รวมให้แล้ว! 6 งานเด็ด-ค่าตอบแทนปัง ที่เด็ก Work & Travel นิยมทำกัน

สวัสดีน้องๆ ชาว Dek-D ทุกคนค่า ไหนมีใครวางแผนอยากไป Work and Travel USA บ้างยกมือขึ้นน แน่นอนว่าหนึ่งในขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการการสมัครโครงการนี้จะเป็นอะไรไปไม่ได้เลยนอกจาก ‘การเลือกงาน’ เพราะหน้าที่หลักของเราก็คือการไปทำงานใช่ไหมล่ะคะ การได้งานที่เหมาะกับตัวเองจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก หากเราเลือกงานที่ตรงกับความสามารถ ความสนใจ และระดับภาษาของเรา ไม่เพียงแต่จะช่วยให้เราปรับตัวได้ง่ายขึ้น แต่ยังทำให้เราสนุกและเอนจอยกับการทำงานตลอดระยะเวลา 3 เดือนหรือจนจบโครงการอีกด้วย

ในทางกลับกัน หากเราเลือกงานที่ไม่เหมาะกับตัวเอง อาจทำให้รู้สึกไม่โอเคกับสภาพแวดล้อมหรือเนื้องาน จนต้องเสียเวลาหางานใหม่ หรืออาจต้องย้ายไปทำงานที่อื่น ซึ่งอาจทำให้เกิดความยุ่งยากทั้งในเรื่องของที่พักและการปรับตัวอีกครั้ง ดังนั้น การเลือกงานที่ใช่ตั้งแต่แรกจึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้เรามีประสบการณ์ดีๆ และน่าจดจำกลับไปนั่นเองค่ะ

เด็ก WAT ต้องจด!
งานแต่ละประเภทต่างกันยังไง?

ปกติแล้วงานส่วนใหญ่จะเป็นงานตามฤดูกาลหรือ Seasonal Job โดยแบ่งเป็นช่วง Spring Season (7 มีนาคม – 7 กรกฎาคม) และ Summer Season (7 พฤษภาคม – 7 กันยายน) ของทุกปี ซึ่งก็จะมีความแตกต่างกันไปตามสถานที่และตำแหน่งของงาน ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับระดับภาษา ความสามารถ และความสนใจของน้องๆ ค่ะ

Photo Credit: Freepik (Website)
Photo Credit: Freepik (Website)

................

1. งานร้านอาหาร และ ฟาสต์ฟูด
(Fast Food & Restaurant)

Photo Credit: Freepik (Website)
Photo Credit: Freepik (Website)

เริ่มกับงานที่เป็นตัวเลือกยอดนิยมอันดับหนึ่งของเด็กเวิร์กอย่างงานในร้านอาหารและฟาสต์ฟูด เนื่องจากเป็นงานที่ไม่ต้องใช้ทักษะเฉพาะทางมากนัก และมีชั่วโมงงานค่อนข้างแน่นอน เลยทำให้งานนี้ตอบโจทย์น้องๆ หลายคนเลยค่ะ โดยขอบเขตงานก็จะขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ได้รับและนโยบายของแต่ละร้าน ซึ่งอาจรวมถึงการเตรียมอาหาร (Kitchen Staff), การรับออเดอร์และคิดเงิน (Cashier), การเสิร์ฟอาหาร (Food Runner), การล้างจาน (Dishwasher) หรือแม้แต่การส่งอาหาร (Delivery Staff) ในบางร้านที่มีบริการเดลิเวอรี

  • รายได้เฉลี่ย: $12 - $16 ต่อชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับรัฐและร้านที่ทำงาน โดยบางร้านอาจมีทิปเพิ่มเติม โดยเฉพาะในร้านอาหารที่มีบริการนั่งทาน)

................

2. งานโรงแรม และ รีสอร์ท
(Resort & Hotel)

Photo Credit: Freepik (Website)
Photo Credit: Freepik (Website)

มาดูกับกับสายโรงแรมและรีสอร์ทกันบ้าง เชื่อว่าหลายๆ คนพอได้ยินว่าเป็นงานโรงแรมแล้วก็มักจะคิดว่า อืมม คงมีแต่ Houskeeping (พนักงานทำความสะอาดห้องพัก) รึเปล่านะ? แต่จริงๆ แล้วยังมีตำแหน่งอื่นๆ เช่น เจ้าหน้าที่กิจกรรม (Activities Attendant), พนักงานครัว (Kitchen Steward) รวมถึง พนักงานต้อนรับ (Front Desk) อีกด้วยค่า 

  • รายได้เฉลี่ย: $12 - $18 ต่อชั่วโมง (บางตำแหน่ง เช่น พนักงานเสิร์ฟหรือพนักงานต้อนรับ อาจได้รับ ทิปเพิ่มเติมเนื่องจากเป็นงานที่ให้บริการลูกค้าโดยตรง)

Note: บางตำแหน่ง เช่น พนักงานต้อนรับ (Front Desk) จำเป็นต้องมีทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษที่ดี

รีวิว Work & Travel ที่ ‘Alaska’ 
ลุยทั้งงานในครัว-ร้านอาหาร-โรงแรม รายได้ดีแถมภาษาก้าวกระโดด!

................

3. งานสวนสนุก และ สวนน้ำ
(Theme Park & Water Park)

Photo Credit: Unsplash (Website)
Photo Credit: Unsplash (Website)

ถัดมากับอีกหนึ่งงานยอดฮิตอย่างงานในสวนสนุกและสวนน้ำ ใครที่ชอบความสนุกตื่นเต้นน่าจะถูกใจกันไม่น้อยเลย เพราะส่วนใหญ่จะอยู่ในโซนเครื่องเล่น ร้านอาหาร และบริการลูกค้า โดยตำแหน่งงานก็มีให้เลือกหลากหลาย เช่น พนักงานควบคุมเครื่องเล่น (Ride Operator), ไลฟ์การ์ด/ผู้ดูแลความปลอดภัยในสวนน้ำ (Lifeguard), พนักงานจำหน่ายบัตร/ตรวจตั๋ว (Ticketing & Admissions), พนักงานร้านอาหารภายในสวนสนุก (Food & Beverage) และ พนักงานขายของที่ระลึก (Retail Staff)

  • รายได้เฉลี่ย: $12 - $16 ต่อชั่วโมง

Note: ตำแหน่งงานไลฟ์การ์ด/ผู้ดูแลความปลอดภัยในสวนน้ำ (Lifeguard) มักต้องผ่านการฝึกว่ายน้ำและสอบ CPR ก่อนเริ่มงาน

................

4. งานร้านค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต
(Retail Shops & Supermarket)

Photo Credit: Freepik (Website)
Photo Credit: Freepik (Website)

ต่อด้วยอีกตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างงานในร้านค้าและซูเปอร์มาร์เก็ต ไหนตอนเด็กๆ ใครเคยอยากลองเป็นแคชเชียร์บ้างคะ (พี่แอลเคย 55555 ก็อยากจะตี้ดๆ บาร์โค้ดบ้างนี่นา) แล้วต้องบอกเลยว่างานในซูเปอร์มาเก็ตน่าสนใจมากกว่าที่คิดมากเลยค่ะ นอกจากแคชเชียร์ (Cashier) แล้วก็ยังมีตำแหน่งอื่นๆ อีกเพียบ เช่น พนักงานแผนกเดลี่ (Deli Clerk), พนักงานจัดเรียงสินค้า (Stock Clerk), พนักงานควบคุมสต๊อก (Inventory Control) และ พนักงานบริการลูกค้า (Customer Service)

  • รายได้เฉลี่ย: $12 - $15 ต่อชั่วโมง

................

5. งานสนามกีฬาเบสบอล
(Baseball Stadium)

Photo Credit: Freepik (Website)
Photo Credit: Freepik (Website)

ถัดมากับงานในสนามกีฬาเบสบอล ซึ่งฮิตมากๆ ในอเมริกา ต้องเกริ่นก่อนว่างานนี้มักจะเป็นงานที่ไม่ได้ทำทุกวันนะคะ แต่จะทำเฉพาะวันที่มีการแข่งขันหรืออิเวนต์ต่างๆ ที่จัดขึ้นในสนามเบสบอล ทำให้น้องๆ มีเวลาว่างในช่วงวันอื่นๆ ซึ่งสามารถหางานที่สองทำเพิ่มเติมได้ด้วยค่ะ (ได้เงินเพิ่มไปอีก) โดยตำแหน่งงานอาจรวมถึง พนักงานขายอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage), พนักงานดูแลรักษาความสะอาด (Maintenance) และ พนักงานขายของที่ระลึก (Merchandise Staff) เป็นต้น

  • รายได้เฉลี่ย: $12 - $15 ต่อชั่วโมง (บางตำแหน่งเช่น Food & Beverage อาจได้ทิปจากลูกค้า)

................

6. งานอุทยาน
(National Parks)

Photo Credit: Unsplash (Website)
Photo Credit: Unsplash (Website)

ปิดท้ายด้วยงานในอุทยานที่ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากทำงานใกล้ชิดธรรมชาติที่สวยงาม ถึงแม้เนื้องานจะเป็นงานบริการเหมือนกับในรีสอร์ทแต่บอกเลยว่าน้องๆ จะได้เห็นวิวอลังๆ ของธรรมชาติทุกวัน แถมยังมีกิจกรรม Outdoor เช่น ปีนเขา เดินป่า และ แคมป์ปิ้งให้ร่วมอีกด้วย โดยตำแหน่งงานอาจรวมถึง พนักงานทำความสะอาด (Housekeeping), แคชเชียร์ (Cashier), พนักงานร้านค้า (Retail Staff) และ พนักงานในครัว (Kitchen Staff) เป็นต้น

  • รายได้เฉลี่ย: $12 - $16 ต่อชั่วโมง

อ่านรีวิวเด็ก Work & Travel 
@อุทยานหินแกรนิตที่ใหญ่ที่สุดในโลก

……………

ครบเรียบร้อยกับ 6 งานยอดฮิตฉบับเด็กเวิร์ก ใครที่กำลังวางแผนไป WAT หรือกำลังเลือกงานอยู่ล่ะก็อย่าลืมหาศึกษาหาข้อมูลกันอย่างถี่ถ้วนด้วยนะคะ (กระซิบว่ายิ่งสมัครเร็วก็ยิ่งมีโอกาสเลือกงานเยอะขึ้นเท่านั้น) สำหรับคราวหน้า Dek-D Study Abroad จะมีคอนเทนต์ต่อนอกหรือโครงการดีๆ อะไรมาแนะนำอีกก็ฝากติดตามกันด้วยน้า~


 
Sources:https://www.american-learning.com/work-travel/work-and-travel-jobs/
พี่แอล
พี่แอล - Columnist Certified concert hopper, Japanese food lover, and anime binge-watcher.

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น