"The Last Supper" อาหารมื้อสุดท้ายบอกอะไรคุณได้บ้าง! ผลงานสืบสวนไอเดียดีโดย Staying



หากมีใครสักคนมาปรึกษาเราว่า
"
อยากเป็นนักเขียนต้องทำไง" 
ตอบไปแค่ว่า
“ต้องมีใจรักและจินตนาการกับหมั่นฝึกฝนนะ” ไม่ได้แล้วล่ะ

เพราะคำตอบแบบนั้นมันคงไม่พอ
by Staying

 

สวัสดีค่ะ ชาวไรเตอร์ทุกคน วันนี้กลับมาเจอกับพี่หญิงกันอีกครั้งใน พบปะพูดคุย กับบทสัมภาษณ์นักเขียนสุดฮอตเจ้าของผลงาน "The Last Supper : ทฤษฎีลับ อาหารมื้อสุดท้าย"  

Staying เป็นนักเขียนที่เวียนวนอยู่ในวงการวรรณกรรมไทยมานาน (น่าจะถึง 10 ปี หรือไม่ก็เกิน) ผลงานของเขาส่วนใหญ่แล้วจะเป็นแนวสยองขวัญและแฟนตาซี มาครั้งนี้แหละ ที่เจ้าตัวหันมาจับปากกา เขียนแนวสืบสวนสอบสวนดูบ้าง และพี่หญิงคิดว่าเขาทำได้ดีนะคะ พี่หญิงอ่านตั้งแต่นิยายเรื่องนี้ ลงในเด็กดี พบว่ามีจุดเด่นที่ชื่อเรื่องค่ะ แค่อ่านก็สะดุดหู อยากอ่านต่อทันที ทำไมต้องเป็น "อาหารมื้อสุดท้าย" ด้วย เมื่ออ่านต่อ ก็ได้พบว่า... นิยายเรื่องนี้ มีการดำเนินเรื่องคล้ายซีรี่ส์สืบสวนของฝรั่ง โดยมีกิมมิคอยู่ที่ "อาหารมื้อสุดท้าย" ที่ตัวละครกินเข้าไป จะช่วยให้ค้นพบคำตอบได้ว่า เพราะอะไร เขาถึงเสียชีวิต... 

อ่านแล้วนึกถึงซีรี่ส์เรื่อง Bones ค่ะ ที่จะค้นหาคำตอบของคดีฆาตกรรมจากกระดูกของผู้ตาย ไอเดียนี้คล้ายๆ กัน และนักเขียนก็ทำได้ดีมาก จนวันนี้พี่หญิงอดใจไม่ไหว ต้องชวนเขามาพูดคุยบอกเล่าวิธีการเขียน และเคล็ดลับการเขียน รวมไปถึงแรงบันดาลใจส่วนตัวด้วยค่ะ 

มาดูกันว่า คำตอบของเขาจะเป็นอย่างไร และจะน่าสนใจเหมือนนิยายของเจ้าตัวไหม 


 

ทักทายกันก่อนจ้า ตอนนี้เป็นไงบ้าง กลับมาคราวนี้ มีอะไรใหม่ๆ มาฝากแฟนๆ เยอะเลยนะ ตั้งแต่นามปากกาใหม่ ยันแนวการเขียนนิยายเลย อัพเดตแฟนคลับหน่อยยย
 
Staying: สวัสดีครับ ผม Staying (นามปากกาในเว็บเด็กดี) ครับ กำลังจะมีผลงานตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ตะวันส่องโดยใช้นามปากกาว่า Complicated ซึ่งเป็นนามปากกาเดิมและใช้กับสำนักพิมพ์นี้มานานเป็นสิบปีได้แล้ว ตอนนี้ก็ทำอะไรเยอะแยะ ทั้งนอนกลิ้งเกลือกแล้วก็จับโปเกม่อน (เดี๋ยวๆ) ทำงานประจำอยู่ครับ แล้วก็ลองจับงานเขียนหลากหลายแนวดู เช่น เขียนสตอรี่เพื่อเอาไปทำเป็นการ์ตูน แล้วก็แต่งเรื่องสั้น ช่วงนี้ก็สนใจการทำเว็บไซต์กับเขียนโค้ด แต่ก็วางแผนจะกลับมาลงเรื่องยาวในเด็กดีเร็วๆ นี้

ผลงานล่าสุด…..? เรื่องที่แล้ว เป็นเรื่องแนวไหนอย่างไรน้า เล่าๆ
 
Staying:  ผลงานล่าสุดที่ผ่านมาคือเรื่อง Defuse the fear ปลดชนวนมรณะ ระเบิดวิญญาณครับ เป็นเรื่องแนวระทึกขวัญผสมความเป็นแฟนตาซี ว่าด้วยพระเอกมีอาชีพเป็นนักกู้ระเบิดวิญญาณ ซึ่งระเบิดวิญญาณเนี่ยเกิดจากอารมณ์ของวิญญาณที่หลงเหลืออยู่บนโลกก่อนตาย ถ้ามันระเบิดขึ้นมา ก็จะทำให้คนจำนวนมากต้องตายตามไปด้วย พระเอกของเราจึงต้องคอยตามเก็บกู้ระเบิดพวกนั้นก่อนที่มันจะทำงาน เป็นผลงานที่อ่านแล้วมีกลิ่นความเป็นการ์ตูนมากพอสมควรเพราะตอนแรกคิดจะวาดเป็นสตอรี่บอร์ดการ์ตูน ใครที่ชอบอ่านแนวดาร์คแฟนตาซีที่ลุ้นระทึกแต่ก็มีอารมณ์ขันแทรกตลอดเรื่อง ก็ขอแนะนำให้ลองอ่านกันครับ

 The Last Supper : ทฤษฎีลับ อาหารมื้อสุดท้าย มีที่มาที่ไปอย่างไร  
 
Staying เรื่องนี้ต้องใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองกันเหนื่อยเลยครับ 55+ นักอ่านส่วนใหญ่รู้จักเราจากแนวระทึกขวัญ พอเราเปิดเรื่องในเด็กดีปุ๊ป ก็มีแต่คนถามว่า เรื่องนี้น่ากลัวมั้ย? มีผีมั้ย? แต่เรื่องนี้เป็นนิยายสืบสวน ซึ่งคดีจะเน้นเป็นเรื่องใกล้ตัวเพื่อให้ผู้อ่านเข้าถึงง่าย ก็กังวลเหมือนกันว่าอยู่ดีๆ เปลี่ยนแนวไปแบบนี้คนอ่านจะคิดยังไงน้า? แต่เพราะผลงานเก่าๆ ของเราแม้จะระทึกขวัญแต่ก็มีกลิ่นอายสืบสวนแทรกอยู่ทุกเรื่องคนก็เลยพอปรับตัวได้ เฮ้อ... รอดตัวไป (เอามือปาดเหงื่อ) แล้วคนอ่านใหม่ๆ ที่เขาถูกใจพล็อตของเราก็เข้ามาติดตามกันมากพอสมควร จากที่เคยเป็นเรื่องที่กระแสเงียบๆ พอแต่งใกล้จบก็กลายเป็นนิยายที่มีคนอ่านเยอะที่สุดของผม แล้วก็ได้เป็นอันดับหนึ่งในหมวดสืบสวนของเด็กดีอยู่ช่วงหนึ่ง ตอนนั้นนี่ซาบซึ้งน้ำตาแทบไหล นี่ก็ยังปาดน้ำตาอยู่ 555+ ก็ขอกราบขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่คอยคอมเมนท์ถามไถ่ถึงฉบับรวมเล่มกันอยู่นะครับผม


สนใจอ่านนิยายเรื่อง The Last Supper : ทฤษฎีลับ อาหารมื้อสุดท้าย  
คลิก!!

 

ฉายาตัวเอกของเรื่อง ดาวินชี่ เนี่ย ได้ยินแล้วนึกถึงเลโอนาร์โด ดาวินชี่ เลย ไม่รู้ว่าได้ไอเดียมาจากอะไรเอ่ย ใช่เลโอนาร์โด ดาวินชี่อย่างที่เราคิดไหม 
 
Stayingก็เลโอนาร์โด ดาวินชี่ นั่นแหละครับ เพราะเราใช้ชื่อเรื่องว่า The Last Supper ซึ่งชื่อไปพ้องกับภาพวาดอันลือชื่อของดาวินชี่ (ทั้งที่ในเรื่องไม่มีอะไรเกี่ยวกับภาพนั้นเลย ฮา) เราก็เลยอยากจะใส่อะไรที่เป็นกิมมิคลงไปสักหน่อย แล้วตอนนั้นผมกำลังมีปัญหาอย่างหนักกับการตั้งชื่อตัวละคร อันที่จริงต้องบอกว่าเป็นปัญหาโลกแตกสำหรับนิยายผมทุกเรื่อง เรื่องที่ผ่านมาโดยเฉพาะที่เขียนตั้งแต่ยังเด็กๆ นี่ก็มีชื่อสิ้นคิดไปตั้งมากมาย (ฮา) มาเรื่องนี้ก็เลยลองเอาชื่อดาวินชี่มาพยายามแปลงเป็นชื่อไทยดู เลยได้เป็น ดาวินทร์ ชีวาสว่าง ซึ่งเราโอเคกับมัน เพราะชื่อดาวินทร์ก็ไม่ใช่ชื่อเกร่อ และถ้าเวลาเราพูดชื่อนามสกุลแล้วเว้นวรรคผิดไปนิดหนึ่งก็จะกลายเป็น ดาวินทร์ชี วาสว่าง เป็นที่มาของฉายาดาวินชี่ 
 
 
เห็นว่าเรื่องนี้เป็นการเขียนนิยายแนวสืบสวนเป็นเล่มแรกของเรา คิดว่ามีความแตกต่าง ความยาก-ง่าย เมื่อเทียบกับเล่มก่อนๆ เป็นอย่างไรบ้าง 

 
Stayingยากมาก 555+ (ในเลข 5 มีน้ำตาซ่อนอยู่พันลิตร) คือเราจะต้องมาเริ่มนั่งคิดก่อนว่า เอ พฤติกรรมอย่างนี้ที่เราทำขณะกินอาหารเนี่ย มันตีความได้ยังไงบ้างหนอ แล้วเราจะเฉลยแบบไหนที่คนอ่านคาดไม่ถึง แต่ต้องได้ความรู้สึกว่า “เออ แฮะ ทำไมนึกไม่ถึงหว่า” เพราะแต่งหักมุมเนี่ยใครๆ ก็ทำได้ แต่หักมุมที่เจ๋งเนี่ยสำหรับผมมันจะต้องมีเบาะแสบางอย่างที่เรามองข้ามไปมากๆ ถูกแทรกไว้เนียนๆ พอมาเฉลยปุ๊ปเราจะได้รู้สึกว่าเฮ้ย เฉลยแบบนี้มันเจ๋งจริง พอเราคิดคดีได้แล้วปัญหามันก็เกิด เพราะขณะเขียนการสันนิษฐานของพระเอกเราก็ฉุกคิดได้ว่า เฮ้ย มันยังมีความเป็นไปได้ที่คนนี้จะทำแบบนี้ขณะกินอาหารเพราะเหตุผลนี้อีกนี่หว่า ตายละวา ก็ต้องมานั่งคิดสถานการณ์เพื่อตีตกความเป็นไปได้นั้นขึ้นมาให้กลมกลืนกับเรื่องที่เราแต่งไปแล้วอีก แล้วเราจะประมาทคนอ่านไม่ได้เลย ทุกคนฉลาดกันมากๆ เวลาเราเขียนอะไรที่มีช่องโหว่ไปนิดหน่อย พวกเขาจะรับรู้ได้ทันที ซึ่งการมีช่องโหว่ในนิยายสืบสวนเนี่ยมันเป็นอะไรที่ร้ายแรงสุดๆ และเพราะรายละเอียดมันเยอะมาก เวลาแต่งก็เหนื่อย วันไหนที่เราไม่มีอารมณ์เราก็จะไม่แต่งเลย ไปเล่นเกมแทน จะตียิม จับม่อน หรือเดินฟักไข่ก็ว่ากันไป เพราะฝืนแต่งไปมันจะออกมาสนุกยาก ขณะที่เรื่องอื่นๆ ที่ผ่านมามันไม่ต้องใส่ใจรายละเอียดมากขนาดนี้ เพราะฉากสยองขวัญก็แต่งได้เพลินๆ แต่พอมาสืบสวนล้วนๆ แบบนี้เราต้องเล่าเรื่องรวดเดียวเลย ขืนมัวแต่ยืดเยื้อความสนุกก็จะหายหมด


การวางพล็อต สร้างพล็อต ดูท่าท่าทางน่าจะยากพอสมควรเลยนะ ใช้เวลานานไหม และต้องทำการบ้านอย่างไรบ้าง 
Staying:  ยากมาก (โปรดย้อนกลับไปอ่านข้อก่อน หน้านี้อีกรอบ 555+) ใช้เวลานานมากเช่นกัน การบ้านนี่กต้องทำแล้วทำอีก ยกตัวอย่างคดีหนึ่งคือเราจะเล่นกับรายละเอียดในใบเสร็จของร้านอาหาร ซึ่งเราอยากได้ใบเสร็จหลายๆ ร้านมาลองเทียบกัน จะให้เราไปซื้อของทุกร้านมากินก็จนกันพอดี สุดท้ายก็เลยใช้วิธีกราบอ้อนวอนใน Facebook ของตัวเอง ขอให้ทุกคนถ้าไปกินอาหารร้านไหนช่วยถ่ายรูปใบเสร็จส่งมาให้ที ก็มีคนส่งมาให้กันเยอะมาก (วันนั้นรู้สึกซึ้งใจขึ้นมาเลย ฮา) เราก็ต้องมานั่งพิมพ์รายละเอียดเพื่อจำลองใบเสร็จในคดีเลียนแบบตามใบเสร็จพวกนั้นอีก แล้วในใบเสร็จแต่ละใบจะต้องมีเบาะแสที่บ่งบอกสมมติฐานมากมายแต่ก็มีจุดขัดแย้งกันเองอีกมากมาย แล้วใบเสร็จมีใบเดียวซะที่ไหน มีเป็นสิบใบ!? พูดตามตรงคือพอแต่งคดีนั้นจบนี่ผมนั่งฟังเพลงเล่นเกมดูแต่อะไรไร้สาระไปเป็นสัปดาห์เลย รู้สึกว่าไม่อยากใช้สมองมากไปกว่านั้นอีกแล้ว ความจริงแล้วผมเป็นคนไร้สาระมากเลยนะ ไม่นึกเลยว่าจะต้องมาแต่งสืบสวนแบบนี้ได้จริงๆ

เขียนนิยายมาแล้วหลายเล่ม คิดว่าเอกลักษณ์การเขียนของเราคืออะไร ที่ทำนักอ่านติดตามเรา  
 
Staying:  เอกลักษณ์เหรอครับ? น่าจะเป็นพวกชอบแต่งอะไรซับซ้อน... มั้ง 55+ แล้วอีกอย่างที่น่าจะโดดเด่นก็คงเป็นพล็อตเรื่อง เพราะพอปล่อยเรื่องใหม่ออกมาทีไรก็จะชอบมีคนแสดงความคิดเห็นว่าชอบเพราะพล็อตแปลกและน่าสนใจ บ้างก็ถามว่าพล็อตเรื่องแบบนี้นี่ใช้อะไรคิด (ชมหรือด่าเนี่ย?) เพราะเวลาเราอ่านหนังสือเล่มไหนเราเป็นคนชอบคิดตาม เราสนุกที่จะได้คิดตาม เราก็เลยอยากให้คนอื่นคิดตามเรื่องที่เราเขียนบ้าง หวังว่าจะสนุกแบบที่เราสนุก

คิดว่าอะไรคือสิ่งสำคัญที่นักเขียนต้องมี
 
Staying:  นักเขียนต้องมีหลายอย่างมากในความคิดผมนะ แต่ถ้าเป็นช่วงนี้ก็คงจะให้ความสำคัญกับเรื่องการเปิดใจรับอะไรเข้ามาง่ายขึ้น เขียนให้ได้หลากหลาย ผมเคยคุยกับเพื่อนสนิทคนหนึ่งว่าโลกยุคนี้คนที่ทำอะไรได้ทุกอย่างแต่ไม่เก่งสักอย่างเหมือนเป็ด (JACK OF ALL TRADES) เนี่ยไม่ใช่เป็นเรื่องไม่ดีแล้ว ซึ่งถ้าเป็นสมัยก่อนนั้นเราจะต้องการคนที่เก่งพิเศษด้านใดด้านหนึ่ง (Specialist) แต่โลกยุคนี้มันหมุนไปเร็วมาก ยิ่งปรับตัวเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งรอด ยิ่งรู้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้เราโดดเด่น วงการนักเขียนเองในอนาคตก็คงจะเป็นเช่นนั้น ตอนนี้เรามักจะเรียกนักเขียนคนโน้นคนนี้ว่า นี่ไง นักเขียน “แนวรัก” นักเขียน “แนวแฟนตาซี” ใช่มั้ยครับ? แต่การมีผลงานแนวเดิมๆ เรื่อยๆ ก็ถือว่าเสี่ยงในยุคที่ตลาดผันแปรไปมารวดเร็วมากยุคนี้ ถ้าวันใดนิยายแนวที่เราถนัดเกิดไม่ได้รับความนิยมขึ้นมาก็จบ บางคนอาจเถียงว่าเราไม่ได้เขียนนิยายเพื่อให้ขายได้ เราเขียนเพราะสนุก เพราะรักมัน ใช่ มันถูกต้อง แต่หากคุณคาดหวังจะได้เป็นมืออาชีพที่มีผลงานตีพิมพ์ เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ควรเปิดรับ ผมอยากเขียนให้ได้ทุกแนว จะเก่งหรือไม่เก่งว่ากันอีกเรื่อง เพื่อที่นิยายสยองขวัญของผมจะได้ไม่น่ากลัวอย่างเดียว แต่มีความดราม่าหรือฉากรักซึ้งๆ ได้ด้วย และนิยายแฟนตาซีของผมอาจจะมีความน่าสะพรึงกลัวเล็กๆ น้อยๆ เป็นจุดเด่น หรือถ้าบางคนถนัดแต่งแนวไซไฟแต่รู้สึกว่าคนชอบอ่านน้อย เราอาจผสมพล็อตรักโรแมนติกแบบไซไฟให้คนสนใจมากขึ้น นิยายเราจะได้มีอารมณ์ที่หลากหลายมากขึ้นด้วยซ้ำ

ผมมองว่าการเขียนอะไรหลากหลายมันไม่ทำให้เราในฐานะนักเขียนต้องสูญเสียตัวตนไปหรอก เพราะตอนนี้แม้ผมจะลองเขียนนิยายแนวอื่นเรื่อยๆ แต่ก็เขียนในแบบที่ยังเป็นผมอยู่นะ เพราะคำว่าตัวตนเนี่ยมันอยู่กับเราตลอดเวลา เราไม่เสียมันไปง่ายๆ หรอก นอกจากนี้ ถ้าเราลองสังเกตสื่อต่างๆ ทั้งภาพยนตร์ นิยาย เพลง มันก็มีแนวผสมผสานออกมาเยอะมากแล้ว เพราะการผสมผสานมันทำให้วงการมีอะไรใหม่ๆ และไปต่อได้ และถ้าพูดในมุมมองนักอ่าน ผมก็อยากอ่านอะไรใหม่ๆ อยู่เสมอ ตอนนี้โลกมันน่าจะไปไกลกว่าการที่หากมีใครสักคนมาปรึกษาเราว่า “ผมอยากเป็นนักเขียนต้องทำไง?” แล้วเราจะตอบไปแค่ว่า “ต้องมีใจรักและจินตนาการกับหมั่นฝึกฝนนะ” ได้แล้วล่ะ เพราะคำตอบแบบนั้นมันคงไม่พอแล้ว แล้วทุกคนก็น่าจะได้ยินกันจนเบื่อด้วย 55+
 
ถ้าเปรียบนิยายเรื่องนี้เป็นอาหารหรือขนม จะเป็นเมนูอะไร

 
Staying:  “กะเพราไก่ไม่เผ็ด ใบกะเพราน้อยๆ โปะไข่ดาว แต่ไข่แดงเอาไม่สุกมาก” ฟังดูเรื่องมากมั้ย 555+ ที่เป็นกะเพราก็เพราะเป็นเมนูที่ทุกคนน่าจะเคยกิน เหมือนนิยายเรื่องนี้ที่พูดถึงพฤติกรรมใกล้ตัวที่ทุกคนน่าจะเคยทำหรือคุ้นเคยกันดีจนพอเล่าไปก็จะร้องอ๋อ ดูเป็นเมนูง่ายๆ แต่ก็เป็นเมนูอาหารที่ใส่ใจในรายละเอียดจุกจิกว่าจะใส่ผักในปริมาณแค่ไหน ควรใส่อะไรมากหรือน้อย อะไรควรสุกหรือไม่สุก เหมือนที่นิยายสืบสวนจะต้องใส่ใจทุกรายละเอียดให้ถูกต้อง ทำออกมาไม่ผิด ไม่งั้นลูกค้าที่สั่งอาหารจานนี้คงไม่เอาแล้วขอคืนแน่ๆ
 
เล่าเรื่องย่อคร่าวๆ หน่อยสิ ขอสักสามบรรทัดพอ

 
Staying:  นี่คือเรื่องราวของดาวินทร์ นักเรียนมัธยมปลายธรรมดาๆ กับการสืบสวนคดีปริศนาจากอาหารมื้อสุดท้ายที่ผู้ตายกินก่อนที่จะตาย... เพราะอาหารทุกมื้อมักจะบ่งบอกอะไรบางอย่างเกี่ยวกับตัวตนคนกิน ที่คนอื่นหรือแม้แต่ตัวผู้กินอาหารเองก็อาจคาดไม่ถึง โดยเฉพาะอาหารมื้อสุดท้ายที่คนผู้นั้นกินก่อนตาย
 

ฝากถึงแฟนคลับที่ (น่าจะ) รอคอยผลงานของเราหน่อย
 
Stayingต้องขอโทษที่ปล่อยให้รอคอยกันนานนะครับ แล้วก็ต้องขอบคุณมากจริงๆ ที่ยังรอคอยกันอยู่ ไม่รู้จะกราบขอบคุณอย่างไรจริงๆ ทุกคนสำคัญกับผมมาก ขอฝากผลงานรวมเล่มนี้ด้วยนะครับ ผมตั้งใจเขียนมากจริงๆ และสำหรับคนที่ยังไม่เคยอ่านมาก่อน ก็สามารถทดลองอ่านในเว็บเด็กดีก่อนได้นะครับ หวังว่าทุกคนจะสนุกกับมันนะครับ

คิดพล็อตเรื่องใหม่ไว้บ้างแล้วหรือยัง แง้มๆ ให้ฟังได้ไหม 
 
Staying:  อย่างที่บอกไปตอนต้นว่าผมอยากลองเขียนนิยายหลายๆ แนวดู พล็อตใหม่เลยเป็นแนวรักแฟนตาซีครับ มีตลกขบขันแทรก แต่ก็ดราม่าพอสมควรเช่นกัน แง้มมากกว่านี้ไม่ได้จริงๆ แล้วก็มีอีกเรื่อง เป็นแนวแฟนตาซีที่มีกลิ่นอายระทึกขวัญแทรกอยู่ จะพูดถึงคนกลุ่มหนึ่งที่ทำงานบางอย่างอยู่เบื้องหลังการเวียนว่ายตายเกิดของคน เป็นอาชีพที่คนทั่วไปไม่เคยรู้มาก่อน ประมาณนี้ครับ

อยากบอกอะไรกับนักเขียนรุ่นใหม่ๆ ของเว็บเด็กดีบ้าง  
 
Staying:  ผมรู้สึกว่านักเขียนยุคนี้ค่อนข้างกล้าที่จะแสดงออกจินตนาการมากขึ้น คงเพราะชินกับยุคที่มีช่องทางให้แสดงออกความคิดสร้างสรรค์และความเป็นตัวเองออกมามากมาย และก็กล้าที่จะลองผิดลองถูกด้วย ซึ่งมันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่ผมคิดว่าข้อดีน่าจะมากกว่า เพราะผมชอบอ่านอะไรที่กล้าแหวกกล้านำเสนอ 555+ ถ้าเรายังอยู่ในวัยที่กล้าได้ก็ทำไปเลย เพราะเมื่อเราโตขึ้น เราจะเริ่มหมดความกล้านั้นไป แต่เราจะได้ความคิดอ่านที่สุขุมหรือมุมมองที่กว้างขึ้นเข้ามาแทน ซึ่งก็เป็นข้อดีอีกอย่าง สรุปก็คือใช้ประโยชน์จากช่วงวัยของตนเองให้คุ้มนั่นแหละครับ คือสิ่งที่ผมอยากจะบอก

ก่อนจากกันไป บอกลากันหน่อย 
 
Staying:  ก็ พิมพ์มายาวมากเลย ก็ต้องขอฝากผลงานเรื่อง “The Last Supper ทฤษฎีลับอาหารมื้อสุดท้าย” ด้วยนะครับ เป็นผลงานสืบสวนเต็มตัวเล่มแรกที่ตั้งใจเขียนมากและใช้เวลาหนักมากๆ และก็ต้องขอบคุณทีมงานเด็กดีที่ให้โอกาสผมได้มาพูดคุยอะไรแบบนี้ และอยากเป็นกำลังใจให้นักเขียนเด็กดีท่านอื่นๆ ด้วยนะครับ ตราบใดที่เรายังรักนิยายอยู่ก็คงต้องเขียนกันต่อไป สู้ๆ ครับ
 


เป็นไงกันบ้างคะ กับบทสัมภาษณ์นักเขียนสุดฮอตของเรา ไม่ธรรมดาเลยจริงๆกับ staying เรียกได้ว่าให้ทั้งทัศนคติด้านบวกๆ และเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลายๆคนในการเขียนนิยาย พี่หญิงหวังว่าบทสัมภาษณ์นี้จะเป็นกำลังใจให้น้องๆที่อยากเป็นนักเขียน ให้มีความกล้าที่จะทำมากยิ่งขึ้น พี่หญิงรอเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ 


พี่หญิง:)
 
พี่หญิง
พี่หญิง - Columnist มนุษย์บ้านิยายที่สิงอยู่แถวๆ คลังนิยายเด็กดีเป็นประจำ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด
กำลังโหลด
color-blue-bell[เด็กน้อยหมวกฟ้า] Member 1 ต.ค. 59 20:50 น. 3

ตามผลงานมาตั้งแต่สมัยเกมสันดานมนุษย์เลยค่ะ และก็จะติดตามต่อไป (เกิดเป็นสายเปย์ต้องอดทนบิลหนังสือพุ่งชนต้องไม่ตาย)
ว่าแต่ท่าน staying เนี่ยทำไมหน้าตาดีกว่าที่เราคิดอีก (//เหมือนจะโฟกัสผิดจุด) นึกภาพว่าเป็นหนุ่มแว่นหน้าตาแก่เรียนหัวกระเซิงดุจนักวิทย์มาตลอด.... #มีความช็อค

0
กำลังโหลด
pair-ry22 Member 1 ต.ค. 59 20:57 น. 4

ติดตามเรื่องนี้ตั้งแต่เริ่มๆมาเลย คือชอบมากเพราะเป็นแนวที่เราชอบอ่าน สำหรับคนชอบอ่านแนวนี้ของแนะนำเรื่องนี้ อ่านทุกตอนแล้วจะติดมาก รักเลย

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด

6 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
color-blue-bell[เด็กน้อยหมวกฟ้า] Member 1 ต.ค. 59 20:50 น. 3

ตามผลงานมาตั้งแต่สมัยเกมสันดานมนุษย์เลยค่ะ และก็จะติดตามต่อไป (เกิดเป็นสายเปย์ต้องอดทนบิลหนังสือพุ่งชนต้องไม่ตาย)
ว่าแต่ท่าน staying เนี่ยทำไมหน้าตาดีกว่าที่เราคิดอีก (//เหมือนจะโฟกัสผิดจุด) นึกภาพว่าเป็นหนุ่มแว่นหน้าตาแก่เรียนหัวกระเซิงดุจนักวิทย์มาตลอด.... #มีความช็อค

0
กำลังโหลด
pair-ry22 Member 1 ต.ค. 59 20:57 น. 4

ติดตามเรื่องนี้ตั้งแต่เริ่มๆมาเลย คือชอบมากเพราะเป็นแนวที่เราชอบอ่าน สำหรับคนชอบอ่านแนวนี้ของแนะนำเรื่องนี้ อ่านทุกตอนแล้วจะติดมาก รักเลย

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด