สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะชาวเด็กดีทุกคน วันที่ 15 เมษายนที่จะถึงนี้ นอกจากจะเป็นวันสงกรานต์แล้ว ยังเป็นวันครบรอบโศกนาฏกรรมเรือไททานิกล่มอีกด้วย วันนี้พี่น้องมีเกร็ดน่ารู้ในวงการหนังสือที่เกี่ยวข้องกับเรือไททานิกมาฝากค่ะ
เหตุการณ์เรือไททานิกจมมีผู้ชายคนหนึ่งได้ทำเรื่องอัศจรรย์เอาไว้ เขาชื่อว่า วิลเลียม ที สเตด (William T. Stead) เป็นนักหนังสือพิมพ์และนักท่องสมุทรชาวอังกฤษที่โด่งดังมากคนหนึ่ง เป็นผู้บุกเบิกสื่อสิ่งพิมพ์ยุคใหม่ของอังกฤษก็ว่าได้ และวิธีการทำงานของเขาบางครั้งก็ฮาร์ดคอร์เกินไปจนเคยทำให้เขาถูกส่งเข้าคุกมาแล้ว
ในปี 1886 เขาเขียนบทความลง Pall Mall Gazette ชื่อว่า "How the Atlantic Mail Steamer Went Down" มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรือเดินสมุทรที่จมลงกลางมหาสมุทรแอตแลนติกระหว่างทางเพราะทัศนวิสัยไม่ดี เรือลำนั้นมีผู้โดยสารอยู่ด้วย 916 คน แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รอดชีวิตเพราะเรือบดไม่พอ ที่เหลือลอยคอตายในความหนาวเหน็บ
สเตดท้าทายให้อังกฤษออกกฎหมายให้เรือเดินสมุทรมีเรือบดเพียงพอต่อจำนวนผู้โดยสารเพื่อไม่เกิดโศกนาฏกรรมแบบเดียวกับในบทความ แต่ไม่มีใครฟังเสียงของเขา
ต่อมาปี 1892 เขาพิมพ์นิยายชื่อ "From the Old World to the New" ซึ่งตั้งชื่อตามความเชื่อของเขา สเตดเชื่อเรื่องชีวิตหลังความตาย และพลังวิญญาณต่างๆ เขาเชื่อว่าการตายก็เหมือนการล่องเรือจากโลกเก่าไปสู่โลกใหม่ นิยายเรื่องนี้พูดถึงเรือ Majestic เรือเดินสมุทรที่เก่าแก่ที่สุดของ White Star
ในปี 1886 เขาเขียนบทความลง Pall Mall Gazette ชื่อว่า "How the Atlantic Mail Steamer Went Down" มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรือเดินสมุทรที่จมลงกลางมหาสมุทรแอตแลนติกระหว่างทางเพราะทัศนวิสัยไม่ดี เรือลำนั้นมีผู้โดยสารอยู่ด้วย 916 คน แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รอดชีวิตเพราะเรือบดไม่พอ ที่เหลือลอยคอตายในความหนาวเหน็บ
สเตดท้าทายให้อังกฤษออกกฎหมายให้เรือเดินสมุทรมีเรือบดเพียงพอต่อจำนวนผู้โดยสารเพื่อไม่เกิดโศกนาฏกรรมแบบเดียวกับในบทความ แต่ไม่มีใครฟังเสียงของเขา
ต่อมาปี 1892 เขาพิมพ์นิยายชื่อ "From the Old World to the New" ซึ่งตั้งชื่อตามความเชื่อของเขา สเตดเชื่อเรื่องชีวิตหลังความตาย และพลังวิญญาณต่างๆ เขาเชื่อว่าการตายก็เหมือนการล่องเรือจากโลกเก่าไปสู่โลกใหม่ นิยายเรื่องนี้พูดถึงเรือ Majestic เรือเดินสมุทรที่เก่าแก่ที่สุดของ White Star
ระหว่างการเดินเรือ ผู้โดยสารคนหนึ่งที่มีพลังพิเศษสัมผัสได้ว่ามีเรืออีกลำชนภูเขาน้ำแข็ง พวกผู้โดยสารจึงพากันไปขอร้องกัปตันให้ช่วยชะลอเรือเมื่อเข้าใกล้ภูเขาน้ำแข็งและมองหาผู้รอดชีวิต กัปตันเรือในเรื่องนี้ก็คือกัปตันเอ็ดเวิร์ด เจ สมิธ (Edward J. Smith) คนเดียวกับที่คุมเรือไททานิกนั่นเอง
ในปี 1912 ที่ไททานิกสร้างเสร็จและเตรียมให้บริการ สเตดเองก็ซื้อตั๋วเป็นผู้โดยสารเรือไททานิกคนหนึ่ง แต่ก่อนหน้านั้นสาธุคุณที่รู้จักกับเขา ได้ส่งใบปลิวที่เป็นเสมือนจดหมายเตือนมาหาสเตด ใช้ชื่อว่า "The Fore-Ordained Wreck of the Titanic" ซึ่งพยากรณ์ว่าไททานิกจะต้องจมลงสู่ก้นสมุทร แต่สเตดได้อ่านแล้วก็เพียงเขียนจดหมายตอบกลับไปว่า หวังว่ามันจะไม่เกิดขึ้น
กระนั้น ก่อนที่เขาจะออกเดินทาง คนใกล้ชิดก็บอกว่าเขามีท่าทางสำรวมและสงบผิดกับปกติที่เขาจะรู้สึกตื่นเต้นก่อนขึ้นเรือเสมอ และเขายังแนะนำภรรยาของเขาเรื่องการดูแลกิจการทั้งหลายระหว่างที่เขาไม่อยู่
เมื่อไททานิกออกเดินทาง เรือลำนี้ที่ควบคุมโดยกัปตันสมิธ ก็ชนภูเขาน้ำแข็งกลางมหาสมุทรแอตแลนติก เรือบดมีจำนวนไม่ถึงครึ่งของผู้โดยสาร ส่งผลให้หลายคนต้องจบชีวิตด้วยการนอนลอยคอแข็งตายอยู่กลางท้องน้ำ ตรงกับบทความและนิยายที่สเตดเคยเขียนทุกอย่าง
ส่วนสเตด มีผู้รอดชีวิตบอกว่าเห็นเขาอยู่บนเรือหลังเกิดเหตุ คอยช่วยเหลือพวกผู้หญิงและเด็กให้ลงเรือบด ก่อนที่ตัวเขาจะไปนั่งอ่านหนังสือเงียบๆ ในห้องสูบบุหรี่ และหายสาบสูญไป
หลังจากที่เรือจมและมีการนับจำนวนผู้รอดชีวิต ไม่มีใครรู้ว่าสเตดเป็นตายร้ายดียังไง 15 วันหลังเกิดเหตุมีคนทรงแจ้งว่าวิญญาณสเตดกลับมา พร้อมกับเล่าว่าสเตดเสียชีวิตจากการถูกฟาดด้วยของแข็ง คาดว่าน่าจะเป็นปล่องระบายควัน (เสาแท่งใหญ่ๆ 4 แท่งบนเรือที่หักลงมาตอนเรือขาด) ศพของเขาจึงจมลงสู่ก้นทะเล
ถึงแม้สเตดจะเชื่อว่าชีวิตหลังความตายของคนเราก็เหมือนการท่องทะเลไปสู่โลกใหม่ แต่ช่วงแรกที่ทำงานข่าว เขาไม่ได้เชื่อว่าตัวเองจะจมน้ำตาย แต่คิดว่าตัวเองน่าจะโดนกลุ่มคนที่เกลียดการทำข่าวของเขาฆ่าเอามากกว่า
ในปี 1912 ที่ไททานิกสร้างเสร็จและเตรียมให้บริการ สเตดเองก็ซื้อตั๋วเป็นผู้โดยสารเรือไททานิกคนหนึ่ง แต่ก่อนหน้านั้นสาธุคุณที่รู้จักกับเขา ได้ส่งใบปลิวที่เป็นเสมือนจดหมายเตือนมาหาสเตด ใช้ชื่อว่า "The Fore-Ordained Wreck of the Titanic" ซึ่งพยากรณ์ว่าไททานิกจะต้องจมลงสู่ก้นสมุทร แต่สเตดได้อ่านแล้วก็เพียงเขียนจดหมายตอบกลับไปว่า หวังว่ามันจะไม่เกิดขึ้น
กระนั้น ก่อนที่เขาจะออกเดินทาง คนใกล้ชิดก็บอกว่าเขามีท่าทางสำรวมและสงบผิดกับปกติที่เขาจะรู้สึกตื่นเต้นก่อนขึ้นเรือเสมอ และเขายังแนะนำภรรยาของเขาเรื่องการดูแลกิจการทั้งหลายระหว่างที่เขาไม่อยู่
เมื่อไททานิกออกเดินทาง เรือลำนี้ที่ควบคุมโดยกัปตันสมิธ ก็ชนภูเขาน้ำแข็งกลางมหาสมุทรแอตแลนติก เรือบดมีจำนวนไม่ถึงครึ่งของผู้โดยสาร ส่งผลให้หลายคนต้องจบชีวิตด้วยการนอนลอยคอแข็งตายอยู่กลางท้องน้ำ ตรงกับบทความและนิยายที่สเตดเคยเขียนทุกอย่าง
ส่วนสเตด มีผู้รอดชีวิตบอกว่าเห็นเขาอยู่บนเรือหลังเกิดเหตุ คอยช่วยเหลือพวกผู้หญิงและเด็กให้ลงเรือบด ก่อนที่ตัวเขาจะไปนั่งอ่านหนังสือเงียบๆ ในห้องสูบบุหรี่ และหายสาบสูญไป
หลังจากที่เรือจมและมีการนับจำนวนผู้รอดชีวิต ไม่มีใครรู้ว่าสเตดเป็นตายร้ายดียังไง 15 วันหลังเกิดเหตุมีคนทรงแจ้งว่าวิญญาณสเตดกลับมา พร้อมกับเล่าว่าสเตดเสียชีวิตจากการถูกฟาดด้วยของแข็ง คาดว่าน่าจะเป็นปล่องระบายควัน (เสาแท่งใหญ่ๆ 4 แท่งบนเรือที่หักลงมาตอนเรือขาด) ศพของเขาจึงจมลงสู่ก้นทะเล
ถึงแม้สเตดจะเชื่อว่าชีวิตหลังความตายของคนเราก็เหมือนการท่องทะเลไปสู่โลกใหม่ แต่ช่วงแรกที่ทำงานข่าว เขาไม่ได้เชื่อว่าตัวเองจะจมน้ำตาย แต่คิดว่าตัวเองน่าจะโดนกลุ่มคนที่เกลียดการทำข่าวของเขาฆ่าเอามากกว่า
ไม่ว่าเราจะรู้ล่วงหน้าหรือไม่ แต่ชีวิตก็ไม่มีโอกาสครั้งที่สอง
ขอให้ทุกคนใช้ชีวิตอย่างมีสติในช่วงสงกรานต์นี้นะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก
http://fsmat.at/~bkabelka/english/titanic/part2/chapter2.htm
http://www.telegraph.co.uk/history/titanic-anniversary/9195793/WT-Stead-a-forgotten-victim-of-Titanic.html
http://whitecrowbooks.com/michaeltymn/entry/remembering_titanic_victim_william_t._stead_100_years_later
ขอบคุณภาพประกอบจาก
www.titanicstory.com
www.britannica.com
en.wikipedia.org
http://fsmat.at/~bkabelka/english/titanic/part2/chapter2.htm
http://www.telegraph.co.uk/history/titanic-anniversary/9195793/WT-Stead-a-forgotten-victim-of-Titanic.html
http://whitecrowbooks.com/michaeltymn/entry/remembering_titanic_victim_william_t._stead_100_years_later
ขอบคุณภาพประกอบจาก
www.titanicstory.com
www.britannica.com
en.wikipedia.org
8 ความคิดเห็น
อ่านแล้วจะร้องไห้
น่าสงสาร
ว้าว พึ่งรู้นะเนี่ย
เพิ่งรู้นะเนี่ย
เศร้ามากเลย น้ำตาจะไหล
ทำไมเราอ่านแล้วมันเศร้าจังฟะ
อยากไปยืนอยู่ที่หัวเรือ แล้วทำท่ากางแขน 5555