สร้างตัวละครให้ปังตามบุคลิก MBTI
ENFJ ต้นแบบแห่งนักดึงศักยภาพ
สวัสดีค่ะน้องๆ ชาวเด็กดีทุกคน กลเม็ดเคล็ดลับฉบับการสร้างตัวละครและเขียนนิยายตามบุคลิกภาพแบบ MBTI (Myers-Briggs Personality Types) มาแล้วจ้า เมื่อครั้งที่แล้วพี่น้ำผึ้งพาน้องๆ ไปรู้จักชาว ENFP ที่ชอบสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่น วันนี้พี่น้ำผึ้งเลยอดไม่ได้ที่จะพาน้องๆ มารู้จักบุคลิกที่ใกล้เคียงกับนักสร้างแรงบันดาลใจ เพียงแต่พวกเขาเหล่านี้เป็นคนที่ชอบมองหาข้อดีและดึงศักยภาพของผู้อื่นออกมา นับว่าเป็นบุคลิกที่มีคาแร็กเตอร์ชัดเจนมากค่ะ ซึ่งพวกเขาจะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจากชาว ENFJ กระซิบก่อนว่ามิชชั่นของเหล่า ENFJ คือต้องการเปลี่ยนแปลงผู้คนค่า! ฟังดูแล้วเริ่มรู้สึกว่าชาว ENFJ เป็นคนมีพลังใช่มั้ยล่ะ เอาเป็นว่าจะมีพลังหรือไม่นั้น ตามมาดูให้รู้เองเลยดีกว่าจ้า
อะไรคือ MBTI
แบบทดสอบ MBTI หรือ Myers-Briggs Personality Types เป็นเครื่องมือจิตวิทยาที่ใช้เพื่อค้นหาบุคลิกภาพ ตัวตน ความรู้สึกและความนึกคิดของเรา เครื่องมือนี้มีประโยชน์และแม่นยำมากๆ เลยค่ะน้องๆ เพราะแบ่งคนออกเป็น 16 แบบด้วยกัน นอกจากนี้ยังมีการใช้ MBTI แพร่หลายทั่วโลก ทั้งในการเลือกคู่ครอง การพัฒนาตัวเอง การหางานเพื่อให้เหมาะสมต่อบุคลิกภาพ หรือแม้แต่บริษัทต่างชาติหลายที่ยังใช้เพื่อคัดเลือกพนักงานเข้าบริษัทด้วยค่ะ
แบบทดสอบนี้คิดค้นในช่วงยุค 1940 โดยอิซาเบล บริกส์ ไมเออร์ (Isabel Briggs Myers) และแคทเธอรีน แม่ของเธอ ซึ่งทั้งคู่ได้พัฒนาต่อยอดมาจากทฤษฎีจิตวิทยาวิเคราะห์ของคาร์ล ยุง แบบทดสอบ MBTI ตีพิมพ์ครั้งแรกโดย Educational Testing Service (ETS) ในปี ค.ศ. 1962 ต่อมาในช่วงราวๆ ปี ค.ศ. 1968 MBTI ได้รับการแปลถึง 14 ภาษาเลยทีเดียว
ตัวอักษร 4 แบบ
มีตัวอีกษร 4 ตัวสำคัญสำหรับแบบทดสอบ MBTI ที่แสดงถึงลักษณะความชอบหรือความถนัดของเราทั้ง 4 ด้าน โดยมาจากตัวอักษรทั้ง 8 แบบที่ไว้ทดสอบค่ะ ดังภาพด้านล่างเลย
.jpg)
(via : https://atopcareer.com/relationships/)
E vs I : ได้รับพลังงานมาจากไหน?
E มาจาก Extraversion พวกเขาจะรู้สึกมีพลังและกระตือรือร้นมากเมื่อได้พบปะพูดคุยกับคนอื่น ได้เข้าสังคม ได้เจอคนเยอะๆ พวกเขามีแนวโน้มว่าจะสนใจทุกอย่างที่พบเห็นและโฟกัสที่โลกภายนอกซะมากกว่า พูดง่ายๆ ก็คือคนกลุ่มนี้เป็นพวกชอบการเข้าสังคมนั่นเองค่ะ
ขณะที่ I มาจาก Introversion พวกเขาจะเป็นพวกที่ได้รับพลังงานจากแรงกระตุ้นภายในตัวเอง ชอบอยู่คนเดียว อยู่ในโลกของตัวเอง และโฟกัสที่ตัวเองมากกว่าที่จะสนใจคนรอบข้าง พูดง่ายๆ ก็คือเป็นพวกโลกส่วนตัวสูงนั่นเองค่ะ
S vs N : รับรู้ข้อมูลยังไง?
S หรือ Sensing จะรับรู้ข้อมูลผ่านการสัมผัสหรือประสาทสัมผัสทั้ง 5 ชอบอะไรที่จับต้องได้ ชอบอะไรที่มันเรียลและเป็นข้อเท็จจริง
ขณะที่ N หรือ Intuition นั้นจะเป็นพวกที่ชอบรับรู้โดยใช้สัญชาติญาณ มองการณ์ไกล คิดไปถึงอนาคต และมักจะมีวิธีใหม่ๆ ในการทำงานหรือแก้ไขปัญหา แน่นอนว่าคนพวก N มักเปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจและจินตนาการค่ะ
T vs F : ใช้อะไรในการตัดสินใจ?
คนประเภท T หรือ Thinking มักใช้เหตุผลในการตัดสินใจและไม่ใช้ความรู้สึกส่วนตัวมาตัดสิน พวกเขาจะมีกระบวนการคิดที่เป็นเหตุเป็นผล และมักจะคิดๆๆ คิดอย่างละเอียดก่อนลงมือทำการบางอย่างค่ะ
ส่วนคนประเภท F หรือ Feeling นั้นมักใช้ความรู้สึกในการตัดสินใจ พวกเขามักเห็นอกเห็นใจและให้ความสำคัญต่อความรู้สึกของผู้อื่นเป็นอันดับต้นๆ เลยค่ะ
J vs P : มีแนวทางในการใช้ชีวิตยังไง?
Judgment หรือ J เป็นพวกที่ชอบวางแผนเพื่อไล่ล่าเป้าหมาย พวกเขามักจะมีชีวิตที่เป็นระเบียบแบบแผน ตัดสินใจเร็ว ถ้าเมื่อไหร่ไม่มีแผนก็มักจะไม่สบายใจ ต้องรีบวางแผนค่ะ
ส่วน Perception หรือ P มักเป็นพวกชิวๆ ใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ มีชีวิตยืดหยุ่น พร้อมปรับตัวได้ทุกสถานการณ์ แผนน่ะเหรอ? ไม่สำคัญหรอกจ้า ไม่มีก็อยู่ได้ เพราะพวกเขาสามารถรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว
และการผสมผสานของตัวอักษรทั้ง 8 ตัวนี่แหละที่ทำให้เกิดบุคลิกภาพทั้ง 16 แบบอันเป็นเรื่องที่เรากำลังจะพูดถึงกันในวันนี้ รับรองว่า 16 แบบนี้จะช่วยให้การสร้างตัวละครในนิยายเป็นเรื่องง่ายและสนุกมากค่ะ
ทำแบบทดสอบได้ที่ไหน?
แบบทดสอบสำหรับใครคนไหนที่ไม่เคยทำแบบทดสอบ MBTI และไม่รู้ว่าเราเป็นคนประเภทไหนกันแน่ใน 16 แบบนี้ พี่น้ำผึ้งขอส่งต่อลิงค์ให้น้องๆ ไปทำค่ะ โดยน้องๆ สามารถทำแบบทดสอบเวอร์ชั่นภาษาไทยได้ที่นี่ จิ้ม ส่วนใครที่แม่นภาษาอังกฤษก็สามารถทำเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษได้เลยที่นี่ จิ้ม หรือใครอยากทำทั้งสองเวอร์ชั่นก็ไม่ว่ากันค่ะ :D
สำหรับใครที่ทำแล้วหรือรู้แล้วว่าตัวเองเป็นคนประเภทไหน อย่าลืมจำไว้ให้แม่นแล้วมาสร้างตัวละครกันค่ะ
(via : http://cms.bsu.edu)
ENFJ
จริงๆ แล้วชาว ENFJ โชคดีมากๆ เลยนะคะที่เกิดมาเป็นนักสื่อสารตัวแม่ พวกเขาเป็นทั้งนักพูดที่ดีและนักเขียนฝีมือเยี่ยม ทั้งนี้เป็นเพราะว่าชาว ENFJ ชอบอยู่กับผู้คนค่ะ พวกเขาจะมีความสุขมากๆ เมื่ออยู่กับคนเยอะๆ ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่าชาว ENFJ จะชื่นชอบงานเขียนที่เน้นความสัมพันธ์และผู้คนเป็นหลัก
นักเขียนชาว ENFJ มีความสุขกับการดื่มด่ำอยู่ในโลกแห่งจินตนาการของตัวเอง ดังนั้นก่อนลงมือเขียนนิยาย พวกเขาจะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการจมอยู่ในความคิด ร่างพล็อตอยู่ในหัว จนเมื่อตัดสินใจแล้วว่าจะลงมือเขียนนิยาย พวกเขาจะตั้งเป้าหมายและทำการพุ่งชนทันที นับว่าเป็นคนที่มีความมุ่งมั่นมากๆ เลยค่ะ
แต่เห็นแบบนี้แล้ว เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขารู้สึกว่าเขียนนิยายไม่จบสักที พวกเขาจะหมดความอดทนจนพาลเลิกเขียนเอาดื้อๆ ดังนั้นน้องๆ นักเขียน ENFJ ต้องฝึกความอดทนมากกว่านี้ รวมทั้งมีความสุขกับการเขียนนิยายมากกว่าที่จะมุ่งมั่นว่าจะเขียนให้จบลูกเดียว เชื่อเถอะว่าถ้าคิดแบบนี้ มันจะช่วยให้เรามีพลังในการเขียนมากขึ้น
สร้างตัวละครแบบ ENFJ
E : เป็น Extroversion มากกว่า Introversion
ชาว ENFJ ได้รับพลังงานและแรงบันดาลใจจากการสังสรรค์ พบปะพูดคุยและทำกิจกรรมกับคนหมู่มาก ถ้าเมื่อใดก็ตามที่ต้องอยู่คนเดียว พวกเขาจะเริ่มเหงาและขาดแรงบันดาลใจเอาซะดื้อๆ นอกจากนี้พวกเขายังสนุกไปกับการสร้างปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนกลุ่มใหญ่ๆ และมีความสุขมากๆ ถ้าได้รู้จักคนเยอะๆ แต่โดยปกติแล้ว ด้วยความที่ชาว ENFJ ร่าเริงเกินเหตุ พวกเขาเลยมักจะแสดงท่าทางหรือพูดอะไรบางอย่างออกไปโดยไม่ทันคิดค่ะ
N : ชอบใช้สัญชาติญาณมากกว่าประสาทสัมผัส
ชาว ENFJ เชื่อในลางสังหรณ์และการหยั่งรู้ของตัวเองมากกว่าประสาทสัมผัสทั้ง 5 แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่เชื่อในข้อมูลที่ได้มาจากประสาทสัมผัสตัวเองนะ เพียงแต่พวกเขาเชื่อในจิตใต้สำนึกของตัวเองมากกว่า แถมลางสังหรณ์ของพวกเขายังแม่นยำมากๆ ด้วย
F : ใช้ความรู้สึกมากกว่าความคิด
เวลาที่ชาว ENFJ จะตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง พวกเขามักจะคำนึงถึงความรู้สึกของผู้อื่นก่อนเสมอ คิดแทนคนรอบข้างเลยว่าเขาจะรู้สึกยังไง นั่นเป็นเพราะพวกเขาแคร์และสนใจในความต้องการของผู้อื่น อยากให้ทุกคนแฮปปี้เท่าๆ กัน มันเลยทำให้ชาว ENFJ มีแนวโน้มที่จะเป็นคนขี้สงสารและเห็นอกเห็นใจผู้อื่น มหัศจรรย์มากๆ เลยค่ะ
J : ใช้ชีวิตอย่างมีแบบแผนมากกว่าปล่อยชีวิตให้เรื่อยเปื่อย
เมื่อชาว ENFJ มีเป้าหมาย พวกเขาจะวางแผนล่วงหน้าก่อนเสมอ!! หลังงานเสร็จสิ้นหรือตัดสินใจอะไรได้แล้ว พวกเขาก็จะรู้สึกพึงพอใจในสิ่งที่เลือกมากๆ แถมก่อนลงมือทำอะไรบางอย่าง ชาว ENFJ มักคิดถึงความเป็นไปได้ก่อนเสมอด้วยค่ะ
เอ็มม่า ตัวละครจาก Emma ต้นแบบตัวละครสาย ENFJ
(via : austenprose)
ชาว ENFJ เป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเอง สนุกสนาน ฉลาด กระตือรือร้นและกระฉับกระเฉง โดยปกติแล้วพวกเขาให้ความสนใจคนรอบข้างมากกว่าตัวเอง ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมชาว ENFJ ถึงได้เข้าอกเข้าใจและรักผู้คนขนาดนี้ จะเรียกว่าเป็นคนของประชาชนก็ไม่แปลกค่ะ
พอเอาเข้าจริงๆ ไม่ยกมงให้ชาว ENFJ ก็คงไม่ได้ค่ะ เพราะโดยเนื้อเเท้แล้ว พวกเขาเป็นคนที่รักคนรอบข้างมากๆ (เผลอๆ อาจจะมากกว่ารักตัวเองด้วยนะเนี่ย) เข้าใจผู้คน คอยเอาใจใส่และให้กำลังใจคนอื่นเสมอๆ ไม่เพียงแค่นั้น ชาว ENFJ ยังชอบมอบสิ่งดีๆ ให้ผู้อื่นอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นความรัก การสนับสนุน กำลังใจ หรือช่วงเวลาดีๆ จ้า ดังนั้นเวลาอยู่ในวงสนทนา พวกเขาจะเก่งในเลือกการใช้คำพูดเพื่อทำให้ผู้ฟังมีความสุข โอ้ ช่างเป็นคนที่น่ารักอะไรปานนี้หนอ
จุดเด่นของชาว ENFJ คือการที่พวกเขาชอบ “จุดประกาย” และ “ดึงศักยภาพ” ผู้อื่นออกมา พวกเขาจะมีความสุขมากๆ ถ้าเห็นคนรอบตัวเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีเพราะเขา ถ้าหากว่าชาว ENFJ ต้องตาย ก็ตายตาหลับจ้า ดังนั้นเมื่อเทียบกับบุคลิกเพื่อนๆ Extrovert ด้วยกัน เราพบว่าชาว ENFJ ดูค่อนข้างสงวงท่าที ไม่ค่อยเปิดเผยตัวตนจริงๆ ของตัวเองออกมา นั่นเป็นเพราะว่าพวกเขาอยากรู้จักตัวตนของผู้อื่นให้มากขึ้นเพื่อจะได้ดึงสิ่งที่ดีที่สุดของอีกฝ่ายออกมาค่ะ
ENFJ กับเรื่องของความสัมพันธ์
บอกเลยว่าในเรื่องของความสัมพันธ์ ชาว ENFJ เป็นคนที่จริงจังและมีความพยายามมากๆ ถ้าปิ๊งรักใครสักคนแล้วละก็ พวกเขาจะลงทุนตามจีบเช้าเย็นเพื่อให้ได้คนนั้นมาเป็นแฟนเลยจ้า จริงๆ แล้วชาว ENFJ เป็นคนรักหรือเพื่อนที่ดีได้นะ พวกเขาเข้าใจเพื่อนมนุษย์ อบอุ่น เต็มไปด้วยความรักและความห่วงใย รวมทั้งยังชอบเอาใจใส่ แถมยังเก่งในเรื่องของการดึงศักยภาพและข้อดีของคนรักออกมาด้วย ไม่เพียงแค่นั้น พวกเขายังชอบสร้างแรงบันดาลใจให้คนรอบตัว ดังนั้นใครที่มีเพื่อนหรือแฟนเป็นชาว ENFJ คอนเฟิร์มเลยว่าชีวิตมีแต่แฮปปี้จ้า

พีต้า เมลลาร์ค หนึ่งในตัวละครสาย ENFJ
(via : justjaread.com)
ENFJ กับการงานอาชีพ
ชาว ENFJ รู้สึกกระปรี่กระเปร่าเมื่อพวกเขาได้ทำงานประเภทที่ต้องช่วยเหลือผู้อื่น พวกเขาจะทำงานได้ดีมากเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ได้ติดต่อสื่อสารกับผู้อื่น แต่ก็จะเบื่อง่ายได้เช่นกันถ้างานนั้นเป็นงานเอกสารและไม่ได้ติดต่อกับคนเยอะๆ โดยปกติแล้วชาว ENFJ เป็นพวกชอบให้คำปรึกษาและชอบดึงศักยภาพของผู้อื่น ดังนั้นงานที่เหมาะกับพวกเขามากๆ คงหนีไม่พ้นเป็นคุณครู อาจารย์ หรือไม่ก็นักให้คำปรึกษาจ้า
ENFJ กับชีวิตในรั้วโรงเรียน
นักเรียนชาว ENFJ มักจะเป็นต้นแบบให้ผู้อื่นในโรงเรียน พวกเขาชอบมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น เปลี่ยนทุกสิ่งที่เกิดขึ้นให้เป็นด้านดีๆ ในชีวิต สำหรับพวกเขา การเรียนในห้องเรียนก็เปรียบเหมือนบทเรียนหนึ่งของชีวิตนั่นแหละค่ะ
จุดแข็งของชาว ENFJ
- สามารถดึงศักยภาพของผู้อื่นออกมาได้
- ง่ายในการรับรู้ความรู้สึกผู้อื่น
- มีทักษะด้านการสื่อสารที่ยอดเยี่ยม
- ซื่อสัตย์และจริงใจ
- ให้เกียรติผู้อื่น
จุดอ่อนของชาว ENFJ
- ชอบปกปิดความรู้สึกของตัวเองมากเกินไป จนบางครั้งทำให้กลายเป็นคนเก็บกด
- ชอบปกป้องผู้อื่นมากเกินไป
- มักโทษตัวเองเสมอ
ตัวละครชาว ENFJ
- เอ็มม่า วู้ดเฮาส์ (Emma)
- อลิซาเบธ เบ็นเน็ท (Pride and Prejudice)
- เอมี่ มาร์ช (Little Women)
- เอ็ดมุนด์ เบอร์แทรม (Mansfield Park)
- โบโรเมียร์ (The Lord of the Rings)
- แอนนา คาเรียนนา (Anna Karenina)
- พีต้า เมลลาร์ค (The Hunger Games)
- อาเธอร์ เคลนนัม (Little Dorrit)

อาเธอร์ ตัวละครจาก Little Dorrit
(via : slate.com)
นอกจากนี้ใครที่เป็นนักเขียนชาว ENFJ ต้องดีใจแน่ๆ เลยค่ะ เพราะพี่น้ำผึ้งได้นำเทคนิคการเขียนนิยายสไตล์ ENFJ มาฝาก รับรองได้ว่าถ้าหยิบไปใช้ ฝีมือการเขียนนิยายของเราจะต้องเป๊ะปังขึ้นแน่นอนค่ะ มาดูกันดีกว่าว่าเป็นยังไงบ้าง
วิธีการเขียนตามแบบ ENFJ
เพื่อเขียนนิยายให้จบอย่างรวดเร็ว ชาว ENFJ จะกำหนดระยะเวลาในการเขียนนิยายให้จบอย่างชัดเจน รวมทั้งเขียนพล็อตเวอร์ชั่นละเอียดก่อนลงมือเขียนนิยายเสมอค่ะ สำหรับชาว ENFJ บางคนชอบเขียนตอนเปิดเรื่องและตอนจบรอไว้ก่อน เพื่อเป็นหลักประกันว่ายังไงนิยายเรื่องนี้ก็ต้องจบอยู่แล้ว
ส่วนเรื่องแรงบันดาลใจในการเขียนนิยายนั้น บอกเลยว่าหาได้จากคนรอบข้าง ประมาณว่าแค่เห็นคนหนึ่งทำอะไรสักอย่าง พวกเขาก็ได้ไอเดียมาเขียนนิยายแล้วจ้า เพราะงั้นหายห่วงเรื่องนิยายตันได้เลย
เวลาเขียนนิยาย ชาว ENFJ จะชอบใช้ภาษาที่เป็นกันเอง เข้าถึงง่าย และเลือกใช้ถ้อยคำที่สามารถทำให้ผู้อ่านอินไปกับงานเขียนของเขา ซึ่งเมื่อเราลองอ่านผลงานของชาว ENFJ เราจะรู้เลยว่างานเขียนของเขาเต็มไปด้วยแง่คิดและถ้อยคำที่ให้กำลังใจ (หรือเป็นแรงบันดาลใจให้แก่คนอื่น) นั่นเป็นเพราะว่าพวกเขาอยากเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนหันมาพัฒนาและเปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้น
จุดบอดของนักเขียนชาว ENFJ
มีปัญหาเพียง 2 อย่างที่พบในกลุ่มนักเขียนชาว ENFJ คือ หนึ่ง พวกเขาพยายามสอดแทรกแง่คิดหรือสร้างแรงบันดาลใจให้นักอ่านมากเกินไป จนเป็นเหตุให้ตัวเองตัน ไอเดียไม่ไหลลื่นแม้ว่าจะมีพล็อตอยู่เต็มหัวก็ตาม วิธีแก้ง่ายๆ ก็คือ อย่าเพิ่งประดิษฐ์ข้อความ แต่ให้ปลดปล่อยจินตนาการและเขียนมันไปเรื่อยๆ ตามที่คิดออก จากนั้นจึงมาเติมนู่นนั่นนี่หรือปรับภาษาทีหลังจ้า
สอง นักเขียนชาว ENFJ เป็นพวกใจร้อน เมื่ออัพนิยายลงเว็บก็อยากจะให้มีคนมาเมนต์เยอะๆ แต่พอผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามความต้องการก็พาลหงุดหงิดและเลิกอัพทันที เผลอๆ อาจจะถึงขั้นเทนิยายด้วยจ้า เพราะงั้นพี่น้ำผึ้งอยากให้น้องๆ ใจเย็นสักนิดนึง ค่อยๆ อัพต่อไป เชื่อเถอะว่ามันต้องมีสักวันที่มีคนมาเมนต์นี่แหละจ้า

(via: thesixteentypes.tumblr.com)
เป็นอย่างไรบ้างคะกับเรื่องราวที่พี่นำมาฝากในวันนี้ นับว่าเป็นบุคลิกที่น่าสนใจมากๆ เลยค่ะ ยิ่งถ้าจับมาอยู่ในนิยายของเรา ยิ่งเสริมให้นิยายโดดเด่นมากขึ้น ส่วนตัวพี่น้ำผึ้งชอบมิชชั่นของชาว ENFJ ที่ว่า ต้องการเห็นคนเปลี่ยนแปลงเป็นไปในทางที่ดีขึ้น พวกเขาเลยพยายามดึงศักยภาพของผู้อื่นออกมา แล้วน้องๆ ล่ะคะ คิดเห็นว่าอย่างไรบ้าง อย่าลืมเล่าให้พี่น้ำผึ้งฟังด้วยนะคะ
ส่วนครั้งหน้าพี่น้ำผึ้งจะนำบุคลิกไหนมาฝากน้องๆ นั้น รอติดตามเลยจ้า
พี่น้ำผึ้ง :)
ขอบคุณ
https://www.personalitymax.com
https://andreajwenger.com
http://bookriot.com
http://mbtifiction.com/
http://www.preludecharacteranalysis.com
http://www.psychologyjunkie.com




5 ความคิดเห็น
รอINFPอยู่นะคะ 555
ถึงจะอ่านไม่จบ(เพราะไปทำแบบทดสองแล้วดูของตัวเอง)แต่ก็เป็นความรู้ที่ดีมากๆเลยครับ ทำให้เรารู้ว่าตัวเองเป็นแบบไหน มองภาพได้ชัดเจนมาก
เราได้ INFP อะคะ ไม่ได้ล้อเล่น เราได้อันนี้จริงคะๆ
แฟนผมก็เป็นคนประเภทนี้ แต่ENFJ นี่ขี้บ่นด้วยเหรอครับ
บ่นเพราะเป็นห่วงนี่แหละคุณ เราเป็น enfj เหมือนกัน เข้าใจเลยว่าบางทีที่บ่นนี่ไม่ใช่หงุดหงิดอะไรหรอกนะ แต่อยากให้คนที่ถูกบ่นดีขึ้นต่างหาก ถึงบางทีจะบ่นมากจนน่ารำคาญก็เถอะ แง้
ตรงมากค่ะ ขอบคุณที่เรียบเรียงมาให้และยังสรุปแนวทางการเขียนมาให้ด้วยค่ะ เป็น ENFJ พฤติกรรมการเขียนเป็นอย่างที่ว่ามาเลย ชอบเขียนงานเรื่องยาวๆ ไม่จบใจร้อน ส่วนใหญ่จะทำจบแค่เรื่องสั้น อาจจะต้องวางแผนขอบเขตการจบงานให้ดีกว่านี้จริงๆ
บทความเขียนมาอ่านเพลินเข้าใจง่ายด้วย นี่ส่งต่อบทความอื่นให้คนรู้จักอ่านไทป์ของตัวเองเลยค่ะ ;)