ฮัลโหลลลลลล ผลสอบ O-NET ออกกันมาแล้ว เป็นอย่างไรบ้างคะ? ตอนสมัยที่พี่สอบ O-NET ตอนรู้ผลนะมันรู้สึกแบบ แล้วต้องทำยังไงต่อ? คือเราไม่รู้เลยว่าเราต้องทำไงต่อไปด้วยคะแนนอันน้อยนิดแบบนี้ พี่ว่าคะแนน O-NET พี่นี่ไม่มีใครเทียบได้แล้ว ด้วยคะแนนสังคมที่ 12 คะแนน (ประจานตัวเองแป๊บ) ติดดินแบบถล่มทลาย

           แต่สมัยนี้กาลเวลาเปลี่ยนไป
O-NET ไม่ใช่แค่วัดผลจบ ม.6 เท่านั้น ยังนำไปใช้อย่างอื่นอีกมากมาย ใครที่บอกว่าไม่แคร์กับคะแนน O-NET ที่ออกมาเนี่ย พี่แป้งบอกเลยว่า คิดผิดอย่างแร๊งงงงง แล้ว O-NET มีผลอะไรต่อเราบ้างล่ะ วันนี้พี่แป้งได้รวบรวมมาไว้ที่นี่แล้ว พร้อมจะรู้หรือยังคะ? ไปดูกันเลย ....

 


 >> ใช้รอบแอดมิชชั่นกลาง 30% แบบไม่เกรงใจใคร 

          พี่แป้งมั่นใจว่าน้อง ๆ เกิน 80% เข้าใจว่า O-NET ใช้เพื่อการแอดมิชชั่นและถ่วงเกรดในใบจบเท่านั้น แบบไม่สอบก็ไม่จบ ม.6 เป็นข้อมูลที่ถูกค่ะว่าใช้ในรอบแอดมิชชั่นกลาง เพราะแอดมิชชั่นกลางใช้ O-NET 30% ไม่เกี่ยวกับใคร ๆ เลย ถ้ามานั่งคิดดี ๆ แล้ว 30% นี่ก็ไม่ใช่น้อย ๆ นะคะ คิดง่าย ๆ ก็เทียบกับคะแนน 30,000 ในรอบแอดฯกลาง O-NET คิดเป็น 9,000 คะแนนเลยนะคะ [(30 x 30,000) / 100] เพราะฉะนั้นใครจะแอดมิชชั่น คะแนน O-NET ดีก็เริ่มถือว่าก้าวได้อีกสเตปนึงเลยค่ะ ตอนนี้ก็รอลุ้น GAT PAT กันเนาะ


 >> รับตรงบางสถาบันก็ใช้เป็นเกณฑ์ในการคัดเลือก 

          น้อง ๆ หลายคนมองข้ามเรื่องการใช้คะแนน O-NET ในรอบรับตรงไปเลยใช่มั้ยคะ บ้างโครงการก็ใช้ด้วยค่ะ คือใช้เป็นส่วนนึงในการคัดเลือกเลย เช่น
        - รับตรง โครงการนร.เรียนดี คณะสังคมศาสตร์ ม.เกษตรฯ
        - รับตรงพยาบาลศาสตร์ ว.พยาบาลทหารอากาศ
        - รับตรงสถาบันพระบรมราชชนก มีเกณฑ์คัดเลือกโดยใช้ O-NET 5 วิชา 80%
          และ สัมภาษณ์ 20%
        - รับตรงคณะนิติศาสตร์ ม.ขอนแก่น ใช้ O-NET วิชา อังกฤษ และ คณิตฯ 75% 
          อีก 25% สอบข้อเขียนความรู้ทางกฎหมายเบื้องต้น

 

        - รับตรงสาขาเอเชียศึกษา คณะอักษรศาสตร์ ม.ศิลปากร ใช้คะแนน O-NET ไทย สังคม
          อังกฤษ 50%
         โดยในระเบียบการการรับสมัครจะมีระบุไว้อย่างชัดเจน ถ้าเกิดไม่อ่านหรืออ่านแค่วันรับสมัครก็อาจจะพลาดได้ ถ้าคะแนน O-NET ได้สูง ก็หมายถึงว่าโอกาสที่สอบติดก็มีสูงด้วย



 >> บางคณะมีกำหนด O-NET ขั้นต่ำ (ทั้งแอดฯกลางและรับตรง) 

           นอกจากจะใช้เป็นเกณฑ์ในการคัดเลือกในรับตรงบางสถาบันและรอบแอดมิชชั่นกลางแล้ว O-NET ยังใช้ในการกำหนดขั้นต่ำสำหรับทั้งแอดฯกลางและรับตรงอีกด้วย รับตรงที่เห็นชัด ๆ อาทิเช่น
        - รับตรง กสพท. กำหนด O-NET รวมไม่ต่ำกว่า 60%
        - โครงการรับตรง 8 จว.ตะวันออก ม.เกษตรฯ(ศรีราชา) ต้องสอบ O-NET
          และมีผลสอบไปยื่นวันรายงานตัว
        - รับตรงพยาบาลศาสตร์  ว.พยาบาลกองทัพบก วิชาอังกฤษ,วิทย์,คณิต ไม่ต่ำกว่า
          วิชาละ 30 คะแนน

 

         ส่วนในรอบแอดมิชชั่นกลางก็มีบางสาขา บางคณะ บางมหาวิทยาลัยที่ที่กำหนด O-NET ขั้นต่ำไว้ เช่น
        - ม.แม่ฟ้าหลวง กำหนด O-NET ภาษาอังกฤษไม่ต่ำกว่า 30% ทุกสาขาวิชา
        - คณะมนุษยศาสตร์ (ภาษาอังกฤษ) ม.เกษตรศาสตร์ กำหนด O-NET ภาษาอังกฤษ
          ไม่ต่ำกว่า 50%
        - คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ม.ขอนแก่น กำหนด O-NET 5 วิชา โดยแต่ละวิชา
          ไม่ต่ำกว่า 30%

 





          ถ้าเกิดไม่ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดไว้ ก็ถูกตัดสิทธิ์ทันทีเนื่องจากว่าคุณสมบัติไม่ตรงตามที่ระบุไว้ค่ะ

          

 >> รอบหลังแอดมิชชั่นกลางก็ใช้นะจ๊ะ  

           ใครว่าจะจบแค่รอบแอดมิชชั่นกลาง เพราะหลังจากรอบแอดมิชชั่นกลางแล้วก็จะมีรับตรงรอบหลังแอดฯ ด้วย ส่วนใหญ่ก็จะใช่คะแนน O-NET เพราะเป็นคะแนนมาตรฐานไม่ต้องจัดสอบเองให้เสียเวลา น้อง ๆ ก็สามารถยื่นคะแนนได้เลยค่ะ


 >> บางสถาบันใช้คะแนน O-NET มากำหนดการเรียนภาษาอังกฤษด้วย 

           อันนี้เป็นเรื่องที่เจ็บสุดเพราะบางมหาวิทยาลัยสามารถใช้ O-NET ในการเทียบโอนการเรียนภาษาอังกฤษได้ด้วย เช่น มหาวิทยาลัยกำหนดว่าเรียนภาษาอังกฤษ 3 ตัว (สมมติเป็น Eng 1-3 นะคะ) โดยกำหนดไว้ว่า
           - ถ้าได้ O-NET เกิน 50 คะแนน ไม่ต้องเรียน Eng 1
           - ถ้าเกิน 65 คะแนนไม่ต้องเรียน Eng 2
           - ถ้าเกิน 80 คะแนนไม่ต้องเรียน Eng 3
           ถ้าน้อง ๆ ได้ 49 คะแนนก็ .... ต้องเรียน Eng 1-3 เลยค่ะ แต่ถ้าเกิน 80 คะแนน ก็ไม่ต้องเรียนเลยสักตัว ในใบเกรดจะขึ้นตัว P หรือผ่านไว้ (หรือบางทีใช้เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงว่าผ่านแล้วค่ะ) และก็ไม่นำมาคิดเกรดด้วยค่ะ เพราะฉะนั้น O-NET นี่สารพัดที่จะใช้จริง ๆ นะคะ



            เป็นไงบ้างคะ? ใครที่คิดว่า O-NET ไม่เห็นสำคัญ สอบ ๆ ให้มันจบไปเพราะจะได้เอาไปตัดเกรดตอนจบ ม.6 ได้ละก็ ... พลาดแล้วค่ะ ตอนนี้ผลสอบก็ออกแล้ว น้อง ๆ คนไหนที่จะแอดมิชชั่นก็คงได้เห็นคะแนนรอบแอดฯกลางแบบลาง ๆ แล้ว ตอนนี้ก็ต้องรอลุ้น GAT PAT กันแล้วล่ะค่ะ

 

           มาถึงตาของ 4 กัปตัน BRAND'S Admission Reality 5 กันแล้ว ผลสอบแต่ละคนออกมาก็มีทั้งโอเคและไม่โอเค แต่ก็คือผลของความพยายามที่อ่านหนังสืออย่างเต็มที่เพื่อที่จะสอบในครั้งนี้ โดยเฉพาะกัปตันเบลล์ที่พลาดรอบ กสพท. ไปแล้ว แต่ละคนคะแนนจะเป็นอย่างไรบ้าง ตามไปดูกันเลยค่ะ


  กัปตันคนที่ 1
 


  กัปตันคนที่ 2
 


  กัปตันคนที่ 3
 


  กัปตันคนที่ 4
 


            พี่แป้งให้น้อง ๆ เดาเองนะคะว่าคะแนนอันไหนเป็นของใคร อิอิ ><

            ตอนนี้ก็ใกล้จะแอดมิชชั่นกันแล้ว พี่แป้งก็ขอให้ผลสอบ GAT PAT ที่จะออกประมาณปลายเดือนเมษายนนี้ทำให้น้อง ๆ ยิ้มแก้มปริและมีแรงที่จะสอบรอบ 2 นะคะ ส่วนใครที่อยากได้ พื้นที่แชร์คะแนนตัวเองหรือระบายคะแนน O-NET ก็โพสได้เลยจ้าาาาาาาา


 
พี่แป้ง
พี่แป้ง - Columnist นักข่าวสายรับตรง พร้อมเสิร์ฟข่าวสอบเข้าทุกมหา'ลัย เติมพลังได้จากชาเย็นหวานน้อย

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
สวย 27 มี.ค. 57 15:54 น. 1
ตายดีกว่าเนอออะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะ 55555 คะแนนห่างกะเขาอย่างกะฟ้ากะเหว โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกก
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด

21 ความคิดเห็น

สวย 27 มี.ค. 57 15:54 น. 1
ตายดีกว่าเนอออะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะ 55555 คะแนนห่างกะเขาอย่างกะฟ้ากะเหว โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกก
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด