เปรียบเทียบให้ฟัง!
ขายตอนล่วงหน้า VS ขายแบบแพ็กเกจ
ระบบไหนเหมาะกับนิยายของเรา

สวัสดีค่ะ ชาวนักเขียนเด็กดีทุกคน ไม่กี่เดือนมานี้ เว็บไซต์เด็กดีของเราได้เปิดระบบขายใหม่ที่เรียกว่า “ระบบขายตอนล่วงหน้า” ซึ่งเป็นระบบที่นักเขียนสามารถขายนิยายเป็นตอนๆ ได้ และหลังจากเปิดระบบนี้ ก็ทำให้นักเขียนหลายๆ คนเกิดความสงสัยว่า มันแตกต่างจากระบบขายแบบเก่าอย่างไร และเราควรจะเลือกขายแบบไหน หรือควรจะขายทั้งสองแบบเลยดี วันนี้ แอดมินก็เลยรวบรวมจุดเด่นของทั้งสองระบบมาฝากผ่านคำถามทั้ง 4 ข้อด้านล่างนี้ ใครที่ไม่แน่ใจว่าจะขายในระบบไหน ลองตอบคำถามด้านล่างดูค่ะ เชื่อว่าถ้าตอบครบ 4 ข้อ ก็จะรู้ได้แล้วว่าเราเหมาะหรือไม่เหมาะกับระบบขายแบบไหน 

.........................
 

Q 1 : เขียนไปขายไป หรือ เขียนจบค่อยขายทีเดียว 

ถ้าหากนิยายยังไม่จบ ยังเขียนอยู่เรื่อยๆ และมีจำนวนตอนค่อนข้างเยอะ อาจเป็นนิยายที่มีภาคต่อหลายๆ ภาค หรือแบ่งซอยตอนค่อนข้างเยอะ มีสต็อกตุนเอาไว้พอสมควร ทำให้ลงได้สม่ำเสมอเป็นประจำ มีแฟนคลับอยู่จำนวนมากแล้ว อันนี้แนะนำให้ขายแบบตอนล่วงหน้าค่ะ ยิ่งถ้านักอ่านอ่านกันทุกวัน และติดใจนิยาย ถ้าขายตอนล่วงหน้า จะได้รับผลตอบรับที่ดี

แต่ถ้าหากคุณเป็นสายไม่ชอบเขียนไปขายไปให้ยุ่งยาก เพราะรู้สึกว่ารบกวนสมาธิหรือกลัวจะโดนนักอ่านมากดดันทวงนิยาย เมื่อไหร่จะเขียนจบ ที่ขายไปไม่มีตอนจบเหรอ รอเขียนจบทีเดียวก่อนแล้วค่อยขายดีกว่า เราขอแนะนำให้ขายแบบแพ็กเกจค่ะ อย่างหลังนั้น ต้องลงนิยายให้จบเรื่องหรือจบภาค หรือจบช่วงใดช่วงหนึ่ง จึงจะสามารถส่งมาขายได้ โดยในแพ็กเกจที่ส่งมาขาย ต้องมีตอนจบด้วยนะคะ  

Q 2 : ขายราคาเบาๆ หรือ ขายราคาคุ้มค่า 

อันนี้ขอให้ถามตัวเองว่า เราอยากจะขายราคาแบบไหน ถ้าหากนักอ่านของเราเป็นเยาวชน นักเรียน นิยายของเราวัยรุ่น เนื้อหาเหมาะกับคนอายุน้อยๆ อันนี้อาจจะเหมาะกับการขายราคาเบาๆ ซึ่งก็คือระบบอ่านตอนล่วงหน้า โดยอาจจะซอยขายเป็นตอนๆ ตอนละ 1-3 บาท เพื่อให้นักอ่านได้จ่ายแบบราคาไม่แรงมาก

แต่ถ้าหากคุณคิดว่าผลงานมีปริมาณมากระดับหนึ่งแล้ว และเนื้อหาสนุกคุ้มค่า เข้มข้นมากๆๆ ก็อาจจะไปเลือกขายแบบแพ็กเกจ ซึ่งจะมีจำนวนตอนที่มากกว่าและมีราคาที่สูงกว่า แต่คนอ่านก็จะได้เนื้อหาที่เยอะกว่าเช่นกัน ลองสังเกตดูก็ได้ว่าคนอ่านของคุณมีลักษณะแบบไหน จะได้ขายได้เหมาะสมตรงตามความต้องการของคนอ่าน  

Q 3 : อยากให้อ่านได้ก่อนคนอื่น หรือ อยากให้ได้นิยายไปเก็บไว้คนเดียว

ถ้าหากเลือกขายนิยายเป็นตอน ก็ต้องรู้ว่าจุดเด่นของระบบนี้คือนักอ่านจะได้อ่านเนื้อหานิยายล่วงหน้าตามระยะเวลาที่นักเขียนกำหนด  นักอ่านประเภทนี้จะรักนิยายของคุณมาก เป็นแนวแฟนพันธุ์แท้ และไม่อยากรอแล้ว ใจร้อนอยากจะอ่านก่อนใคร อยากรู้เนื้อเรื่องเร็วๆ แต่คุณก็ต้องรู้ไว้ว่า พวกเขาจะได้เนื้อหาไปก่อนตามระยะเวลาที่กำหนด  และหลังจากนั้นเนื้อหานั้นๆ ก็จะสามารถอ่านฟรีได้

ในขณะที่ถ้าขายแบบแพ็กเกจ คนอ่านจะได้นิยายไปเก็บเอาไว้ในเครื่อง และสามารถอ่านได้ตลอดไป ส่วนคนอื่นๆ ที่ไม่ได้อุดหนุนไม่สามารถอ่านนิยายของเราได้ ต้องคิดให้ดีๆ ว่านักอ่านของเราน่าจะเป็นแบบไหน 

Q 4 : ขายแยกตอน หรือ ขายรวมตอน 

ทุกคนน่าจะรู้อยู่แล้วว่า ระบบขายตอนล่วงหน้า เป็นการขายนิยายเป็นตอนๆ ซึ่งในแต่ละเรื่องจะขายกี่ตอนก็ได้ อาจจะขายทั้งหมด 10 ตอน ก็จะแยกออกจากกัน เวลาซื้อ นักอ่านจะต้องแยกอุดหนุนเป็นตอนๆ ตอนใดตอนหนึ่ง แต่ถ้าขายแบบแพ็กเกจ จะเป็นขายแบบรวม ในแต่ละแพ็กเกจจะมีตอนนิยายมากกว่าหนึ่งตอน บางแพ็กเกจอาจมีมากถึง 100 ตอน ซึ่งนักอ่านก็จะได้เนื้อหาทั้งหมดไปอ่านพร้อมกันทีเดียว

ลองถามตัวเองดูว่าเราสะดวกแบบไหน สะดวกขายเป็นตอนใดตอนหนึ่งหรือสะดวกรวมตอนเข้าด้วยกันหลายๆ ตอนแล้วขายพร้อมกันทีเดียว อันนี้ขึ้นอยู่กับความชอบและรสนิยมของเราเอง ที่สำคัญ อย่าลืมสังเกตว่านักอ่านของเราชอบแบบไหนด้วย จะได้ขายได้ตรงตามความต้องการของคนอ่าน 

......................
 

อ่านจบครบ 4 ข้อแล้วเป็นยังไงบ้างคะ เข้าใจระบบขายทั้งสองแบบมากขึ้นไหม แอดมินคิดว่าทั้งสองระบบต่างก็มีข้อดีในแบบของตัวเอง สิ่งสำคัญน่าจะอยู่ที่ว่าเราควรวิเคราะห์ดูว่านิยายเป็นแบบไหน และนักอ่านของเราชอบแบบไหน จะได้เลือกได้ถูกว่า… จะขายแบบไหนให้เข้ากับนิยายของเรา แอดมินเชื่อว่าถ้าเลือกระบบการขายที่เหมาะสม ยอดขายจะต้องออกมาดีอย่างแน่นอนค่ะ แต่ที่อยากแนะนำเพิ่มเติมและคิดว่าน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีก็คือ ทดลองขายทั้งสองระบบแล้วนำมาเปรียบเทียบกันโดยทำสถิติเอาไว้ น่าจะช่วยให้เราสามารถขายนิยายได้ดีขึ้นในอนาคตด้วย 

ยังไงอยากให้นักเขียนลองเลือกระบบขายที่เหมาะกับนิยายของเรากันดูนะคะ หรือหากไม่แน่ใจหรือสงสัยตรงไหน ก็สามารถอีเมลมาถามทางทีมงานได้เลยค่ะ writer@dek-d.com เปิดรับทุกคำถามค่ะ

 

ทีมงานนักเขียนเด็กดี