12 เรื่องเล็กๆน้อยๆที่นักเขียนลืมบ่อยๆ
สวัสดีจ๊ะน้องๆนักเขียน...ไม่ได้เจอกันหนึ่งอาทิตย์เต็มๆคิดถึงกัยบ้างหรือเปล่าเอ่ย...อิอิ...งานเขียนเป็นยังไงบ้างจ๊ะ...ใครถึงความจริงยังเอ่ย...น้องๆอาจลืมอะไรบางอย่างที่ต้องเขียนลงไปก็ได้นะจ๊ะ วันนี้พี่นัทเลยมาเตือนน้องๆนักเขียนด้วยบทความ12 เรื่องเล็กๆน้อยๆที่นักเขียนลืมบ่อยๆ...เดี๋ยวลืมรีบไปอ่านกันเลยดีกว่า
หากมีใครมาให้เขียนหนังสือแนวฮาวทู (how to)ว่าด้วยการเขียนหนังสือให้เป็นหนังสือขายดี ผู้เขียนคงจะเขียนไม่ได้เป็นแน่ เพราะไม่มีสูตรสำเร็จ ไม่มีกฎตายตัว ไม่มีหนทางลัดที่เพียงแต่นั่งลงเขียนแล้วจะมีผลงานขายได้ในทันทีทันใด หากเป็นอย่างนั้นได้ก็คงมีคนเป็นจำนวนมากทำกันแล้ว
การที่จะเป็นหนังสือขายดีได้นั้นต้องมีพลังหนุนเนื่องและพลังที่เข้มแข็งที่สุดก็เห็นจะเป็นการบอกปากต่อปาก... ซื้อสิ...คุณจะต้องชอบแน่ๆ ทางเดียวที่จะทำสำเร็จก็คือ เขียนหนังสือที่คนทั่วๆไปชอบอ่านกัน
คำแนะนำต่อไปนี้ได้กลั่นกรองจากสิ่งที่ได้เรียนรู้และคิดว่าสามารถถ่ายทอดให้ผู้ที่สนใจจะเป็นนักเขียนได้นำไปใช้ประโยชน์
1. อย่าเอางานเขียนของคุณไปเปรียบเทียบกับงานคนอื่น คุณอาจจะไม่สามารถเขียนได้ดีเท่านักเขียนชื่อดัง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีตลาดสำหรับงานเขียนของคุณ
2. กำหนดแนวการเขียนที่คุณปรารถนาจะประสบความสำเร็จและอ่านงานเขียนของนักเขียนท่านอื่นๆในแนวนั้นๆละเอียด แตกฉาน ไม่มีทางใดดีไปกว่าการเข้าใจเป้าหมายของตนเองและอ่านให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
3. อย่าลอกเลียน ค้นให้พบอรรถสำเนียงของตนเองที่คนอื่นไม่มีเหมือนคุณ มันต้องมีอยู่แน่ๆในตัวคุณ เพียงแต่คุณจะค้นพบได้ก็โดยการเขียนและเขียนให้มาก การจดบันทึกประจำวัน การเขียนจดหมาย หรือ อีเมลล์ถึงเพื่อนก็เป็นอรกวีธีหนึ่งเหมือนกัน
4. โครงเรื่อง โครงเรื่อง โครงเรื่อง ไม่ว่าคุณจะเขียนอะไร นิยายจนกระทั่งบทความ คุณจะต้องมีโครงเรื่อง ตอนต้น ตอนกลาง และตอนจบ อย่าลงมือเขียนจนกว่าจะรู้ว่าเรื่องที่จะเขียนประกอบด้วยอะไรบ้าง อย่างไรก็ตาม เมื่อเขียนไปแล้วอาจจะไม่เป็นไปตามเค้าโครงเรืองที่กำหนดไว้เพราะบางทีจะต้องตัดดัดแปลงแก้ไขให้สมจริงและมีชีวิตชีวา
5. ในการเขียนนิยายจะต้องกำหนดลักษณะของตัวละครให้ชัดเป็นรายๆไป จดเอาไว้และทำให้เห็นเป็นรูปเป็นร่างให้ได้ อย่าเพิ่งลองการเขียนแบบแหวกแนว มิฉะนั้นคุณจะต้องรอคอยอีกนานกว่าจะได้รับการยอมรับ
6. หาที่ทำงานที่เป็นส่วนตัวและไม่ถูกรบกวน จะติดป้ายไว้ก็ย่อมได้ ... เช่น กรุณาอย่าเคาะประตูเรียก อย่าชวนไปทานข้าวถ้ายังๆไม่ถึงเวลา อย่ารบกวน เราจะต้องมุ่งมั่นและไม่ทำลายกฎนี้เสียเอง โทรศัพท์เป็นศัตรูอันดับหนึ่งในการรบกวนเราทางที่ดีอย่ามีไว้ในห้องทำงาน และให้บอกเพื่อนๆว่า อย่าโทรมาในระหว่างที่คุณกำลังทำงานอยู่
ถ้าเราเรียนรู้วิธีการเขียน จากนักเขียนรุ่นเก่า ก็เหมือนกับว่าเราได้เรียนรู้จากประสบการณ์ของนักเขียนเหล่านั้นพี่นัทว่ามันดีมากสำหรับนักเขียนรุ่นใหม่ๆอย่างพวกเราจริงหรือเปล่าจ๊ะ สำหรับน้องๆที่กำลังคิดจะตั้งชื่อเรื่องอยู่ก็คงพอจะมีแนวทางกันบ้างแล้วนะจ๊ะ อาทิตย์หน้าอย่าลืมติดตามอีก 6 ข้อที่เหลือนะจ๊ะ สัญญาว่าจะไม่ลืมพี่นัทจะรีบเอามาลงให้นะจ๊ะ ยังไงก็ขอให้น้องๆทุกคนสู้ๆนะจ๊ะ คิดไม่ออกก็ค่อยๆคิดไป ไม่ต้องรีบ อย่าไม่เครียด อย่าไปกดดันตัวเอง แล้วทุกอย่างก็จะออกมาดีเองแหละจ้า พี่นัทจะคอยเป็นกำลังใจให้นะจ๊ะ สู้ๆ แวะเข้ามาพูดคุย ทักทาย กันได้ที่ My id พี่นัท หรือจะส่งเมลล์มาก็ได้จ๊ะ ที่ judne@dek-d.com
พี่นัทขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก
หนังสือโรงเรียนนักเขียน โดยเพลินตา แปลจาก จูดิธ ครานท์ซ |
20 ความคิดเห็น
จริง
การที่เอางานเขียนของเรา ไปเทียบกับนักเขียนที่เราชอบมันไม่เหมือนกัน
ถึงจะชอบ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราต้องเขียนแบบเขา
หาแนวทางการเขียนแบบตัวของเราเองดีที่สุด
ไม่เครียดด้วย
โดนฮะโดน... เทคนิคของพี่ที่บอกมาทำให้คิดได้...
นั่นสินะ... ต้องหาแนวของตัวเองให้เจอก่อน
ไม่งั้นเราจะเขียนให้ดีได้ยังไง...
ขอบคุณค่ะ
รับ ทราบ คร๊า
ค่ะ คิดอย่างนั้นเหมือนกัน
แต่ยิ่งเขียนยิ่งท้อ
อ่านของตัวเองแล้วมันจืดชืดยังไงไม่รู้อ่ะ
>O<
พี่นัทมีวิธีอะไรบ้างที่จะช่วยให้นิยายหายจืดชืดอ่า
T^T
ขอบคุณพี่นัทมากค่ะ คิดว่าเราเขียนให้คนอ่านมีความสุขสิคะถึงมีอุปสรรคก็จะผ่านไปได้เป็นกำลังใจให้เพื่อนนักเขียนชาวเด็กดีทุกคนคะ
ผมคิดว่า อีกเรื่องที่สำคัญก็คือ ถ้าอยากเขียนอะไรก็เขียนเลย ไม่ต้องไปยึดติดให้มันมากก็ดีเหมือนกันนะครับ เพราะจินตนาการที่ปล่อยออกมามันสำคัญกว่าหลักการในการเขียนหลายเท่า (เรื่องหลักการค่อยไปแก้ทีหลัง ฮ่าๆ)
ใครว่างๆลองแวะเข้าไปเยี่ยมนิยายของผมตามลิงค์ด้านล่างได้นะครับ
โรงเรียนมหาโจร >>>>>>>>>>> http://my.dek-d.com/writer/story/view.php?id=7045
ขอบคุณมากค่ะ
5555
ไม่ค่อยเห็นด้วยกับข้อนี้ครับ
ถ้าไม่แหวกซะตั้งแต่ตอนนี้ แล้วเมื่อไหร่จะมีคนยอมรับ ?
เห้นๆกันอยู่ในปัจจุบัน เรื่องแนวเดิมๆออกมากันเหลื่อนกลาดไปหมด อ่านๆไปก็ซ้ำๆ
แต่ข้ออื่นผมเห็นด้วยนะครับ
ขอบคุณค่ะ
กระทู้นี้เอามาจากหนังสือ โรงเรียนนักเขียนรึเปล่าเนี่ย ช่างคล้าย
แบบว่าอยากจะทำไห่ดีกว่าเขามั่งอ่ะ