ไม่พิมพ์เล่มก็ปังได้!
Jiratha นักเขียนผู้สร้างรายได้เสริมจากขายนิยายออนไลน์
การได้ตีพิมพ์นิยายกับสำนักพิมพ์ อาจเป็นเป้าหมาย ความฝัน ความสำเร็จในฐานะนักเขียนสำหรับใครหลายคน แต่ไม่ใช่กับ “Jiratha” หรือ “บิว” นักเขียนเจ้าของผลงาน “ซูหรง” ค่ะ เธอไม่ได้ยึดติดกับแนวคิดที่ว่านักเขียนที่ประสบความสำเร็จจะต้องตีพิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์เพียงอย่างเดียว แต่มองว่าเส้นทางการประสบความสำเร็จนั้นมีหลายวิธี และการขายนิยายออนไลน์ ก็เป็นทางที่เลือกเดิน ทั้งมีผลตอบรับที่ดี แต่จุดเริ่มต้นของเส้นทางนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร เธอตัดใจขายนิยายออนไลน์เพราะเหตุใด ไปติดตามประสบการณ์ดีๆ ที่เธอได้เอามาแชร์กันได้ที่ด้านล่างนี้เลยค่า
Jiratha ผู้เริ่มต้นเส้นทางนักเขียนจากความคิดแต่งนิยายเล่นๆ
ชื่อบิวค่ะ ใช้นามปากกา Jiratha นามปากกาก็มาจากชื่อจริงของบิวเอง เรียนจบปริญญาตรีเอกธุรกิจ มหาลัยราชภัฏสกลนครจ้า ทำงานมาสามปีแล้วค่ะ ส่วนนิยายเพิ่งเริ่มเขียนค่ะ แต่มีเขียนเริ่มไว้นานแล้ว แต่แต่งไม่จบ เลยมองว่าตัวเองยังใหม่มากสำหรับงานเขียนค่ะ
ผลงานตอนนี้ที่ทะลุเป้าคือเรื่อง ซูหรง เป็นผลงานแรกที่เปิดขาย เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่กลับมาเขียน ส่วนเรื่องอื่นก่อนหน้าไม่มีที่ท่าว่าจะแต่งจบ ปัจจุบันตอนนี้กำลังเขียนอีกหลายเรื่อง เป็นแนวย้อนยุคจีนทั้งหมดเพราะชอบส่วนตัว ส่วนในรายละเอียดแต่ละเรื่องจะต่างกัน ตอนนี้มีเพิ่มขึ้นมาหลายเรื่อง หลิวฟางบุปผาบัลลังก์เลือด บุปผาหวนคืน ข้าเพียงเป็นสตรีชอบทำสวน ที่คิดว่าจะเร่งแต่งให้จบ ช่วงนี้คือทำงานเขียนเป็นหลักเลย แล้วก็มีงานเสริมอื่น
จุดเริ่มต้นสำหรับการเขียน เราชอบอ่านค่ะ และมีแรงบันดาลใจมาจากการได้อ่านนิยายในหลายๆ แนว อ่านตั้งแต่เรียน ม.1 ติดนิยายมาก ชอบเป็นชีวิตจิตใจเลย อ่านจนสายตาสั้นไม่หลับไม่นอน ชอบอ่านทุกแนวคะ เคยอยากลองเขียนมานานอยากเป็นนักเขียนอาชีพด้วยซ้ำ แต่เพราะตอนนั้นยังไม่มีสิ่งอำนายความสะดวกในการแต่งเลยไม่มีโอกาสลองทำ ช่วงที่เริ่มคืออยากลองแต่งเพราะตัวเองชอบ
การเขียนนิยายมันทำให้เราสบายใจค่ะ พอได้เริ่มเขียนก็หยุดไม่ได้ ถ้างานไม่เข้า
ตอนแรกเราเริ่มเขียนในสมุด เพราะอยากเขียนระหว่างพักทำงาน ตอนนั้นจำได้ว่าเราทำงานที่โลตัสแล้วเวลาว่างไม่มีอะไรทำเลยเขียนฆ่าเวลาเล่นๆ เอาไว้อ่านเอง ไม่ได้ลงให้ใครอ่านออนไลน์ จนมาถึงจุดเปลี่ยนได้เพื่อนที่ชอบอ่านนิยายเหมือนกัน และเพื่อนลงนิยายออนไลน์ เราเลยลงตาม แต่ตอนนี้เพื่อนไม่ทำแล้ว ติดงานอื่นเลยเลิกเขียนไป
ช่วงที่เลิกเขียนเราหยุดไปสองปีเลย พึ่งจะกลับมาแล้วจริงจังอีกรอบจากเรื่อง ซูหรง เพราะความผิดพลาดเราเองจึงไม่มั่นใจเลยทิ้ง แล้วเรารู้สึกว่ามันฝืน แต่พอได้กลับมาเขียน ความสุขมันกลับมา มันคือสิ่งที่เราชอบ เราชอบสร้างตัวละคร ชอบที่จะทำให้มันไปในทิศทางที่เราต้องการ เลยคิดว่าสุดท้าย ทุกอย่างที่ผ่านมาคือบทเรียน เราจะไม่รู้อะไรเลยถ้าเราไม่เจอเข้ากับตัวเอง
ส่วนที่เขียนแล้วก็เปิดขายรายตอนเพราะว่ารายได้น้อยลงจากพิษโควิท จนถึงขั้นที่ว่าไม่พอใช้ หนี้เราเยอะ จะให้สามีรับผิดชอบคนเดียวคงไม่ดี คิดว่าลองหารายได้ดู น่าจะแบ่งเบาภาระได้บ้าง อย่างน้อยได้เดือนละ 1000-2000 ก็ดีแล้ว เอามาจ่ายค่าไฟ ค่าน้ำ ซื้อของเข้าบ้าน เราจะได้รู้สึกว่าเราไม่ใช่ภาระสามี แต่ว่ามันเกินเป้ามาก จนเอามาเป็นงานหลักได้แล้วเปลี่ยนงานหลักเป็นงานเสริม
ติดนิยายมากจนเป็นที่มาของนิยายเรื่อง “ซูหรง”
นิยายเรื่อง “ซูหรง” ก็มาจากที่เราติดแนวนี้ และถ้าชอบแนวไหนช่วงนั้นบิวจะไม่เปลี่ยนแนวเลย คือหาแต่แนวนี้มาอ่าน อย่างตอนนี้ติดอ่านแนวกำลังภายใน พลังไร้พลัง เลยเกิดไอเดียเขียนนิยายแนวนี้ขึ้นมา แต่ไม่ได้แต่งอิงประวัติศาสตร์อะไร เอามาจากแนวคิดตัวเองเป็นหลัก
และที่นิยายหลายๆ เรื่องของมีตัวละครที่ชื่อ ซูหรง เหมือนกันก็เป็นชื่อที่ชอบมาตั้งแต่อยู่ ม.4 คือมีสองพยางค์ เป็นคำความหมายดีในความคิดเราเองด้วยไม่ชอบชื่อที่มันยาวเวลาเขียนมันจะยาก นี้คือความคิดส่วนตัวนะ แต่ชอบ แล้วรู้สึกว่าเขียนง่าย จำง่าย ติดปากง่ายมาก เลยตัดสินใจใช่ ส่วนเรื่องอื่นก็จะเป็นตัวเอกที่ชื่อสองพยางค์เหมือนกัน
และก็มาจากเรื่องหลินซูหรงที่แต่งไม่จบด้วยค่ะ คือในเรื่องนั้นอยากแต่งตอนจบให้ออกมาแนวนี้ แต่พอจะนำไปใส่ มันใส่ไม่ได้เพราะไม่ได้ปูมา ประกอบกับช่วงนี้มีคนแต่แนวนี้เยอะเลยอยากลองเขียนดูค่ะ
เปิดขายเพราะต้องการรายได้เสริม!
ส่วนที่เริ่มขายก็คืออยากหารายได้เสริมค่ะ มองการเขียนนิยายเป็นอีกแหล่งรายได้ด้วย เพราะว่ารายจ่ายเยอะ เลยอยากหารายได้เพิ่ม มองเป็นงานเสริม แต่ไม่ได้หวังอะไรมากในช่วงแรก
แต่ผลตอบรับหลังเปิดขาย ก็ดีนะคะ เกินคาดไปมาก ไม่คิดว่าจะมีคนซื้อเยอะ ไม่นึกว่าจะเป็นนิยายขายดีได้ เพราะว่าเราเขียนเรื่องนี้โดยที่ไม่ได้คาดหวังเลย เพราะไม่อยากเสียใจ และเข้าใจเศรษฐกิจด้วย ช่วงขายคือช่วงโควิท งานน้อย คนตกงานไม่มีเงิน เลยไม่หวัง ที่ขายในเด็กดีเพราะเห็นว่าส่วนแบ่งเป็นธรรม นักอ่านและนักเขียนไม่ได้ถูกกดเลย ต่างจากแอพอื่น อีกทั้งชอบที่ยอดเงินมีให้เห็นตลอดดูง่าย แอพใช้ง่ายมากด้วย
เราเพิ่งเปิดขายเมื่อเดือนพฤศจิกายนช่วงกลางเดือนถึงวันนี้ ลองเปิดขายเพราะหารายได้ช่วยสามี ด้วยเงินเราไม่พอจ่ายภาระหนี้ พอได้เปิดขายก็ตกใจ ทีแรกไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นนิยายขายดีอยู่ช่วงหนึ่ง รายได้ขึ้นเร็วมาก ทำให้บิวรู้สึกว่าการลองทำอะไรใหม่ๆ มันไม่ได้แย่ แต่มันอาจจะทำให้เราทำงานที่เรารักอย่างการเขียนได้ง่ายขึ้น ทำให้มีกำลังใจมากขึ้นที่จะเอางานนี้มาแทนงานหลัก แล้วให้งานหลักไปเป็นงานเสริมแทน
ส่วนเรื่องติดเหรียญ บิวก็เป็นคนหนึ่งที่ตามอ่านตามซื้อ เลยไม่ติดแพง อยากให้คนงบน้อยได้อ่านค่ะ
เรื่องการตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ มีคนติดต่อมาเหมือนกันค่ะ แต่ไม่ได้รับข้อเสนอ บิวว่าสำนักพิมพ์น่าจะยุ่งยาก เกือบจะทำสัญญาแล้วค่ะ แต่ว่าช่วงนั้นบิวติดปัญหาการทำงานและงานเสริม เลยไม่มีเวลาปรับแก้ ช่วงเวลาที่เขาให้มาน้อยมาก มันทำให้ไม่ทัน เราต้องเร่งงาน จนไม่มีเวลาปั่นงานอื่น อีกอย่างกว่าจะตีพิมพ์ กว่าจะได้เงินคือนาน 3-5 เดือนเลย แต่เราเปิดขายรายตอน เราได้เงินตลอด ซึ่งเอาตามจริงเราไม่สามารถรอนานขนาดนั้น หนี้เราต้องจ่ายทุกเดือน ขาดไม่ได้ และบิวมีงานอื่นที่ต้องทำ เลยคิดว่าขายเองดีกว่า แต่งเสร็จขายออนไลน์ ยังไงมันก็งานเรา 100%
อีกอย่างไม่ชอบการโดนกำหนดเวลา เรื่องที่สำนักพิมพ์ติดต่อมาเรื่องนั้นก็ปังนะคะ เสียดายอยู่เหมือนกันที่แต่งไม่จบ แต่มันหมดอารมณ์แต่งให้ดีเพราะว่าทิ้งไปนาน ทำให้มันไม่ดีพอสำหรับความคิดบิว
ผลตอบรับดีมาพร้อมความกดดัน!
ถามว่ากดดันไหมที่ผลตอบรับดีเกินคาด ตอบตรงนี้เลยว่า… มากเลยค่ะ ตอนแรกเราไม่ได้คาดหวังเลย เนื้อหามีทั้งคำผิด วรรณยุกต์ มาหมด ซึ่งเอาตรงๆ บิวไม่เก่งเลยพลาดเยอะ บางทีคอมเมนต์ก็จะแรงๆ ไหนจะเวลาน้อยอีก เลยแก้เท่าที่ทำได้ ส่วนที่เหลือจะมารีไรท์อีกรอบตอนแต่งจบ
วิธีแก้คือส่วนมากจะไม่คิดมากตาม กลัวเป็นประสาท 555 คืออะไรที่เขาติก็ตามแก้นะคะ แต่พอแก้ทุกอย่างมันเหมือนไม่ใช่ตัวเรา เลยทำเท่าที่เราคิดว่าโอเค
แต่ถ้าให้ตอบว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้นักอ่านมาคอยติดตามผลงาน อันนี้ไม่รู้เลยว่าทำไม เพราะไม่คาดหวังว่างานเราจะต้องดี ด้วยเป็นภาษา การใช้คำ มีคำซ้ำเยอะ ผิดพลาดเยอะมาก ต้องขอบคุณนักอ่านที่เข้ามาเปย์เสมอและให้กำลังใจด้วย เพราะถ้าไม่มีเขา บิวก็คงไม่ได้ทำงานที่รัก เอามันมาเป็นอาชีพได้
การเขียนนิยายของบิว สิ่งที่ยากที่สุดคือ การตั้งเนื้อหาหลักในแต่ละตอน มันยากเพราะว่าเราไม่อยากให้มันมีน้ำ เราอยากให้มันมีเนื้อไม่ออกทะเล แต่ก็ไม่ข้ามเนื้อหาที่จำเป็น ต้องวางความสำคัญเอาไว้ให้เป็นจุดเด่น เช่นตอนนี้หลักๆ พูดถึงเรื่องอะไร แล้วผลของมันคืออะไร ทำให้น่าติดตาม ง่ายๆ คือทำให้นักอ่านค้าง
ข้อดีของเขียนออนไลน์คือ อิสระ
ข้อดีของการเขียนและขายออนไลน์เองแบบนี้ เรากำหนดทุกอย่างเองได้ ไม่ต้องปรับแก้อะไรที่เราไม่พร้อมจะแก้ ลงเวลาไหนก็ได้ มีกี่คำ มีกี่กระโยค ไม่กดดันตัวเองมาก ทำให้บิวเขียนได้ลื่นไหล เอาง่ายๆ คือไม่มีใครมากดดันเรา เลยขายเองดีกว่า
สำหรับน้องๆ ที่อยากเขียนนิยายออนไลน์เหมือนกัน เริ่มที่เขียนแนวที่ชอบ หาแนวให้เจอก่อน เวลาเขียนจะได้มีอารมณ์ร่วมกับทุกบทที่เราเขียน มันจะออกมาดีกว่าฝืนเขียน ไม่อยากให้กลัวเรื่องที่ว่าพอเราติดเหรียญแล้วนักอ่านจะหาย คือมันหายอยู่แล้ว จะมีกลุ่มที่เขาพร้อมจ่ายกับไม่พร้อมจ่ายอยู่ด้วยกัน เมื่อเราติดเหรียญเขาจะหายก็ปกติ เราควรใส่ใจคนที่เขาสนับสนุนเรา เขาเข้าใจเรา เราไม่ต้องคิดมากกับบางคอมเมนต์ที่ทำลายจิตใจ ให้มองข้ามมาสนใจนักอ่านที่ให้กำลังใจเราดีกว่า
ส่วนการขายรายตอน มันคือเม็ดเงินที่ได้เร็ว แต่มาพร้อมความกดดันเพราะนักอ่านก็จะคาดหวัง ตรงนี้ให้มองเป็นงานสนุกงานท้าทายมันจะดีกว่าคิดมาก อยากลอง แต่งให้อ่านฟรีสัก 20 ตอนแล้วลองขายเลย ทำที่เราไหว ไม่ต้องฝืน เพราะบิวก็ลองขาย ถึงได้มั่นใจ คนในครอบครัวถึงเปิดใจยอมรับอาชีพนี้ ด้วยที่ผ่านมาเขาคิดว่ามันเป็นเรื่องเสียเวลา ควรเอาไปทำงานอื่นมากกว่า
กำลังใจที่สำคัญที่สุดสำหรับเราในการเขียนนิยาย คือเราชอบการเขียน การสร้าง การจิตนาการ อีกอย่างเรารู้สึกมีความสุขตอนสร้างสิ่งต่างๆในนิยายให้เกิดขึ้น แล้วพอมันสำเร็จ มันก็เป็นอาชีพที่สร้างเงินได้ บิวเลยไม่กังวลว่าคนอื่นในครอบครัวจะไม่ยอมรับ จะว่าอะไรแบบนี้ เพราะมันได้เงินจริง แต่ไม่มั่นคง ความมั่นคงเราจะต้องสร้างเอง เริ่มที่ความขยัน มีวินัย กำหนดเป้าแต่ละเดือนที่พอใช้จ่าย ไม่กดดันมาก
สุดท้ายนี้...
เป็นกำลังใจทุกคนที่อยากเป็นนักเขียน อยากเอามาเป็นอาชีพ
งานเขียนดีไม่ดีไม่ควรให้คนอื่นมาตัดสิน งานอยู่ที่มือเรา เราเป็นคนสร้างมันขึ้นมา มันคือผลงานที่เราควรภูมิใจ ไม่ว่าจะมีคนอ่านน้อยหรือมาก แต่เราก็ได้ลอง ดีกว่าเราไม่ทำตามฝัน นั่งคิดไปเรื่อยๆ ไม่มีจุดหมาย ไม่อยากให้ทุกคนท้อนะ เพราะบิวเคยท้อจนหายไปจากงานเขียนมาสองปีแล้ว พอรู้สึกตัวอีกที เสียดายเวลาที่เราทิ้งงานเขียนไปมาก จนแอบร้องไห้ เราเอาคำคนอื่น เอาคำพูดคนอื่นมาทำร้ายตัวเอง เราควรจะให้โอกาสตัวเองแก้ในสิ่งที่ผิด สิ่งที่เคยพลาดมากกว่าจะทิ้งความฝันหรือความชอบ
และก่อนจากลากันไป ขอฝากผลงานที่เขียนทุกเรื่องไว้ให้นักอ่านพิจารณา เรื่องใหม่ในหัวเยอะมาก แต่เขียนออกมาไม่ทัน อยากให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้ด้วย เพราะมันคือความฝันหนึ่งอย่างที่เป็นจริงแล้วตอนนี้ ฝากนิยายใหม่และเก่า ทั้ง ซูหรง,หลิวฟางบุปผาบัลลังก์เลือด,บุปผาหวนคืน,ข้าเพียงเป็นสตรีชอบทำสวน และอื่นๆให้ทุกคนติดตามด้วยนะคะ
อะไรที่ติก็ตามแก้ แต่ถ้าแก้ทุกอย่างมันเหมือนไม่ใช่ตัวเรา เลยทำเท่าที่คิดว่าโอเค… เป็นคำพูดของ “Jiratha” นักเขียนเจ้าของผลงาน “ซูหรง” ที่พี่หญิงชอบมากเลยค่ะ เธอยอมรับข้อผิดพลาด และพร้อมจะแก้ไขให้งานของตัวเองดีขึ้น แต่มีลิมิตของตัวเอง คือแก้ในจุดที่ผิดพลาดและทำให้งานสมบูรณ์ ไม่ใช่แก้ตามหมดทุกอย่างจนกลืนความเป็นตัวเองไป ซึ่งจุดนี้เป็นอีกสิ่งที่สำคัญมากๆ ที่บางครั้งหลายคนก็อาจหลงลืมไปเช่นกัน
สุดท้ายนี้พี่หญิงขอลาไปก่อน เจอกันใหม่ครั้งหน้า สวัสดีค่ะ
ติดตามผลงานอื่นๆ ของ Jiratha ได้ที่นี่
พี่หญิง

0 ความคิดเห็น