จุดประกายนิยายแฟนซี ดาวดวงที่ 5 MaSaLaN

7 Stars Sataporn Fantasy กับเทคนิคการเขียนที่อยากบอกต่อ

การสร้างแก่นเรื่องหรือการสร้างเสน่ห์ของเรื่องในแบบกัลฐิดา

สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นกัลป์ก็ขอแสดงความยินดีกับน้องๆ ที่ได้รับเลือกให้ได้เข้าอบรมกับโครงการ 7 Stars Sataporn Fantasy ก่อนนะคะ วันนี้กัลจะมาพูดถึงเรื่องการสร้างแก่นเรื่องหรือการสร้างเสน่ห์ของเรื่องในนิยายแฟนตาซีค่ะ

ในการเริ่มเขียนนิยายเรื่องหนึ่งๆ ของกัล นอกจากข้อมูลอื่นๆ ที่กระตุ้นให้เราอยากเขียนแล้ว สิ่งหนึ่งที่ต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนลงมือเขียนก็คือ

“เราต้องการส่งสาส์นอะไรให้คนอ่าน”

แม้นิยายจะเป็นสื่อที่เน้นสร้างความบันเทิง แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เราจะเอาแต่เล่นสนุกอย่างเดียวไม่ได้ นิยายแต่ละประเภทมีกลุ่มของแก่นเรื่องไม่เหมือนกัน เพราะอะไร? คำตอบคือ เพราะคนอ่านคนละกลุ่มกัน

กัลเชื่อว่า เราไม่สามารถส่งสาส์นในมือเราให้คนทั้งโลกเข้าใจได้พร้อมๆ กัน ดังนั้น เราต้องเลือกว่าจะส่งสาส์นนี้ให้ใครอ่าน ใครที่อยากอ่านเรื่องของเราและใครที่เราอยากให้เขาอ่าน

พอเรากำหนดตัวผู้รับสาส์นของเราได้แล้ว เราก็ไปศึกษาเขาว่าเขาอยากรู้อะไร เจาะลึกตั้งแต่ความต้องการทั่วไปไปจนถึงเรื่องที่เราอยากบอกเขา ดังนั้น สิ่งที่ได้กลับมาจะมีเยอะมาก ดังนั้น เราต้องเลือกออกมา เลือกอันที่เข้ากับข้อมูลที่เราเตรียมไว้

ในความเป็นจริง การเตรียมตัวก่อนเขียนกับการหาแก่นเรื่องมันเกิดแทบจะพร้อมกัน อาจสลับก่อนหลังกันแล้วแต่อะไรเกิดก่อน ดังนั้นไม่ต้องเครียดว่าได้อะไรก่อนกันระหว่างข้อมูลกับแก่น เพราะอย่างที่บอกถ้าเราเก็บข้อมูลมากพอ ไม่มีทางที่จะเกิดปัญหาว่าหาแก่นเรื่องไม่ได้ กลับกัน ส่วนใหญ่จะเจอปัญหาว่ามีสิ่งที่อยากบอกมากเกินไปมากกว่า

คำถาม : แล้วถ้าเกิดอยากบอกหลายเรื่องจะทำอย่างไร
คำตอบ : จัดกลุ่มมัน บางทีแก่นเรื่องที่เราเจออาจเยอะเกินไป แต่เมื่อเราจัดกลุ่ม จากที่เราหวังจะได้แก่นเรื่องหลักอันเดียว เราจะได้แก่นรองอันดับหนึ่ง อันดับสองตามมาด้วยเป็นของแถม

คำถาม : เสียดายกลุ่มแก่นเรื่องที่ไม่ได้ใช้ เอาใส่ให้หมดไม่ได้เหรอ
คำตอบ : ได้ค่ะ ถ้าไม่กลัวว่าเรื่องจะหนักเกินไป เพราะอย่างที่บอก นิยายคือสิ่งที่สร้างความบันเทิง หากมันหนักจนบันเทิงไม่ออก นักอ่านก็อาจเลิกอ่านนิยายของเราก่อนที่เรื่องจะเดินไปถึงแก่นเรื่องที่คุณต้องการเล่า

คำถาม : แล้วจะทำอย่างไรกับแก่นหลักที่เหลืออยู่ เสียดาย ไม่อยากทิ้ง
คำตอบ : เขียนนิยายอีกเรื่องสิคะ ถ้ายังไม่หมดก็เขียนอีกหลายๆ เรื่อง ^O^


Star ดวงที่ 5 MaSaLaN
นักเขียนผู้เรียนรู้ข้อผิดพลาดของตัวเอง

เรื่องราวรอบข้างหรือเหตุการณ์ใกล้ตัวหลาย ๆ เหตุการณ์ มักจะเป็นสิ่งที่สร้างบุคลากรที่เรียกตัวเองว่า ‘นักเขียน’ แทบทั้งสิ้น ชีวิตการเป็นนักเขียนของ MaSaLaN ก็มีเรื่องราวไม่ได้ต่างไปจากคำอธิบายข้างต้นสักเท่าไหร่ โดยในตอนแรก MaSaLaN ไม่เคยมีความคิดเลยว่า ตัวเองจะขึ้นมาเป็นนักเขียนนิยายแฟนตาซีได้ แต่ด้วยความที่เขาชอบอ่านการ์ตูน ดูภาพยนตร์ และเล่นเกมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เลยทำให้เกิดความประทับใจในเนื้อหาที่ได้ไปพบเจอมา และก่อให้เกิดผลิตผลเป็น The Guardian ในที่สุด ผู้ชายคนนี้มีเทคนิคอย่างไรในการหล่อหลอมเรื่องรอบตัวให้กลายมาเป็นผลงานชิ้นเยี่ยมอย่างที่เห็นในปัจจุบัน

ขอให้ทุกท่านเปิดตา เปิดใจ และฟังเรื่องราวของเขาไปพร้อมๆ กันกับเรา

“แรงบันดาลใจที่ทำให้อยากเป็นนักเขียน มีจุดเริ่มต้นจากการอ่านมาก่อน โดยในตอนแรก ผมเป็นคนที่เสพการ์ตูนและอ่านนิยายมาเยอะมาก อีกทั้งช่วงนั้น เจ.เค.โรว์ลิ่ง กำลังดังถึงขีดสุด ผมเลยได้อ่านผลงานของเขาด้วย ซึ่ง เจ.เค.โรว์ลิ่ง ทำให้ผมรู้ว่า ‘จินตนาการ’ ไม่มีขอบเขตมาขวางกั้นได้ ดูอย่าง แฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่เขาเขียน ถ้ามองแบบผิวเผินแล้ว ก็จะเป็นเรื่องราวของเด็กคนหนึ่งที่ไม่น่าจะมีอะไร แค่ตัวเขาเองหลุดเข้าไปในโลกของแฟนตาซีเท่านั้นเอง แต่สำหรับผมแล้ว เรื่องราวดังกล่าวมันกระตุ้นให้คนอ่านได้คิดว่า ถ้าเราเป็นอย่าง แฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่หลุดเข้าไปในโลกแฟนตาซีแบบนั้นบ้างจะเป็นอย่างไร ทำให้จินตนาการของผมเริ่มที่จะขับเคลื่อนกับเขาบ้าง และคิดว่าตัวเองก็สามารถคิดและเขียนเรื่องแบบนี้ได้ อีกทั้งด้วยความที่ผมเป็นคนช่างฝัน นั่งคิดและเขียนอะไรไปได้เรื่อยเปื่อย วันหนึ่งเลยเริ่มต้นคิดที่จะเขียนอย่างจริงจังขึ้นมา และนำเรื่องไปลงเว็บไซต์ในที่สุด ซึ่งผมบอกได้เลยว่า ณ ตอนนั้นผลงานของตัวเองแย่มาก เรียกว่าห่วยสุดๆ ไปเลยก็ได้ แต่ยังดีที่มีเพื่อนคอยให้คำแนะนำและติชมอยู่ตลอด ทำให้ตัวเองเรียนรู้ข้อผิดพลาดและนำมาพัฒนาต่อเรื่อยๆ จากทำเอามัน เอาสนุก ก็เริ่มสอดแทรกแง่คิดต่างๆ ลงไปบ้าง เพราะมีน้องๆ นักอ่านบางคนยึดเราเป็นนักเขียนในดวงใจไปแล้ว ทำให้ต้องระมัดระวังในเรื่องการเขียนมากขึ้น รวมไปถึงเด็กไทยสมัยนี้อ่านหนังสือกันน้อยมาก ตัวเองเลยอยากที่จะเป็นอีกแรงหนึ่งที่ช่วยให้เด็กไทยได้อ่านหนังสือกันมากขึ้น และพอมาเขียนนิยายจริงๆ ก็ยิ่งรู้ว่า ทุกๆ อย่างที่เขียนออกมามีคุณค่าในตัวของมันเองหมด ถ้าคุณรักและใส่ใจในงานเขียนของตัวเอง”

“เทคนิคในการเขียนนิยายแฟนตาซีสักเรื่องหนึ่ง ผมต้องมองภาพรวมของนิยายให้ได้ก่อน โดยสูตรของผมมีอยู่ 2 ส่วนที่จะต้องมอง นั่นก็คือ เรื่องของธีมหลักกับตอนจบ โดยธีมหลักจะเป็นการบอกถึงโทนของเรื่องว่า อารมณ์ของเรื่องจะเป็นอย่างไร เนื้อหาจะดำเนินไปทิศทางไหน และจะเล่าเรื่องดังกล่าวออกมาได้อย่างไร อย่างเช่น สร้างองค์กรหนึ่งขึ้นมา องค์กรนี้มีบทบาทอะไร มีใครบ้าง มีเรื่องราวใหญ่ๆ อะไรเกิดขึ้นภายในองค์กร และส่วนที่ 2 ก็เริ่มทำงานทันที นั่นคือ การมองตอนจบให้ออก ว่าเราจะจบเหตุการณ์ทั้งหมดนี้อย่างไร แล้วค่อย มาลงรายละเอียดทีหลัง โดยหลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมถึงพุ่งเป้าไปที่ตอนจบก่อน เหตุเพราะตอนจบในความคิดของผมนั้น มันคือจุดหมายอย่างหนึ่งที่เราต้องเดินทางไปให้ถึง เพราะถ้าไม่คิดตอนจบมาก่อน เราก็จะเขียนต่อไปเรื่อยๆ ไม่มีจุดหมายและหลักแหล่งที่ชัดเจน ดังนั้นสูตรการเขียนของผมจึงออกมาในลักษณะน”

“ส่วนเรื่องเขียนไปแล้ว เกิดอาการตันบ้างหรือเปล่า มีอยู่แล้วครับสำหรับนักเขียนทุกคน ดังนั้นถ้าเกิดอาการตัน ผมจะพยายามไม่ทู่ซี้เขียนออกมา แต่จะปิดจอ อ่านหนังสือ ดูโทรทัศน์ และเล่นเกมของผมไปเรื่อยๆ ซึ่งการผ่อนคลายดังกล่าวถือเป็นทางออกที่ดี เพราะช่วยให้สมองปลอดโปร่งและนึกอะไรดีๆ ออกมาได้ ทำให้ช่วงจังหวะนั้นค่อยหันกลับไปเขียนต่ออีกครั้ง”

“ซึ่งนิยายแฟนตาซีจะถือกำเนิดขึ้นได้ คุณต้องให้ความสำคัญ มีความรับผิดชอบ และรักในสิ่งที่ตัวเองทำมาก ๆ อย่างผมมีอาชีพนักเขียนเป็นหลัก ผมก็ต้องใส่ใจในงานทุกชิ้นเป็นพิเศษ เพราะมันคืองานที่เรารัก และเป็นงานที่เราต้องทำ ซึ่งถ้าทำได้ดี มีคุณภาพต่อไปเรื่อยๆ เราก็อยู่กับอาชีพนี้ได้ตราบนานเท่านาน”

MaSaLaN พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การจะเป็น ‘ตัวจริง’ บนถนนนิยายแฟนตาซีได้
คุณต้องรักในสิ่งที่ทำและมีความสุขในทุกๆ งานที่รับผิดชอบ
คุณถึงจะอยู่บนถนนเส้นนี้ได้อย่างสง่างาม

ครั้งหน้าพบกับ ตัวตนหลังตัวอักษรของ ‘D – dora’
สาวผู้เป็นเจ้าของผลงาน ‘BLADE A.X. อภินิหารศาสตราสยบโลก’

จากนักอ่านถึงนักเขียน MaSaLaN

“ตามอ่านมานานแล้วค่ะ ถึงเรื่องนี้จะใช้ภาษาบ้านๆ ไม่สละสลวยหรือใช้ศัพท์แสงอะไรมากมาย แต่ก็สามารถบรรยายให้เห็นภาพได้อย่างชัดเจน ชอบตรงที่อ่านแล้วให้ความรู้สึกเกรียนหน่อยๆ แต่ก็ไม่มากจนเกินไปจนน่ารำคาญ ถือว่าเป็นสีสันให้เรื่องนี้สนุกสนานมากขึ้นค่ะ

รู้สึกว่าการดำเนินเรื่องช่วงหลังจะกระชับกว่าเดิม ซึ่งก็ดีแล้วล่ะค่ะ เพราะการใส่รายละเอียดมากไปจนหาเนื้อเรื่องหลักไม่เจอ (เจอแต่น้ำ) จะทำให้หนังสือน่าสนใจน้อยลง

ขอบคุณไรท์เตอร์ที่เขียนเรื่องนี้และมาอัพสม่ำเสมอ เข้ามารอทุกวันเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ”

Aemily

7 Stars

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

3 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด