลืมทำสรุป
-ทำโจทย์แยกบทไปเรื่อย ถ้าติดขัดก็กลับไปอ่านสรุป ถ้าอ่านสรุปไม่รู้เรื่อง (ไม่ควรให้เกิด เพราะเราควรทำสรุปให้ดี ให้เป็นของตัวน้องเอง) ค่อยกลับไปอ่านเนื้อหาเต็ม (อาจทำ PAT1และข้อสอบเอนเก่า ไปด้วย)
-วางตารางอ่านแต่ละบท ให้สอดคล้องกับโรงเรียน เมื่อก่อนสอบในโรงเรียนให้ทำโจทย์ทบทวนเรื่องนั้น
-6สัปดาห์สุดท้าย ควรเอาโจทย์ 5ปีหลังสุดมาทำ พร้อมทบทวนจุดที่ยังพลาด (ที่ต้อง 6สัปดาห์เพราะน้องจะมีสอบ finalของโรงเรียนด้วย)
-ถ้าเหลือเวลา ค่อยเสริมจุดแข็ง โดยการเอา PAT1 และ ข้อสอบเอนเก่า มาทำเพิ่ม
อังกฤษ (14%)
บอกก่อนเลยว่าไม่ถนัด (ดูจากคะแนนก็รู้ 555) มาลองดูกัน อย่าลืม! ฝึกให้เร็ว เพราะ 80 ข้อ 90 นาทีนะครับ
หลักการ
-วิชานี้น้ำหนักเยอะ ห้ามทิ้ง!
-การฝึกฝน อ่านเยอะ คือ “หัวใจ” ของวิชานี้ (50%ของวิชา)<3แน่นอนว่าห้ามทิ้ง grammar (25% ของวิชา)
-เนื้อหาจะไม่มีก็ไม่เชิง เรียกว่าครอบโลกจะดีกว่า สิ่งที่ควรเก็บจึงมีแค่ grammar และ vocabนิดหน่อย และเน้นโจทย์
-แนวขอพาร์ทแรก กับพาร์ท 3ซ้ำเดิม ส่วน reading ก็ต้องอ่านเยอะ ๆ
กระบวนการ
-เก็บgrammar ให้เร็วสุดเท่าที่ทำได้ ภายในปิดเทอมใหญ่ยิ่งดี แบบเดือนเดียวได้ยิ่งดี
-ฝึกgrammar จาก cloze test & Error เยอะๆ (แนะนำเล่มของ ดร.ศุภวัฒน์)
-ฝึก reading เยอะๆ อ่านสม่ำเสมอ (แนะนำ TUGET กับ CUTEP)
-ฝึกข้อสอบเก่าได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เลย เพราะข้อสอบอังกฤษมีจำนวนมากให้น้องทำ ไม่ต้องกลัวใกล้สอบจะไม่มีอะไรทำ
-ท่องศัพท์ (อันนี้แล้วแต่คน) อาจจะท่องแค่ศัพท์ 4 หน้า ของครูสมศรีก็พอ
*เพิ่มเติม วิชานี้สำคัญมาก ๆๆ นะครับ เข้ามหาลัยไปน้องก็ต้องเจออีก และโลกปัจจุบันมันก็หมุนไปด้วยมีภาษานี้เป็นภาษาสากลจริง ๆ แนะนำว่าลองมาฝึกดูซีรีย์อังกฤษ หรือรายการภาษาอังกฤษ หนัง soundtrack ก็ได้ครับมันจำเป็นจริง ๆ (ตอนนี้พี่มาอยู่เมกายิ่งเห็นความสำคัญของมัน) เพราะว่าในอนาคตไม่ใช่แค่น้องอ่านออกแล้วจะรอดนะครับ น้องต้องสื่อสาร (ฟัง+พูด+เขียน) ได้ด้วย
ฟิสิกส์ (9.3%)
หนึ่งในวิชาที่เก็บได้ไม่ยาก (สำหรับเด็กสายคำนวณนะ)
หลักการ
-เด็กสายคำนวณห้ามทิ้ง ถ้าทิ้งต้องได้ชีวะ หรือเคมีมาโป๊ะตรงนี้ให้ได้
-เหมือนเลข โจทย์และเนื้อหาสำคัญพอ ๆ กัน เน้น ความเข้าใจในส่วน “กลศาสตร์”เพราะส่วนอื่น“พอ” จำสูตรไปสอบได้
-วิชานี้เนื้อหาจำกัด เทคนิคก็ค่อนข้างจำกัด (เพราะคนออกเก่งมาก ถ้าเขาออกเกินไปนิด จะยากจนไม่มีใครทำได้ 555เขาเลยออกจำกัด)
-แนวค่อนข้างซ้ำเดิม ข้อสอบเก่าคือ “หัวใจ” <3
-เรื่องที่ชอบออกเหมือนเดิมคือเรื่อง ค่าครึ่งชีวิต ความร้อน ไฟฟ้าสถิต (จริง ๆ มีอีก แต่ไอเรื่องพวกนี้เรียกได้ว่า แทบจะสูตรเดิม)
กระบวนการ
-เก็บเนื้อหาให้จบก่อนเปิดเทอม 1(จริง ๆ ไม่จำเป็น คล้ายเลข) แต่ถ้าได้ก็ดี แน่นอนว่าอย่าลืมทำสรุป (อันนี้สรุปสำคัญกว่าเลขอีก)
-ทำโจทย์แยกบทไปเรื่อย ถ้าติดขัดก็กลับไปอ่านสรุป ถ้าอ่านสรุปไม่รู้เรื่อง ค่อยกลับไปอ่านเนื้อหาเต็ม (อาจทำ PAT2 และข้อสอบเอนเก่า ไปด้วย)
-วางตารางอ่านแต่ละบท ให้สอดคล้องกับโรงเรียน เมื่อก่อนสอบในโรงเรียนให้ทำโจทย์ทบทวนเรื่องนั้น
-6สัปดาห์สุดท้าย ควรเอาโจทย์ 5ปีหลังสุดมาทำ พร้อมทบทวนจุดที่ยังพลาด
-แนะนำว่าคนที่ไม่เก่งวิชานี้ ให้ทบทวนกลศาสตร์ไปแน่น ๆ ที่เหลือดูข้อสอบเก่า แล้วจดสูตรที่ใช้ในข้อสอบเก่าออกมา จำแค่นั้นเข้าห้องสอบเลย
เคมี (9.3%)
วิชากึ่งๆกลางๆ ระหว่างฟิสิกส์ และชีวะ
หลักการ
-เด็กสายคำนวณห้ามทิ้งพาร์ทปริมาณสาร กรดเบส ไฟฟ้าเคมี
-พาร์ทคำนวณ โจทย์สำคัญ เพราะเราต้องฝึกให้เร็ว (เพราะข้อสอบค่อนข้างเป็น speed test) และรอบคอบ
-พาร์ทจำ เนื้อหาสำคัญ (แนะนำให้ไปดูข้อสอบเก่า และจดเนื้อหาที่มันเคยออกมา แล้วไปอ่านเพิ่มเติมใกล้เคียงก็อาจจะพอ สำหรับคนไม่ชอบ)
-วิชานี้เนื้อหาเยอะ บอกเลยว่าเยอะ อาจทิ้งได้บางเรื่อง (ปกติมันจะออก อุตสาหกรรม 2ข้อ พีก็ทิ้งเลย ไม่คุ้มกับการอ่าน เพราะตอนนั้นพี่เหลือเวลา 2 เดือน โชคดีไปอีกที่ข้อนึงเป็นปริมาณสาร) แต่พวกคำนวณก็ออกมาแบบเดิม ไม่ค่อยเปลี่ยน แต่พาร์ทจำมีการเปลี่ยนพอสมควร แต่ไม่มากนัก
กระบวนการ
-เก็บเนื้อหาให้จบก่อนเปิดเทอม 1(จริง ๆ ไม่จำเป็นเลยที่สุดใน 3 วิชาเลข ฟิสิกส์ เคมี เพราะมันจะมีพาร์ทจำที่เก็บช้าหน่อยได้กันลืม) แต่ถ้าได้ก็ดี แน่นอนว่าอย่าลืมทำสรุป (อันนี้สรุปสำคัญที่สุด)
-สำหรับพาร์ทคำนวณ (ควรฝึกก่อน) ทำโจทย์แยกบทไปเรื่อยให้คล่องและไว เสร็จแล้วก็ลองเอาข้อสอบเก่ามาทำได้เลย เพื่อให้รู้แนวของข้อสอบพาร์ทจำ แล้วค่อยไปทำโจทย์แยกบทพาร์ทจำ จะได้รู้ว่าควรจำอะไร แล้วมีอะไรใกล้เคียงข้อสอบจริง ที่น่าจำอีก (ตอนที่พี่เตรียมเอง พี่เตรียมจากโจทย์ ติดแล้วค่อยกลับไปอ่านเนื้อหา เพราะ 1.พี่เคยเรียนมาแล้วคร่าว ๆ ตอนม.ต้น 2. พี่ไม่อยากจำเยอะ เอาเฉพาะที่มันเคยออกกับใกล้เคียง) เช่น ถ้ามันเคยออก โครงสร้างอะตอมของโบว์ มันก็น่าจะออกโครงสร้างของคนอื่น ๆ โดยการถามในลักษณะเดียวกัน ทีนี้เราก็จะเหมือนมีกล่องในหัวแล้วว่า เนื้อที่ที่ต้องจำคือโครงสร้างอะตอมแบบนี้ๆๆ แบบเราก็จำแค่ ใคร ทำอะไร สรุปว่าอะไร แค่นี้ไรงี้ และพอไปเจอข้อสอบจริงก็จะดึงออกมาใช้ได้เร็ว
-วางตารางอ่านแต่ละบท ให้สอดคล้องกับโรงเรียน เมื่อก่อนสอบในโรงเรียนให้ทำโจทย์ทบทวนเรื่องนั้น
-ก่อนสอบ 6 สัปดาห์แนะนำให้เอาข้อสอบรวมทุกบทมาทำ (แนะนำของครูกุ๊ก) พร้อมอ่านสรุปบทจำ
ชีวะ (9.3%)
วิชาแห่งการท่องๆๆ ของเด็กคำนวณ แต่สำหรับเด็กชีวะมันคือศาสตร์แห่งการเข้าใจ (ที่พี่ไม่ค่อยเข้าใจ 555)
สารภาพว่าทิ้งไปพอสมควร เพราะคำนวณคะแนนก่อนสอบแล้วว่า น่าจะพอไหวถ้าเอาเวลาไปฟิตเคมี กับฟิสิกส์แทน
เพราะงั้นจะมานำเสนอวิธีการแบบเด็กขี้เกียจ (อ่านชีวะ) แบบพี่ละกันนะ แหะ ๆ
หลักการ
-เก็บพาร์ทพันธุกรรม เซลล์ การสืบพันธ์ หัวใจ ประชากร ได้ก็อุ่นใจระดับนึง (ปีพี่ พี่แทบจะทิ้งพืชไปเลย จำแต่คน คะแนนเลยไม่ดี ไม่แนะนำให้ทำตาม)
-ฝึกจากโจทย์จะดีกว่า เพื่อให้เห็นแนวที่ต้องจำ เสร็จแล้วจดแบบแยกบท หรือไฮไลท์ในสรุป หรือหนังสือเรียน (บางคนอาจเคยเรียน upskill นี่คือขั้นตอนเดียวกัน เพียงแต่ใช้เวลากับแรงกายหน่อย แต่ไม่ต้องเสียตัง) ปีพี่ พี่ใช้การไฮไลท์ลงในสรุปของพี่ พี่จึงชอบสรุปที่เป็นขาวดำ เพราะเวลาไฮไลท์ จะเห็นชัด
-เสร็จแล้วก็ไปอ่านเนื้อหาที่ไฮไลท์ และเนื้อหาใกล้เคียง เช่นมันเคยออกฮอร์โมนพืชตัวนี้ว่ามันช่วยเรื่องผล ก็ไปดูตัวอื่นที่มันช่วยเรื่องผลซิ ไรงี้
กระบวนการ
-ยังคงต้องอ่านเนื้อหาทั้งหมด หากมีเวลา และก่อนที่จะเปิดเทอม สำหรับคนที่ต้องทำเกรดที่โรงเรียน เพราะโรงเรียนจะออกทุกอย่างที่น้องเรียน เพราะงั้นยังแนะนำให้อ่านเนื้อหาทั้งหมดตอนก่อนเปิด เทอม 1 อยู่ เพื่อเอาไปใช้ในเทอม 1
-ทำตามหลักการข้างต้น ด้วยการทำโจทย์ และไปดูเนื้อหา (สำหรับเตรียมสอบ 9วิชานะ)
-บางพาร์ทก็ทิ้งได้ถ้าเวลาไม่ทันเช่น พื้นสัตว์ในแต่ละโซนอากาศงี้ ถึงแม้มันอาจจะออก แต่ไม่คุ้ม
สังคม (7%)
ถ้าอังกฤษคือวิชาครอบโลก อันนี้คือวิชาครอบจักรวาล
หลักการ
-ไม่ทันจริง ๆ ทิ้ง
-วิชานี้เนื้อหาสำคัญ และมันไม่ค่อยออกซ้ำ ยกเว้นภูมิศาสตร์ (เซนพอได้) กับเศรษฐศาสตร์
-เนื้อหาคลอบจักรวาล แต่ก็พอมีอันที่น่าจำเช่น ระบอบการเมืองการปกครอง หรือหลักธรรมที่ไม่ยากเกินไป
-ข้อสอบเก่ามีไว้แค่บอกว่ามัน “น่าจะ” ออกประมาณไหน บางข้อที่ออกมาครั้งเดียวอย่างที่เคยออก ภาษาฝรั่งเศษมาครั้งนึงก็ไม่น่าจะออกอีกไรงี้
-ไม่รู้จะแนะนำยังไงจริง ๆ เพราะนอกจากน้ำหนักจะน้อยแล้ว (7%) ภาพรวมของคนที่ติดก็ไม่ใช่ว่าจะได้วิชานี้ดีเท่าวิชาอื่น ๆแต่ก็จะพยายาม
กระบวนการ
-อ่านเนื้อหา 1 รอบ
-ทำโจทย์เก่า เพื่อให้พอรู้แนว (ไม่รู้จะรู้รึเปล่า)
-แล้วก็กลับมาอ่านเนื้อหาเฉพาะส่วนที่น่าออก (อาจทำสรุปตรงนี้)
-หาแนวข้อสอบทำ
ภาษาไทย (7%)
วิชาที่เตรียมตัวง่ายที่สุดสำหรับพี่ สารภาพว่าการเตรียมตัวของพี่ทั้งหมด สำหรับวิชานี้คือการทำข้อสอบ 5 ชุด แล้วดูเฉลย และพยายามคิดว่าถ้าเจอข้อแบบนี้คนออกข้อสอบน่าจะตอบข้อนี้ + การไปดูตัวอย่างของ บรรยายโวหาร อธิบาย พรรณนา ในเล่มหนังสือกระทรวงเป็นตัวอย่างให้จับเซนได้
หลักการ
-ถ้าน้องอ่านภาษาไทยได้แตกฉาน น้องได้คะแนนไปแล้ว 60 % โดยไม่ต้องเรียนพิเศษ หรือไปซื้อหนังสือมาอ่านเพิ่มเลย
-คำราชาศัพท์คือสิ่งที่น้องต้องไปทวน+ บรรยายโวหาร อธิบาย พรรณนา ฯลฯ ในเล่มหนังสือกระทรวงเป็นตัวอย่างให้จับเซนได้
-เรียนในห้อง หรืออ่านหนังสือของกระทรวงก็พอ
1.การใช้เหตุผล (สรุป สนับสนุน) หลักการคือ สนับสนุนนำไปสู่สรุป
2.ระดับภาษา ดูจากข้อสอบหลายๆปีก็จะทำให้รู้ว่าว่าแบบไหนคือแบบไหน
3.การแสดงทัศนะจะมีคำประเภท “ควร” หรือการคาดเดาอนาคต
4.กำกวม =แปลได้หลายแบบ
กระบวนการ
อันนี้จริง ๆ แล้วแต่ความสะดวกเลย เพราะพี่ว่าแค่ข้อสอบเก่ากับหนังสือกระทรวงก็พอแล้ว ถ้าอยากเรียนพิเศษก็ได้ไม่ได้ขัดข้อง
ความถนัด (30%)
ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าจะให้คะแนนส่วนนี้เยอะไปไหน เพราะมันแทบจะวัดอะไรไม่ค่อยได้นัก
การเรียนพิเศษอาจไม่ช่วย เพราะครูสอนพิเศษเราไม่ใช่คนที่ตรวจ แล้วข้อสอบในพาร์ทเชาว์กับจริย มัน subjectiveมาก หรือภาษาไทยมักเรียกว่ามันขึ้นกับวิจารณญาณ ของคนตรวจ และคะแนนเฉลี่ยของสองพาร์ทนี้ก็ไม่ได้สูง
ดังนั้น! เราสู้กันด้วย เชื่อมโยง
หลักการ
-ตอนอ่านเชื่อมโยงให้ใจเย็น ๆ มองทุกอย่างด้วยเหตุผล และมุมมองของคนออกข้อสอบ ไม่ใช่มุมมองของน้อง ให้คิดว่าถ้าเป็นคนออกข้อสอบจะคิดยังไง
-ฝึกตัวอย่างเยอะ ๆ มันสำคัญ จริง ๆ (ปีพี่ พี่ให้เวลา 2 วันเต็ม ๆ ในการทำตัวอย่างเชื่อมโยง ก่อนสอบ แล้วมันก็แค่นั้นจริง ๆ)
-สองพาร์ทที่เหลือให้ฝึกไปแบบพอจับเซนได้ ไม่ต้องไปโหมมากนัก
เป็นไงกันบ้างครับ ถ้ามีข้อติชมตรงไหน อยากให้เขียนอะไรเพิ่มเติม ก็คอมเม้น หรือ Inbox มาที่
IG : ydm.ts2020
ได้เลยนะครับ ขอบคุณมากครับที่ติดตามกัน แล้วขอให้ทุกคนได้เรียนในที่และคณะที่มีความสุขนะครับ
ปล. คำแนะนำนี้ไม่ใช่สิ่งที่เที่ยงตรงสูงสุดนะครับ หมายความว่า น้องต้องเอาไปปรับใช้กับ lifestyle ของแต่ละคนนะครับ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด สู้ครับ
#ความฝันยังเยาว์วัย
13 ความคิดเห็น
คือดีมากอ่ะค่ะะT-T ขอบคุณมากเลยนะคะะ แนะนำดีอ่ะค่ะ หนูจะได้รู้ว่าควรทำยังไงบ้าง เพราะตอนนี้หนูก็เริ่มเก็บเนื้อหาที่เคยเรียนไปแล้วบ้างเหมือนกันค่ะะ --ขอบคุณจริงๆนะคะ
สู้ต่อไปนะครับ ลองเอาที่แนะนำไปปรับใช้ดู
รับทราบค่าา! ขอบคุณมากนะคะะ
ฮื่อออ ขอบคุณมากๆค่ะพี่ เรากำลังคิดอยู่เลยว่าควรวางแผนยังไง คิดในหัวแล้วมันไม่มีคำว่าระบบเลยอ่ะ5555555555555 ขอบคุณจริงๆค่ะะ
เรื่องการวางแผนอนสนี่สำคัญน้า สู้ครับ
ความพยายามตามมาด้วยพลังกายใจอนาคตเด้อ
ถ้าผมเก็บเนื้อหาครบทุกเรื่องภายในวันแม่ แล้วเริ่มลุยข้อสอบเก่าทุกวิชา จะพอไหวมั้ยครับ
ไหวครับ
พี่คะ ชีวะคอร์สent ของพี่วิเวียนนี่ดีไหมคะ ตอนนี้หนูกำลังจะขึ้นม.5 สามารถเรียนเป็นเนื้อหาในรร.ด้วยได้หรือเปล่า
เรียนเป็นเนื้อหาในโรงเรียนได้เลยครับ
คือถ้าพื้นฐานไม่ดีคิดว่า 1 ปีก็คงไม่ติดอย่างน้อยคุณคงมีพื้นฐานมาดี ในสมัย ม.4-5
ถูกครับ ผมคิดว่านี่คือเหตุผลที่แท้จริง ว่าทำไมเด็กเตรียมถึงติดแพทย์เยอะมาก
เพราะสังคมมันบังคับให้ต้องเรียนมาตลอด 2-3 ปี การมาเตรียมตัว(อย่างจริงจัง)ไม่กี่เดือนก็สามารถทำให้ติดคณะที่หวังได้ครับ
พี่ช่วยแนะนำที่เรียนสังคมหน่อยครับ
ลองดูในกระทู้ https://www.dek-d.com/board/view/3749022/ นี้เลยครับ
เราได้มากกว่าแค่อังกฤษอ่ะ ยอมใจ วิชาอื่นนี่เธอเยอะกว่าเราลิบโลด 555 เราขอถามให้หายสงสัยหน่อยจิ ข้อสถิติตอบ 54.5 หรือ 55 อ่า ทีแรกนึกว่าจะไม่หลอก เอะ!หรือมันไม่หลอก? งงใจ
ปล.ยินดีด้วยน้านิสิตแพทย์cu
เราสอบสองปีที่แล้วอะ
หมายถึง ปี60
แหงะ หน้าแตกเบย 555
พี่ค่ะคือตอนนี้หนู่อยู่ม5แต่เก็บเคมีตบไปแล้วกับชีวะที่กำลังเก็บเอ้นอยู่เเต่พวกฟิ เลข อิ้ง หนุเรียนเรื่อยๆ จะพอได้ไหมค่ะต้องแก้ไข้ตรงไหนมั้ย
พี่ว่าโอเครนะครับ การมีวิชาที่เรา finish ไปแล้วมันทำให้เรามั่นใจมากขึ้น
พี่คะ ขอช่องทางติดต่อได้ไหมคะ หนูอยากได้คำปรึกษาอีกหลายอย่างเลย คือตอนนี้กลัวมาก และยังคงมืดแปดด้าน ไม่รู้จะทำไงดีคะ
ขอโทษที่ตอบช้านะครับ IG: parn_paniti ลองติดต่อในนี้มานะครับ
หาไอจี ไม่เจอจ้า พี่ลบไปแล้วหรอ?
แนะนำดีมากๆเลยค่ะ ขอบคุณมากๆเลยนะคะ มีแนวทางให้รุ่นน้องได้เยอะมากจริงๆค่ะ
ขอบคุณมากๆเลยครับ
คะแนนโหดมากค่ะ ข้อมูลละเอียดมากกก ขอบคุณมากๆเลยนะคะ มีประโยชน์มากเลยค่ะ
สู้ๆนะครับ
แล้วถ้าเนื้อหาม.4 5 ไม่ค่อยแม่น แต่ถ้าทบทวนเนื้อหาและทำข้อสอบย้อนหลังอะค่ะ จะพอมีโอกาสติดไหมคะ ปล.เรียนพิเศษเอนน้อยค่ะ
ไม่โอกาสครับ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?