กำลังหาปกอยู่ใช่ไหม? มาเช็คกัน 6 สไตล์ปกยอดนิยมในไทย พร้อมไกด์เลือกให้เข้ากับแนวนิยายคุณ

สวัสดีค่า เกริ่นก่อนว่า เราเคยเป็นนักวาดปกนิยายมาก่อนค่ะ เลยมีโอกาสได้คุยกับนักเขียนหลายท่านที่แวะมาถามเรื่องสไตล์ปกอยู่บ่อยๆ ว่าปกแบบนี้เรียกว่าอะไร หรือควรเลือกแบบไหนดีให้เข้ากับนิยายของตัวเอง

วันนี้เราเลยลองจัดกลุ่ม “ประเภทปกนิยายยอดนิยมในไทย” ออกเป็น 6 แบบ เรียงจากความสมจริงมากที่สุด ได้แก่ ปกภาพถ่าย, ปกคอลลาจ (ตัดแปะ), ปกกราฟฟิค, ปกวาด, ปกเวกเตอร์ และปกตัวอักษรค่ะ

ก่อนจะพาไปดูรายละเอียดของแต่ละแบบ เราเตรียมตารางจับคู่ระหว่าง “แนวปก” กับ “แนวนิยาย” ที่มักใช้คู่กันไว้ให้เรียบร้อยแล้ว เผื่อใครอยากเช็กภาพรวมก่อน จะได้ดูง่ายในแวบเดียวเลย

แต่ตารางนี้ไม่ได้เป็นกฎตายตัวนะคะ สุดท้ายแล้ว การเลือกปกยังขึ้นอยู่กับความชอบและจินตนาการของนักเขียนเป็นหลักเสมอ ถ้ามีภาพในใจอยู่แล้ว หรืออยากลองอะไรใหม่ๆ ก็ทำได้เต็มที่เลยค่ะ เพราะบางครั้ง ความต่างนั่นแหละ...อาจคือเสน่ห์ที่ทำให้ปกของเราน่าจดจำที่สุดก็ได้ 

 

พร้อมแล้วก็ตามมาดูกันเลยค่ะ

1. ปกภาพถ่าย

ปกประเภทนี้ให้ความรู้สึกเสมือนจริงมากที่สุด เหมาะกับนิยายที่เนื้อหาเข้มข้น จริงจัง และอิงความเป็นจริง ไม่ว่าจะเป็นแนวลึกลับ สืบสวน โรแมนติกดราม่าที่หนักหน่วง เรื่องสะท้อนสังคม หรือพูดถึงเหตุการณ์ร่วมสมัย

เสน่ห์ของปกภาพถ่ายคือความจริงที่สัมผัสได้ทันที ซึ่งภาพวาดอาจไม่สามารถถ่ายทอดแทนได้ เช่น มือจริงๆ ที่ยกขึ้นขอความช่วยเหลือ หรือสีหน้าของคนที่เจ็บปวด ในภาพ คือพลังเฉพาะตัวของปกแบบนี้

2. ปกคอลลาจ (collage) หรือตัดแปะ

ปกประเภทนี้คือการตัดภาพแต่ละส่วนมาจากคนละที่แล้วเอามารวมกัน เพื่อสร้างความรู้สึกสับสน ลึกลับ หรือเชิงสัญลักษณ์ จากสิ่งที่ไม่น่าจะมารวมกันได้ เช่น กระต่ายที่อยู่ข้างอัญมณี หรือ กระจกกับวัง ทั้งที่ของพวกนี้ดูไม่เกี่ยวกันเลย แต่พอมาอยู่ด้วยกันกลับชวนให้คิดว่า…มันสื่อถึงอะไรบางอย่างรึเปล่านะ?

ภาพคอลลาจมีข้อดีตรงที่ยังคงความสมจริงจากชิ้นส่วนของภาพถ่าย แต่พอจัดเรียงใหม่ตามคอนเซปต์ของเรื่อง ก็สามารถสร้างบรรยากาศที่แตกต่างจากเดิม หรือให้ความรู้สึกขัดแย้งกันอย่างมีนัยยะ

แนวนี้จะเหมาะมากกับนิยายที่มีความซับซ้อน ไม่ได้เล่าเรื่องแบบตรงไปตรงมา เช่น นิยายชีวิตที่ตีความได้หลายชั้น นิยายรักที่มีปม หรือเรื่องที่สะท้อนสังคมและจิตวิทยา 

ปกแบบนี้ไม่จำเป็นต้องสื่อทุกอย่างให้ชัดเจนตั้งแต่แรกเห็น แต่จะค่อยๆ ทำหน้าที่ของมันไปเรื่อยๆ จนเมื่อนักอ่านอ่านจบ แล้วปิดเล่มกลับมาอีกครั้ง…อาจต้องเผลอร้องว้าวกับความอัจฉริยะของปกที่ซ่อนอะไรไว้มากกว่าที่คิด!

3. ปกกราฟฟิค

เป็นปกที่นักเขียนนิยายในไทยนิยมใช้กันเยอะเลย โดยเฉพาะแนวโรแมนติก จุดเด่นคือไม่ต้องใช้ตัวละครอยู่ในภาพ แต่ใช้องค์ประกอบจากของต่างๆที่เราคุ้นตา เช่น ดอกไม้ หนังสือ ถ้วยกาแฟ หรือของในชีวิตประจำวัน แล้วจัดวางให้เข้ากับอารมณ์ของเรื่อง

สิ่งของแต่ละชิ้นไม่ได้อยู่ในภาพแบบสุ่มๆ แต่ถูกเลือกมาอย่างตั้งใจ เพื่อสื่อถึงธีมและความรู้สึกของเรื่อง เช่น กุหลาบแทนความรักที่อ่อนหวาน หนังสือเก่าบนโต๊ะไม้ให้อารมณ์คิดถึง 

ปกกราฟิกเหมาะกับนิยายที่อยากเน้น “ความรู้สึก” เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นรักอบอุ่น ฟีลกู้ด ดราม่า เหงาๆ หรือเรื่องที่มีความซับซ้อนในใจของตัวละคร เพราะแค่เห็นปก ก็เหมือนได้กลิ่นอายของเรื่องก่อนจะเปิดอ่านด้วยซ้ำ

 

4. ปกวาด

ปกวาดเป็นปกยอดฮิตในโซนเอเชีย เพราะรูปวาดสามารถสื่อสารอารมณ์ออกมาได้หลากหลาย ทั้งยังรองรับแนวเรื่องที่หลากหลายกว่าการออกแบบประเภทอื่นๆ ด้วยความที่สามารถสร้างทุกอย่างขึ้นมาจากศูนย์ได้ จึงตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะตัวของนักเขียนแต่ละท่านได้เป็นอย่างดี โดยสามารถแบ่งได้เป็น 6 แบบย่อยดังนี้

4.1 ปกวาดแนวอนิเมะ / มังฮวา

เป็นปกที่ลายเส้นคล้ายการ์ตูนเว็บตูนหรืออนิเมะ ลายเส้นไม่ซับซ้อน เหมาะสำหรับนิยายที่โฟกัสประเด็นอื่นมากกว่าตัวละคร ปกแบบนี้จะสามารถใส่ไดนามิกได้เยอะ 

ซึ่งเหมาะสำหรับ 

  • นิยายแฟนตาซี เช่น เราอยากให้ผู้อ่านเห็นความอลังการของโลกแฟนตาซีที่เราสร้าง หรืออยากให้เห็นว่าพระเอกมีเวทมนตร์ยิ่งใหญ่แค่ไหน การใช้เส้นที่ไม่หนักหรือซับซ้อนมาก ทำให้ปกดูสนุก มองแล้วเข้าใจง่าย
  • นิยายแนวสดใส สบายๆ การใช้ลายเส้นง่ายๆ ก็จะให้ความรู้สึกผ่อนคลายต่อคนอ่านได้เช่นกัน
  • แนวลึกลับ สืบสวน ที่อยากใส่กิมมิคให้ปกดูน่าสนใจกว่าภาพธรรมดาทั่วไป ปกแนวนี้ก็ตอบโจทย์ เพราะสามารถดึงความสนใจไปที่กิมมิคที่เราอยากสื่อสารได้อย่างชัดเจน

 

 

4.2. ปกวาดแนวสมจริง (Realistic) และกึ่งสมจริง ( Semi-realistic )

เป็นงานวาดแนวสมจริงได้ค่อนข้างเยอะ ที่เน้นแสงเงา สีผิว รายละเอียดของใบหน้า เส้นผม และดวงตา ให้ใกล้เคียงกับภาพถ่าย จุดเด่นของแนวนี้คือสามารถดึงอารมณ์ของตัวละครได้ชัดเจน และสร้างบรรยากาศที่เน้นความรู้สึกในเรื่องให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เหมาะกับนิยายดราม่าหรือโรแมนติกที่ต้องการให้อารมณ์เป็นหัวใจหลักของเรื่อง

ลายเส้นแบบนี้ยังให้มิติของแสงและสีได้ลึกกว่าแนวอนิเมะ เลยเหมาะกับเรื่องที่อยากให้ตัวละครดูโต มีความจริงจัง หรือมีน้ำหนักทางอารมณ์มากขึ้น

แต่ถ้านิยายของคุณไม่ได้เน้นที่ตัวละครเป็นหลัก เช่น มีโลกแฟนตาซีของตัวเองหรือฉากหลังที่มีรายละเอียดสำคัญ การใช้แนวนี้อาจทำให้สายตาผู้อ่านไปตกอยู่ที่ตัวละครโดยไม่ตั้งใจ จนกลบจุดเด่นที่นักเขียนอยากจะสื่อได้

4.3. ปกวาดแนวสมจริง(realistic) ในนิยายแฟนตาซี

ถึงแม้เราจะบอกว่าปกแนวสมจริง ไม่เหมาะกับแฟนตาซี แต่บางครั้ง มันช่วยทำให้โลกในเรื่องดู ‘จับต้องได้’ หรือ ‘หลอน’ มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในแนวที่ไม่ได้เน้นความอลังการของเวทมนตร์หรือฉากแอ็กชัน แต่เน้นให้นักอ่านอินกับบรรยากาศ และ ความรู้สึก ปกแนวนี้จึงเหมาะกับแฟนตาซีที่มีความหม่น ลึก หรือตั้งอยู่ในโลกที่อยากให้คนดูเชื่อว่ามัน ‘จริง’

นอกจากนี้ บางปกยังมีการนำภาพจริงมาปะปนกับภาพวาด หรือ เรียกว่าเทคนิค Matt-painting เพื่อเพิ่มความสมจริง ซึ่งจะช่วยให้คนรู้สึกว่าโลกแฟนตาซีนี้มันสมเหตุสมผล

4.4. ปกวาดแนวจิบิ

ปกนี้จะวาดตัวละครให้ออกมาในแบบเจ้าก้อน ตาโต แก้มน่าหยิก เน้นความน่ารักแบบที่เห็นแล้วใจละลาย เหมาะกับนิยายสายฮา สายปั่น หรือแนวกุ๊กกิ๊กอบอุ่นที่เน้นความสัมพันธ์น่ารักๆ ฟีลต้าวอ้วง ที่แค่มองก็อดยิ้มไม่ได้

แม้จะไม่ได้ลงรายละเอียดมากเท่าปกแนวอื่น แต่จิบิก็มีเสน่ห์เฉพาะตัวที่ช่วยให้ภาพรวมของเรื่องดูเบาสบาย เข้าถึงง่าย และเป็นมิตรกับคนอ่าน 

นักเขียนบางท่านอาจไม่ได้เลือกใช้จิบิกับปกหลักของเรื่อง แต่ก็มักทำเวอร์ชั่นจิบิของตัวละครไว้แจกแฟนคลับ เป็นของสะสมหรือไว้ใช้โปรโมตตอนพิเศษ ซึ่งความหน้าแบ๊วแบบนี้ก็ช่วยเพิ่มความผูกพันระหว่างนักเขียน ตัวละคร และคนอ่านได้อย่างอบอุ่นมากๆเลย

4.5. ปกวาดสีน้ำ

เป็นงานวาดดิจิทัลที่ตั้งใจให้ดูเหมือนใช้สีน้ำจริง ลักษณะเด่นของสีน้ำคือการไหลและการกระจายของสีที่ไม่แข็งหรือชัดขอบเกินไป จึงให้ความรู้สึกเบา ละมุน และพาใจลอย ปกแบบนี้มักให้อารมณ์ผ่อนคลาย แต่แฝงความรู้สึกไว้ลึกๆ ในโทนเดียวกัน

จึงเหมาะกับ

  • นิยายโรแมนติกของผู้ใหญ่ที่มีอารมณ์ซับซ้อนกว่านิยายวัยรุ่น เช่น ความรักที่ค่อยๆ ซึมลึก หรือความสัมพันธ์ที่มีร่องรอยของการพลัดพราก การกระจายของสีของสีน้ำทำให้รู้สึกถึงสิ่งที่ไม่แน่นอน ชวนคิด ชวนรู้สึกมากกว่าการบอกตรงๆ
  • ในอีกด้านหนึ่ง สีน้ำยังมีความโปร่งเบาคล้ายหมอกหรือเมฆ เลยถูกหยิบมาเป็นปกนิยายฟีลกู๊ดอยู่บ่อยๆ ที่เน้นการเยียวยาหัวใจ การเติบโตของตัวละคร หรือเรื่องที่ต้องการให้ผู้อ่านรู้สึกได้พักใจ สถานที่ธรรมชาติอย่างทุ่งหญ้า หาดทราย หรือภูเขา ก็ดูสบายตามากขึ้นเมื่ออยู่ในภาพสีน้ำ เพราะตัวเทคนิคเองเน้นบรรยากาศโดยรวมมากกว่ารายละเอียด เลยมีจุดให้เราพักสายตาอยู่บ้าง
  • นิยายจีนย้อนยุคก็ใช้ปกแนวนี้บ่อยไม่แพ้กัน ด้วยความที่สีน้ำสามารถถ่ายทอดความพริ้วของชุดจีนโบราณ ผ้าผืนบาง หรือแสงแดดอ่อนๆ ผ่านหมึกจางๆ ได้ดี และยังให้อารมณ์เหมือนภาพวาดจีนโบราณที่ใช้พู่กันกับหมึกอีกด้วย ปกแบบนี้จึงยิ่งช่วยเติมบรรยากาศย้อนยุคแบบละเมียดละไม เข้ากับความเป็นจีนได้อย่างลงตัว

 

4.6. ปกวาดสีพาสเทล / สีเทียน

ปกแนวนี้ใช้โทนสีที่ชวนให้นึกถึงวัยเด็ก จึงเหมาะกับนิยายที่พูดถึงความไร้เดียงสา ความทรงจำวัยเยาว์ หรือช่วงชีวิตที่เรียบง่ายและอบอุ่น

ภาพที่ได้มักให้ความรู้สึกอุ่นใจแบบไม่ต้องพยายาม ทำให้คนอ่านรู้สึกปลอดภัย ไร้กังวล เหมาะกับภาพธรรมชาติเช่น ฉากเมืองเล็ก ทุ่งหญ้า แสงแดด หรือวันธรรมดาๆ  

ปกแนวนี้ยังเหมาะกับนิยายรักอบอุ่นหัวใจ หรือ เรื่องที่อยากบอกว่า "ตั้งแต่เจอเธอ ฉันไม่ต้องกังวลอะไรอีกแล้ว" เพราะแค่เห็นภาพก็สัมผัสถึงความสบายใจได้ทันที

ถึงจะดูเรียบง่าย แต่โทนนี้มีพลังเฉพาะตัวในการแตะใจคนอ่านแบบนุ่มนวล และกลายเป็นปกที่ทำให้ใครหลายคนต้องเผลอหยุดมองแล้วหยิบขึ้นมาอ่าน โดยไม่รู้ตัว

5. ปกแนวเวกเตอร์

เป็นงานปกที่สร้างขึ้นจากโปรแกรม Illustrator หรือโปรแกรมวาดแบบเวกเตอร์อื่นๆ จุดเด่นคือ ความคมชัด ไม่ว่าจะย่อหรือขยายใหญ่แค่ไหน ภาพก็ยังเป๊ะ ไม่มีแตกเลยแม้แต่นิด เหมาะกับปกที่ต้องการความเรียบร้อย เนี้ยบ และเส้นสายที่เป๊ะทุกมุม

ปกแนวนี้มักใช้กับงานออกแบบที่เน้นความเป็นกราฟิก หรือโมเดิร์นๆ หน่อย โดยเฉพาะงานที่เน้นการจัดวางองค์ประกอบแบบมีระบบ มากกว่าความอิสระแบบภาพวาดหรือภาพถ่าย

ภาพที่ได้อาจไม่ได้ “เหมือนจริง” เท่าแนวอื่น เพราะเล่นกับแสง สี หรือรูปร่างได้น้อยกว่า แต่ถ้าเรื่องของ “ความชัด” แนวนี้คือที่สุดแล้วจริงๆ โดยเฉพาะถ้าอยากใช้หลายขนาด จากภาพที่คั่นหนังสือ ไปจนถึง ขึ้นบิลบอร์ดก็ยังคมกริบ 

6. ปกตัวอักษร (Typography-Based)

ปกประเภทนี้จะใช้ “ตัวอักษร” เป็นองค์ประกอบหลักของการออกแบบเลย โดยเน้นการเลือกฟอนต์ ลวดลาย หรือการจัดวางตัวอักษรให้สื่ออารมณ์หรือธีมของเรื่องออกมาได้ชัดเจน—โดยไม่ต้องมีภาพตัวละครหรือฉากใดๆ เลยด้วยซ้ำ

ในไทยอาจยังไม่ได้เห็นบ่อยนัก ยกเว้นฝั่ง non-fiction แต่ในต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดวรรณกรรมหรือวรรณกรรมเยาวชน ปกแนวนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในกระแสหลักเลยก็ว่าได้

ปกตัวอักษรจะเหมาะกับนิยายที่มีชื่อเรื่องแข็งแรง สะดุดตา หรือมีความหมายในตัว เช่น คำที่ชวนให้สะกิดใจ หรือคำสั้นๆ ที่พออ่านแล้วเปิดช่องให้คนอยากตีความต่อ การออกแบบปกแนวนี้จึงเหมือนเป็นทั้งงานศิลปะและการเล่าเรื่องในตัวเอง เรียบง่ายแต่ทรงพลังแบบเงียบๆ 

 

หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เพื่อนๆ พี่ๆ นักเขียนเลือกปกนิยายได้ง่ายขึ้น ไม่มากก็น้อย

แต่สุดท้ายแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดก็ยังคงเป็น “เสียงของเรื่อง” ที่มาจากตัวนักเขียนเอง ไม่มีปกไหนที่ถูกหรือผิด ตราบใดที่มันสื่อสารเรื่องราวของเราได้อย่างจริงใจ และเป็นภาพที่เรามองแล้วรู้สึกว่า... “นี่แหละ คือตัวตนของเรื่องนี้จริงๆ”

ขอให้ทุกคนได้ปกนิยายที่รัก และได้เล่าเรื่องในแบบของตัวเองอย่างเต็มที่เสมอค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ 

พี่จอย
พี่จอย - Columnist นักวาดที่ผันตัวมาเขียนคอนเทนต์ ชีวิตมีอะไรสนุกๆให้ลองอีกเยอะ!

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

1 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด