สวัสดีค่ะชาว Dek-D พบกับคอลัมน์ “เด็กพลังบวก” ที่จะพาน้องๆ ไปค้นหาแรงบันดาลใจจากวัยรุ่นเจ๋งๆ ที่ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์และทำกิจกรรมเพื่อตัวเองและสังคมกันค่ะ
Ozeeoos Right Here~ ใครติดหูคำนี้จากรายการ The Rapper บ้าง? จำได้มั้ยว่าทั้งเสียงทั้งอารมณ์ของ “อู๊ด” Ozeeoos ทำให้กรรมการเหยียบคันเร่งครบทั้ง 4 คน และเจ้าตัวได้ตัดสินใจเลือกอยู่กับทีม ‘พี่โต้ง Twopee Southside’
แม้การมองเห็นของอู๊ดจะไม่ได้ 100% แต่เรื่องการแต่งเพลงไม่ใช่ปัญหาเลยค่ะ เค้าสามารถแต่งไรม์และทำนองได้โดยไม่ต้องพึ่งการจดโน้ตใดๆ แล้วที่คูลสุดคือเค้าหยิบความสามารถด้านการทำเพลงมาใช้ทุกด้านของชีวิต ตั้งแต่เรียน ทำงาน ไปจนถึงจีบสาว ถ้าพร้อมแล้ว...เราจะขออาสาพาผู้อ่านไปบุกอัสสัมชัญสมุทรปราการเพื่อพูดคุยกับเค้าถึงที่ (และตบท้ายด้วยแร็ปฟรีสไตล์คูลๆ จากอู๊ดถึงวัยรุ่นวัยเรียนด้วยนะจ๊ะ!)
แนะนำตัว
"สวัสดีครับ ชื่อ ‘อู๊ด’ อำนาจ ศรีสังข์ AKA ‘Ozeeoos’ เรียนอยู่ชั้น ม.2 โรงเรียนอัสสัมชัญสมุทรปราการครับ”
แทรกนิดนึง คำว่า "AKA" ในที่นี้คือตัวย่อมาจาก “as known as” = ‘รู้จักกันในชื่อ…’ (คล้ายๆ ฉายา) ถ้าดูรายการแร็ปมักจะได้ยินคำว่า “เอเคเอ” แปลว่าเค้าพูดถึงฉายาในวงการแร็ปของคนๆ นั้น
อู๊ดเล่าที่มาที่ไปของฉายานี้ให้ฟังว่า “ตอนเด็กผมจะฟังนิยายกรีกหลายๆ เว็บครับ มันเป็นนิยายแฟนตาซี ชื่อตัวละครจะชอบลงท้ายด้วย ‘อุส’ แบบ เพอร์ซิอุส ซีอุส ฯลฯ เราไปคุยกับเพื่อนครับว่าเราชอบมากเลย เพื่อนก็พูดขึ้นมาว่า ‘อู๊ด....โอซิอุสเปล่า?’ ผมเลยเอามาตั้งเป็นฉายาเรียกเท่ๆ 55555 พอเข้าวงการแร็ป เลยติดมาครับ”
ชอบเพลงแร็ปตั้งแต่ 9 ขวบ เพราะ “Illslick”
"เล่าย้อนความก่อนว่าตอน 8 ขวบ ผมเข้าโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพฯ แล้วพอ 9 ขวบ มีรุ่นพี่คนนึงเอาเพลง ‘Illslick’ มาเปิดให้ฟังครับ ผมฟังแล้วชอบมากกกก รู้สึกว่า เฮ้ย...เพลงแนวนี้มันแปลกอะ ติดหู เหมือนถูกจริตเรา มีช่วงนึงที่พี่เค้าปล่อยอัลบั้มนึงออกมาแล้วฮิตมาก ซึ่งผมก็ติดตามฟังวนๆ อยู่ 3-4 เดือนจนติดหู จนกลายเป็นคาแรกเตอร์ของผม เวลาออกไปโชว์หรือทำเพลงออกมาจะเป็นแนวเมโลดี้ที่ผมชอบ มันเป็นแรงบันดาลใจที่ผมได้จากพี่โต้ง และผม Respect เค้าสุดใจเลยครับ”
และเหตุผลนี้เองค่ะที่ทำให้อู๊ดอยากฟีทเจอริ่งหรือออกอัลบั้มกับวง Illslick มากที่สุด
"หลังจากนั้นผมก็เริ่มฟังมาเรื่อยๆ และเริ่มแต่งเพลงทั่วไป(ที่ไม่ใช่แร็ป) ตอน 10 ขวบครับ พอเจอรายการเดอะแรปเปอร์ตอนอายุ 15 ผมใส่เลย ลงเลย 555 เรื่องของเรื่องผมต้องขอบคุณ ‘พี่บอล’ ผู้จัดการของผมด้วยครับ เค้าเคยเป็นอาสาที่โรงเรียนสอนคนตาบอด ทำให้เรารู้จักกัน พี่เค้าชักชวนผมเข้าไปแข่งในเดอะแรปเปอร์ และคอยซัพพอร์ตตั้งแต่ผมยังไม่มีเงินเลยครับ”
แต่งเพลงโดยไม่ต้องจดโน้ตได้ตั้งแต่ 10 ขวบ
หนึ่งในความมหัศจรรย์ของอู๊ด คือสกิลการทำเพลงแร็ปที่ไม่ต้องอาศัยการจดโน้ตลงในกระดาษใดๆ ทั้งสิ้น “ผมมักจะแต่งไรม์ไปพร้อมกับทำนองเลยครับ ฮึมฮัมๆ ออกมาเป็นเพลง วนๆ ให้มันเข้าปาก แล้วเอามาร้อยเรียงกัน ใช้เวลาจำเพลงนึงไม่น่าจะเกิน 2 ชั่วโมง ซึ่งใน 2 ชั่วโมงนั่นผมน่าจะร้องเป็นพันเป็นหมื่นรอบเลย ทำยังไงก็ได้ให้มันติดปากเราไป”
"ผมใช้วิธีนี้มาตั้งแต่ 10 ขวบแล้วครับ อาจเป็นเพราะยังเด็กแล้วซึมซับอะไรได้ง่าย เหมือนเวลาที่เราหาวิธีทำอะไรสักอย่างแล้วสำเร็จขึ้นมา มันก็จะติดตัวเราไปเลย ส่วนสิ่งที่ผมหยิบมาเล่าในเพลง จะเป็นเรื่องที่ผมเจอมากับตัวครับ ส่วนใหญ่คือเรื่อง ‘ความรัก’ เพราะผมอินกับความรักมาตั้งแต่เด็กๆ เลย ขนาดเพลงแรกที่แต่งยังเป็นเพลงจีบสาว แต่เป็นเพลงร้องนะครับ ไม่ใช่เพลงแร็ป”
จีบติดอะดิ? “ไม่ติดก็ให้มันรู้ไปครับ55555”
เอาเรื่องเรียนมาช่วยแร็ป และเอาสกิลแร็ปมาช่วยเรียน
"การแร็ปเป็นงานอดิเรกที่ช่วยพัฒนาความจำได้นะครับ อย่างเวลาเราไปเรียนหรือทำกิจกรรมอะไรที่ต้องใช้ความจำ พอฟังแล้วเข้าใจ มันจะติดปากเราเลย แล้วจำได้แม่นด้วย เราจะรู้ว่าต้องจำวิธีไหนให้ง่ายที่สุด”
เราเคยแต่งแรปท่องเนื้อหาเรียนมั้ย? “บ่อยครับ แต่เพิ่งมาใช้ช่วงหลังๆ นะ บางทีครูจะบอกว่า ‘อู๊ด...ไปแร็ปเกี่ยวกับเรื่องนี้ๆๆ นะ แล้วมาพรีเซนต์หน้าแถว’ กลายเป็นงานเราไป อย่างถ้าเป็นเรื่องระบบไหลเวียนโลหิต ผมก็แต่งประมาณว่า ‘วันนี้จะพูดถึง Circulatory System ก็จะพูดถึงคนที่หัวใจยังเต้น. . .' ยาวๆ ไปครับ จำไม่ได้แล้ววววว 55555” อ้าววว แล้วทำไมเพลงจีบสาวเมื่อกี้ยังจำได้แม่นทุกท่อนอะ!
งั้นถามกลับกันบ้าง มีตัวอย่างเนื้อหาวิชาเรียนไหนที่เราหยิบมาช่วยแร็ปได้บ้าง? “จริงๆ วิชาภาษาไทยช่วยมาตั้งแต่เด็กๆ เลยครับ น่าจะสัก ป.2 ป.3 ตอนนั้นครูเริ่มสอนแต่งกลอนแล้ว สอนวิธีการเรียบเรียงคำ แล้วยิ่งผมเป็นคนฟังเพลงบ่อย ฟังเยอะ จะรู้ว่าคำต้องสัมผัสกันยังไง ลงประมาณไหน มันพลิกแพลงยังงั้นยังงี้ได้นะ ผมคิดว่ายิ่งฟังเยอะจะยิ่งถ่ายทอดออกมาได้เยอะขึ้นครับ”
สภาพแวดล้อมเป็นใจ...ความฝันอะไรก็ทำได้
ไหนๆ เราก็บุกมาถึงศูนย์ดนตรีของอัสสัมชัญสมุทรปราการแล้ว เจ้าถิ่นเลยขอเล่าเรื่องสภาพแวดล้อมที่เป็นใจให้ฟังว่า “โรงเรียนผมไม่ได้เน้นแค่เรื่องเรียนอย่างเดียวครับ เค้าซัพพอร์ตความฝันของเด็กด้วย มีทั้งชมรมกีฬา หรือศูนย์ดนตรีตรงนี้ก็มีทั้งสตริงคอมโบ เครื่องสาย วงโยฯ ดนตรีไทย ฯลฯ เวลาผมจะอัดเพลงก็จะมาที่นี่ เพราะมาสเตอร์ซัพพอร์ตเรื่อยๆ เลยครับ ทั้งให้คำปรึกษาเรื่องเพลง และช่วยอัดเพลงให้”
"ส่วนเพื่อนๆ ก็ไม่ได้มองว่าเราแตกต่างจากเพื่อนคนอื่นๆ เลย แต่กลับกันคือเค้ามองว่าเราเป็นเพื่อนที่น่าคนหา อยากเข้ามาหามาคุยกับเรา มีส่วนร่วมกับกิจกรรมของเรา ผมว่ามันเป็นสิ่งที่โอเคมากเลย พ่อแม่ผมก็คอยสนับสนุนในสิ่งที่เราทำ”
แบ่งเวลาได้แบบเฉียบๆ
"ผมต้องเรียน ทำเพลง และถ่ายรายการ ต้องจัดตารางตัวเองให้ดีว่าเวลาไหนควรทำอะไร แล้วพอถึงเวลาก็เต็มที่กับมันให้มากที่สุด อย่างเวลาทำการบ้านจะงดรับงาน แล้ววันหยุดค่อยรับงานไปทำ ผมไม่เหนื่อยเลยนะ มีความสุขที่ได้ทำพวกนี้ไปพร้อมๆ กัน”
หนุ่มแร็ปเปอร์เล่าเรื่องงานให้ฟังว่า “ผมจะรับงานเล่นคอนเสิร์ตบ้าง แต่งเพลงให้องค์กรต่างๆ ตามคอนเซ็ปต์ที่เค้าวางไว้บ้าง อาจไม่ใช่เพลงแร็ปเสมอไปครับ เพราะผมก็ไม่ได้เริ่มต้นจากการแต่งเพลงแร็ปอยู่แล้ว เสพเพลงหลายแนว แต่หลักๆ ที่ทำคือเป็นแร็ปเปอร์ แล้วรายได้จะเอามาแบ่งเป็น 3 ส่วน คือทำเพลง ให้คุณแม่ และเก็บไว้ใช้เองบ้างครับ”
“ชีวิตนี้มีเรื่องที่ผมอยากทำให้สำเร็จคือ การมีรายรับที่ถาวรครอบคลุมรายจ่ายที่ถาวร อยากมีสตูดิโอเป็นของตัวเอง อยากทำธุรกิจร้านอาหาร ร้านขนม และทำเพลงด้วยครับ”
แต่ตารางเวลาของเค้าไม่ได้ถูกแบ่งให้เรื่องเรียนกับแร็ปเท่านั้น แต่ยังมีโหมดนักออกกำลังกายและนักกีฬาด้วยค่ะ “ล่าสุดผมเพิ่งไปแข่งไตรกีฬามาครับ เป็นระยะสปรินต์ (Sprint) ว่ายน้ำ 750 ม. ปั่นจักรยาน 20 กม. และวิ่ง 50 กม. ก่อนนี้เคยติดทีมชาติว่ายน้ำด้วยครับ แต่พอเราเจอทางที่ถนัดที่ชอบจริงๆ แล้วก็อยากไปทางนั้นมากกว่า นอกนั้นเราแค่อยากพิสูจน์ตัวเองว่าเราทำได้รึเปล่า”
เบื้องหลังความสำเร็จ
จังหวะนี้อู๊ดได้พูดถึงเบื้องหลังให้ฟังว่า “ผมอยากขอขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ เพื่อนๆ คุณครู มูลนิธิช่วยคนตาบอด โรงเรียนสอนคนตาบอด ที่พาผมมาพบโอกาสและประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ทำให้รู้จักตัวเอง และขอบคุณพี่บอลด้วยครับที่พาผมไปแข่งจนผมได้เป็นโอซิอุสอย่างทุกวันนี้ อยากให้อยู่เป็นผู้จัดการผมไปนานๆ นะครับ ขอบคุณครับ ><”
ปิดท้ายด้วยแร็ปฟรีสไตล์ทิ้งท้ายถึงวัยรุ่นวัยเรียน!
"ผมรู้ว่าทุกๆคนมีความหวัง...ทุกๆ คนมีความฝัน...คุณฝันอะไรก็อยากให้คุณนั้นทำมันไปแบบนั้น...ก็เชื่อในตัวเองเหมือนที่ผมนั้นเชื่อในตัวเพลง...นั่งเขียนไรม์ตั้งแต่เช้ายันมืดค่ำไม่เคยจะหวั่นเกรง...แล้วคุณจะต้องไปกลัวอะไร...ให้เชื่อในความฝันในความหวังแล้วคุณก็ก้าวไป...มีศรัทธาที่นำใจ...ทุกอย่างที่มันพาไป...ความประสบความสำเร็จนั้นจะมาคุณไง! Ozeeoos Right Here you know about me Yeah...(พอแล้วพี่!! 55555)"
อ่านถึงตรงนี้แล้วอยากเม้าท์ให้ฟังมากว่าระหว่างที่คุย น้องอู๊ดหยอดมุกกระจายยย แถมพูดธรรมดายังแอบเหมือนจังหวะแร็ปอีก มันฝังอยู่ในสายเลือดจริงๆ ค่ะคุณ! สำหรับชาว Dek-D ที่ฟังเรื่องราวของเค้าแล้ว สามารถยกให้โอซิอุสเป็นไอดอลทั้งเรื่องแร็ปและเรื่องการแบ่งเวลาได้เลยนะคะ ถ้าใครอยากติดตามผลงาน และอยากพูดคุย(+ติดต่องาน) กับเขาคนนี้ สามารถเข้าไป Subscribe ได้ที่ยูทูบแชนแนล Ozeeoos Right Here อินสตาแกรม @ozeeoos.ood หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจ Ozeeoos Right Here ได้เลยค่ะ เพราะเจ้าตัวบอกว่า...จะมีผลงานใหม่ๆ เพลงเจ๋งๆ คูลๆ มาเสิร์ฟตลอด!
อย่าลืมย้อนอ่านเด็กพลังบวกคนก่อนนะคะ ><











2 ความคิดเห็น
โคตรแข็งแกร่งอะ