พากันปังยกคู่! กับ 4 คู่นักเขียนนิยาย Dek-D ที่รู้จักกันในชีวิตจริง

พากันปังยกคู่! 
กับ 4  คู่นักเขียนนิยาย Dek-D 
ที่รู้จักกันในชีวิตจริง
 

สวัสดีค่ะ นักอ่านและนักเขียนชาวเด็กดีทุกคน :-) อย่างที่รู้กันว่า ใคร ๆ ก็สามารถมาเป็นนักเขียนที่เด็กดีกันได้ ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น หรือวัยทำงาน เรียกได้ว่ามีทุกช่วงวัยเลยจริง ๆ แต่ว่าวันนี้ค่ะ พี่มิวม่อนค้นพบว่าในบรรดานักเขียนที่แสนจะมากมายของเด็กดีนั้น อาจจะมีบางคนที่รู้จักกันในชีวิตจริง.. ซึ่งก็มีจริง ๆ ค่ะ !

วันนี้พี่มิวม่อนเลยรวบรวมเรื่องราวสุดปังของนักเขียนทั้ง 4 คู่ที่รู้จักกันในชีวิตจริง และเป็นคู่นักเขียนที่น้องๆ ชาวเด็กดีน่าจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว นำมาบอกเล่าให้รู้จักกันมากยิ่งขึ้น บอกเลยว่าแต่ละคู่มีเรื่องราวน่าสนใจไม่ซ้ำกันเลย เรียกได้ว่ามีเอกลักษณ์ประจำคู่สุด ๆ 

พี่มิวม่อนจะไม่ยื้อเวลาไปมากกว่านี้ เพราะฉะนั้นเราไปรู้จักกับ 3 คู่พี่น้อง และ 1 คู่เพื่อนซี้ ที่มาแต่งนิยายเด็กดีสุดปังกันเลยดีกว่าาา

 

พากันปังคู่ที่ 1 
ผลัดกันติดท็อปกับสองพี่น้อง
ผู้ครองท็อปนิยายหมวดรักแฟนตาซี

 

มาเริ่มกันที่คู่ที่ 1 กันเลยดีกว่า เปิดประเดิมด้วยคู่พี่น้องที่เหมือนกับเปิดสังเวียนสู้กันด้วยการติดท็อปในหมวดนิยายรักแฟนตาซี เพราะทั้งสองคนนั้นไม่มีใครยอมลงจากอันดับท็อปกันเลย ผลัดกันขึ้นผลัดกันลงวันเว้นวัน ล่าสุดที่พี่มิวม่อนเห็นก็ชิงอันดับ 1 อันดับ 2  กันรัวๆ เลยค่ะ

ใครที่ติดตามหมวดรักแฟนตาซีอยู่แล้ว อาจจะคุ้นกับนิยายชื่อเรื่อง ฉันคือลูกสาวบุญธรรมของพระเอกเย็นชาชื่อดัง กับนิยายเรื่อง เมื่อนักฆ่ากลายมาเป็นนักเรียน ที่ติดท็อปอยู่ในตอนนี้ แต่คงไม่มีใครรู้ว่านักเขียนของทั้งสองเรื่องนี้นั้นเป็นพี่น้องกัน! 

ซึ่งคนพี่นั้นเราเคยสัมภาษณ์เธอไปแล้ว ตอนนั้น น้องเอิร์น หรือ Iliicit Iliicit  กำลังแต่งนิยายรักแฟนตาซีสุดฮิตเรื่อง ‘จากนักวิทยาศาสตร์สู่หนทางการเป็นไอดอล’  อยู่เลย ค่ะ ในช่วงที่สัมภาษณ์นั้นเอง น้องเอิร์นก็ได้เผยความลับให้เราได้รู้กันว่า นอกจากตัวเองจะเขียนนิยายลงบนเว็บเด็กดีแล้ว น้องสาวของเธอเองก็แต่งนิยายด้วยเหมือนกัน โดยคนน้องนั้นเขียนนิยายในนามปากกา ijiiji1  นั่นเองค่ะ

ทั้งคู่ได้เริ่มต้นการเป็นนักเขียนจากการแต่งนิยายแนวแฟนฟิคชันมาก่อน เริ่มจากความชอบของตัวเองก่อน ลองแต่งมาเรื่อย ๆ จนได้ค้นพบแนวการเขียนที่ตัวเองถนัดอย่างนิยายแนวรักแฟนตาซีนั่นเอง แต่ความปังอยู่ตรงที่ทั้งสองคนนั้นชวนกันมาใช้นิยายที่แต่งหารายได้ให้กับตัวเอง ในขณะที่ก็ยังเรียนออนไลน์ไปด้วย และอีกเหตุผลที่พี่มิวม่อนคิดว่าทั้งคู่ทำให้นิยายปังขึ้นมาได้ คงอยู่ที่ประสบการณ์การอ่านนิยายของทั้งสอง ที่ยิ่งอ่านมาก ก็ยิ่งหาแนวทาง หาภาษาในการเขียนของตัวเองเจอ 

ตอนนั้นมันเป็นช่วงที่มีอะไรหลายอย่างเข้ามามาก คือตอนแรก เราก็ไม่คิดจะลงขาย เพราะเราไม่มั่นใจ แต่ไปๆ มาๆ น้องสาวชวน น้องบอกว่า ลองลงขายนิยายดู เราก็เลยลองลงขายดู  เราลองเพราะว่าเราก็มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินบ้าง แล้วอีกอย่างเราอยู่ ม.6 แล้ว มันจำเป็นที่จะต้องเก็บเงินในการไปเรียนต่อมหา’ลัยอีก เราก็เลยคิดว่า งั้นลองลงขายดูละกัน ก็เลยลองดู

 ที่มา :  พ่อแม่ภูมิใจ! ลูก ม.6 ใช้พลังติ่งเขียนนิยายหาเงินเรียนต่อแบบไม่ขอพ่อแม่อีกต่อไป  The Chosen EP.22 Iliicit Iliicit

อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ทั้งคู่ได้มาถึงจุดนี้ น่าจะเป็นการที่ทั้งคู่เห็นสิ่งที่ตัวเองทำนั้นสามารถต่อยอดได้ และสนับสนุนซึ่งกันและกันด้วย ที่เสริมความมั่นใจในการลงมือทำอะไรสักอย่างให้กัน จนสามารถแต่งนิยายขึ้นไปติดท็อปของหมวดได้ในระยะเวลาที่ยาวนานมาก ๆ 

บทสัมภาษณ์ของน้องเอิร์น หรือ  Iliicit Iliicit

อ่านบทสัมภาษณ์เต็มที่นี่

 

พากันปังคู่ที่ 2 
ไม่ใช่พี่น้อง แต่เป็นคู่ซี้มิตรภาพ 10 ปี 
ร่วมด้วยช่วยกันปัง

มาต่อกันที่คู่ที่ 2 คู่นี้ไม่ใช่คู่พี่น้องเหมือนกับคู่แรก แต่เป็นคู่เพื่อนซี้ที่คบหากันมานานถึง 10 ปี แถมยังชวนกันมาแต่งนิยายอีกด้วย! ทุกคนอาจจะอยากรู้กันแล้วใช่มั้ยล่ะคะ ว่าทั้งสองคนนี้เป็นเจ้าของนามปากกา และนิยายเรื่องอะไร งั้นเรามารู้จัก 2 คนนี้กันเลยย

หลาย ๆ คนอาจจะรู้จักนามปากกา เทียนเยว่ หรือคุณจีน จากนิยายเรื่อง วันนี้ทานอะไรดีครับ? และรู้จักนามปากกา ซือมิ่ง หรือคุณหยง จากเรื่อง ย้อนเวลามาเป็นแม่ครัวมือหนึ่ง แต่อาจจะไม่รู้ว่าหลังจอนิยายนั้นทั้งสองคนเป็นเพื่อนรักกัน ที่ไม่ว่าจะมีอะไรก็ปรึกษากันตลอด อย่างการก้าวเข้ามาสู่การเป็นนักเขียนของเทียนเยว่ก็เช่นกัน เธอได้รับคำเชิญชวนจากเพื่อนที่แต่งนิยายมาก่อนแล้วอย่าง ซือมิ่ง ซึ่งถือว่าเป็นก้าวสำคัญของชีวิตที่ทำให้เธอสามารถผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาได้เลยทีเดียว

‘หยงหันมาลองเขียนนิยายดู แล้วผลตอบรับดี หยงเลยบอกกับจีนว่า ในเมื่อตัวหยงทำได้ จีนเองก็ต้องทำได้เหมือนกันค่ะ จีนเลยฮึดสู้ แล้วก็ลองเขียนนิยายดู’

 ที่มา  : ชวนกันแต่งนิยายจนปัง! “เทียนเยว่” 
เขียนนิยายตามเพื่อนซี้จนติดท็อป แถมยังมีรายได้เสริมในช่วงว่างงาน!

การเขียนนิยายของทั้งสองคนนี้ ไม่ใช่แค่ต่างคนต่างเขียน แต่เป็นการสนับสนุนซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคในการอัปนิยายต่าง ๆ ที่คุณหยงได้แนะนำคุณจีน หรือแม้แต่พลังบวกที่แผ่กระจายเวลาที่คุณจีนนั้นได้ไปขอคำปรึกษาจากคุณหยง จนได้ส่งต่อพลังบวกนั้นผ่านตัวตนของ เทียนเยว่ ให้เราทุกคนได้อ่านกัน

สิ่งที่หยงสอนจีน คือสอนให้จีนรู้จักตัวเอง ไม่ใช่ว่าไม่ฟังคนอื่นนะคะ แต่ตัวเราเป็นแบบนี้ เราถนัดแบบนี้ เรามีความชอบแบบนี้ แต่ละคนไม่เหมือนกัน ดังนั้นอย่าเพิ่งไปกลัวว่ามันจะไม่ประสบความสำเร็จ ให้ลองทำก่อนค่ะ ทำให้เต็มที่ ซึ่งอันนี้จีนทำได้แล้ว แต่อีกอย่างหนึ่งที่พยายามอยู่ แต่ยังทำไม่ได้คือการมีวินัยค่ะ55555 หากอยากจะเป็นนักเขียนมืออาชีพเราต้องมีวินัยในตนเอง การอัปนิยาย การเขียนอย่างสม่ำเสมอ

 ที่มา  : ชวนกันแต่งนิยายจนปัง! “เทียนเยว่” 
เขียนนิยายตามเพื่อนซี้จนติดท็อป แถมยังมีรายได้เสริมในช่วงว่างงาน!

จากที่ได้เรียนรู้ความซี้ของเพื่อนคู่นี้ พี่มิวม่อนคิดว่า การที่เราจะทำอะไรได้สักอย่างหนึ่ง คนรอบข้างก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราสามารถก้าวต่อไปได้ เป็นต้นแบบให้เราได้หรือเป็นกำลังใจสำคัญได้เลยทีเดียว 

บทสัมภาษณ์ของ  เทียนเยว่

อ่านบทสัมภาษณ์เต็ม

พากันปังคู่ที่ 3 
พี่น้องตระกูลป.ปลา พกความมุ่งมั่นมาเต็ม 
พร้อมกับเคล็ดลับจากน้องสู่พี่

กลับมากันที่คู่พี่น้องกันอีกครั้งค่ะ เป็นคู่พี่น้องคู่ที่ 2 แล้ว และพี่มิวม่อนว่าทุกคนอาจจะคุ้น ๆ กับพี่น้องตระกูลป.ปลาคู่นี้ เพราะเราได้เคยสัมภาษณ์มาแล้วทั้งสองคนเลย ในบทความ  แมลงปอสีดำ : จากนักเขียนแฟนฟิคสู่นิยายติดท็อปขายดีหลักแสน! และ “ZigFheZ” แต่งนิยายตามสูตรลับของน้องชายจนติดท็อปใน 10 วัน! 

คนที่แนะนำให้เปลี่ยนมาแต่งเรื่องที่สองแทนก็คือน้องชายครับ ‘แมลงปอสีดำ’ เขาเห็นผมแต่งไปเรื่องแรกแล้วกระแสไม่ดี   ผมก็เลยลองคิดพล็อตเรื่องใหม่แล้วปรึกษากับน้องดู สุดท้ายเลยได้เรื่อง ‘จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน’  ออกมาครับ

 ที่มา : “ZigFheZ” แต่งนิยายตามสูตรลับของน้องชายจนติดท็อปใน 10 วัน!

และเรื่องราวที่น่าสนใจของนักเขียนพี่น้องสองคนนี้คงหนีไม่พ้นเรื่อง การส่งต่อเคล็ดลับจากน้องสู่พี่ ที่พี่ป๋องได้เล่าถึงในบทสัมภาษณ์ของตัวเองแล้วล่ะ เรียกได้ว่าในเรื่องของเทคนิคการเขียน หรือเทคนิคการเขียนอย่างไรให้ติดท็อป ไม่มีคำว่าพี่น้อง เพราะประสบการณ์อันโชกโชนของปอปอนั้น ทำให้พี่ป๋องได้หวนคืนสู่วงการนักเขียน จากเขียนลงกระดาษมาเขียนลงเว็บไซต์เด็กดีของเราแทน แต่การกลับมาของพี่ป๋องนั้นไม่ได้ปังในครั้งเดียว แต่กลับมาปังเพราะเคล็ดลับของน้องชาย และความขยันอดทน อัปนิยายทุกวันจนติดท็อป และมีรายได้เสริมให้กับตัวเอง!

ปอปอเล่าว่า "ผมแนะนำไปตามสัมภาษณ์เหมือนเดิมครับ ว่าให้อัปวันเเรก 3-5 ตอน เเล้วลดลงมาเป็นสองตอน พอถึงจุดที่คนเริ่มเข้ามาอ่านเยอะค่อยลดเหลือวันละตอน เเต่พี่เเกไม่ลด เเกเอาต่อยาวเลย พี่ป๋องขยันจริง ขยันมาก น้องยอมเลย อัปนิยายอาทิตย์ละ 10 ตอน  พี่ป๋องคือจริงจัง ทำอะไรทีน่ากลัวมาก"

 ที่มา : “ZigFheZ” แต่งนิยายตามสูตรลับของน้องชายจนติดท็อปใน 10 วัน!

แต่นอกจากเคล็ดลับนั้นจะทำให้ทั้งคู่ประสบความสำเร็จในอาชีพของนักเขียนแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่พี่มิวม่อนสัมผัสได้จากบทสัมภาษณ์ของทั้งคู่ มันคือ ความมุ่งมั่น ค่ะ ในระหว่างทางของการเขียนทั้งพี่ป๋อง และปอปออาจจะมีอุปสรรคมากมาย อย่างเช่น เริ่มแรกเขียนแล้วไม่มีคนอ่าน หรือเขียนแล้วไม่สนุก แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขานั้นผ่านมันมาได้ และมีนักอ่านติดตามมากมายนั้นคือ ความมุ่งมั่นในการเขียน ในการอัปเดตนิยาย และความเอาจริงที่ทำตามคำที่สัญญากับนักอ่าน นี่แหล่ะค่ะคือสิ่งที่ทำให้พวกเขาทั้งคู่ทำสำเร็จ

บทสัมภาษณ์ของพี่ป๋อง หรือ  ZigFheZ

อ่านบทสัมภาษณ์

บทสัมภาษณ์ของปอปอ หรือ แมลงปอสีดำ

อ่านบทสัมภาษณ์

พากันปังคู่สุดท้าย 
ฝาแฝดสาว แต่งนิยายมากว่า 10 ปี 
และเปลี่ยนงานอดิเรกให้เป็นงานหลัก

เรามาถึงคู่สุดท้ายกันแล้วทุกคน และยังคงเป็นคู่พี่น้องเหมือนเดิม แต่เพิ่มเติมคือเป็นฝาแฝดกัน และยังอยู่คู่กับชาวนิยายเด็กดีมาถึง 10 ปี ! คิดว่าน่าจะมีคนเคยอ่านนิยาย หรือเห็นนิยายของฝาแฝดคู่นี้กันมาบ้างล่ะ และสองสาวฝาแฝดคู่นี้จะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจาก พี่วี หรือเจ้าของนามปากกา วีรันดา และ Yanzi 燕子 กับ พี่กัล เจ้าของนามปากกา กัลฐิดา นั่นเองงง

จะบอกว่าพี่ ๆ ทั้งสองคนนี้ มีดีกรีเป็นถึงทันตแพทย์หญิงกันเลยนะ แต่อย่างที่บอกไปตั้งแต่หัวข้อเปิดตัวคู่นี้แล้วว่า ทั้งคู่ได้เปลี่ยนงานหลักให้เป็นงานอดิเรก และเปลี่ยนให้งานอดิเรกเป็นงานหลัก ซึ่งหมายความว่าอาชีพทันตแพทย์นั้นคืองานอดิเรกที่ทั้งคู่เอาไว้ทำในเวลาที่ไม่ได้ทำงานหลักอย่างการเขียนนิยายนั่นเอง แล้วอะไร ทำไมทั้งคู่ถึงตัดสินใจแบบนี้กันนะ

จนถึงปี 2554 เรียนจบเป็นทันตแพทย์ใช้ทุนที่จังหวัดหนองคาย เพราะเรามีชีวิตที่มีแต่เรียนกับสอบมาตลอดหลายปี พอไม่ต้องอ่านหนังสือเพื่อสอบมันก็เลยไม่มีอะไรทำ แถมมาอยู่ไกลบ้านมากๆ เรียกว่าติดประเทศลาวเลยทีเดียว พอไม่มีอะไรทำ ก็นอนดูซีรีส์เกาหลีอยู่ 3 เดือน จนกัลมาบอกว่า  
 

“เจ๊ หนูว่าถึงเวลาที่เจ๊จะกลับมาเขียนนิยายแล้วล่ะ” 
 

ก็เลยเป็นเหตุให้วีกลับมาตั้งหน้าตั้งตาเขียนนิยายอย่างจริงจังอีกครั้ง และเพราะเราไม่ใช่เด็กอีกแล้ว ทำให้วีมีเป้าหมายใหม่ ที่ไม่ใช่การเขียนนิยายเป็นงานอดิเรก แต่เราจะเขียนเพื่อเลี้ยงชีพ เป้าหมายของวีในตอนนั้นก็คือ อยากเป็นนักเขียนอาชีพ ค่ะ และจนถึงวันนี้ก็ยังเป็นเป้าหมายนี้อยู่

 ที่มา : Yanzi 燕子 พิสูจน์แล้วว่าหากนิยายสนุก ไม่ว่าใครเขียนก็มีคนอ่าน

จุดเริ่มต้นมันคงมาจากการที่พี่กัล ได้มาแต่งนิยายเรื่องแรกในเด็กดี และชวนพี่วีมาแต่งด้วย แต่ด้วยการที่คณะทันตฯ นั้นค่อนข้างที่จะหนัก เลยทำให้พี่วีห่างหายการเขียนนิยายไปถึง 6 ปีเลยทีเดียว แต่ความว่าง และไม่มีอะไรทำในช่วงที่ใช้ทุน เลยทำให้มีช่องว่างมากพอที่จะกลับมาเขียนนิยายตามคำเรียกร้องของพี่กัล และก็เป็นจุดเริ่มต้นครั้งใหม่ด้วยที่ทำให้พี่วีได้กลับมาทบทวนเป้าหมายของตัวเองอีกครั้งกับการเป็นนักเขียนอาชีพ

สำหรับฝาแฝดคู่นี้ ถือว่าพวกเธอทั้งคู่เหมือนเป็นสิ่งที่เติมเต็มซึ่งกันและกันจริง ๆ ค่ะ ทั้งในเรื่องของการเติมเต็มเป้าหมายในการเป็นนักเขียนที่ทำหล่นหายไประหว่างทาง เติมเต็มความมั่นใจให้กันเอง สนับสนุนในสิ่งที่ทั้งคู่กำลังทำอยู่ หรือกำลังจะลงมือทำ และที่สำคัญคือการเติมเต็มกำลังใจให้กันและกัน ที่น่าจะเป็นกำลังสำคัญในการไปต่อกับเป้าหมายการเป็นนักเขียนอาชีพของทั้งคู่ด้วย

บทสัมภาษณ์ของ Yanzi 燕子

อ่านบทสัมภาษณ์

 

เป็นยังไงกันบ้างคะทุกคน บอกเล่าครบไปแล้วกับ 4 คู่นักเขียนที่รู้จักกันในชีวิตจริง ที่พี่มิวม่อนได้หยิบมาให้ทุกคนได้รู้จัก และได้อ่าน แต่ละคู่ก็จะมีเรื่องราวในการเขียนนิยายแตกต่างกันไปเลยใช่มั้ยล่ะคะ แต่มีสิ่งนึงนะ ที่ทั้ง 4 คู่นี้มีเหมือนกัน คือ การสนับสนุนซึ่งกันและกัน การเป็นกำลังใจให้กัน และเป็นแรงบันดาลใจให้กับอีกคน

พอได้รับรู้เรื่องราวของนักเขียนทั้ง 4 คู่แล้ว พี่มิวม่อนรู้สึกว่าจุดเริ่มต้นที่เราจะเริ่มทำอะไรสักอย่าง บางทีถ้าเรามองคนรอบข้าง คนที่เรารู้จัก หรือคนในครอบครัวเรา เราก็อาจจะได้เป้าหมาย หรือหาสิ่งที่อยากจะทำเจอจากคนเหล่านั้นก็ได้นะ เหมือนกับนักเขียนเหล่านี้ ที่เห็นพี่ น้อง หรือเพื่อนของตัวเองหันมาเขียนนิยาย เลยอยากจะลองเขียนดูบ้าง และยังได้คำแนะนำดี ๆ จากคนรอบข้างจนช่วยผลักดันให้พวกเขามาถึงจุดที่ประสบความสำเร็จได้ เพราะฉะนั้นไม่ว่าใคร ก็สามารถเป็นแรงบันดาลใจให้ใครสักคนได้เสมอ  

หวังว่าบทความนี้ของพี่ จะเป็นกำลังใจให้ชาวเด็กดีได้นะคะ :-)

พี่มิวม่อน

มาเขียนนิยายกัน
พี่มิวม่อน
พี่มิวม่อน - Columnist นักตกตะกอน ที่จะเติบโตทีละหลายมิล

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น