4 วิธีเขียนอย่างไรให้สนุกและน่าอ่าน เคล็ดลับจากพี่จุ้ย ศุ บุญเลี้ยง เขียน...เขียน...น้องๆนักเขียนชาวเด็กดีเป็นยังไงกันบ้างจ๊ะ วันนี้พี่นัทมีเคล็ดลับดีๆเขียนให้สนุกจากพี่จุ้ย ศุ บุญเลี้ยงมาฝากกัน จากที่พี่นัทได้ไปค่าย YOUNG WRITER ของ TK PARK ที่เซ็นทรัลเวิร์ดมา ข้อมูลดีๆอย่างงี้พี่นัทเลยอดไม่ได้ที่จะเอามาลง ให้น้องชาวเด็กดีจะพัฒนางานเขียนกันจ๊ะ เคล็ดลับของพี่จุ้ยก็มี 4 คำ ง่ายๆ จ๊ะ 1. แต่ 2. ตรรกะ 3. ขยาย 4. ขยี้ 4 คำนี้จงจำไว้ให้มั่นนะจ๊ะน้องๆ พี่นัทว่ามันสามารถนำไปใช้กับงานเขียนได้ทุกประเภทเลยจ๊ะ เอางี้...มาอธิบายให้น้องๆเข้าใจแบบแจ่มๆกันเลยดีกว่า
1. แต่ คำว่า แต่ ในภาษาไทยที่เราเคยเรียนกันมาตั้งแต่ประถม เป็นคำที่แสดงอะไรเอ่ย??...ติ๊กต๊อก...ๆ...ๆ...ถูกต้องนะคร๊าบ(ถามเองตอบเองซะงั้นอ่ะ) แสดงความขัดแย้งจ๊ะ น้องๆลองคิดดูว่าถ้าเรื่องที่น้องๆแต่งไม่มีความขัดแย้งเลย...ตัวละครทุกตัวแฮปปี้เอ็นดิ้ง มีความสุขทุกอย่างสมบูรณ์แบบ...แล้วนิยายเรื่องนั้นมันจะสนุกอะไรล่ะจริงไหม...คนอ่านก็จะมีแต่ความน่าเบื่อแล้วก็วางนิยายเรื่องนั้นลงไปในที่สุด ความขัดแย้งสำคัญมาในการเล่าเรื่อง เพราะคนอ่านจะติดตามความขัดแย้งนั้นว่าต่อไปจะเป็นอย่างไร คำถามที่เกิดขึ้นคือ ต่อไปมันจะจบลงอย่างไร ความขัดแย้งนี้ไม่ได้หมายความว่าในเนื้อเรื่งจะต้องมีการทะเลาะกันนะจ๊ะ เช่น ความขัดแย้งของชื่อเรื่อง ผมเป็นพยาบาลที่อยากเขียนหนังสือ อยากเห็นหน้าคุณพยาบาลคนนี้ไหมจ๊ะ แน่นอนว่าเขาต้องเป็นผู้ชายชัวร์ ทำให้คนอ่านอยากติดตามต่อไปว่าเขาเป็นคนยังไง อาชีพที่ทำมันชั่งขัดแย้งกับสิ่งที่อยากทำ 2. ตรรกะ น้องๆคงเคยได้ยินคำนี้มาบ้างแล้วพี่นัทจะอธิบายให้ฟังจ๊ะว่ามันจะเอามาใช้กับงานเขียนได้อย่างไร ตรรกะ หมายถึง การใช้ความคิดพิจารณา หาคำพูดหรือคำบรรยายที่เพียบพร้อมไปด้วยเหตุผลมาเสนอต่อผู้ฟังหรือผู้อ่าน ตรรกะที่ดีต้องมีข้อเท็จจริงและหลักฐานอ้างอิง ซึ่งสอดคล้องกับความเชื่อ ทัศนคติ ค่านิยม หรืออุดมการณ์ของผู้ฟังหรือผู้อ่าน ระหว่างการเล่าเรื่อง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น น้องๆต้องใช้ตรรกะ หรือเรียกง่ายๆว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะต้องมีความสมเหตุสมผลกัน เช่น ตัวละครตัวหนึ่งจะเสียชีวิต ต้องมีสาเหตุว่าทำไมเขาจึงเสียชีวิต เมื่อเสียชีวิตไปแล้วทำให้เนื้อเรื่องมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง ส่งผลกระทบต่อตัวละครตัวอื่นๆอย่างไร
3. ขยาย แน่นอนว่างานเขียนทุกเรื่องจะต้องมีการเขียนบรรยาย ขยายรายละเอียดให้คนอ่านเห็นภาพ ไม่จำเป็นต้องเล่าเรื่องอย่างละเอียดทุกเม็ดทุกหน่วย เพียงแต่เลือกที่จะเล่า เลือกที่จะบอกคนอ่าน เผยความน่าสนใจเพื่อนให้คนอ่านติดตามมาทีและเล็กทีละน้อย การเป็นนักเขียนต้องรู้จักขยาย และงานเขียนที่ดีต้องขยายหลายๆจุด เพื่อให้คนอ่านเข้าถึงเนื้อเรื่องให้ได้มากที่สุด 4. ขยี้ การ ขยี้ น้องๆอย่าเพิ่งคิดไปไกลว่าเหมือนการซักผ้า ขยี้เอาสิ่งสกปรกออก เล่นฟองแฟ๊บที่ล้นๆเอ่อออกจากกะละมังนะจ๊ะ(เอ๋!...หรือว่าบ้านน้องๆซักผ้าด้วยเครื่องกันหมดแล้ว เอ่อคือ..บ้านพี่นัทยังซักมืออยู่เลยอ่ะ555+ เขิลจัง!) วู้ๆมาเข้าเรื่องกันต่อ น้องๆคงสงสัยว่าการขยี้งานเขียนจะทำอย่างไร ขยี้คือต้องนำสิ่งที่ขยายมาทำให้เด่นชัดมากยิ่งขึ้น เหมือนเพลงทุกเพลงที่ต้องมีท่อนฮุก คนฟังจะรู้ว่าเพลงนี้ต้องการจะสื่ออะไรเป็นสำคัญ พี่นัทก็หวังว่าเคล็ดลับเล็กๆน้อยๆที่พี่ตั้งใจนำบอกน้องจะเป็นประโยชน์กับน้องๆบ้างไม่มากก็น้อยนะจ๊ะ สู้ๆต่อไปน้องนักเขียนที่น่ารักทุกคน ขอบคุณพี่จุ้ย ศุ บุญเลี้ยง มากๆนะคะสำหรับข้อมูลที่มีประโยชน์ น้องๆอยากรู้เคล็ดลับอะไร หรือ มีคำถามที่สงสัยก็ส่งมาได้ที่ judne@dek-d.com ถามตอบได้ก็จะรีบตอบให้นะจ๊ะ หรือ แวะเข้าไปคุยกันแบบขำๆได้ใน MY id พี่นัท ข้างล่างนี้เลยจ้า
|
แสดงความคิดเห็น
ถูกเลือกโดยทีมงาน
ยอดถูกใจสูงสุด
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการที่จะลบความเห็นนี้ใช่หรือไม่ ?
14 ความคิดเห็น
ได้เคล็ดลับดีๆ ต้องขอบคุณจริงๆค่ะ
ได้สาระมากๆเลยค่ะ
มีวิธีทำให้นักเขียนมีอารมณ์แต่งนิยายรึเปล่าคะ
- -"
เหอะๆ
ช่วงนี้หมดกำลังใจอย่างแรง
Comment แห้งเหือด การบ้านเป็นภูเขาเลากา ทำเท่าไหร่ก็ไม่หมด
การ์ตูนเล่มใหม่ออก ต้องหามาอ่านอีก
วีซีดีก็มาใหม่อีกตั้งหลายเรื่อง ซื้อมาแต่หาเวลาดูไม่ได้
ไหนจะกิจกรรมต่างๆ นาๆ ที่โรงเรียน (ต้องกลับบ้านหลัง 5 โมงเย็นทุกวัน T^T)
สมองมันตื้อไปหมด คิดอะไรไม่ออก
เซ็งๆๆ
ใครมีวิธีทำให้หายเซ็งบ้างรึเปล่าคะ
^_____________________^
ขอบคุณมากเลยค่ะ
ขอบคุณนะคะ ^^
(ขอบคุณ คห.9 ด้วยค่ะ)
ขอโทษจริงๆนะคะ ใครรู้ข้อที่เหลือช่วยส่งข้อมูลเข้ามาที่ judne@dek-d.com ทิ้งเมลล์ไว้ หรือ แอดมาที่ judne@hotmail.com ก็ได้ค่ะ จะเป็นคุณอย่างสูงเลยค่ะ แล้วจะเอาข้อมูลมาแก้ให้ครบถ้วนให้นะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ
ตอนนี้หมดอารมณ์ที่จะเขียนมากเลยครับ มีวิธีไหมครับ
จะพยายามจำให้ขึ้นใจค่ะ^^
กำลังหาข้อมูลพอดีเลย