เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว พี่แบงค์ได้เล่าให้น้องๆ นักเขียน Dek-D.com รู้ถึงสิ่งที่ต้องเช็กก่อนส่งต้นฉบับให้บ.ก. วันนี้พี่แบงค์จะมาพูดถึงการเขียนเรื่องย่ออีกสักหน่อย น้องๆ ลองนึกภาพดูนะครับ ใน 1 เดือนจะมีต้นฉบับนิยายถึง 20-30 เรื่อง มีทั้งเรื่องที่ดีบ้าง พอใช้บ้าง น่าสนใจบ้าง และไม่เข้าขั้นบ้าง การจะอ่านให้หมดคงเป็นไปได้ยาก (บ.ก. ตาลายซะก่อน ฮ่าๆๆ) และนั่นจึงทำให้ บ.ก.ต้องอ่านเรื่องย่อ เพื่อคัดต้นฉบับที่มีพล็อตน่าสนใจน้อยที่สุดออกไป ให้เหลือแต่ต้นฉบับที่เข้าขั้นน่าอ่าน น่าพิจารณาที่สุด ใช่แล้วครับ ปัจจัยอย่างหนึ่งที่ทำให้ บ.ก.ไม่ให้ต้นฉบับนิยายบางเรื่องผ่าน (หรือถ้าพูดในวงการนักเขียนคือ "โยนลงตะกร้า") อาจจะไม่ใช่นิยายที่เขียนยังไม่ดีพอ แต่เป็นเรื่องย่อที่เขียนไปนั้นยังไม่ชัดเจนพอที่จะทำให้ บ.ก.รู้สึกว่าเรื่องนี้น่าหยิบมาอ่าน คืออ่านแล้วรู้สึกไม่รู้เรื่องและไม่น่าสนใจ ปัญหาเรื่องย่อที่ บ.ก. พบเป็นประจำเลยก็คือ 1. ลำดับใจความสำคัญไม่ตรงกับเหตุการณ์ในต้นฉบับต้นฉบับเล่าอย่างหนึ่ง แต่เรื่องย่อกลับเล่าไปอีกทางหนึ่ง 2. สั้นห้วนเกินไป ประมาณว่าเล่าแค่ นาย A กับนาย B เป็นเพื่อนกัน ทั้งคู่ต้องผ่านอุปสรรคต่างๆ นานา จนทำให้พวกเขามีวันนี้ได้ คำถามก็คือ พวกเขาต้องเจออุปสรรคอะไรบ้าง ผ่านมาได้ยังไง และที่มีทุกวันนี้มันเป็นอย่างไร ควรจะเล่าให้ชัดเจนกว่านี้ครับ 3. ใส่รายละเอียดปลีกย่อยมากเกินไป บางคนส่งเรื่องย่อละเอียดมาดีมาก ดีชนิดที่เรียกว่า "เกินไป" ด้วย คือใส่ละเอียดตั้งแต่บทสนทนา บรรยายลักษณะตัวละคร ผมสีอะไร ตาสีอะไร แถมยังพรรณนาถึงกริยาท่าทางตามในต้นฉบับนิยายด้วย (จากเรื่องย่อกลายเป็นเรื่องสั้นเสียอย่างนั้น) 4. กั๊กตอนจบ ไม่ยอมสปอยล์ปริศนาทั้งเรื่องให้รู้ บางคนเขียนเรื่องย่อมาชัดเจนตั้งแต่ต้นจนจบ แต่บอกให้ บ.ก.ไปอ่านเอาเอง ต้องอย่าลืมว่า บ.ก.ไม่ใช่ผู้อ่านทั่วไปที่ต้องการอ่านเอาสนุกอย่างเดียว แต่เป็นผู้อ่านอีกระดับหนึ่งที่จะพิจารณาพล็อตว่าเรื่องที่น้องเขียนดีไหม น่าสนใจไหม มีจุดเชื่อมโยงที่ขัดแย้งหรือสมเหตุสมผลแค่ไหน และออกสิทธิ์ชี้ขาดว่าควรให้ผ่านหรือไม่ ดังนั้นถ้ามีอะไรจงสำแดงออกมาให้หมด อย่ากั๊กเลยครับ
สรุปก็คือ เรื่องย่อที่ดี ต้องทำหน้าที่ได้เหมือนแผนที่ที่กางแล้วบอกเส้นทางข้ามผ่านได้ชัดเจนเพื่อที่ บ.ก.จะได้ไม่หลงเวลาเวลาต้องเดินเข้าป่าครับ
ที่จริงพี่แบงค์เองก็เห็นใจน้องๆ นักเขียนหลายคนที่เขียนนิยายดีแต่เขียนเรื่องย่อไม่ดีเหมือนกันครับ ยิ่งนิยายที่มีปริศนาเยอะและความสัมพันธ์ของตัวละครเชื่อมโยงไปโน่นนี่นั่นอย่างซับซ้อน ก็ยิ่งทำให้เขียนย่อให้กระชับใจความภายใน 2-3 หน้าลำบากไม่ใช่น้อย แต่ไม่ต้องเป็นห่วงครับ พี่แบงค์มีเคล็ดลับการเขียนเรื่องย่อมาฝากน้องๆ ซึ่งพี่ต้องขอขอบคุณ KennyHass มากๆ ที่เผยเคล็ดลับดีๆ นี้ให้แก่เพื่อนๆ นักเขียน Dek-D.com ทุกคน 1. อ่านทำความเข้าใจนิยายที่เขียนจบอย่างน้อยซัก 1 รอบ (3 รอบได้ยิ่งดี)
หวังว่าแนวทางดังที่ว่านี้ จะช่วยให้เพื่อนๆสามารถเขียนเรื่องย่อส่ง บ.ก.ได้นะครับ ส่วนน้องๆ คนไหนมีกลเม็ดการเขียนเรื่องย่ออย่างไรอีกบ้าง ก็มาเล่ามาแชร์กันได้เลยนะครับ
|
แสดงความคิดเห็น
ถูกเลือกโดยทีมงาน
ยอดถูกใจสูงสุด
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการที่จะลบความเห็นนี้ใช่หรือไม่ ?
36 ความคิดเห็น
ขอบคุณครับพี่แบงค์
ขอบคุณค่ะ
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 29 เมษายน 2554 / 17:05
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 1 พฤษภาคม 2554 / 21:29
เพราะเป็นประตูด่านแรกเลยที่จะทำให้พี่บก. สนใจนิยายของเรา
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆ นะคะ
แต่ก็ยังยากสำหรับแป้งมากมาย T-T
ยังไงก็จะพยายามค่ะ สู้ๆ สู้ตาย~!!
สำแดงนี่คือ...เล่าเรื่องย่อไว้ถึงจุดไคลแมกซ์ใหญ่สุดของเรื่องใช่ไหม แล้วให้คนไปอ่านเองหรือ ?
หรือจะเล่าถึง ไคลแมกซ์เล็กๆ แต่มีความสำคัญดีล่ะ ได้ทั้งสองอย่าง !? =[]=
แต่ก็ยังมึนๆอยู่นิดๆ...
เรื่องย่อ = 1 หน้า?
คือว่า...หนูดั๊น...เขียนสั้นกว่านั้นง่ะ
ทำเหมือนกำลังสปอยล์หนัง 555
ขอบคุณนะคะ
เป็นประโยชน์มากจริง ๆ :)
ขอบคุณค่ะ จะลองไปทำดูค่ะ
แต่กว่าจะเอาไปใช้ คงต้องแต่งให้จบก่อน >< ฮา~
ความจริงน่าจะเป็นแบบนี้มากกว่า
นักจิตแพทย์คนหนึ่งต้องการจะบำบัดจิตเด็กที่เชื่อว่าตัวเองมองเห็นผี โดยที่แพทย์ไม่รู้ตัวเลยว่าแท้จริงตนน่ะตายเป็นผีมาตั้งแต่เริ่มจนจบแล้ว ซึ่งผีที่เด็กคนนั้นเห็นก็คือตัวจิตแพทย์นั่นเอง
ผมว่าเขียนแบบนี้น่าสนใจกว่าเดิมเยอะเลย