สร้างตัวละครให้ปังตามบุคลิก MBTI
ESFJ ต้นแบบแห่งแม่พระ
สวัสดีค่ะน้องๆ ชาวเด็กดีทุกคน เมื่อสัปดาห์ที่แล้วกลเม็ดเคล็ดลับฉบับการสร้างตัวละครและเขียนนิยายตามบุคลิกภาพแบบ MBTI (Myers-Briggs Personality Types) ได้พาน้องๆ ไปรู้จักกับหนุ่มสาวโลกสวยชาว ESFP ค่ะ เพราะงั้นสัปดาห์นี้พี่ก็เลยพาน้องๆ มารู้จักกับบุคลิกที่ใกล้เคียงกับคนโลกสวย เพิ่มเติมคือมีจิตใจกว้างขวางจนต้องยกมงให้ เพราะชาว ESFJ ที่น้องๆ จะได้รู้จักนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นแม่พระค่ะ! คนอะไรใจดี๊ใจดีเบอร์นี้ พี่ว่าเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาดูกันเลยดีกว่าว่าแม่พระ ESFJ เป็นยังไงกันบ้าง ตามมาเลยจ้า
อะไรคือ MBTI
แบบทดสอบ MBTI หรือ Myers-Briggs Personality Types เป็นเครื่องมือจิตวิทยาที่ใช้เพื่อค้นหาบุคลิกภาพ ตัวตน ความรู้สึกและความนึกคิดของเรา เครื่องมือนี้มีประโยชน์และแม่นยำมากๆ เลยค่ะน้องๆ เพราะแบ่งคนออกเป็น 16 แบบด้วยกัน นอกจากนี้ยังมีการใช้ MBTI แพร่หลายทั่วโลก ทั้งในการเลือกคู่ครอง การพัฒนาตัวเอง การหางานเพื่อให้เหมาะสมต่อบุคลิกภาพ หรือแม้แต่บริษัทต่างชาติหลายที่ยังใช้เพื่อคัดเลือกพนักงานเข้าบริษัทด้วยค่ะ
แบบทดสอบนี้คิดค้นในช่วงยุค 1940 โดยอิซาเบล บริกส์ ไมเออร์ (Isabel Briggs Myers) และแคทเธอรีน แม่ของเธอ ซึ่งทั้งคู่ได้พัฒนาต่อยอดมาจากทฤษฎีจิตวิทยาวิเคราะห์ของคาร์ล ยุง แบบทดสอบ MBTI ตีพิมพ์ครั้งแรกโดย Educational Testing Service (ETS) ในปี ค.ศ. 1962 ต่อมาในช่วงราวๆ ปี ค.ศ. 1968 MBTI ได้รับการแปลถึง 14 ภาษาเลยทีเดียว
ตัวอักษร 4 แบบ
มีตัวอีกษร 4 ตัวสำคัญสำหรับแบบทดสอบ MBTI ที่แสดงถึงลักษณะความชอบหรือความถนัดของเราทั้ง 4 ด้าน โดยมาจากตัวอักษรทั้ง 8 แบบที่ไว้ทดสอบค่ะ ดังภาพด้านล่างเลย
.jpg)
(via : https://atopcareer.com/relationships/)
E vs I : ได้รับพลังงานมาจากไหน?
E มาจาก Extraversion พวกเขาจะรู้สึกมีพลังและกระตือรือร้นมากเมื่อได้พบปะพูดคุยกับคนอื่น ได้เข้าสังคม ได้เจอคนเยอะๆ พวกเขามีแนวโน้มว่าจะสนใจทุกอย่างที่พบเห็นและโฟกัสที่โลกภายนอกซะมากกว่า พูดง่ายๆ ก็คือคนกลุ่มนี้เป็นพวกชอบการเข้าสังคมนั่นเองค่ะ
ขณะที่ I มาจาก Introversion พวกเขาจะเป็นพวกที่ได้รับพลังงานจากแรงกระตุ้นภายในตัวเอง ชอบอยู่คนเดียว อยู่ในโลกของตัวเอง และโฟกัสที่ตัวเองมากกว่าที่จะสนใจคนรอบข้าง พูดง่ายๆ ก็คือเป็นพวกโลกส่วนตัวสูงนั่นเองค่ะ
S vs N : รับรู้ข้อมูลยังไง?
S หรือ Sensing จะรับรู้ข้อมูลผ่านการสัมผัสหรือประสาทสัมผัสทั้ง 5 ชอบอะไรที่จับต้องได้ ชอบอะไรที่มันเรียลและเป็นข้อเท็จจริง
ขณะที่ N หรือ Intuition นั้นจะเป็นพวกที่ชอบรับรู้โดยใช้สัญชาติญาณ มองการณ์ไกล คิดไปถึงอนาคต และมักจะมีวิธีใหม่ๆ ในการทำงานหรือแก้ไขปัญหา แน่นอนว่าคนพวก N มักเปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจและจินตนาการค่ะ
T vs F : ใช้อะไรในการตัดสินใจ?
คนประเภท T หรือ Thinking มักใช้เหตุผลในการตัดสินใจและไม่ใช้ความรู้สึกส่วนตัวมาตัดสิน พวกเขาจะมีกระบวนการคิดที่เป็นเหตุเป็นผล และมักจะคิดๆๆ คิดอย่างละเอียดก่อนลงมือทำการบางอย่างค่ะ
ส่วนคนประเภท F หรือ Feeling นั้นมักใช้ความรู้สึกในการตัดสินใจ พวกเขามักเห็นอกเห็นใจและให้ความสำคัญต่อความรู้สึกของผู้อื่นเป็นอันดับต้นๆ เลยค่ะ
J vs P : มีแนวทางในการใช้ชีวิตยังไง?
Judgment หรือ J เป็นพวกที่ชอบวางแผนเพื่อไล่ล่าเป้าหมาย พวกเขามักจะมีชีวิตที่เป็นระเบียบแบบแผน ตัดสินใจเร็ว ถ้าเมื่อไหร่ไม่มีแผนก็มักจะไม่สบายใจ ต้องรีบวางแผนค่ะ
ส่วน Perception หรือ P มักเป็นพวกชิวๆ ใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ มีชีวิตยืดหยุ่น พร้อมปรับตัวได้ทุกสถานการณ์ แผนน่ะเหรอ? ไม่สำคัญหรอกจ้า ไม่มีก็อยู่ได้ เพราะพวกเขาสามารถรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว
และการผสมผสานของตัวอักษรทั้ง 8 ตัวนี่แหละที่ทำให้เกิดบุคลิกภาพทั้ง 16 แบบอันเป็นเรื่องที่เรากำลังจะพูดถึงกันในวันนี้ รับรองว่า 16 แบบนี้จะช่วยให้การสร้างตัวละครในนิยายเป็นเรื่องง่ายและสนุกมากค่ะ
ทำแบบทดสอบได้ที่ไหน?
แบบทดสอบสำหรับใครคนไหนที่ไม่เคยทำแบบทดสอบ MBTI และไม่รู้ว่าเราเป็นคนประเภทไหนกันแน่ใน 16 แบบนี้ พี่น้ำผึ้งขอส่งต่อลิงค์ให้น้องๆ ไปทำค่ะ โดยน้องๆ สามารถทำแบบทดสอบเวอร์ชั่นภาษาไทยได้ที่นี่ จิ้ม ส่วนใครที่แม่นภาษาอังกฤษก็สามารถทำเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษได้เลยที่นี่ จิ้ม หรือใครอยากทำทั้งสองเวอร์ชั่นก็ไม่ว่ากันค่ะ :D
สำหรับใครที่ทำแล้วหรือรู้แล้วว่าตัวเองเป็นคนประเภทไหน อย่าลืมจำไว้ให้แม่นแล้วมาสร้างตัวละครกันค่ะ
ESFJ
นักเขียนชาว ESFJ โดดเด่นในเรื่องการเขียนที่อิงจากประสบการณ์จริง ชีวิตจริง เรื่องจริง เจ็บจริง รู้สึกจริง พวกเขาชอบเขียนอะไรที่เกี่ยวกับคน ทั้งในเชิงความรู้สึกและพฤติกรรม งานเขียนของพวกเขาจะเน้นเรื่องของความเห็นอกเห็นใจเพื่อนมนุษย์เป็นส่วนใหญ่ ก่อนเริ่มต้นเขียนหนังสือ ชาว ESFJ มักได้ไอเดียจากการพูดคุยกับคนอื่น แต่เวลาลงมือเขียนมักจะเขียนคนเดียวในที่เงียบๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการรบกวนค่ะ
สร้างตัวละครแบบ ESFJ
E : เป็น Extroversion มากกว่า Introversion
ชาว ESFJ ได้รับพลังงานและแรงบันดาลใจจากการสังสรรค์ พบปะพูดคุยและทำกิจกรรมกับคนหมู่มาก ถ้าเมื่อใดก็ตามที่ต้องอยู่คนเดียว พวกเขาจะเริ่มเหงาและขาดแรงบันดาลใจเอาซะดื้อๆ นอกจากนี้พวกเขายังสนุกไปกับการสร้างปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนกลุ่มใหญ่ๆ และมีความสุขมากๆ ถ้าได้รู้จักคนเยอะๆ แต่โดยปกติแล้ว ด้วยความที่ชาว ESFJ ร่าเริงเกินเหตุ พวกเขาเลยมักจะแสดงท่าทางหรือพูดอะไรบางอย่างออกไปโดยไม่ทันคิดค่ะ
S : ชอบใช้ประสาทสัมผัสมากกว่าสัญชาติญาณ
จริงๆ แล้วชาว ESFJ นั้นเป็นพวกที่ชอบความเป็นรูปธรรม ชอบความจริง ชอบอะไรที่มันเรียลๆ พวกเขามักสนใจในข้อมูลที่ได้มาจากประสาทสัมผัสทั้ง 5 ได้แก่รูป เสียง กลิ่น รสและสัมผัส มากกว่าข้อมูลที่ได้รับจากจิตใต้สำนึก ที่สำคัญชาว ESFJ มีแนวโน้มที่จะพึงพอใจกับข้อมูลที่มันเรียล ไม่เพ้อฝันค่ะ
F : ใช้ความรู้สึกมากกว่าความคิด
เวลาที่ชาว ESFJ จะตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง พวกเขามักจะคำนึงถึงความรู้สึกของผู้อื่นก่อนเสมอ คิดแทนคนรอบข้างเลยว่าเขาจะรู้สึกยังไง นั่นเป็นเพราะพวกเขาแคร์และสนใจในความต้องการของผู้อื่น อยากให้ทุกคนแฮปปี้เท่าๆ กัน มันเลยทำให้ชาว ESFJ มีแนวโน้มที่จะเป็นคนขี้สงสารและเห็นอกเห็นใจผู้อื่น มหัศจรรย์มากๆ เลยค่ะ
J : ใช้ชีวิตอย่างมีแบบแผนมากกว่าปล่อยชีวิตให้เรื่อยเปื่อย
เมื่อชาว ESFJ มีเป้าหมาย พวกเขาจะวางแผนล่วงหน้าก่อนเสมอ!! หลังงานเสร็จสิ้นหรือตัดสินใจอะไรได้แล้ว พวกเขาก็จะรู้สึกพึงพอใจในสิ่งที่เลือกมากๆ แถมก่อนลงมือทำอะไรบางอย่าง ชาว ESFJ มักคิดถึงความเป็นไปได้ก่อนเสมอด้วยค่ะ

คาร์ไลล์ คัลเลน คุณหมอแวมไพร์จากทไวไลท์ หน้าตาดูพ่อพระมากๆ ค่ะ
(via : pinterest.com)
กล่าวโดยสรุปก็คือ ชาว ESFJ เป็นคนอบอุ่น ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ชอบทำให้คนสบายใจ ชอบเป็นห่วงคนรอบตัว ความสุขของพวกเขาคือการให้ ให้ และให้! เรียกได้ว่าเกิดมาเพื่อเป็นแม่พระที่แท้ทรู
สิ่งที่ชาว ESFJ ให้ความสนใจมีเพียงแค่ 3 อย่างคือ มิตรภาพ ความปรองดอง และความต้องการของผู้อื่น โดยพวกเขาจะให้ความสำคัญกับความปรารถนาของผู้อื่นมากกว่าตัวเอง อื้อหือ อะไรจะดีเบอร์นี้ ใครเป็นเพื่อนชาว ESFJ นี่ถือว่าโชคดีมากๆ เลยค่ะ
เนื่องจากชาว ESFJ เป็นคนอบอุ่น พวกเขาจึงมักทำให้คนรอบข้างรู้สึกดีได้ง่ายๆ ด้วยการแบ่งปันความอบอุ่นให้แก่คนอื่น แสดงความเห็นอกเห็นใจ ยื่นมือเข้าช่วยเหลือโดยที่คนอื่นไม่ได้ร้องขอ นอกจากนี้ชาว ESFJ ยังชอบเหตุการณ์ที่แสดงถึงความอบอุ่นมากๆ ด้วยค่ะ มันทำให้พวกเขารู้สึกดี สมกับเป็นคนอบอุ่นซะจริง
ตามปกติแล้วชาว ESFJ เป็นคนที่กระตือรือร้น เข้ากับคนง่าย และชอบดึงข้อดีของผู้อื่นออกมาชื่นชมและให้กำลังใจด้วยค่ะ นอกจากนี้เขายังเก่งในเรื่องของการมองมุมกลับปรับมุมมอง เข้าใจมุมมองคนอื่นอย่างถ่องแท้จนในบางครั้งก็ดูเหมือนว่าสามารถอ่านความคิดได้ ซึ่งพอเอาเข้าจริงๆ ก็อ่านคนอื่นออกนั่นแหละค่ะ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นชาว ESFJ จะไม่ชอบเอามากๆ เวลาที่มีคนเมิน แถมยังอาจรู้สึกแย่เมื่อรับรู้ถึงด้านลบของคนที่พวกเขาเป็นห่วงอีกด้วย!!
ตามปกติแล้ว เรามักพบบุคลิก ESFJ ในผู้หญิงเป็นส่วนมาก แต่ถ้าน้องผู้ชายคนไหนที่ได้บุคลิกนี้ก็อย่าเพิ่งตกใจนะคะ เพราะขึ้นชื่อว่าผู้ยังไงก็เป็นผู้เนอะ บรรดาผู้ทั้งหลายจึงยังมีความเข้มแข็ง แต่กลับอ่อนไหวง่ายถ้าได้รู้จักจริงๆ
ESFJ กับเรื่องของความสัมพันธ์
ใครที่ได้ชาว ESFJ เป็นเพื่อนหรือแฟนนับว่าโชคดีมากๆ เลยนะคะ เพราะพวกเขาให้ความสนใจกับครอบครัว แฟนและเพื่อนสนิทเป็นอันดับต้นๆ เลยล่ะ นอกจากนี้ยังเชี่ยวชาญในการอ่านความรู้สึกของผู้อื่น พวกเขารักคนรอบข้างและมีพรสวรรค์ในการรวบรวมคน ชาว ESFJ ให้ความสำคัญกับการต้อนรับและการให้ความเอาใจใส่ ดังนั้นคุณแฟนและคุณเพื่อนจึงรู้สึกดีมากๆ นอกจากนี้ไม่ต้องเป็นห่วงว่าชาว ESFJ จะเจ้าชู้ เพราะพวกเขารักเดียวใจเดียวและแสวงหาความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนค่ะ

แรบบิท ตัวละครจากหมีพูห์ก็เป็นหนึ่งตัวละครสาย ESFJ
(via : pinterest.com)
ESFJ กับการงานอาชีพ
ชาว ESFJ เป็นคนขยันและมีความรับผิดชอบมากๆ ในที่ทำงาน พวกเขามักจะสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเอง อีกทั้งยังยินดีเสียสละประโยชน์ส่วนตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม นอกจากนี้ชาว ESFJ ยังชื่นชอบงานที่ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นค่ะ
ESFJ กับชีวิตในรั้วโรงเรียน
นักเรียนชาว ESFJ เป็นนักเรียนที่ตั้งใจเรียนในห้องมาก แถมยังกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ คุณครูมักชื่นชมนักเรียน ESFJ ว่าเป็นเด็กที่อยู่ในกฎในระเบียบอย่างดีเยี่ยมและชอบช่วยเหลือเพื่อนในห้องค่ะ
จุดแข็งของชาว ESFJ
- เฟรนด์ลี่และอบอุ่น
- สนใจความต้องการของคนอื่น
- มีวินัยในการใช้เงิน
- ใจรักบริการ
- ให้เกียรติผู้อื่น
จุดอ่อนของชาว ESFJ
- ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง
- ชอบรับผิดแทนคนอื่น
- สนใจว่าคนอื่นจะมองตัวเองยังไงมากเกินไป
ตัวละครชาว ESFJ
มีมากมายเลยค่ะสำหรับตัวละคร ESFJ ไม่ว่าจะเป็น
- มอลลี่ วีสลี่ย์ และ เพ็ตทูเนีย เดอร์สลี่ย์ (Harry Potter)
- แรบบิท (Winnie the Pooh)
- คาร์ไลล์ คัลเลน และ เอสเม คัลเลน (Twilight)
- โดโรธี (The Wizard of Oz)
- โดนัลด์ ดักส์ (Disney)
- เวนดี้ ดาร์ลิ่ง (Peter Pan)
- มีอา เตอร์มาพอลิซ (The Princess Diaries)
- อัลเฟรด เพนนีเวิร์ท (Batman)
- บิลโบ แบกกินส์ (The Hobbit) เป็นต้น
.jpg)
พ่อบ้านอัลเฟรดจากแบทแมน
(via : wikipedia.com)
นอกจากนี้พี่น้ำผึ้งยังได้นำเทคนิคการเขียนตามสไตล์นักเขียนชาว ESFJ มาฝากน้องๆ ด้วยค่ะ เผื่อใครที่กำลังเป็นนักเขียนสายนี้อยู่จะได้หยิบนำไปปรับใช้ได้ง่ายๆ บอกเลยว่าถ้าเป๊ะปังแน่นอน ว่าแล้วก็มาดูกันเลยดีกว่าว่าเป็นยังไง
วิธีการเขียนตามแบบ ESFJ
ไม่ว่าจะเขียนหนังสือหรือเขียนนิยาย ชาว ESFJ ก็จะสนุกกับการเล่าเรื่องตามประสบการณ์ส่วนตัว ดังนั้นสไตล์การเขียนของพวกเขาจึงมักเป็นรูปแบบของการเล่าเรื่อง ส่วนเวลาร่างเฟิร์สดราฟจะเขียนแบบกว้างๆ ก่อน แล้วค่อยมาใส่รายละเอียดอีกทีตอนรีไรท์
เนื่องจากชาว ESFJ เป็นคนอบอุ่น ดังนั้นงานเขียนของเขาจึงออกมาละมุน มีการสอดแทรกถ้อยคำเพื่อให้กำลังใจด้วย เชื่อมั้ยคะว่าบ.ก.และนักอ่านต่างพากันชื่นชอบนักเขียนชาว ESFJ มากๆ เพราะพวกเขายินดีที่จะนำคำแนะนำที่ได้รับมาปรับใช้ นอกจากนี้ยังเป็นนักเขียนที่ขยันมากๆ ด้วย เสียอย่างเดียวคือเมื่อขาดฟีดแบ็คหรือคอมเมนต์จากนักอ่านแล้ว ก็จะท้อใจและเทงานตัวเองได้ง่ายๆ นั่นเป็นเพราะว่านักเขียนชาว ESFJ ชอบเวลามีคนชมค่ะ ^^
ไอเดียของนักเขียนชาว ESFJ จะโลดแล่นมากๆ เมื่ออยู่ท่ามกลางกลุ่มคนเยอะๆ แต่จะเขียนนิยายได้ดีมากเมื่ออยู่คนเดียวและเปิดเพลงคลอเบาๆ ค่ะ
จุดบอดของนักเขียนชาว ESFJ
ถึงจะบอกว่าเป็นนักเขียนที่ขยัน แต่เอาเข้าจริงๆ นักเขียนชาว ESFJ ก็มักมีอาการที่เอาแต่คิดๆๆ อย่างเดียวมากกว่าที่จะลงมือเขียนจริง แถมยังเกิดอาการตันได้ง่ายๆ ด้วยจ้า วิธีแก้ก็คือวางแพลนไว้ก่อนว่าบทนี้เราจะเขียนอะไรแล้วลงมือเขียนเลย ส่วนใครที่ตันก็ขอแนะนำให้ตั้งสติ ออกไปเดินเล่น ทำใจให้สบาย ทำหัวปลอดโปร่ง โล่งๆ เดี๋ยวพล็อตก็วิ่งมาหาเองจ้า
ส่วนเรื่องสำนวนการเขียนหรือการเล่นกับความรู้สึกนักอ่าน บอกเลยว่าไม่ห่วงชาว ESFJ เพราะพวกเขาทำมันได้ดีมากอยู่แล้ว ดังนั้นเรื่องเดียวที่น่าห่วงก็คือการตันจนเกิดอาการขี้เกียจเขียนนี่แหละค่ะ

(via: thesixteentypes.tumblr.com)
เป็นอย่างไรบ้างคะกับเรื่องที่พี่น้ำผึ้งนำมาฝากในวันนี้ พูดเลยว่าชาว ESFJ นี่สมกับเป็นแม่พระจริงๆ ค่ะ ดูจากตัวละครในนิยายก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นมอลลี่ วีสลี่ย์ จากแฮร์รี่ พอตเตอร์ หรือ คาร์ไลล์ คัลเลน จากทไวไลท์ ทั้งคู่ต่างมีบุคลิกอบอุ่น โอบอ้อมอารีและมีเมตตา รอยยิ้มแววตาดูใจดี๊ใจดี เห็นแล้วหลงเลย ฮ่าๆ แถมยังชอบช่วยเหลือผู้อื่นอีกด้วย แล้วน้องๆ ล่ะคะคิดว่ายังไงกันบ้าง อย่าลืมเล่าให้พี่น้ำผึ้งฟังด้วยนะคะ
ส่วนครั้งหน้าพี่น้ำผึ้งจะนำบุคลิกไหนมาฝากน้องๆ นั้น รอติดตามเลยจ้า
พี่น้ำผึ้ง :)
ขอบคุณ
https://www.personalitymax.com
https://andreajwenger.com
http://bookriot.com
http://mbtifiction.com/
http://www.preludecharacteranalysis.com
http://www.psychologyjunkie.com




9 ความคิดเห็น
ตามอ่านทุกบทความเลยค่ะ รีเควสintjได้ไหมคะ อยากอ่านของตัวเองบ้าง
รอบทความของINFJอยู่นะคะ ^^
รอของ ENFP ค่า
รีเควสอีกคนน้าาา ขอบทความของ INTP เจ้าค่า
รอค่ะ ภาวนา ^^
INTP ค่ะ
รอ INTJ ค่า อยากอ่านของตัวเอง
ลองเอาตัวละครที่คิดคาแรคเตอร์มาแต่ละตัวไปทำ MBTI มา เจ๋งมาก พยายามคิดแบบตัวละครดู รู้สึกเข้าถึงตัวละครมากขึ้นด้วย อีกอย่างถึงจะเป็นประเภทเดียวกัน แต่ต่างกันนิดหน่อยตรงคะแนน เราก็สามารถเจาะลึกรายละเอียดของตัวละครได้มากขึ้นแล้ว
รอ INFP
พี่ทำ INFP หน่อยนะคะ พอดีเราเป็นไทป์นี้ อ่านครั่งแรกแต่ชอบบทความของพี่มากเลย เรามีเพื่อนเป็น ESFJ พี่เขียนได้ตรงมากเลย แบบตรงสุดๆ
ขอบคุณนะงับบบ อันนี้ INFP จ้า https://www.dek-d.com/writer/47700/