ใครฆ่านานะไม่สำคัญ แต่สำคัญที่การสร้างแรงจูงใจให้ตัวละคร #HateLoveSeries

 


I hate you, I love you
ใครฆ่านานะไม่สำคัญ
สำคัญที่การสร้างแรงจูงใจให้ตัวละคร



สวัสดีค่ะชาวไรเตอร์ทุกคน! มาพบกับพี่น้ำผึ้งอีกแล้วนะคะ คะ นาทีนี้คงไม่มีกระแสซีรี่ส์เรื่องไหนจะมาแรงเท่ากับI hate you, I love youจากนาดาวบางกอก ถึงแม้ว่าตัวซีรี่ส์เพิ่งจะจบไปเมื่อวันเสาร์ที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา ก็มีทั้งกระแสบวกกระแสลบปะปนกันไป บ้างก็ผิดหวังกับตอนจบ บ้างก็รู้สึกว่าไม่หักมุมสมกับเป็นซีรี่ส์นาดาวเลย และอื่นๆ อีกมากมาย
 

ในวันนี้พี่น้ำผึ้งก็ขอเกาะกระแสด้วยการวิเคราะห์ซีรี่ส์เรื่องนี้สักหน่อย แอบกระซิบก่อนเลยว่าน้องๆ สามารถนำเทคนิคในซีรี่ส์นี้ไปใช้ในนิยายตัวเองได้เลยนะคะ รับรองว่าดังปังเปรี้ยงเลยค่ะซิส แต่ก่อนจะเลื่อนไปอ่าน ใครที่ยังไม่ดูต้องทำใจหน่อยนะเพราะมีสปอยล์เยอะมากเลยจ้า

 


โปสเตอร์ I hate you, I love you
(เครดิตภาพ :https://www.facebook.com/Linehateloveseries/)


 

I hate you, I love you หรือ HateLove Series เขียนบทโดย #ทีมเขียนบทโรคจิต แห่งนาดาวบางกอก ที่เคยเขียนบทให้แก่ฮอร์โมน ซี่รี่ส์ เรื่องราวความรัก ความแค้นและมิตรภาพจอมปลอมของเพื่อน 5 คนภายในเวลา 5 วันอันนำไปสู่ความตาย...

ยังจำความรู้สึกแรกที่ดูทีเซอร์ HateLove Series ได้หรือเปล่าคะ ความรู้สึกนั้นเป็นยังไง สำหรับพี่น้ำผึ้งแล้วนั้น ตอนแรกก็คิดว่ามันต้องเป็นละครเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด (ซึ่งตอนจบก็โหดของแท้ ฮ่าๆ) ตบตีแย่งผู้ชายแน่ๆ เลย แต่พอได้ดูจริงๆ กลับพบว่า... อ้าวเฮ้ย ไม่เห็นเหมือนที่คิดไว้เลยนี่นา นี่มันซีรี่ส์ทริลเลอร์ ฆาตกรรมชัดๆ

ผลพวงจากการดู EP.1 นั้นทำให้คนไทยหลายๆคน รวมทั้งพี่เริ่ม สวมบทโคนันตามหาตัวฆาตกรที่ฆ่านานะ โดยสังเกตจากทีเซอร์ตอนถัดไป มีการย้อนกลับไปดูตอนที่แล้ว หรือแม้กระทั่งสังเกตเอาจากโปสเตอร์ต่างๆ นานา โอ้โห พีคได้อีกค่ะ 

 


งานโคนันต้องมา
(ขอบคุณรูปภาพจากทวิตเตอร์)


 

แล้วหลังจากได้ออกอีกหลาย EP. มาก็มีการตีความไปต่างๆ นาๆ  ชาวเน็ตแห่กันสวมบทเป็นนักสืบให้จ้าละหวั่น บ้างก็ว่าน้ำหอมนี่แหละฆ่า แม่ซอลก็น่าสงสัย หรือที่พีคสุดๆ เลยก็คือ ความจริงนานะไม่ได้ตาย แต่มันคือการจัดฉาก!!!

ความจริงเริ่มปรากฏใน EP. 4 ตอนไอ่ ว่าแท้จริงแล้วหมอนี่นี่แหละคือคนที่วางแผนการฆ่าทั้งหมด!!! แต่หลายคนก็ยังคาดหวังว่า EP. สุดท้ายต้องพีคแน่นอน!!! แต่แล้วพอได้ดูกันจริงๆ กลับพบว่าตอนจบทำให้หลายคนผิดหวังไปตามๆ กัน ไม่ได้เพราะมันไม่ได้หักมุมอย่างที่คิด แผนการฆ่าง่ายไป บ้างก็ว่าจะมี EP. นี้มาทำไม ก็รู้อยู่แล้วนี่ว่าไอ่เป็นคนฆ่า ธรรมดาไปมั้ย ไม่สมกับเป็นนาดาวเลย

แต่น้องๆ รู้มั้ยคะ จุดเด่นของ HateLove Series คือการทำเรื่องธรรมดาให้กลายเป็นเรื่องไม่ธรรมดา ได้ด้วยการสอดแทรกสัญลักษณ์ หยอดปม เล่นกับอารมณ์และความรู้สึกของตัวละคร 

 


แก็งค์ Sleeping Beauty
ซอล - ถิงถิง - น้ำหอม - นานะ
(ขอบคุณรูปภาพจากแฟนเพจ hateloveseries)


 

เนื้อเรื่องไม่มีอะไรมาก แต่ครีเอทวิธีการเล่าสุดเจ๋ง

ลืมไปซะกับวิธีการเล่าเรื่องแบบเดิมๆ ที่หาได้ตามละคร ภาพยนตร์และนวนิยายไทย เพราะ HateLove Series นำเสนอด้วยรูปแบบใหม่ ถ้าไม่เชื่อลองกลับไปเปิดนิยายดูได้เลยค่ะ แล้วน้องจะพบว่าส่วนมากแล้วเหตุการณ์ทั้งหมดจะดำเนินผ่านมุมมองของตัวละครเพียงตัวใดตัวหนึ่งเท่านั้น แม้ว่าจะเป็นนิยายที่ดำเนินเรื่องด้วยบุรุษที่ 3 หรือมุมมองพระเจ้าก็ตาม

ยกตัวอย่างเช่นแฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่แม้จะเล่าเรื่องด้วยบุรุษที่ 3 แต่ก็เห็นได้ชัดว่าเรารับรู้เหตุการณ์ผ่านมุมมองของตัวละครเดียวซึ่งก็คือ “แฮร์รี่ พอตเตอร์” นั่นเอง ยิ่งถ้าเป็นนิยายแนวรักวัยรุ่นหวานแหววแล้วนั่น เราแทบไม่รู้อะไรเลยนอกจากสิ่งที่ “ฉัน” หรือคนเล่าบอก โดยทั้งสองแบบนั้น ทำให้เรารู้สึกสนิทกับตัวละครใดตัวละครหนึ่งมากกกว่าสนิทกับทุกๆ ตัวละคร

ตรงข้ามกับ HateLove Series เพราะ เรารับรู้เหตุการณ์เดียวผ่านตัวละครทุกตัว ทำให้เราเห็นมุมมองของเขา เห็นการกระทำในแต่ละช่วง ทำให้เราเริ่มรู้จักตัวละครทีละนิดทีละหน่อยจนเข้าใจตัวละครแต่ละตัวอย่างถ่องแท้

ซึ่งทางผู้สร้างครีเอทวิธีเล่าเรื่องได้เจ๋งมากทั้งที่ตัวเหตุการณ์จริงๆ มีแค่ 5 วันเอง เริ่มตั้งแต่วันพุธไปจนถึงวันจันทร์ที่พบศพนานะ โดยในแต่ละ EP. จะมีการเล่าถึงเหตุการณ์นั้นๆ ผ่านมุมมองของตัวละครแต่ละตัว ไม่ว่าจะเป็นโจ ไทเกอร์ ไอ่ และซอล ว่าในแต่ละวันและเวลาเดียวกันนั้น พวกเขาคิดหรือทำอะไรอยู่บ้าง

ดูๆ ไปแล้วก็แอบคล้ายกับความสัมพันธ์ของคนเราในชีวิตจริงเลยนะคะ เพราะเราไม่อาจรับรู้ได้ถึงทุกอารมณ์และความรู้สึกของคนรอบกายเราจริงๆ 


(ขอบคุณรูปภาพจากแฟนเพจ hateloveseries)

 

ถ้ายังนึกภาพไม่ออก งั้นขอถามความรู้สึกของเราที่มีต่อตัวละครอื่นที่ไม่ใช่นานะหลังจากดู EP.1 จบไป เป็นยังไงกันบ้างคะ ตอนนั้นพี่เดาไปต่างๆ นานาเลย แถมยังแอบเข้าข้างนานะด้วยนะ นั่นเป็นเพราะสนิทกับนานะไง เห็นแค่มุมมองของนานะเพียงคนเดียว อะไรประมาณนี้

แต่พอเราได้ดู EP. ถัดๆ มาก็เริ่มเข้าใจเหตุผลและการกระทำมากขึ้น นั่นเป็นเพราะเริ่มสนิทกับตัวละครที่เหลือแล้วไง เห็นมุมมองของพวกเขาแล้ว ยิ่งตอน EP. ซอลนะ พี่น้ำผึ้งยังแอบลุ้นไม่อยากให้ซอลโดนตำรวจจับเลย พีคได้อีก

ซึ่ง วิธีการเล่าเรื่องแบบนี้นี่แหละเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ผู้ชมอยากติดตามตอนที่เหลือ เพราะว่าจะได้เข้าใจมุมมองของตัวละครอื่นๆ มากขึ้น ก่อนจะนำเรื่องราวทั้งหมดมาปะติดปรต่อแล้วดูว่าที่เดาคนร้ายตั้งแต่แรกมันใช่หรือเปล่า (ฮา) ไหนใครเดาคนร้ายได้ถูกบ้าง ยกมือหน่อยค่ะ 

 


ซอลกำลังขอร้องนานะให้ลบรูป
(ขอบคุณรูปภาพจากไลน์ ทีวี)


 

อันที่จริงวิธีการเล่าแบบนี้ไม่ใช่วิธีใหม่ค่ะ เพราะที่เมืองนอกพี่แกใช้กันมานานแล้ว ที่ติดหูติดตามากที่สุดคงเห็นจะไม่พ้นเรื่อง Vantage Point ที่เล่าเหตุการณ์สังหารประธานาธิบดีผ่านมุมมองของตัวละครแต่ละตัว นับว่าเจ๋งมากเพราะสามารถทำเรื่องราวแค่ไม่กี่นาทีให้ยาวจนกลายเป็นหนังเรื่องนึงได้

ซึ่งพี่น้ำผึ้งคิดว่าเราสามารถนำมาปรับใช้ในนิยายได้นะคะ โดยเฉพาะใครคนไหนที่กำลังเขียนแนวสืบสวนสอบสวน การสร้างเรื่องราวโดยเล่าผ่านมุมมองของแต่ละตัวทำให้เรื่องเดียวกันแต่มีเนื้อหาที่แตกต่างกันแบบนี้ เป็นสิ่งที่ชวนติดตามและท้าทายนักอ่านให้หาคำตอบได้ค่ะ

 

หรือตัวละครทั้ง 5 จะสะท้อนการทำผิดศีล?

ไม่รู้ว่านี่เป็นสัญลักษณ์ที่ตัวซีรี่ส์จงใจนำเสนอหรือไม่ แต่ถ้าลองเทียบตัวละครทั้ง 5 ได้แก่นานะ โจ ไทเกอร์ ไอ่และซอล กับศีล 5 ตามศาสนาพุทธ เราจะพบว่ามันมีจุดที่คล้ายคลึงกันมากๆ เลยค่ะ แม้บางตัวละครจะไม่ได้สะท้อนมาชัดเจนขนาดนั้น แต่ถ้ามองให้ลึกอีกทีจะพบว่ามันมีส่วนคล้าย

ศีลข้อ 1 ไม่ฆ่าสัตว์
ขึ้นชื่อว่าฆ่า ยังไงก็บาป ไม่ว่าจะเป็นฆ่าสัตว์หรือฆ่าคน สำหรับข้อนี้เห็นได้ชัดๆ เลยว่า “ซอล” ทำผิดศีลข้อนี้ไปเต็มๆ เพราะเธอเป็นคนฆ่านานะ

ศีลข้อ 2 ไม่ลักทรัพย์
ข้อนี้จะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจาก “โจ” ที่โกหกนานะไม่พอ ยังขโมยเงินของเธออีกด้วย นอกจากผิดศีลข้อ 2 แล้วยังผิดศีลข้อ 4 อีกต่างหาก แต่สิ่งที่สะท้อนได้จากตัวละครนี้ชัดๆ เลยก็คือการผิดศีลข้อนี้ค่ะ

ศีลข้อ 3 ไม่ประพฤติผิดในกาม
“ไทเกอร์” เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่ผิดศีลข้อ 3 แม้จะมีแฟนแล้วแต่ก็ยังไปแอบมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงอื่นได้ จนนำไปสู่เหตุการณ์เลวร้ายกับนานะ และยังมีอีกตัวละครนึงที่เห็นได้ชัดเลยว่าผิดศีลข้อนี้ นั่นก็คือ “แม่ของซอล” ที่แอบไปมีความสัมพันธ์กับชายอื่นที่ไม่ใช่สามีตัวเอง รวมทั้งยังมีความสัมพันธ์กับไทเกอร์

ศีลข้อ 4 ไม่พูดปด
สำหรับศีลข้อนี้นั้นไม่ได้หมายความแค่ว่าไม่พูดปด แต่ยังครอบคลุมถึงเรื่องที่เกี่ยวกับการพูดทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นพูดส่อเสียด พูดหยาบคาย นินทาว่าร้าย พูดเพ้อเจ้อ ล้วนแล้วแต่อยู่ในหมวดศีลข้อ 4 ค่ะ ดังนั้นตัวแทนของคนผิดศีลนี้จะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจาก “นานะ” ถ้าใครได้ดูก็จะพบว่านานะนี่แหละแอบปากร้าย พูดจิกกัดได้เยี่ยมเลยค่ะ

ศีลข้อ 5 ไม่ดื่มของมึนเมา
มากันที่ตัวแทนของศีลข้อสุดท้าย ซึ่งยากมากในการบอกว่าใครทำผิดศีลข้อนี้ อาจจะบอกไม่ได้ตรงๆ ว่าใช่มั้ย แต่ว่า “ไอ่” มีแนวโน้มจะทำผิดศีลข้อนี้ในแง่ของการใช้ยาในทางที่ผิด จนนำไปสู่การฆาตกรรม ซึ่งเอาจริงๆ พี่ว่าไอ่ก็ทำผิดศีลข้อแรกด้วยนะคะ แม้จะไม่ได้ลงมือฆ่าเอง แต่แค่มีเจตนาฆ่าก็บาปแล้ว 

 


(ขอบคุณรูปภาพจากแฟนเพจ hateloveseries)

 

สีครามหมายความเหมือนใจมนุษย์

เพลงประกอบซีรี่ส์นี้คือ "คราม" ต้องขอเล่าก่อนว่าทางผู้จัดได้เเรงบันดาลใจจากเพลงนี้ค่ะ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่การนำเสนอตัวละครในมุมทั้งเลวทั้งดี เพราะมนุษย์ทุกคนล้วนแล้วแต่มีทั้งสองด้านนี้อยู่ในตัวเอง ดังนั้นคนดูอย่างเราๆ ก็จะเห็นถึงความอำมหิตเลือดเย็น ความจิต ความเสแสร้ง ความร้าย โกหกหลอกลวงอยู่ในเรื่องนี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังมีความรักเพื่อน ความเป็นห่วงเพื่อนที่บางตัวละครสะท้อนให้เห็น อย่างเช่นน้ำหอมและถิงถิงที่เป็นห่วงนานะ


"ลึกลงเท่าไรก็ยิ่งมืดมน
ค้นไปเท่าไรก็ยิ่งสับสน
ส่วนลึกในใจคน ใครจะรู้จริง"

 

เริ่มต้นกันที่ นานะ ด้วยความที่เป็นผู้หญิงมั่นๆ แรงๆ ตรงไปตรงมา ไม่ชอบคนโกหกเสแสร้ง ร้ายมาร้ายกลับนี่แหละ เลยพาตัวเองไปให้เดินไปยังจุดจบของชีวิต เข้าใจว่านานะแค้นซอลนะ อาจจะแค้นแม่ซอลด้วย แล้วพอ เวลาคนโกรธมากๆ เข้าก็ขาดสติยับยั้งชั้งใจเลยทำในสิ่งที่ผิด

บางทีถ้านานะใจเย็นลงกว่านี้ ปรับความเข้าใจกับซอล เหตุการณ์ทั้งหมดก็คงไม่เกิดขึ้น

โจ หลายคนตีความไปต่างๆ นานากับตัวละครนี้ แต่แท้จริงแล้วโจไม่เกี่ยวข้องกับตัวละครอื่นเลยนอกจากนานะ โจมีชีวิตที่หาเช้ากินค่ำ เอาตัวรอดไปวันๆ ก็เท่านั้น สามารถทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เงินมาแม้ว่าจะฝืนใจมากแค่ไหนก็ตาม เห็นได้จากการทำอาชีพขายบริการและขโมยของนานะ ทั้งหมดก็เพื่อให้ตัวเองและกระเป๋า แฟนสาวมีชีวิตรอด

ไทเกอร์ สุดยอดแห่งความเจ้าชู้เลยค่ะกับตัวละครตัวนี้ แต่ถึงจะเจ้าชู้ก็มีหัวใจ พี่หมายความว่าลึกๆ แล้วไทเกอร์ก็รักนานะมาก เห็นได้จากฉากทะเลาะกันแล้วเซอร์ไพรส์ขอคืนดีด้วยฉากตุ๊กตาหมีบราวน์ แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ... การกระทำมุ้งมิ้งแบบนี้มันก็ไม่สามารถชดเชยพฤติกรรมแย่ๆ ได้หรอกค่ะ แต่พี่ก็แอบสงสารนางนะคะ ฉากที่รู้ว่านานะตายมีความเสียใจเป็นบ้าเป็นหลังเลย พี่คิดว่าไทเกอร์ก็คงรู้สึกผิดไม่น้อยแหละค่ะ 

มาต่อกันที่ ไอ่ โอ้โห น่ากลัวมากๆ กับผู้ชายพูดน้อยคนนี้ ตอนดูซีรี่ส์จะเห็นว่าไอ่สื่ออารมณ์ผ่านทางแววตามากกว่าคำพูด เป็นผู้ชายที่รักแรงหลงแรง ยอมทำทุกอย่าง... ย้ำว่าทุกอย่างจริงๆ ยอมแม้กระทั่งฆ่าคนเพื่อทำให้คนรักมีความสุข คนแบบนี้น่ากลัวจริงๆ เอาความรู้วิชาเภสัชที่ร่ำเรียนมาใช้ในทางที่ผิด

และคนสุดท้ายซอล สาวน้อยแอ๊บแบ๊ว แต่จริงๆ เป็นสายอ่อย อ่อยได้แม้กระทั่งแฟนเพื่อน แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าซอลรักครอบครัวและไม่อยากให้ครอบครัวต้องถูกทำลาย ซึ่งพี่น้ำผึ้งจะขอแตกประเด็นนี้ในหัวข้อถัดไปค่ะ

 


ไทเกอร์จัดห้องเซอร์ไพรส์นานะ
(ขอบคุณรูปภาพจากไลน์ ทีวี)


 

ใครฆ่านานะไม่สำคัญเท่าเเรงจูงใจ

บางทีสิ่งที่ซีรี่ส์ต้องการนำเสนอ อาจไม่ใช่ให้คนดูอย่างเราๆ สวมบทโคนันตามหาฆาตกร แต่ต้องการให้คนดูได้ตกตะกอนอะไรบางอย่าง โดยเฉพาะการย้อนกลับไปดูความรู้สึกและแรงจูงใจของตัวละครแต่ละตัว

อย่างที่ชื่อบทความนี้บอกแหละค่ะ “ใครฆ่านานะไม่สำคัญ แต่สำคัญที่แรงจูงใจ” จากการดูครบทั้ง 5 Ep. จะพบว่าสิ่งที่ซีรี่ส์ต้องการนำเสนอไม่ใช่ค้นหาตัวฆาตกร แต่เป็นการสำรวจจิตใจของตัวละครมากกว่า!!

ตอนแรกที่ดู EP.1 ก็คิดว่าเป็นการฆ่าเพราะเรื่องชู้สาว แต่หลังจากดูครบทุก EP. แล้วก็ต้องกลับมานั่งทบทวนกับตัวเองใหม่ หรือบางทีสิ่งที่ขับเคลื่อนซีรี่ส์นี้ จะเป็นเรื่องของความรักของคนในครอบครัว จริงๆ แล้วที่นานะตายไม่ใช่เพราะเรื่องผู้ชาย แต่เป็นเพราะว่านานะกำลังจะทำลายสถาบันครอบครัวของซอล พอมา EP.2 ตอนของโจ หลังจากที่โจรู้ว่ากระเป๋าตั้งท้อง ตัวเองก็ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อคงความเป็นครอบครัวนี้ไว้ แม้ว่าจะต้องทำในสิ่งที่ผิดก็ตาม เห็นไหมว่านี่ก็เกี่ยวกับครอบครัวอีกแล้ว ถึงแม้จะไม่เกี่ยวกับครอบครัวซอลก็ตาม

 


ซอลเซอร์ไพรส์สุดๆ ไปเลยเมื่อเห็นรูปไทเกอร์กับแม่ตัวเอง
(ขอบคุณรูปภาพจากไลน์ ทีวี)

 

ส่วนใน EP.3 เราได้เห็นมุมของไทเกอร์ที่เป็นตัว (เกือบ) ทำลายครอบครัวของซอลจริงๆ ด้วยการพลาดไปมีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับแม่ของซอล แล้วก็ข้ามมายัง EP.4 เราเห็นว่าซอลพยายามรักษาครอบครัวเอาไว้ตอนที่ไปก้มกราบนานะ แต่เมื่อไม่ได้ผลก็ไปร้องไห้กับไอ่จนนำไปสู่... การฆ่านานะ

และใน EP.5 เราได้เห็นความไม่สมบูรณ์ของครอบครัวซอล ซอลคิดมาตลอดเลยว่าครอบครัวตัวเองสมบูรณ์แบบ แต่พอเธอรู้ว่าแม่เธอมีอะไรกับไทเกอร์ เธอโกรธแม่มาก ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเป็นอย่างนี้ แต่พอไปถึงบ้าน เห็นความไม่ลงรอยกันระหว่างพ่อและแม่ ดูเหมือนว่าแม่ของเธอน่าจะเก็บกดเพราะได้รับความกดดันจากพ่อ เห็นได้จากเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่พ่อซอลไม่ยอมหักยอมงออย่างเช่นเรื่องแอปเปิ้ล ซอลจึงเข้าใจแม่ตัวเองมากขึ้นและโกรธไม่ลง...

 


แม่ของซอลและนานะ
(ขอบคุณรูปภาพจากไลน์ ทีวี)


 

แต่ซอลรักครอบครัว ซอลเป็นห่วงโซ่ น้องชายที่เพิ่งเรียนม.ต้น การถูกบีบจากนานะทำให้ซอลเหมือนหมาจนตรอก เมื่อสู้ไม่ได้ก็ต้องฆ่า อาจมีหลายคนถามว่ามันก็มีวิธีตั้งมากมายนี่นา ทำไมไม่ทำ แต่ใครจะไปรู้ล่ะ เราไม่ได้อยู่ในจุดเดียวกับที่ซอลอยู่ ถ้าลองมองย้อนกลับไปใน EP.4 จะพบว่าคนที่อยู่กับซอลเป็นคนสุดท้ายคือไอ่ ตอนนั้นน่ะ เวลาคนที่กำลังจิตตกมากๆ มันคิดอะไรไม่ออกหรอก ยิ่งไอ่บอกว่า “งั้นฆ่ามันมั้ย” ด้วยความต้องการรักษาครอบครัวไว้บวกกับความรู้สึกเก็บกด จิตตก แพนิค บลาๆๆ ซอลจึงตอบตกลง 

โดยในตอนท้ายสุดที่เป็นมุมมองของพระเจ้า ฉากที่ไอ่กอดซอล กล้องแพนออกไปไกลๆ และเห็นรูปถ่ายครอบครัวซอลที่แขวนอยู่ มันยิ่งแสดงชัดเจนเลยว่า ต่อให้ครอบครัวจะเลวร้ายมากแค่ไหน แต่ครอบครัวก็คือครอบครัว ไม่มีใครอยากให้ใครหายไปจากชีวิต

 


ครอบครัวที่สมบูรณ์แบบของซอล

(ขอบคุณรูปภาพจากไลน์ ทีวี)

 

จบแบบนี้ดีแล้วหรือน่าผิดหวัง?

อย่าลืมว่าเรื่องมันเพิ่งเกิดมาแค่ 5 วันเอง ต่อให้เป็น CSI ก็ไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้เดี๋ยวนั้นหรอกค่ะคุณขา หลายคนผิดหวังที่มันไม่หักมุมสมกับนาดาว แต่สำหรับพี่น้ำผึ้ง พี่คิดว่าจบแบบให้คนอ่านคิดต่อแบบนี้แหละดีแล้ว มองดูเผินๆ ก็เหมือนตัวซีรี่ส์สื่อให้เห็นจุดจบของตัวละครแต่ละตัวอยู่แล้วค่ะ เห็นชัดๆ เลยว่าใน EP.5 ซอลขับรถเจอเด็กปั้ม หลังจากนั้นเด็กปั้มอาจจะไปแจ้งตำรวจก็ได้ ใครจะไปรู้ รวมทั้งที่บอกว่านานะตาย ถ้าไทเกอร์มีสติสักหน่อยก็น่าจะจำได้ว่าตัวเองเห็นแชทที่นานะขู่ซอลว่าจะแฉ คนสติดีที่ไหนอยู่ๆ จะมารู้สึกห่อเหี่ยวฆ่าตัวตาย หลักฐานมันมีค่ะ ยังไงซอลก็ไม่น่ารอดได้ ไม่ถูกจับวันนี้ก็วันหน้า

ส่วนตอนจบที่ไอ่มาขอซอลเป็นแฟน นี่ก็เป็นจุดนึงที่พีคมาก คือมันก็เห็นชัดๆ อยู่แล้วว่าซอลจำใจต้องตอบตกลง เพราะไอ่รู้ความลับของซอลทุกอย่าง ไอ่พลิกบทบาทจากคนที่ยอมอยู่เบื้องล่างซอลตลอดให้กลายมาเป็นคนถือไพ่เหนือกว่าด้วยการกุมความลับซอลไว้ นับว่าไม่ธรรมดาเลยจริงๆ

ไทเกอร์ รายนั้นคงต้องจมอยู่กับความรู้สึกผิดไปชั่วชีวิตแน่ๆ เพราะคิดว่าตัวเองเป็นสาเหตุที่ทำให้นานะตาย เผลอๆ อาจจะบวชไม่สึกเลย ฮา ส่วนโจกับกระเป๋า ยังไงก็ถูกจับแน่ๆ ข้อหาแทงไทเกอร์ หลักฐานมันมี ถ้าตำรวจจริงจังอ่ะนะ

ในมุมมองพี่น้ำผึ้ง พี่ว่าเช้าวันจันทร์มันไม่ใช่จุดจบของเรื่องนี้หรอกค่ะ แต่มันเป็นจุดเริ่มต้นต่างหาก คงเหมือนที่เขาบอกว่า "ความตายเป็นแค่จุดเริ่มต้น" Death is only the Beginning นั่นเอง

 


ไทเกอร์และนานะ
(ขอบคุณรูปภาพจากไลน์ ทีวี)

 

จบไปแล้วนะคะกับการชำแหละ HateLove Series ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นวิจารณญาณของพี่ อาจจะมีทั้งคนเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ได้ แต่สิ่งหนึ่งที่พี่ชอบมากเลยก็คือวิธีการสร้างซีรี่ส์นี้ ที่เลือกนำเสนอเรื่องธรรมดาให้กลายเป็นเรื่องไม่ธรรมดาค่ะ โดยเฉพาะการเล่าเหตุการณ์ผ่านมุมมองของตัวละครแต่ละตัว นับว่าเป็นอะไรที่แปลกใหม่มากในวงการบ้านเรา และที่ยอดเยี่ยมที่สุดคือเราสามารถนำแนวทางการเขียนแบบนี้ไปปรับใช้ในงานเขียนของเราได้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินเรื่อง การแทรกสัญลักษณ์ หรือแม้กระทั่งการขยี้อารมณ์ตัวละคร บอกแล้วว่า... พล็อตนิยายนั้นอยู่รอบตัวเรา ขอเพียงเราสังเกตสักหน่อย ใส่ใจสักนิด เราสามารถเขียนนิยายได้ดีขึ้นเยอะค่ะ หยิบใช้ได้เลย 
 

วันนี้ขอลาไปก่อนค่ะ ส่วนครั้งหน้าพี่น้ำผึ้งจะนำเรื่องไหนมาฝากบ้างนั้น รอติดตามนะคะ หรือใครอยากได้เรื่องแนวไหน ก็กระซิบบอกกันได้ค่ะ พี่จะได้ลองไปหามาทำให้ ^ ^


 

พี่น้ำผึ้ง :)

 

Deep Sound แสดงความรู้สึก
พี่น้ำผึ้ง
พี่น้ำผึ้ง - Columnist นักเขียนที่ชอบส่งต่อพลังบวกให้ทุกคน

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด

5 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
Xiujing Member 30 ม.ค. 60 16:09 น. 3

เดาว่าฆาตกรคือซอลมาตลอด เพราะดูเป็นคนเดียวที่มีแรงจูงใจที่สุด แต่ที่เหนือความคาดหมายเลยก็คือไอ่นี่แหละค่ะ แต่จริงๆตอนแรกแอบคิดแว้บๆว่าไอ่อาจเป็นคนร้าย เพราะดูเป็นคนซื่อๆใสๆที่สุดในห้าคน แล้วในหนังสืบสวนคนแบบนี้สุดท้ายมักจะเป็นคนร้าย //เชื่อพี่ พี่ดูโคนันมาเยอะ555

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด