9 เล่มนี้ เฮอร์ไมโอนี่ขอแนะนำ!
 


สวัสดีค่ะน้องๆ ชาวไรเตอร์ทุกคน พี่เชื่อว่าร้อยทั้งร้อยแล้วทุกคนในที่นี้ต้องรู้จักนักแสดงคนเก่งแห่งเมืองผู้ดี “เอ็มม่า วัตสัน” กันใช่มั้ยล่ะคะ เป็นที่รู้กันดีว่าเอ็มม่า วัตสันแจ้งเกิดจากบทบาทของเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ แม่มดผู้รอบรู้และเป็นหนอนหนังสือ จนรอนถึงขั้นตั้งฉายาให้ว่า "ห้องสมุดเคลื่อนที่" แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่านอกจอเธอเองก็เป็นหนอนหนังสือตัวยงไม่แพ้กัน ที่สำคัญยังเป็นตัวตั้งตัวตีในการตั้งกรุ๊ปอ่านหนังสือเฟมินิสต์บนโลกออนไลน์ที่ชื่อว่า Our Shared Shelf ด้วยค่ะ สมกับเป็นเฮอร์ไมโอนี่ไม่มีผิดเลย สมบูรณ์แบบมากๆ

 


(ขอบคุณรูปภาพจาก http://mashable.com)

 

ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว พี่น้ำผึ้งก็เลยถือโอกาสหยิบยกหนังสือที่เอ็มม่า วัตสันยืนยันว่า “อ่านเถอะ มันดีจริงๆ” มาฝากน้องๆ กันค่ะ ถ้าใครที่เป็นหนอนหนังสือเหมือนกันแล้วล่ะก็... ไม่ควรพลาดเลยนะคะ จะมีเรื่องอะไรบ้างนั้น ตามมาดูเลยดีกว่า ^___^

 


My Life on the Road

เขียนโดย Gloria Steinem

นี่คือหนังสือเล่มแรกที่เอ็มม่าแนะนำให้สมาชิกในชมรมที่เธอก่อตั้งอ่าน My Life on the Road เป็นเรื่องจริงของ Gloria Steinem นักเขียน เฟมินิสต์ และนักพูดแรงบันดาลชื่อดังของโลก ภายในหนังสือเล่มนี้ประกอบไปด้วยเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตของเธอ ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว การฟังคนรอบข้าง การเรียนรู้ และการเปลี่ยนโลก ซึ่งเอ็มม่าได้รีวิวไว้ว่าเธอรู้สึกตื่นเต้นมากๆ ที่ได้อ่านเรื่องนี้ ระหว่างอ่านเธอได้ถือปากกาเอาไว้ด้วยเพราะเธอจะได้ขีดเส้นใต้และจดอะไรก็ตามที่เธอนึกได้ตอนที่อ่าน มันดีมากจริงๆ นะ ไปอ่านสิ

 
How to be a Woman

เขียนโดย Caitlin Moran


อีกหนึ่งเล่มที่เอ็มม่าแนะนำให้สมาชิกในชมรม Our Shared Shelf อ่านค่ะ หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้หญิงค่ะ ชีวิตผู้หญิงอ่ะค่ะน้องๆ ในเรื่องก็พูดถึงประมาณว่าผู้หญิงเราควรฉีดโบท็อกซ์ดีมั้ย ทำไมผู้ชายต้องเกลียดเราด้วยนะ ทำไมทุกคนต้องถามเราด้วยนะว่าเมื่อไรจะมีลูก? ทุกคำถามที่ผู้หญิงสงสัย Caitlin ได้ให้คำตอบไว้ในหนังสือเล่มนี้แล้ว

เอ็มม่าบอกว่าเธออ่านเล่มนี้ตอนอยู่บนเครื่องบินที่บินตรงจากลอนดอนไปนิวยอร์ก การันตีความสนุกได้เพราะเธอหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลังจนน้ำตาไหล พนันได้ว่าคนบนเครื่อง ทั้งผู้โดยสาร ทั้งแอร์โฮสเตสคงคิดว่าเธอเสียสติแล้วแน่ๆ

เอ็มม่าพูดขนาดนี้แล้ว สาวๆ คนไหนยังไม่หามาอ่านถือว่าพลาดมากนะจ๊ะ

 

The Argonauts
 
เขียนโดย Maggie Nelson


สำหรับหนังสือเล่มนี้นะคะ พี่น้ำผึ้งต้องขอกระซิบก่อนว่าได้รับรางวัลวงการนักวิพากษ์หนังสือแห่งชาติ (National Book Critics Circle Award) ปี 2015 ของสหรัฐอเมริกา แถมยังเป็นหนังสือขายดีด้วยค่ะ นี่คือเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของผู้เขียนกับสามีของเธอ “แฮร์รี่ ด็อดจ์” ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์สุดโรแมนติกของพวกเขา การมีลูกชายตัวน้อย การจากไปของแม่สามี และการเปลี่ยนแปลงของเธอและสามี ไม่ว่าจะเป็นตอนเธอท้องหรือสามีเข้ารับการผ่าตัด เอ็มม่าบอกว่ามันเป็นหนังสือที่ควรค่าแก่การอ่านมากเพราะมันแฝงแง่คิดไว้หลายอย่าง โดยเฉพาะแง่คิดการใช้ชีวิต อ่านเล่มนี้จบ เธอรู้สึกอยากใช้ชีวิตทันทีเลย

 

Persepolis

เขียนโดย Marjane Sateapi


หนังสือนิยายภาพเล่มนี้คือเรื่องจริงของนักเขียนชาวอิหร่าน “มาร์จอเน่ ซาทราพี” หรือตัวผู้เขียนนั่นเอง ฉบับดั้งเดิมตีพิมพ์เป็นภาษาฝรั่งเศส ก่อนจะถูกนำมาแปลเป็นภาษาอื่นๆ รวมทั้งไทย เป็นเรื่องราวชีวิตวัยเด็กของซาทราพีที่อาศัยอยู่ในอิหร่านช่วงการปฏิวัติเปลี่ยนระบอบการปกครองแบบกษัตริย์เป็นสาธรณรัฐ ก่อนที่เธอจะย้ายไปเรียนที่กรุงเวียนนาและกลับมาอิหร่านอีกครั้งเพื่อหวังจะเปลี่ยนแปลงประเทศ หนังสือเล่มนี้ไม่เพียงแต่ขายดี แต่ยังถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์การ์ตูนและได้รับรางวัลจากเทศกาลหนังเมืองคานส์ครั้งที่ 60 ด้วยค่ะ เอ็มม่าบอกว่าหนังสือเล่มนี้ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2546 และมันเป็นงานกราฟฟิคโนเวลแนวดาร์คๆ แถมเป็นนิยายภาพเล่มแรกด้วยที่ได้รางวัลพูลิตเซอร์ ดังนั้นพลาดไม่ได้เลยค่ะ


 

Half the Sky: Turning Oppression into
Opportunity for Woman Worldwide

 
เขียนโดย Nicholas D. Kristof and Sheryl WuDunn


ในช่วงเดือนกันยายนและตุลาคม เอ็มม่า วัตสันได้เลือกอ่านหนังสือที่เน้นถึงเรื่องความไม่เสมอภาคของสิทธิสตรี ซึ่งหนังสือเล่มนี้ก็ตอบโจทย์เธอเป็นอย่างมาก แค่ชื่อเรื่องก็บอกแล้ว Half the Sky: เปลี่ยนความกดดันสู่โอกาสของผู้หญิงทั่วโลก เป็นหนังสือที่แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมและประเพณีต่างๆ ตั้งแต่แอฟริกาจนถึงเอเชียที่เกี่ยวข้องกับผู้หญิง โดยผู้เขียนได้แนะนำให้เรารู้จักกับผู้หญิงบางกลุ่มที่สตรอง พวกเธอต่อสู้และไม่ย่อท้อท่ามกลางความแตกต่างระหว่างเพศ นอกจากนี้ยังพูดถึงเรื่องความทุกข์และความอยู่รอดของผู้หญิงเหล่านั้นด้วย ที่สำคัญหนังสือเล่มนี้ชี้ให้เห็นว่าพวกเธอสามารถลุกขึ้นยืนและเปลี่ยนแปลงชีวิตของตนเองได้ เอ็มม่าบอกว่าเธอประทับใจมากเพราะมันทำให้เธอได้เรียนรู้ว่า แท้จริงแล้วกุญแจสำคัญที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและการเติบโตทางเศรษฐกิจนั้นมาจากพลังของผู้หญิงที่มีศักยภาพ

 

Mom & Me & Mom

เขียนโดย Maya Angelou


สำหรับหนังสือเล่มนี้ นอกจาเอ็มม่า วัตสันจะแนะนำ พี่น้ำผึ้งเองก็เคยแนะนำไว้แล้วในบทความ 5 นิยายที่พูดถึงเรื่องแม่ เคยอ่านกันหรือยัง? พูดเลยว่าหนังสือเล่มนี้ดีจริงๆ เอ็มม่าเริ่มอ่านเรื่องนี้เมื่อเดือนพฤศจิกายนและอ่านจบในเดือนธันวาคม หนังสือเล่มนี้เล่าถึงแม่ของนักเขียน "วิเวียน แบ็กซ์เตอร์" การอ่านหนังสือเล่มนี้ทำให้เธอเห็นถึงความรักระหว่างสองแม่ลูกที่คอยสนับสนุนกันอย่างยั่งยืน
 


โน้ตสั้นๆ ที่เอ็มม่าทิ้งไว้
(ขอบคุณรูปภาพจาก : http://www.vanityfair.com)


นอกจากนี้เอ็มม่ายังได้แบ่งปันหนังสือเล่มนี้ให้แก่ทุกคนด้วยทิ้งไว้ที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินในนิวยอร์คด้วยค่ะ มีหนังสือทั้งหมดร้อยกว่าเล่มพร้อมทั้งเขียนโน้ตสั้นๆ แนบไว้ เล่นเอาคนได้รับถึงขั้นยิ้มไม่หุบ โพสต์ลงโซเชี่ยลมีเดียเพื่ออวดความโชคดีกันใหญ่

 

Women Who Run with the Wolves
 
เขียนโดย Clarissa Pinkola Estes


นี่อาจเป็นหนังสือเล่มล่าสุดของเธอเลยก็ได้ เธอเลือกอ่าน Women Who Run With the Wolves ที่ตีพิมพ์ในปี 1992 เป็นหนังสือจิตวิทยาแนวใหม่ที่พร้อมปฏิวัติชีวิตผู้หญิง ภายในหนังสือมีการเปรียบเทียบผู้หญิงเป็นหมาป่าเพราะมีสิ่งที่เหมือนกันคือ สัญชาติญาณ ลางสังหรณ์ ความองอาจและความยากลำบากในการใช้ชีวิต การเล่าเรื่องจะเป็นลักษณะเหมือนกับนิทานแต่ว่าแฝงแง่คิดไว้เพียบ เอ็มม่าบอกว่าหนังสือนี้มียอดขายมากกว่า 2 ล้านเล่ม แม้ปัจจุบันนี้หนังสือจะเก่า แต่ภายในหนังสือก็มีแนวคิดสมัยใหม่ปนอยู่ด้วย เธอเชื่อว่าผู้หญิงทุกคนจะได้ค้นพบตัวเองหลังจากอ่านเล่มนี้จบ 

 


(ขอบคุณรูปภาพจาก : http://rebelmommybookblog.com)
 

Love Letters to the Dead


เขียนโดย Ava Dellaira


อ่านหนังสือแนวหนักๆ ประเภทเฟมินิสต์มาเยอะแล้ว เอ็มม่าขอเปลี่ยนแนวมาอ่านนิยายบ้างอะไรบ้าง นอกจากแฮร์รี่ พอตเตอร์จะเป็นนิยายเล่มโปรดของเธอ Love Letters to the Dead ก็เช่นกัน นี่คือเรื่องราวของลอเรลที่ได้การบ้านวิชาภาษาอังกฤษให้เขียนจดหมายถึงคนตาย ซึ่งตอนแรกเธอก็เลือกที่จะเขียนถึงเคิร์ต โคเบน แฟนหนุ่มของเมย์ พี่สาวของเธอที่จากไป ก่อนที่เธอจะเขียนถึงพี่สาวของเธอบ้าง นอกจากนี้เธอยังเขียนจดหมายถึงคนอื่นๆ อีกมากมายเช่น เอมี่ ไวท์เฮาส์ แต่เธอไม่ยอมส่งจดหมายให้คุณครูเลยสักฉบับ

เนื้อหาในจดหมายของลอเรลเป็นเรื่องของเธอ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนไฮสคูล, มิตรภาพ, ตกหลุมรักครั้งแรก, รวมทั้งพัฒนาการของตัวเธอ การเขียนจดหมายครั้งนี้ไม่เพียงแต่ทำให้เธอได้ติดต่อกับพี่สาวของเธอที่เสียชีวิต แต่มันยังทำให้เธอพบกับความจริงในอดีตบางอย่างที่ส่งผลต่อชีวิตของเธอ

หลังจากที่เอ็มม่าอ่านจบ เธอได้ทวิตถึงนักเขียนว่า “เธอรักหนังสือเรื่องนี้มาก” โอ้โห... ถ้าเฮอร์ไมโอนี่ยืนยันขนาดนี้ หนอนหนังสืออย่างเราไม่อ่านก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว

 


(ขอบคุณรูปภาพจาก : http://ksscensorthis.com)
 

The Fault in Our Stars


เขียนโดย John Green

หนังสือเล่มนี้มีแปลไทยด้วยค่ะ อีกหนึ่งหนังสือเล่มโปรดที่ทำให้เอ็มม่าตกหลุมรัก เรื่องราวเกี่ยวกับผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ตกหลุมรักกัน ร่วมกันฝ่าฟันอุปสรรคจากโรคร้ายด้วยกัน ความรัก มิตรภาพที่ซาบซึ้งจนถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ชื่อเดียวกันในปี 2014 น้องๆ เชื่อมั้ยคะว่าหลังอ่านจบ เอ็มม่าถึงขั้นทวิตไปหาผู้เขียนเลยค่ะ เธอบอกว่าเธออ่านเรื่องนี้จนถึงตีสี่เลย!! อ่านขนาดนี้แปลว่าวันเดียวจบแน่นอน ดีงามขนาดนี้ไม่อ่านไม่ได้แล้วล่ะ

อ้อ พูดถึง พี่น้ำผึ้งเคยเมนชั่นถึง The Fault in Our Stars ด้วยนะคะ ลองอ่านดูได้ในบทความ เปิดตำนาน 5 คู่รักที่จะทำให้คุณตาร้อนผ่าว และ นิยายพังแน่ถ้าขาดตัวละครรอง 

 


ขอบคุณรูปภาพจากทวิตเตอร์

 

เป็นอย่างไรบ้างคะกับหนังสือที่เอ็มม่า วัตสันแนะนำให้อ่าน เห็นได้ว่าเธอมักอ่านหนังสือแนวผู้หญิงๆ นั่นเป็นเพราะเอ็มม่าคือ Ambassador ขององค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ ดังนั้นหนังสือที่เธอเลือกก็สะท้อนบุคลิกของเธอ มันทำให้เห็นเลยว่าเธอน่ะเป็นตัวแม่เรื่องสิทธิสตรีค่ะ

เอ็มม่าชอบอ่านหนังสือมาก การอ่านหนังสือทำให้เธอเป็นคนฉลาด เหมือนกับเฮอร์ไมโอนี่นั่นแหละ ดังนั้นถ้าใครอยากสวยและเก่งแบบเอ็มม่าก็ต้องอ่านหนังสือเยอะๆ นะคะ อ่านให้หลากหลายเข้าไว้ แล้วน้องๆ จะพบว่ามุมมองของน้องที่มีต่อโลกเปลี่ยนไป

ท้ายสุดแล้วถ้าใครอยากจอยกลุ่มนักอ่านที่สาวน้อยเอ็มม่าตั้งล่ะก็... คลิกได้เลยที่กรุ๊ป Our Shared Shelf กระซิบว่าพี่น้ำผึ้งเองก็เป็นสมาชิกด้วย แหม... บอกแล้วว่าอยากสวยและเก่งเหมือนเอ็มม่าไงล่ะ

 

 

พี่น้ำผึ้ง :)

 
 
Deep Sound แสดงความรู้สึก

 
พี่น้ำผึ้ง
พี่น้ำผึ้ง - Columnist นักเขียนที่ชอบส่งต่อพลังบวกให้ทุกคน

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด
กำลังโหลด

2 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด