นิยายแนะนำประจำสัปดาห์ The Lord Of The Battlefield : 7 วิธีเอาตัวรอดเมื่อต้องทะลุมิติไปเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ตามแบบฉบับ ‘เทวา’

 นิยายแนะนำประจำสัปดาห์ The Lord Of The Battlefield : 

7 วิธีเอาตัวรอดเมื่อต้องทะลุมิติไปเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ตามแบบฉบับ ‘เทวา’

สวัสดีค่ะชาวเด็กดีทุกคน ลองจินตนาการดูว่า ถ้าหากวันหนึ่งมีมอนส์เตอร์มาบุกทำลายล้างโลก คนที่รอดชีวิตคือคนที่แข็งแกร่งและเป็นมนุษย์กลายพันธุ์เท่านั้น ขณะที่คุณเป็นแค่มนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งที่อยากมีลมหายใจต่อไป คุณมีทางเลือกแค่สองทางระหว่าง “ทำทุกอย่างเพื่อให้รอดชีวิต แม้จะต้องกลายเป็นมนุษย์กลายพันธุ์” กับ “ยังคงเป็นมนุษย์ธรรมดาที่อ่อนแอและมีสิทธิ์ตายได้” คุณจะเลือกอะไร?

นี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับ “เทวา” พระเอกของเรื่อง The Lord Of The Battlefield ผลงานจากปลายปากกาของ Slayer D. นิยายไซไฟแฟนตาซีสุดมันส์ที่จะพาคุณทะลุมิติไปยังโลกที่เต็มไปด้วยมนุษย์กลายพันธุ์ และการต่อสู้เพื่อเอาตัวรอดจากบรรดามอนส์เตอร์แสนอันตราย จากเด็กกำพร้าธรรมดาที่ต้องกระเสือกกระสนหนีตาย สู่การเป็นหนึ่งในรั้วโรงเรียนทหารสุดโหดที่สอนให้เป็นมนุษย์กลายพันธุ์สุดแข็งแกร่ง ในวันนี้พี่น้ำผึ้งนำเรื่องราวการเอาตัวรอด 7 อย่างของเทวาเมื่อต้องเป็นมนุษย์กลายพันธุ์มาฝากทุกคนค่ะ เผื่อช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนได้ 7 วิธีที่ว่านั้นจะมีอะไรบ้าง ตามมาดูเลยจ้า
 

คำโปรย

คนธรรมดาหน้าตาบ้านๆ หลุดเข้าไปในโลกคู่ขนานในปีเดียวกัน ที่นั่นมีมนุษย์กลายพันธุ์และมอนสเตอร์
เขาทีไม่มีพลังอะไรเลยจะรอดไปได้อย่างไร...แต่เดี๋ยวก่อน เขามีระบบนิ!

 

The Lord Of The Battlefield

ผู้แต่ง : Slayer D.
หมวด : ฟรีสไตล์ / แฟนตาซี
จำนวนตอน : 231 ตอน

 

01 จงเป็นมนุษย์กลายพันธุ์เพื่อเอาตัวรอด

“เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม” คงเป็นสำนวนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสถานการณ์นี้แล้ว ในโลกของนิยาย The Lord Of The Battlefield แห่งนี้ได้แบ่งชนชั้นและคุณค่าของคนด้วยพลัง ดังนั้นใครก็ตามที่เป็นมนุษย์กลายพันธุ์จะกลายเป็นคนชั้นสูง ขณะที่คนไม่มีพลังอะไรเลยต้องกระเสือกกระสนเพื่อเอาตัวรอดให้ได้!

แน่นอนว่า “การเป็นมนุษย์กลายพันธุ์” ย่อมเป็นวิธีแรกๆ ที่ควรทำหากต้องการเอาตัวรอดในโลกที่เต็มไปด้วยมอนสเตอร์แห่งนี้ ทันทีที่เรากลายเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ เท่ากับว่าเรากำลังถือไพ่เหนือกว่า เพราะนาทีนั้นเราไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาแล้ว แต่เรากำลังเป็นมนุษย์ที่มีพลังเหนือธรรมชาติ ซึ่งมันจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเอาชนะมอนสเตอร์ที่โจมตีเพราะต้องการเอาชีวิตเราได้ด้วย (ตั้งครึ่งหนึ่งแน่ะ)

 


 

02 รีบเข้าโรงเรียนทหารเพื่อเรียนรู้การต่อสู้

โรงเรียนอาจเป็นสถานที่เรียบง่ายที่ไว้เรียนหนังสือ พบปะเพื่อน ไม่ได้มีกิจกรรมโลดโผนเสี่ยงอันตราย แต่นั่นไม่ใช่สำหรับ “โรงเรียนทหารที่ 2” ที่ปรากฏใน The Lord Of The Battlefield เพราะที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ฝึกทั้งโหด ทั้งป่าเถื่อน ตั้งขึ้นเพื่อการต่อสู้กับทุกสิ่งโดยเฉพาะ

เทวาได้เข้าเรียนยังโรงเรียนทหารที่ 2 เพื่อฝึกปรือความสามารถ เรียนรู้วิธีการต่อสู้สำหรับการเตรียมพร้อมรับมือกับมอนสเตอร์ในอนาคต อย่างที่บอกไป โรงเรียนทหารที่ 2 ไม่ใช่โรงเรียนธรรมดาเพราะเป็นโรงเรียนที่ตั้งขึ้นเพื่อการต่อสู้ นักเรียนจะได้เรียนการต่อสู้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นระยะใกล้ ระยะไกล การยิงปืนหรือการต่อสู้มือเปล่า

เรียกได้ว่าจบจากโรงเรียนนี้แล้ว นักเรียนทุกคนต้องรับมือกับสิ่งอันตรายที่เข้ามาโจมตีได้ทุกรูปแบบเลยทีเดียว แน่นอนว่าเทวา พระเอกของเราได้เรียนรู้การต่อสู้มากมายในโรงเรียนแห่งนี้ จนในที่สุดก็พัฒนาตัวเองให้แกร่งขึ้นอย่างไร้เทียมทานได้

 


 

03 จงเป็นคนที่มีความพยายาม

สิ่งหนึ่งที่พี่คิดว่าขับเคลื่อน The Lord Of The Battlefield และมันน่าจะเป็นแก่นสำคัญของเรื่องคือ “ความพยายาม” ของตัวละคร หากเราต้องหลงไปอยู่ในอีกมิติหนึ่ง ความพยายามเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ โดยเฉพาะความพยายามในการเอาตัวรอดและไม่ตกเป็นเหยื่อของศัตรู

ในโลกของ The Lord Of The Battlefield คนอ่อนแอมักตกเป็นเบี้ยล่างให้กับคนแข็งแกร่งกว่าเสมอ เทวาจึงต้องพยายามฝึกฝนตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้นเสมอ ไม่มีวันไหนที่เขาไม่ฝึกฝนฝีมือเลย เขาเชื่อว่าคนเราสามารถไต่เต้าจากจุดต่ำสุดไปยังจุดสูงสุดได้ จนทักษะความสามารถของเทวาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดผลลัพธ์จากความพยายามก็ไม่ได้ทำร้ายเขาเลย เพราะเทวาสอบเข้าโรงเรียนทหารที่สองได้เป็นอันดับ 1 ของรุ่น!! แต่นั่นก็เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้นสำหรับการเป็นที่หนึ่งนอกรั้วโรงเรียน

 


 

04 รู้จักพัฒนาตัวเองอย่างสม่ำเสมอ

นอกเหนือจากความพยายามแล้ว “การพัฒนาตัวเองอย่างสม่ำเสมอ” เป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติที่ช่วยให้เทวาสามารถเอาตัวรอดได้ทุกสถานการณ์  ตลอดทั้งเรื่องเราพบว่าเทวาไม่ได้พัฒนาเพียงแค่การต่อสู้เท่านั้น แต่เขายังพัฒนาตัวเองในด้านอื่นอีกด้วย โดยเฉพาะเรื่องของสุขภาพจิต สภาวะอารมณ์และทัศนคติ

เดิมทีเทวาเป็นคนสุดโต่งกับทุกเรื่อง ทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง อย่างเช่นตอนที่ซีโร่หายตัวไป เทวาแทบเป็นบ้าจนเกือบคุมตัวเองไม่ได้ นำไปสู่การทะเลาะกับคาเรนจนต้องปะทะกัน! แต่เมื่อคาเรนพูดเตือนสติเขาทำนองว่า “ตอนนี้เทวายังแกร่งไม่มากพอนะ ต้องฝึกฝนมากกว่านี้” เจ้าตัวถึงได้ใจเย็นลงและสำนึกผิดในสิ่งที่ทำไป จากนั้นจึงเริ่มต้นปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นกว่าเดิม ชัดเจนว่าถ้าอยากเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ที่ประสบความสำเร็จ แค่ทักษะการต่อสู้มันไม่พอ ยังต้องมีสุขภาพจิตและสภาวะอารมณ์ที่ดีด้วย

 


 

05 ความประมาทคือหนทางสู่ความล้มเหลว

ด้วยความที่เทวาพัฒนาจิตใจตัวเองไปพร้อมกับฟิตร่างกายให้แข็งแรง ทำให้เขากลายเป็นคนที่ใจเย็นมากขึ้น เขาสามารถไตร่ตรองการกระทำตัวเองได้มากขึ้นว่าอะไรควรทำหรือไม่ควรทำ ยิ่งเทวามีสติ เขายิ่งสามารถวางแผนการต่อสู้ต่อได้เฉียบจนใครก็ตามไม่ทัน

อย่างไรก็ตาม เห็นแบบนี้แล้วเทวาเคยประมาทมาก่อนนะ เขาเหลิงในพลังตัวเอง คิดว่าตัวเองเก่ง นั่นทำให้เขาต้องเฉียดความตายหลายครั้งต่อหลายครั้ง ยกตัวอย่างเช่นตอนที่เทวาสู้กับอิจิโร่ เทวานึกประมาท คิดว่าตัวเองสามารถเอาชนะอิจิโร่ได้ แต่ผลสุดท้ายกลับตรงข้าม อิจิโร่ทำเขาเกือบตาย ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เทวาจึงได้เรียนรู้มากขึ้นว่า “เขาไม่ควรประมาทกับอะไรทั้งนั้น แม้แต่เรื่องเล็กน้อยก็ตาม”

 


 

06 หากจำเป็นต้องฆ่า ก็ต้องฆ่าเพื่อความอยู่รอด

ทฤษฎีนี้อาจใช้ไม่ได้ในโลกแห่งความเป็นจริง เพราะการฆ่าถือเป็นการกระทำที่โหดร้ายป่าเถื่อนมาก แต่ในโลกแห่งความอันตรายที่มนุษย์โดนมอนสเตอร์จู่โจมตลอดเวลาอย่าง The Lord Of The Battlefield แล้วนั้น การฆ่าถือเป็นเรื่องสำคัญ

ทั้งนี้เทวาถือคติ “ฆ่าเฉพาะคนที่ต้องการฆ่าตัวเองก่อน” และ “ฆ่าเพื่อการเอาตัวรอดเสมอ” เท่านั้น อย่างเช่นตอนที่เทวาถูกเคนจับตัวไป เคนต้องการจะฆ่าเทวา เขาจึงต้องชิงลงมือสังหาอีกฝ่ายก่อน หรือแม้กระทั่งตอนที่อยู่ในคุก เทวาถูกนักโทษทั้งหมดในนั้นโจมตี เขาจึงป้องกันตัวเองและจัดการสังหารทุกคนเพื่อเอาตัวรอด!
 


 

07 ใช้ความรักเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญ

เห็นทีคำคมที่ว่า “ปกป้องสิ่งที่รักเสมอ (Always protect what you love)” จะเป็นจริงสำหรับนิยายเรื่องนี้ เวลาเราอยากทำอะไรสักอย่างให้สำเร็จ เราต้องมีแรงผลักดัน และไม่มีอะไรจะดีไปกว่า “ความรัก” อีกแล้ว นั่นแหละคือแรงผลักดันชั้นดีที่จะช่วยให้เราพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง (ในกรณีนี้ของเทวาคือฝึกฝนทักษะการต่อสู้และสภาวะจิตใจ)

ตอนที่เทวาต้องปะทะกับพวกลูเซียสที่ดรีมเวิลด์ คาเรน เพื่อนสนิทของเทวาเกือบถูกลูเซียสสังหาร ในตอนนั้นเทวาเพิ่งรู้สึกตัวว่าแท้จริงแล้วเขารักคาเรนขนาดไหนและเขาก็ต้องการปกป้องคาเรนให้ได้! ด้วยความรู้สึกนั้นทำให้เขาฝืนขีดจำกัดตัวเองจนสามารถปกป้องคาเรนและพากันหลบหนีออกมาได้สำเร็จ ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าความรักจะทำให้มีพลังขนาดนี้ ^ ^
 


 

สำหรับ The Lord Of The Battlefield ของ Slayer D. เรื่องนี้ คอไซไฟแฟนตาซีเป็นปลื้มแน่ อ่านแล้วให้ฟีลเหมือนกำลังนอนดู X-Men ผสมกับ Maze Runner เลยค่ะ เพราะเหล่ามนุษย์กลายพันธุ์ในเรื่องต้องพยายามด้นรนต่อสู้เพื่อเอาตัวรอด บีบรัดหัวใจมากๆ เวลาเห็นตัวละครถูกกดดัน อ่านไปลุ้นไปว่าตัวละครจะสู้ยังไงให้ชนะ

อีกทั้งเห็นโทนเรื่องให้กลิ่นอายของดิสโทเปียแบบนี้แล้ว แต่ก็ไม่ได้ตึงเครียดตลอดทั้งเรื่องนะ ยังมีความหวานที่ช่วยให้นิยายเรื่องนี้กลมกล่อมแฝงอยู่ ก็แหม...เทวา พระเอกของเรานี่ขี้อ่อยเบอร์แรง ชอบกุ๊กกิ๊กกับสาวๆ ในสต็อกให้คนโสดอิจฉาเป็นว่าเล่น สกิลการอ่อยแต่ละอย่างพร้อมทำให้เราอมยิ้มได้ตลอดเวลาเลย!

นักอ่านคนไหนที่กำลังตามหานิยายแนวไซไฟแฟนตาซีที่มีระบบเกมมาเสริม ห้ามพลาด The Lord Of The Battlefield รับรองว่าได้สัมผัสประสบการณ์สุดล้ำไม่เหมือนใคร ทั้งฉากบู๊ แอ็กชั่น ฟาดฟันสุดมันส์ แถมเซอร์วิสด้วยฉากโรแมนติกให้นักอ่านเขิน! ซึ่งตอนนี้นิยายได้ดำเนินเรื่องมาถึงภาค 3 แล้วนะคะ อ่านจุใจช่วงกักตัวแน่นอน

ยินดีต้อนรับเข้าสู่โลกของมนุษย์กลายพันธุ์ค่ะ

Review นิยายน่าอ่าน : 10 เหตุผลที่คุณต้องอ่าน The Lost Swordsman เมื่อทหารคนเก่งขอลาออกไปเป็นจอมยุทธ์!      Review นิยายน่าอ่าน : 10 เหตุผลที่คุณต้องอ่าน The Lost Swordsman เมื่อทหารคนเก่งขอลาออกไปเป็นจอมยุทธ์!

พี่น้ำผึ้ง
พี่น้ำผึ้ง - Columnist นักเขียนที่ชอบส่งต่อพลังบวกให้ทุกคน

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น