หมดมุขเขียนนิยายใช่มั้ย?
แจก 6 วิธีหาไอเดียสร้างนิยายรัก
ให้ปังปุริเย่กว่าใคร!
การเขียนนิยาย ย่อมใช้จินตนาการในการสร้างสรรค์ กว่าจะคิดได้แต่ละฉาก แต่ละตอน ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ อาการหมดมุก หมดไอเดียจึงมักเกิดขึ้นกับพวกเราชาวนักเขียน แต่ถึงอย่างนั้น หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่ (กำลังจะ) หมดไอเดีย วันนี้เรามีเทคนิคดีๆ ที่จะช่วยจุดประกายไอเดียให้ลุกโชนมาฝาก เหมาะมากๆ กับนักเขียนสายตันแบบพวกเรา (ฮา)
โดยวันนี้เราจะพุ่งโฟกัสไปที่นิยายรักเป็นหลัก ด้วย 6 วิธีหาไอเดียในการสร้างนิยายรักของเราปังปุริเย่ และแตกต่างกว่านิยายเรื่องอื่นๆ หากใครกำลังหาไอเดียเขียนนิยายรักที่ไม่ซ้ำใคร ห้ามพลาดเด็ดขาดค่ะ
01 ลองเสิร์ชคำโรแมนติกลงใน Google News
เราแนะนำให้ใช้บทความข่าว เพราะข่าวมักจะให้แรงบันดาลใจที่ยอดเยี่ยมแก่เรา ลองสังเกตดูสิ เวลาอ่านข่าว โดยเฉพาะข่าวแปลกๆ ที่ชวนอิหยังวะ เราก็อาจจะนำไปคิดต่อยอดเป็นพล็อตนิยายได้ หรือบางทีก็คิดเอาว่าถ้าได้สร้างตัวละครแบบนี้จะเป็นยังไง อะไรทำนองนี้ พูดง่ายๆ ก็คือ ข่าวเป็นแหล่งข้อมูลชั้นเยี่ยมในการหยิบมาใช้ และปรับไอเดียที่มีให้แตกต่างจากนิยายรักเรื่องอื่นๆ
ใน Google News เราสามารถเสิร์ชคำที่เกี่ยวกับโรแมนติก เช่น
- คู่รัก / Couple / Lovers
- แต่งงาน / Wedding
- โรแมนซ์ / Romance
- เดต / Dating
ตัวอย่างในการเสริช์คำว่า ‘คู่รัก’ ก็จะได้ข่าวประมาณว่า
- คู่รักต่างวัยแอบพ่อแม่คบกัน15ปี เปิดเหตุผลยังไม่คิดแต่ง-ไม่อยากมีลูก?
- ธรรมดาที่แสนพิเศษ! แชร์คลิปคู่รักสุดน่ารัก ทุกวันนั่งกินข้าว ‘คำแรกจะเป็นของเธอ’
- คู่รักลุงป้าชาวลำปาง ควบ 2 ล้อคู่ใจ ตะลอนเที่ยวอีสาน
- คู่รักสายเบิร์น ปิดถนนถ่ายพรีเวดดิง เบิ้ลเครื่อง-เบิร์นยาง ควันโขมง
หรือถ้าลองเสิร์ชเป็นภาษาอังกฤษ ‘Couple’ ก็อาจจะได้ข่าวประมาณว่า
- คู่รักชาวแอฟริกันใต้จัดงานแต่งสุดปังโดยใช้เงินแค่ $4.9 (180 บาท)
- คู่รักในเพนซิลเวเนียแกล้งท้องปลอมๆ โกหกทั้งวันเกิดและวันตายของลูกทิพย์เพื่อได้เงินจากรัฐไปใช้ชีวิตสุดหรู
- คู่รักพบกันในงานเทศกาลเพลงวู้ดสต็อก ฉลองครบรอบ 50 ปีที่อยู่ด้วยกัน
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นแรงบันดาลใจที่ดีในการสร้างนิยายรัก ดังนั้นจากตัวอย่างข้างบน เราก็อาจนำมาปรับให้เป็นเนื้อเรื่องประมาณว่า
- เรื่องราวของคู่รักที่มีปัญหาทางการเงิน แต่ฉลาดในการจัดงานแต่งงานให้ออกมาปังจนคนไม่คิดว่าใช้งบแค่หลักร้อย
- เรื่องราวของคู่รักที่ต่างกระตุ้นสัญชาติญาณฆาตกรในตัวเอง (ดาร์กหน่อย)
- เรื่องราวของคู่รักที่พบกันในเทศกาลประวัติศาสตร์ที่น่าจดจำ
เป็นต้น

(via: https://www.biography.com/news/cleopatra-mark-antony-love-story-death)
02 อ่านเรื่องที่เกี่ยวกับคู่รักคนดัง
มีเรื่องราวคู่รักที่น่าสนใจทั้งในประวัติศาสตร์และในวรรณกรรม ตั้งแต่มาร์ก แอนโทนี่กับคลีโอพัตรา ไปจนถึงจอห์นนี่ แคชกับจูน คาร์เตอร์ คู่รักนักร้อง นักแต่งเพลง
การอ่านเรื่องราวความรักที่โด่งดังเหล่านี้ เป็นวิธีที่ดีในการมองหาไอเดียสร้างนิยายรัก ที่นักอ่านพบว่าน่าสนใจ เมื่ออ่านแล้ว เราก็ลองคิดดูว่ามีรายละเอียดใดที่เราสามารถนำไปใส่ในเรื่องราวของเราเองได้
ตัวอย่างเช่น โรมิโอกับจูเลียต เป็นความรักต้องห้ามที่เกิดในตระกูลที่ไม่ถูกกัน ถ้าเรากำลังจะเขียนแนวรักร่วมสมัย ก็อาจเป็นเนื้อเรื่องประมาณว่า ครอบครัวสองตระกูลในเขตชานเมืองที่เป็นปรปักษ์ต่อกัน แต่ลูกคนโตของแต่ละครอบครัวกลับตกหลุมรัก เป็นต้น
03 ลองดูประสบการณ์ความรักของคนอื่น
หลายคนชอบพูดคุยถึงประสบการณ์รักโรแมนติกของพวกเขา แนะนำให้ลองพูดคุยกับคนในชีวิตจริงของคุณ โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีประสบการณ์ชีวิตมากกว่า ถามเกี่ยวกับประสบการณ์ความรักของพวกเขา เชื่อเถอะว่าบทสนทนาเกี่ยวกับความรักสามารถเปิดเผยรายละเอียดที่น่าประหลาดใจได้
ตัวอย่างเช่น คู่รักที่บังเอิญเจอกันตอนไปเที่ยวเมื่อหลายปีก่อน กลับมาเจอกันอีกครั้งในสถานที่เดิม และการเจอกันครั้งนี้นำไปสู่การสานสัมพันธ์และใช้ชีวิตร่วมกันไปจนแก่ เป็นต้น
เหตุการณ์ประหลาดเช่นนี้ทำให้เรารู้สึกว่าเป็นพรหมลิขิต เรื่องเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับความโรแมนติกที่ยิ่งใหญ่ เมื่อนำมาเขียนแล้วก็อาจทำให้นักอ่านรู้สึกประทับใจได้ด้วยเช่นกัน
04 ฟังเพลงรัก
ในผลงานในราตรีที่สิบสอง (Twelfth Night) ของเชคสเปียร์ มีประโยคหนึ่งที่กล่าวว่า ‘ถ้าดนตรีเป็นอาหารแห่งความรัก จงเล่นต่อไป’ มันทำให้เรารู้ว่าทั้งความโรแมนติกกับดนตรีมีความเชื่อมโยงกัน
ศิลปินเพลงหลายคนเขียนเพลงรักที่น่าสนใจ ซึ่งเพลงรักแต่ละเพลงสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับนิยายรักของเราได้อย่างดี ขณะที่นั่งฟังเพลง ไอเดียก็ผุดมาเรื่อยๆ เราก็ลองคิดต่อยอดจากเนื้อเพลงจนได้ไอเดียที่เหมาะสมที่สุด
ตัวอย่างเช่น เพลง Butterflies ของ Kacey Musgraves อาจสร้างแรงบันดาลใจในการสร้างเรื่องราวความรักของคู่แข่งในอาณาจักร จากแทนที่ต้องสู้กันเพื่อชิงบัลลังก์ กลับกลายเป็นเธอขโมยหัวใจฉันตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ อิอิ
นอกจากนี้ทุกคนยังสามารถไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความ สามารถฟังเพลงก็แต่งนิยายได้! แนะนำเทคนิคปังๆ นำเพลงที่ชอบมาเป็นแรงบันดาลใจในการเขียนนิยายของคุณ

(via: fineartamerica.com/featured/il-villaggio-guido-borelli.html)
05 ดูรูปภาพ รูปวาด หรือ Art Work แนวอินเลิฟ คู่รัก
การไถดูรูปภาพคู่รัก ไม่ว่าจะในไอจี ในเฟส หรือ Pinterest คือการสูบแรงบันดาลใจอย่างเต็มที่ เอาจริงๆ นะ แค่ดูรูปภาพก็กระตุ้นจินตนาการของเรา มโนต่อจากภาพว่าเรื่องราวจะมีทิศทางยังไง หรือพล็อตเรื่องน่าจะเป็นแบบนี้ นอกจากนี้ภาพบางภาพยังช่วยให้เราได้ไอเดียในการสร้างฉากโรแมนติกด้วย
ลองเริ่มจากหารูปวาด / รูปภาพโรแมนติกๆ มาสัก 1-2 รูป เช่น ภาพ Il Villaggio วาดโดย Guido Borelli จากนั้นลองเขียนฉากที่เราพบคู่รักสองคนในวันหยุดมาอยู่ด้วยกันที่นี่ พวกเขาพูดอะไร? พวกเขาเป็นใคร? พวกเขาต้องการอะไร? อะไรคือความกลัวและความปรารถนาของพวกเขา?
แค่นี้ก็จะต่อยอดไอเดียสร้างนิยายของเราได้แล้ว!
06 เริ่มจากการสร้างโปรไฟล์ตัวละคร
การสร้างโปรไฟล์ของตัวละครเป็นวิธีที่ดีในการเริ่มเขียนเรื่องราวโรแมนติก เพราะเราจะได้สิ่งที่เป็นรูปธรรม เห็นภาพชัด จับต้องได้ ลองนึกภาพตัวละครคู่รักแต่ละคู่ แล้วลองตอบคำถามเหล่านี้
- บุคลิกของแต่ละคนเป็นอย่างไร?
- พวกเขาต้องการอะไร?
- พวกเขากลัวอะไร?
- ข้อบกพร่องและนิสัยใจคอของพวกเขาเวลาโต้ตอบกันเป็นอย่างไร?
- เราจะจับองค์ประกอบเหล่านี้มารวมกันได้อย่างไร?
- พวกเขาเข้ากันได้หรือเข้ากันไม่ได้?
อย่าลืมว่าเรื่องราวความรักอันยิ่งใหญ่ขับเคลื่อนด้วยตัวละครที่น่าสนใจ ดังนั้นควรให้ความสำคัญกับตัวละครมากๆ ลองศึกษาบทความเกี่ยวกับการสร้างตัวละครได้เพิ่มเติมที่
- How to สร้างตัวละครฉบับเร่งรัด
- 8 เคล็ดลับสร้างตัวละครให้น่าสนใจ อย่าลืมใส่ใจคำว่า “ความสัมพันธ์”
- เขียนแบบนี้รักเลย! มาดู 7 คุณสมบัติของตัวละครที่นักอ่านชื่นชอบตลอดกาลกัน!
……………
เป็นอย่างไรบ้างคะกับ 6 วิธีหาไอเดียเขียนนิยายรักที่นำมาฝาก ง่ายๆ แต่ช่วยได้เยอะ เพียงแค่นำไปปรับใช้ให้เข้ากับแนวทางของเรา ก็จะได้นิยายรักที่แตกต่างและไม่เหมือนใครแล้วค่ะ ใครทำแล้วเป็นยังไง คอมเมนต์เล่าให้ฟังด้วยนะ !
หากสนใจเคล็ดลับการเขียนหรืออยากเป็นนักเขียนที่เก่งขึ้น สามารถกดติดตามรวมบทความเด็ดได้ที่ "เปิดคัมภีร์! ส่งต่อเคล็ดลับที่จะทำให้การเขียนนิยายของคุณกลายเป็นเรื่องง่าย!" เชื่อว่าน่าจะมีเคล็ดลับการเขียนที่ตรงใจทุกคนอยู่แน่ๆ ค่ะ
พี่น้ำผึ้ง :)
ขอบคุณรูปภาพจาก https://unsplash.com/
0 ความคิดเห็น