แนะนำ 3 เมนูสุดปังในนิยายที่นักอ่านสายกินไม่ควรพลาด!

แนะนำ 3 เมนูสุดปังในนิยายที่นักอ่านสายกินไม่ควรพลาด!

สำหรับทุกคนแล้วนิยายแนวไหนคะ ที่อ่านแล้วรู้สึกอินตามง่ายๆ  ของพี่ซอจะเป็นแนวแม่ครัวทำอาหารจีนซะส่วนมาก  โดยส่วนตัวเป็นคนชอบกินอยู่แล้ว พออ่านนิยายแนวนี้ก็จะรู้สึกหิว เอ้ย อินเป็นพิเศษเลยค่ะ 

แล้วใครที่ชอบอ่านแนวนี้เหมือนกันเคยเจอเมนูที่อ่านแล้ว เอ๊ะ กับชื่อเมนูแปลกๆ บ้างไหม แบบพระกระโดดกำแพง น้ำแกงหัวสิงโต  ถ้าเคยคือเรื่องปกติค่ะ เพราะพี่ซอก็เคย วันนี้เลยจะนำเมนูอาหารเหล่านั้นมาแนะนำให้ทุกคนกันค่ะ!

 

 

วัตถุดิบแสนแตกต่างนำมาซึ่งอาหารที่ต่างกัน

 "ประเทศจีน" มีหลายมณฑลมากๆ อาหารจะมีความแตกต่างกันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ด้วยความแต่ละพื้นที่จะมีวัตถุดิบที่แตกต่างกันออกไปเลยทำให้เมนูขึ้นชื่อก็ต่างออกไปด้วย ถ้าให้เห็นภาพง่ายๆ ก็เหมือนของไทยที่เมนูอาหารในแต่ละภาคจะมีความแตกต่างกันค่อนข้างมาก 

และด้วยเหตุนี้เองอาหารจีนก็เลยแบ่งเป็นกลุ่มๆ ไปตามมณฑลต่างๆ จะมีอะไรบ้างมาดูกัน

https://images.app.goo.gl/CNT82z68WyDimKsCA
https://images.app.goo.gl/CNT82z68WyDimKsCA 
  • อาหารเสฉวน ของขึ้นชื่อ คือ "ซุปเสฉวน" เป็นอาหารประเภทรสเผ็ดร้อน ใช้เครื่องเทศเป็นส่วนประกอบจำนวนมาก พี่ซอว่าทุกคนน่าเคยได้ยินชื่อเมนูนี้กันนะ
  • อาหารกวางตุ้ง ที่พี่ซอรู้จักก็มี "ติ่มซำ" เป็นอาหารที่รู้สึกว่าทานได้เรื่อยๆ เพราะรสชาตินุ่มละมุนลิ้น มีความหลากหลายถ้าทานบ่อยๆ ก็ไม่เบื่อ พี่ซอชอบทานมากๆ
  • อาหารปักกิ่ง คนส่วนมากน่าจะรู้จักเมนู "เป็ดปักกิ่ง" กัน โดยส่วนตัวพี่ซอยังไม่เคยลองกินเมนูนี้เลย แต่ก็เห็นหลายคนบอกว่าอร่อยมากๆ หรือไปปักกิ่งก็ต้องกินเมนูนี้
  • อาหารจีนฮากกาหรือจีนแคะ "ผักต้มหมูสามชั้น" เมนูนี้ทุกคนน่าเคยได้ยินชื่อนะ เหมือนว่าของที่ไทยก็น่าจะมี เมนูนี้พี่ซอก็ยังไม่เคยกิน แต่รู้สึกว่าถ้าทานกับข้าวสวยร้อน น่าจะอร่อยมากๆ

จริงๆ อาหารจีนมีอีกหลายประเภทมากๆ ที่พี่ซอตัวอย่างมาก็คืออันที่หลายคนพอคุ้นๆ กันอยู่บ้างเพื่อความเข้าใจได้ง่าย แล้วทุกคนพอเข้าใจกันไหมคะ ถ้าพอเข้าใจแล้ว เราก็ไปสถานีต่อไปกันเลยค่ะ นั่นก็คือ อาหารอ่านแล้วน้ำลายสอในนิยายนั้นเอง วันนี้ “พี่ซอ”ยกมาแนะนำให้ทุกคนด้วยกันถึง 3 เมนู จาก 3 เรื่องเลย จะมีอะไรบ้างก็เลื่อนต่อเลย!!!

เคาหยก ( 扣肉 kòuròu)

https://images.app.goo.gl/WBYHT5LTN8DX1cKDA
https://images.app.goo.gl/WBYHT5LTN8DX1cKDA 

จากเรื่อง ทะลุมิติไปเป็นแม่ครัวท่านแม่ทัพ

นางเอกของเรื่องนี้ชาติก่อนเป็นแม่ครัวร้านอาหารในจีน นางตายลงเพราะเหตุแก๊สระเบิด แล้วทะลุมิติไปยังอีกโลกหนึ่ง ซึ่งตอนมาถึงก็ได้ลองกินอาหารของที่นี้จากชายแปลกหน้าที่ช่วยนางไว้ ตอนกินเข้าไปนางเอกรู้สึกว่ารสชาติมันแย่มาก จนวันหนึ่งนางทนไม่ไหวกับรสชาติอาหารแบบนี้จึงต้องลงมือทำเอง นั้นแหละจุดเริ่มต้นการเป็นแม่ครัวผู้รังสรรค์เมนูอาหารมากมาย

แล้วมีอยู่ฉากหนึ่งที่พระเอกจับหมูปลามาได้ นางเอกเลยคิดจะทำเมนู "เคาหยก" ขึ้นมาโดยนำผักกาดดองมาหั่นเป็นชิ้นบางๆ แล้วนำหมูสามชั้นปต้มจนสุก จากนั้นนำส้อมจิ้มลงไปบนเนื้อให้ทั่ว ก่อนจะนำไปอบ เป็นเวลา 1 ชั่วโมง เสร็จแล้วก็นำไปทอดในน้ำมันด้วยไฟอ่อนๆ เป็นเวลา 30 นาที แล้วนำมาพักไว้ค่อยลงไปทอดต่อด้วยไฟแรง จนมีสีเหลืองทองกรอบอร่อย ต่อมาก็นำพวกเครื่องเทศต่างๆ มาผัดให้เกิดกลิ่นหอม หลังจากนั้นนำหมูที่เตรียมไว้ไปวางในกระทะเครื่องเทศ เทน้ำลงไป แล้วทำการตุ๋นต่อเลย จบด้วยการเตรียมจิ้มเป็นสิ่งสุดท้าย

"เคาหยก"เป็นเมนูที่พอพี่ซออ่านจบแล้ว ก็รู้สึกว่าซื้อกินดีกว่านะทุกคน ขั้นตอนเยอะมาก กว่าจะทำเสร็จน่าจะหิวตายก่อน ฮา แต่ในประเทศไทยจะมีเมนูนี้ไหม พี่ซอสงสัยก็เลยไปหาดู ซึ่งมีนะ

คนไทยส่วนมากจะรู้จักเคาหยกในชื่อ “สามชั้นตุ๋นผักกาดแห้ง”  ซึ่งรสชาติของเคาหยกจะมีความละมุนนุ้มลิ้นจากการนำหมูสามชั้นไปตุ๋นจนเปื่อยสามารถละลายในปากได้ และตัดเลี่ยนด้วยผักกาดดองเค็มแบบแห้ง พี่ซอว่าวิธีการทำเมนูนี้ก็ไม่ต่างจากในนิยายมากเท่าไรนะ ถึงบอกว่าซื้อกินดีกว่าทุกคน

อ่านเลย

ปลาหลีข้ามประตูมังกร
(鲤鱼跳龙门 Lǐyú tiào lóngmén)

https://images.app.goo .gl/Pfgi5GUQjy9ZF4nW6
https://images.app.goo .gl/Pfgi5GUQjy9ZF4nW6 

จากเรื่อง ตำรับรักจอมนาง

นางเอกของเรื่องนี้ คือเชฟระดับมิชลินสตาร์ ที่อยู่ดีๆ ก็หลุดเข้าไปในจีนยุคโบราณร่างอนุภรรยาจวนท่านอ๋อง ผู้กำลังโดนไล่ออกจากจวน แล้วด้วยความเพิ่งมาถึงก็โดนไล่ทันที เธอก็โต้แย้งอะไรไม่ได้ จึงได้ก้มหน้ารับชะตากรรมออกจากที่นั่นมา และเดินทางกลับบ้านเกิดตัวเองในระหว่างนั้นก็ได้เกิดเหตุให้เธอต้องแสดงฝีมือการทำอาหารซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างสรรค์ผลงานอาหารจนทุกคนยอมรับนั้นเอง 

ซึ่งจะมีตอนหนึ่งที่นางเอกได้แสดงฝีมือต่อหน้าฮ่องเต้โดยการรังสรรค์ "ปลาหลี" ที่มีความมงคลอยู่แล้วให้กลายเป็นผลงานล้ำเลิศ จากการนำปลาไปแล่เนื้อออกจากก้างเป็นชิ้นๆ แล้วนำก้างไปชุปแป้งทอด หลังจากนั้นก็ตั้งกระทะ ใส่ พริกหอม ต้นหอม หอมแดง เครื่องเทศต่างๆ ลงไปผัดให้เข้ากันจนโชยกลิ่นหอมออกมา พอทุกอย่างได้ที่แล้วก็นำก้างปลาที่เตรียมไว้มาผัดในกระทะเครื่องเทศพร้อมกับปรุงรสด้วยซีอิ๊ว น้ำมันพริก เกลือ น้ำตาล ก่อนจะราดเหล้าลงไป แล้วนำของที่ผัดไว้ไปต้มเป็นน้ำแกงพอได้ที่แล้ว ก็ราดน้ำแกงสีเหลืองทองลงบนเนื้อปลาดิบที่เตรียมไว้ จนเกิดเสียงฟู่ 

ฉากนี้คืออาหารที่นางเอกทำออกมามีความสวยน่าทานจนผู้คนตกใจไม่พอ ยังทำให้พี่ซออยากกินน้ำแกงปลาด้วยเลย แถมสงสัยว่าเมนูนี้ในความเป็นจริงจะหน้าตาและมีวิธีทำที่ต่างจากในนิยายมากไหม พี่ซอเลยไปหาข้อมูลมาได้ว่า

 สำหรับคนจีนส่วนมากจะถือว่าปลาหลีเป็นอาหารมงคล มีความหมายว่า ความพยายามที่ประสบผลสำเร็จประมาณนี้ 

ซึ่ง "ปลาหลีข้ามประตูมังกร"เนี่ย คนจีนมักจะกินเมื่อทำเป้าหมายที่วางไว้ได้สำเร็จลุล่วงและวิธีการทำก็คล้ายๆ กับในนิยายเลยด้วยต่างกันตรงชีวิตจริงจะใช้ปลาทั้งตัวมาทำเมนูนี้ นึกภาพปลาทอดสีเหลืองทอง ราดด้วยน้ำซอสที่ตลบอบอวนไปด้วยกลิ่นหอมๆ ของเครื่องเทศ พอนึกภาพมาถึงตรงนี้ อยู่ดีๆ ข้าวสวยในมือก็สั่นเลย

อ่านเลย

หม้อไฟปักกิ่ง 
(北京火锅 Běijīng huǒguō)

https://pin.it/2KkFVCK
https://pin.it/2KkFVCK 

จากเรื่อง มาดามหลังวัง

นางเอก คือหัวหน้าเชฟชื่อดังที่มีบรรพบุรุษเป็นถึงพ่อครัวในห้องเครื่อง แถมยังมีร้านอาหารชื่อดังประวัติเรื่องลือที่โดนขโมยไปก่อนเธอจะเกิดเสียอีก  เธอใช้ชีวิตอย่างปกติสุขมาตลอดจนวันหนึ่งเหตุแผ่นดินไหวก็มาพรากชีวิตเธอไป พอลืมตาตื่นขึ้นมา นางเองของเราก็พบว่าย้อนเวลากลับมายุคอดีตที่ปู่เคยเล่าให้ฟังบ่อยๆ ในร่างของบรรพบุรุษตัวเองแล้ว ดังนั้นเธอจึงต้องทำทุกวิธีทางเพื่อรักษาร้านอาหารของตระกูลเธอไว้ให้ได้  

 ซึ่งจะมีฉากหนึ่งที่นางเอกเรานำ "หม้อไฟปักกิ่ง" มาเป็นอาหารในการเฉลิมฉลอง โดยการวางหม้อน้ำซุปร้อนๆ ที่พอเปิดฝา กลิ่นหอมของเครื่องเทศในน้ำซุปก็ฟุ้งกระจายทันที ไว้ตรงกลาง แล้วรอบๆ โต๊ะก็มีเนื้อชิ้นบางๆ หลายชนิดวางเรียงกัน รวมไปถึงผักมากหน้าหลายตา ของทานเล่น และสิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือน้ำจิ้ม ยิ่งตอนนางเองสาธิตการกินด้วยการจุ่มเนื้อลงไปในหม้อนะ ในหัวพี่ซอลอยมาเป็นภาพเลย แต่พอเห็นแบบนี้ก็สงสัยอ่ะว่าหม้อไฟปักกิ่งแตกต่างจากหม้อไฟฉงชิ่งยังไง ก็เลยลองไปหาข้อมูลมา 

หม้อไฟของฉงชิ่งจะให้ฟิลความเผ็ดร้อนมากกว่า เหมาะสำหรับคนชอบกินเผ็ด เพราะฉงชิ่งจะเป็นหม้อไฟหม่าล่า ส่วนปักกิ่งนั้นจะมีความเผ็ดที่น้อยกว่า แล้วหม้อไฟปักกิ่งส่วนมากจะใช้หม้อที่คล้ายๆ กับหม้อไฟต้มยำของไทยตามร้านอาหาร จะให้ความรู้สึกคลาสสิกมากๆ ในตอนที่กิน  

สำหรับพี่ซอ ปกติจะชอบทานหม้อไฟอยู่แล้ว แต่ยังไม่เคยลองทานแบบต้นตำรับสักที แต่หลังจากนี้น่าต้องไปหาลองทำกินดูบ้างแล้วล่ะ นึกภาพตอนเราจุ่มเนื้อชิ้นบางๆ ลงในหม้อ เอาขึ้นมาจิ้มน้ำจิ้ม เอาเข้าปากพร้อมผักเพื่อตัดเลี่ยน แค่คิดก็น้ำไหลสอและ   

 

อ่านเลย

เป็นไงบ้างคะกับเมนูที่พี่ซอ เอามาแนะนำมีใครอ่านแล้วหิวกันบ้าง เพราะตอนนี้พี่ซออยากกินหม้อไฟสุดๆ ไปเลย นึกถึงตอนจุ่มเนื้อลงในหม้อ จิ้มน้ำจิ้ม พอทานเข้าไปแล้วเนื้อก็ละลายในปากนะ กลืนน้ำลายดังเอื๊อกเลยทีเดียว หิวสุดอะไรสุด ฮา 

และทุกคนล่ะคะมีอาหารอะไรไหมที่แค่ได้ยินชื่อก็สามารถจินตนาการรสชาติมันออกมาได้เลย หรือ จะเป็นอาหารประเภทชื่อแปลกๆ ก็ได้ค่ะ ถ้ามีก็อย่าลืมมาแชร์ กันใต้บทความนี้ได้เลยนะคะ สำหรับวันนี้พี่ซอก็ขอตัวลาไปหาอะไรกินก่อน บายๆ 

พี่ซอ

อ้างอิงhttps://baike.baidu.com/item/%E5%8C%97%E4%BA%AC%E7%81%AB%E9%94%85/8040221https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A2%E0%B8%81https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%99https://baike.baidu.com/item/%E9%B2%A4%E9%B1%BC%E8%B7%B3%E9%BE%99%E9%97%A8/3122317
พี่ซอ
พี่ซอ - Columnist ชื่อเหมือนขอโทษตลอดเวลา

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น