Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

รีวิว : แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่ญี่ปุ่น กับ TJYEC Ep. 3 ค่ายเตรียมความพร้อม

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ความเดิมตอนที่แล้ว : นักเรียนจำนวน 20 คน ผ่านการสอบคัดเลือก ในการสอบสัมภาษณ์และต้องเตรียมตัวและเตรียมความพร้อมเพื่อไปญี่ปุ่น ซึ่งตัวผมนั้นก็ผ่านมาได้อย่าหวุดหวิด (เหรอ) เรื่องราวเริ่มเข้มขนขึ้นเรื่อยๆ เมื่อทั้ง 20 คน ต้องเข้าค่ายเตรียมความพร้อม ที่ทาง TJYEC จัดไว้ให้ จะมีบททดสอบอะไรรอพวกเขาอยู่ ติดตามได้ใน
รีวิว : แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่ญี่ปุ่น กับ TJYEC Ep. 3 ค่ายเตรียมความพร้อม
คำเตือน!!! เนื้อหาในตอนนี้ข้องข้างยาว ซึ่งอ่านแค่บางช่วงบางตอนก็พอครับ


 
Minnasan Konnichiwa
สวัสดีอีกครั้งครับพี่น้องชาว Dek-D ทุกท่าน
ก็ต้องของขอบคุณทุกๆ คนที่ติดตามและอดทนรอกันนะขอรับ
พอดีไฟล์มันหายไป เลยต้องพิมพ์ใหม่ 555
     เช้าที่สดใน แดดอ่อนๆ พร้อมกับนักเรียนจากในกรุงเทพและต่างจังหวัด ได้มารวมตัวกันที่โรงเรียนดังย่านบางเขนเพื่อฟังบรรยายจากเจ้าหน้าที่ของศูนย์เยาวชนนานาชาติ และชี้แจงรายละเอียดในการไปญี่ปุ่น
และแน่นอนครับ ซึ่งเป็น รร. ผมเอง การรับรองแขกก็ต้องเป็นหน้าที่ของเจ้าบ้านเนอะ..........
..........ป้าบ~ ผมมาสาย =_= (แต่ดีนะ ยังไม่สายจนน่าเกลียด) รีบเข้านั่งประจำที่และฟังกล่าวเปิดจาก รองผู้อำนวยการ รร. ซึ่งมีตำแหน่งระดับบริหารของ TJYEC ด้วย หลังจากฟังกล่าวเปิด เราก็ได้พบกับคุณ 田川 (Takawa) ซึ่งได้แนะนำตัวกับเรา และ ให้เราแนะนำตัวกลับ ที่ละคน ซึ่งโดนเป็นคนที่ 2 รองจากเพื่อนเปา หลังจากแนะนำตัวเสร็จอะไรเสร็จ ก็มีการฟังบรรยายเรื่องศูนย์เยาวชน และมีสิ่งหนึ่งที่ คุณ 田川 ได้เน้นให้กับนักเรียนไทยคือ สุภาษิตญี่ปุ่นที่ว่า

一期一会
いちごいちえ
Ichigo Ichi e
แปล หนึ่งชีวิต หนึ่งพบ
ซึ่ง ในตอนนั้น ผมไม่อาจเข้าใจได้ว่า เขาต้องการจะสื่ออะไรกันแน่

ก็อย่างที่เห็นแหละครับ
(ห้องเรียนเพิ่งปรับปรุงใหม่ แวะไปทัวร์ได้น้า)

 
     หลังจากฟังบรรยายเสร็จ ก็มีการแบ่งสายว่าใครได้อยู่กับโฮสที่โรงเรียนอะไร ซึ่งในแต่ละโรงเรียนก็จะกระจัดกระจายกันไป ซึ่งผมและเปา (สุดหล่อของเรา) ได้ไปรวมกลุ่มกับ รุ่นนอง ม.5 สองคนชื่อ Euro ซึ่งนายคนนี้เนี่ยคือคนที่เคยมีติวกับผมที่ รร. ครั้ง 2 ครั้ง (ผ่านซะงั้น)  และ Bank สำหรับนายคนนี้ให้นึกถึงมาเฟียจีนที่ตัวใหญ่ๆ (แต่แฟนพี่แก่สวยเฟร่อ) “ลามปามล้ะพี่” “เค พี่ขอโทษ” พวกเรา 4 คน ได้ไปโรงเรียนชื่อ
 
浮羽工業高校
Ukiha kougyo koukou
บรรยากาศซี่นมื่นหลายๆ ขับ (หน้าผมอย่างง่วง)

 
หลังจากแบ่งสาย โรงเรียน ก็ถ่ายรูปรวม

 
ต่อด้วยการเตรียมตัวขึ้นรถ งงเด้ ขึ้นรถไปไหน
       ไปค่ายเตรียมความพร้อมครับ ที่บ้านสวนหงษ์เหิร ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ซึ่งก็เป็นค่ายสถานที่เดียวกันกับ TJYEC Summer Camp 2017 ที่จะปิดรับสมัครในวันที่ 31 นี้แล้วครับ

       เราออกเดินทางจากโรงเรียนในช่วงบ่ายๆ ของวันนั้น เชื่อมั้ยครับ อะไรจะพอดีขนาดนั้นได้นั่งข้างยูโรอีกล้ะ 55555 เราออกเดินทางจากโรงเรียนตอนบ่ายๆ ซึ่งหลังจากทานมื้อลางวันเสร็จ เมื่อหนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อน รถออกไดซัก 30 นาที ผมก็หลับครับ 5555 หลับไป 2 ชั่วโมงเห็นจะได้ ตืนขึ้นมา.......เห้ยจริงดิ!!! ยังไม่ออกจักกรุงเทพ =_= วันนั้นรถติดมากกกกกกกก ติดแบบนิ่งไม่ขยับเลย น้ำตาจิไหล งื่อ   T-T

      ในที่สุดเราก็มาถึงที่หมาย ถึงกี่โมงครับ? 4 ทุ่มกว่าๆ T-T ใช้เวลากับการเดินทางนานมากกกกกก ไปถึงครับ เช่นเคยในฐานะเด็ก ส.ย. ไม่ว่ามีอะไร จะโดนใช้ก่อน 5555 ลงรถก็มาเลย ช่วย คณาจารย์แบกของจร้า กล่องเอกสร สองสามใบ คอมอีก 1 เครื่อง ไม่เก็บของเสร็จเรียนร้อย ก็ได้เวลาแบ่งห้องนอน ซึ่งชายและหญิงแบ่งฝั่งอย่างชัดเจน ซึ่ง ผู้ชายนอนกับผู้ชาย ผู้หญิงนอนกับผู้หญิง ซึ่ง เป็นข้อดีที่กลุ่มผม เป็นผู้ชายล้วนที่ไปโรงเรียนที่มีแต่ผู้ชาย =_= ก็ได้นอนห้องเดียวกันครับ ส่วนที่เหลือเป็นไง ผมไม่รู้ 55555 // สาวๆ ครับ ถ้าแวะมาอ่านก็แชร์ได้นะว่าห้อง ผู้หญิงเป็นไง // ห้องพับเป็นห้องยาวๆ ครับ มีแอร์ ห้องน้ำในตัว นอนได้ 10 -15 คนเห็นจะได้ ซึ่งที่อยู่นั่นหน่ะ มี 4 คน ที่นอนนุ่มมาก สะอาดด้วยเมื่อทุกคนแบ่งเขตนอน unpack ของ เตรียมเสื้อผ้า และแล้วตอนที่ลำบากใจที่สุดคือ อาบน้ำ ไม่ว่าค่ายไหน แม่งต้องเกี่ยงกันว่าใครจะอาบก่อน 5555 ซึ่งป๋าแบงค์ของเราอาบคนแรก ระหว่างรอ คนอื่นก็ทำกิจส่วนตัว นั่งดูทีวีบ้าง เล่นโทรศัพท์บ้าง เป่าขลุ่ยบ้าง (ผมเองอ่ะ) พอดีวันนั้นเอา Harmonica ไป เปาก็เลยเอาไปเป่า (ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์) เมื่อแบงค์อาบน้ำเสร็จ ก็ถึงคราวยูโร............คือ ถ้าใครได้รู้จักนะครับ จะรู้สึกว่า “แม่งน่าแกล้งหว่ะ” พอเข้าห้องน้ำอาบน้ำได้พักหนึ่ง เปา กับ ผมก็บอกแบงค์เรื่องตำนานเหรียญบาทมรณะ ทุกคนมองหน้ากันแล้วก็ อื่ม ครับ ผมหยิบเหรียญออกจากกระเป๋า เดินไปหน้าประตู..........ก็อกแก๊กๆ แก๊ก!! และก็ผ่าง!!! แค่คิดก็ฮาท้องแข็งอ่ะ ยูโร “พี่ เล่นไรเนี่ย”  ผม “เอ่า ก็นึกว่าล็อกประตูแล้ว” ยูโร “อ่าว ผมลืมล็อกหรอ” 555555555  
      
       ค่ายวันที่ 1 :
ตื่นมาในตอนเช้าก่อนจะทำอะไร นั้นจะมีการเรียกรวมก่อน เพื่อนัดหมายและ あいさつ (aisatsu) ซึ่งจำลองแบบสถานการณ์จริงเมื่อไปอยู่ที่ศูนย์เยาวชนที่ญี่ปุ่น โดยที่เมื่อทุกคนตื่นนอนก็จะต้องไปรวมกันที่นัดพบที่กำหนดไว้ และฟังการนัดหมายและกิจกรรม โดยส่วนตัว ไม่ว่ายังไงต้องได้แปรงฟันกับล้างหน้าครับ เดี๋ยวปากเหมือนไม่เอาๆ 5555 หลังจากฟังนัดหมายก็ทานมื้อเช้า บอกเลยอาหารที่นี้พอๆ กับโรงแรมเลย มีทั้งแบบไทยๆ และแบบ breakfast เป็นเซ็ต นม กาแฟ น้ำผลไม้ ฯลฯ ต่างจากโรงแรมที่ทานกันท่ามกลางลมเย็นๆ เสียงนกเสียงไม้
 
朝つどい (Asa tsudoi) ก็จะทำนองนี้

มีให้ออกกำลังกายยามเช้าด้วย
เรียกว่า
ラジオ体操 (rajio taiso)

 

หลังมื้อเช้าและเริ่มกิจกรรม
        มันจะมีกิจกรรมหนึ่งชื่อ アイスブレイク (Ice break)  มั้งนะ โดนเลื่อนครับเพราะเวลากิจกรรมอื่นไม่พอ กิจกรรมส่วนใหญ่เราจะใช้หอประชุดหลักของค่ายในเป็นสถานที่ครับ กิจกรรมภายในวันนี้เป็นการเรียนรู้วิธีการพูด มารยาทในการทักทายคนญี่ปุ่น การทำความเคารพ เรียนรู้วัฒนธรรมเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่ควรพลาด (พลาดคือเหมือนไปเอ๋ออ่ะครับ จากนักเรียนแลกเปลี่ยนจะกลายเป็นมนุษย์เจ๊กเสียมารยาททันทีไรงี้) // ก็เปรียบเวอร์ไป //


 
        นอกจากเรียนรู้แล้วจะมีการสลับกับการเขียนสคริปนำเสนอเกี่ยวกับประเทศไทย และ โรงเรียนของตนในภาษาญี่ปุ่น การจัดเรียงหัวข้อ เนื้อหา และคัดเลือกเนื้อหาว่าอันไหนดีไม่ดี หรือจำเป็นต้องมีหรือไม่ ยังไม่พอ อัดเพิ่มด้วยการเตรียมเป็นตัวแทนพูด あいさつ (aisatsu) ในสถานที่ต่างๆ เหมือนเป็นตัวแทนนักเรียนอีก 19 คน แนะนำตัวแหละครับว่าเราเป็นใครมาทำอะไร ซึ่งผมโดนโหดสุดเลย 5555 เปิดครั้งแรกสุด กับคนตำแหน่งใหญ่ กิจกรรมแน่นมากครับ จนทานมื้อเย็น ก็ยังมีเรียกรวมนัดหมายอีก ตามแบบที่อยู่ญี่ปุ่นเป๊ะ หลังมื้อเย็นก็จะมีการเขียน 感想 (kansou) ซึ่งต้องสรุปเรื่องราวของในแต่ละวันแล้วส่งให้ครูตรวจ เพราะเป็นสิ่งที่ต้องทำที่ญี่ปุ่นทุกวันเช่นกันครับ อ่อ.......เวลาปล่อยเข้านอนคือ 4 ทุ่ม ซึ่งทีมที่ไปโรงเรียนอื่นเป็นอย่างไรหลังปล่อยพักผมไม่รู้ แต่ทีม  Ukiha kogyo สายแข็งจร้า นัดกันว่าจะนั่งเตรียมเนื้อหานำเสนอกัน (อ่อลืมบอก ก่อนหน้านี้ที่ โรงเรียน มีการให้นำเสนอโรงเรียน ประเทศและหัวข้อที่ผมโดนซึ่งยากอีกแล้วก็คือ “ความสนใจในญี่ปุ่นของวัยรุ่นไทย” นำเสนอแบบคร่าวๆ ตรงนี้แหละ อธิบายยากครับเพราะมันไม่ใช่แค่ อะนิเมะ ไอดอล หนัง ซีรีย์ สินค้า มันมากกว่านั้น ทำให้ตอนนั้นผมทำพลาดไป อธิบายแบบว่า รู้เลยการนำเสนอของผมนั้นมันกากมาก แล้วโดนติจากทุกฝ่าย T-T) หลังอาบน้ำ เมื่อทุกคนพร้อม ก็เริ่มติวกัน และแล้วก็มีคนมา + เพิ่มครับ “พี่กอบกล้า”
       คนนี้คือคนที่เคยไปทุนนี้มาก่อนครับ แต่ตำนานเล่าไว้ว่า พี่แกพูดญี่ปุ่นในระดับที่คนญี่ปุ่นคิดว่าเป็นคนญี่ปุ่นเหมือนกัน (โหดไปป่ะ) ถือว่าดีไป เพราะเราได้คนมาเป็นที่ปรึกษาด้านภาษาอย่างดี (และจะเป็น 1 ในธีมงานของค้าย TJYEC Summer Camp 2017 ด้วยนะขอบอก) จำได้ว่าเราเข้านอนกัน ตี 2 เห็นจะได้ครับ ไปดูโปรไฟล์ของเขากันเลย คลิ้ก
แค่รูปโปรฯ ก็รู้แล้วว่าเกรียน

       ค่ายวันที่ 2 :สำหรับวันนี้ เป็นวันที่ผมรู้สึกอ่อนแอที่สุด : เราตื่นกัน 06.30 ครับ เพื่อเตรียมตัวนัดพบเช้า คือทุกคนดูจะง่วง ไม่ใช่นอนดึกนะ แบงค์นอนกรน =_=  ผมนี่แข็งทั้งคืน (ตาแข็งๆ) กิจกรรมก็เช่นเคยครับคือรวมเช้า ฟังนัดหมาย และ あいさつ
ตอน あいさつ ก็จะทำนองนี้ครับ
      กิจกรรมจำพวกทานอาหาร นัดหมาย เวลาเข้านอนจะเหมือนกันทุกวันครับ หลังมื้อเช้า ก็เข้าห้องเรียน เรียนวิชากฎระเบียบ และ มารยาทของญี่ปุ่น กับอาจารย์ชาวญี่ปุ่นโดยตรงครับ เช่นการเข้าห้องน้ำการอาบน้ำ การทานอาหาร การนั่งเวลาพบผู้ใหญ่ การใช้ภาษา และสุดท้ายคือการอาบน้ำ เฮอะๆๆๆ สุดจริงอันนี้ ใครไปญี่ปุ่นแล้วไม่ได้เจอข้อสุดท้ายคือยังไปไม่ถึงครับ

ซึ่งระหว่างการบรรยาย ถ้ามีอะไรไม่เข้าใจ
จะมีอาจารย์ชาวไทยอีกท่านตอบคำถามให้ครับ

ในภาพน่าจะเป็นเกี่ยวกับการจัดเนื้อหาในการนำเสนองาน
      
       จะมีเวลาให้เตรียม あいさつ (aisatsu) และ おれい (orei)
ซึ่งทุกคนจะมีหน้าที่ต้องพูดทุกคนแต่ต่างสถานที่กับครับ ผมเร่งทำจนเสร็จแล้วให้ครูตรวจเรียบร้อยครับ หลังจากนั้นก็เตรียมเนื้อหานำเสนอต่อครับ ดูเหมือนว่าการติวเมื่อคืนหน่ะ จะไม่ได้ช่วยอะไรเพราะเนื้อหาของผมมันยาก หรือง่ายๆ ผมยังไม่เข้าใจแก่นแท้ของหัวข้อนั่นเอง ผมพยายามเขียนออกมาเยอะมาก แล้วก็เริ่มตัน ไม่รู้จะเขียนอะไรต่อ เอาให้อาจารย์ดูเข้าก็ว่ามันยังไม่ได้ ไปๆ มาเปาเอาไปดู (ผมเชื่อใจเปาเพราะเค้าเก่งกว่าจริงๆ) ป่าบ!!! โดนดุอีกแล้ว 55555
 
ทีมสายแข็ง สู้ๆ
(พอดีรู้ว่ามีคนถ่าย เลยต้องยิ้มหน่อย 555)

*มีความเสื้อยืดกองกำลังสำรอง

 
       ก็ทำได้แค่รับมันไว้ ทำอะไรไม่ถูก แล้วเดินไปที่ห้องน้ำล้างหน้า แล้วลองคิดเนื้อหาอีกครั้ง อยู่ๆ น้ำตามันก็ไหลซะงั้น (นี่ชีวิตกุดราม่าขนาดนั้นเลย?) แต่ไม่ได้ๆ เดี๋ยวคนอื่นเห็น เช็ดน้ำตาแล้วล้างหน้าซ้ำ “โอเค ไหวๆ” แล้วกลับขึ้นห้องประชุม ตอนนั้นแหละนั่งมองกระดาษต่อไป คิดไม่ออก 55555 ซักพักครูญี่ปุ่นก็มาดู บอกว่ามันยังใช้ไม่ได้นะ (ตอนนั้น คิดอยู่ว่าเหมาะสมแล้วหรอที่สอบผ่านมา) น้ำตาไหลอีกล้ะ (อ่อนแอสัสๆ) ยังดีที่ อ.ญี่ปุ่นใจดีไม่ด่าซ้ำให้ พอดีเป็นพวกแพ้การปลอบ น้ำตาไหลมากกว่าเดิม งื่อ T-T

ร้องไห้แปรบ
อันนี้แปลแล้วนะครับ Original เป็นภาษาญี่ปุ่น (อย่างกะนิยาย)
ซึ่งเป็นอีกสิ่งนึงที่ ได้เรียนรู้ครับ
ผม “มันยาก พยายามคิดเท่าไหร่ ก็คิดไม่ออก พยายามเขียนแค่ไหนก็ไม่ดีขึ้น ผมไม่รู้ว่าจะยังไงแล้ว”
อ. ไม่พูดอะไร เรียกไปข้างๆ แล้วดึงผมไปกอดไว้ (บ้าจริง ทำแบบนี้น้ำตายิ่งไหลครัช) “เหมือนเด็กจริงๆ เลยน้า~ เอ้า / ยื่นผ้าให้/ เช็ดน้ำตาซะ เดี๋ยวคนอื่นจะเห็นนะ” (เห็นไปแล้วหล่ะครัช)
พี่กอบกล้า (นั่งอยู่ใกล้ๆ) “เห้ยๆๆๆๆ ไอเบสร้องไห้หรอ?”
อ. “เปล่าค่ะ” ยิ้ม // มั้งนะ
อ. “เธอหน่ะ คิดลึกซึ้งจนเกินไป ทุกครั้งเลยไม่ว่าจะเรียงความ สัมภาษณ์ จริงๆ แล้วความคิดของเธอหน่ะ มันดีอยู่แล้ว แต่เพราะคิดมากไป” (จริงๆ)
ผม “ผม....ผมแค่กลัว กลัวจะหลายๆอย่างทำให้ดีไม่ได้”
อ. “ แต่ก็ยังสอบผ่านมาได้นะ แค่นี้ก็นับว่าดีแล้ว....เป็นผู้ชายที่เข้มแข็งหน่อยนะ オカマちゃん” (Okama chan) เป็นชื่อที่ อ.ชาวญี่ปุ่น 2 คน ใช่เรียกผม เพราะบางที่ ผมต้องถ่ายรูปลงบอร์ด หรือรูปนักเรียนไรเงี้ยะ จะต้องจัดผม กับใช้แป้งผัดหน้าหน่อยไม่ให้มัน แล้วก็ไม่ให้เห็นรอยสิว (ก็จริงขิงเขา)
ผม “ครับ......จะพยายาม” ปาดน้ำตา แล้วไปล้างหน้า
"การร้องไห้ อย่างน้อยก็ยังทำให้รู้ว่า มันไม่ทำให้อะไรดีขึ้น ถ้ามัวแต่นั่งปาดน้ำตาไม่พยายามสู้กับอุปสรรค"
                ผมยังคงทำให้มันดีที่สุดไม่ได้ ยังคงไม่เข้าใจแต่ท้ายที่สุด ก็เขียนมันให้ถูกต้องได้แม้ไม่ยาวมาก
         หลังจากนั้น ก็เป็นเวลามื้อเย็นครับ ซึ่งเป็นมื้อที่ ต้องหุงข้าวด้วยกระบอกไม้ไผ่ =_= ถามว่าผมพอรู้วิธีมั้ย พอรู้ครับ แต่ไม่เคยทำมาก่อน มากสุดก็ก่อไฟเองแล้วใช้หม้อสนาม อันนี้เคย หลักง่ายๆ ครับข้าวใส่น้ำ ปิดฝาให้แน่นๆ แล้วเผา Burn Baby Burn!!! พวกเราต้อง แบ่งกันครับ 2 คนเฝ้าไฟ อีก 2 ต้องไปพบ อาจารย์ชาวไทยอีกท่าน เพื่อไปเรียนรู้วิธีทำแกงกรี่ญี่ปุ่น //ในเวลาเดียวกัน อาจารย์ท่านนี้ ทำหลายอาชีพในครับ เป็นล่าม เป็นครูสอนนักเรียน ม.ปลาย ซักพักก็ไปสอนคนญี่ปุ่นทำอาหารต่อ // ปัญหาคือ ผมไปช่วย อ. ชาวญี่ปุ่นจุดไฟ ซึ่งตอนนั้นผมฝากยูโรเฝ้าไฟ พื้นที่ตรงนั้นเป็นลานโล่งใกล้ลำธารน้ำในค่าย......หันกลับมาอีกที่ พี่แกไปนอนในน้ำ =_= ไม่ใช่คนเดียวด้วยนะ เพื่อนของยูโร ชื่อกล้า ก็เอากะเขาด้วย 55555 (จริงๆ ผมเองก็ไปยืนคุยกะ อ.ญี่ปุ่นอีก แหะๆๆๆ)
 
 สรุป ข้าวเกือบไหม้

ดีที่ยังได้กิน


 
       หลังมื้อเย็นก็เป็นเวลาของการเตรียมโชว์ครับ ซึ่งต้องงไปแสดงที่ญี่ปุ่น ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการรำ แต่ของผมเป็นทีมชายล้วนเลยเลือกเป็นรำมวยไทยและสู้ด้วยท่ามวยต่างๆ ครับ
 
      
         แต่มีของน้องคนนึง พีคมาก น้องชื่อเติ้ล คนนี้สูงหล่อ เขาเลือกร้องเพลงลูกทุ่ง “ต้องมีสักวัน” และเพลงญี่ปุ่นอีกเพลง (ผมไม่รู้จัก)
        จากนั้นก็เป็นการแสดงรวมครับ ไว้แสดงเวลาอยู่รวมกลุ่มกันที่ศูนย์เยาวชนญี่ปุ่น สำหรับผมแล้วไม่มีปัญหาอะไรเพราะเคยอยู่ชมรมนาฏศิลป์ตอนเด็กๆ
 
เป็นการแสดงรำไทยแบบเมดเลย์มาก 555
 
           
      หลังจากซ้อมการแสดงเสร็จสรรพ
ก็เริ่มจัดการเอกสารในการเข้าญี่ปุ่น และนัดหมายสิ่งที่ต้องเอาไป (ผมอีกแล้ว) ที่ต้องซื้อ   Prop การแสดง (กลองยาวเล็ก 20 ตัว) ดีนะในเน็ตมีข้อมูลบ้าง ไม่งั้นผมตายแน่ นัดหมายเสร็จเคลียร์เอกสารเสร็จ ตรงนี้แหละครับ ทางทีมงานให้รักเรียนเขียนเอกสรพวก Flight ใบที่ต้องส่งตอนผ่าน "ตอม่อ" เอ้ย!!! "ตม." แฮร่!!! (มุกของแบงค์เลย) ทุกคนมีโอกาสเขียนผิดได้คนละ 1 รอบครับ เป็นช่วงเวลาที่เงียบที่สุด เพราะทุกคนกลัวเขียนผิด และแล้วยูโรก็......เขียนผิด  =_= เอาจนได้อ่ะ 5555 รู้สึกจะเขียนชื่อตัวเองผิด สลับสกุลกับชื่อ แก้รอบที่ 1 ซักพัก......พี่แกก็เขียนผิดอีกรอบ สรุป แก้ไป 4 รอบ ตายๆๆๆๆ เมื่อ อนละเวงกับเอกสารเสร็จ ก็เป็นการซ้อมการแสดงอีกรอบแล้วปล่อยพักครับ เช่นเคยพวกเราทีมสายแข็ง ติวกันต่อโดยมีมีพี่กอบกล้ามาร่วมวง จนได้คำนี้มา “พวก-แม่งโคตร Sitcom” คือไม่ว่าทำอะไรก็ต้องฮาไปเรื่อยๆ ฮาแบบไร้สาระด้วย 555555 // ไม่ได้อยู่ตรงนั่นจะไม่เข้าใจครับฮายังไงนะฮะ โดยเฉพาะเวลายูโรเล่นพยายามจะฮา // งานเราเสร็จทันเวลา เหลือแค่ทดสอบนำเสนอ ซึ่งเช่นเคยอีกแล้ว ตี 2

     ค่ายวันที่ 3 : กิจกรรมเช้าเหมือนทุกๆ วันครับ แต่เป็นวันที่ทุกคนค่อนข้างเครียด เพราะต้องนำเสนองานและทดลองโชว์ที่จะใช้ตอนไปญี่ปุ่น โดยจะต้องทำทั้งหมดให้คนที่สนับสนุนทุนนี้ด้วย การนำเสนอของทุกกลุ่มดูดีมากครับผมยอมรับเลย อย่างเช่นกลุ่มของ ดาวุธ (จำชื่อเล่นไม่ได้) เป็นคนใต้ครับ หน้าตาน่ากลัวมากกก ตาเป็นคนตลกจริง สำเนียงญี่ปุ่นแบบใต้ๆ ก็จริง แต่ฟังสบายเนื้อหาเข้าใจง่ายครอบคลุม หรือจะเป็นของกลุ่มมิ้น มิ้นได้รับคำชมด้วยการพูดมากครับว่าสำเนียงเป๊ะมาก และเมื่อถึงคราวกลุ่มผม ซึ่งทุ่มเทเวลาให้กับการนำเสนอมากที่สุด เป็นหัวข้อเกี่ยวกับค่ายครั้งนี้
ในภาพเป็นกลุ่มของน้อง ม.5 ของเรา "น้องณัฐ"
แต่ที่ผมทึ่งกว่าคือ สาวแว่นทางซ้ายสุด น้องชื่อ "แจ๊ม" (สะกดถูกป่ะว้ะ)
น้องคนนี้อยู่ ม.4 ครับ เป็น ม.4 คนเดียวในกลุ่ม 20 คน และเช่นเคย เทพกว่าผมเยอะ


     
การนำเสนอดำเนินไปอย่างราบรื่นครับ และแล้วผมก็โดนติ 5555 (อีกแล้ว) คือผมมักพูดผิดแล้วหัวเราะ

(กลบเกลื่อนๆ)
     แล้วก็ “ขอโทษครับ” เขาว่าตรงนี้ต้องไปแก้ไขครับ แต่ได้รับคำชมด้านเนื้อหาอยู่ หลังจากที่นำเสนอเสร็จก็เป็นการโชว์ครับ ซึ่งราบรื่นดีไม่ติดขัดอะไร

ฟัง Comment

หลังจากทำกิจกรรมทุกอย่างครบแล้ว ก็ทานมื้อกลางวัน และกลับสู่กรุงเทพครับ ระหว่างทาง ผมดูจะขยันสุด เพราะว่าเป็นคนพูดเป็นคนแรกของนักเรียนจึงถูกเรียกไปซ้อมพูดแม้ตอนอยู่ในรถก็ตาม และก็ต้องเอามานั่งแก้จุดที่มันฟังดูแปลกจากนั้นก็ไปทดสอบพูดอีกครั้งอีกครั้ง
อาจารย์ให้หลักการง่ายๆ มาครับว่า
"ให้เขียนให้เป็นระเบียบ แล้วจำแค่ว่าจะพูดให้สื่ออะไร นึกมันขึ้นมา แล้วแปล 2 รอบ จากนั้นค่อยพูดออกมา แล้วมันจะเป็นธรรมชาติ"
ใช้เวลาเดินทางไม่มากครับเพราะรถไม่ติด และเราก็ลงรถกันที่โรงเรียนดังย่านบางเขนประมาณเย็นๆ ของวันนั้น คนที่มาจากต่างจังหวัดอย่าง ดาวุธ น้องดี ดา อิงอาม และอีกหลายคน ต้องไปเดินทางต่อครับ ทั้งผู้ปกครองมารับและกลับเอง
......
....
..
.
.
เอาหร่ะๆ อีกไม่ถึง 10 วันหลังจากกลับจากค่ายก็จะได้ไปญี่ปุ่นแล้วครับผม
คณะนักเรียนไทย 20 คน จะต้องพบเจออะไรที่ญี่ปุ่น ติดต่อตามได้ใน
Ep. 4 ย่างก้าวที่รอคอย

 
อย่าเพิ่งรีบปิดคร้าบบบบบ
หากน้องๆ คนไหนสนใจจะหาประสบการณ์ และเส้นทางแห่งแรงบันดาลใจมากมาย
ง่ายๆ เพียงแค่
คลิ๊ก!!


 

ตอนต่อไป!! เราจะได้ไปญี่ปุ่นกันแล้วนะครับ อย่าลืมมาติดตามเรื่องราวของผมและทุกๆ คนกันต่อได้ใน รีวิว : แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่ญี่ปุ่น กับ TJYEC Ep.4

 

แสดงความคิดเห็น

1 ความคิดเห็น

Coolper 30 มี.ค. 60 เวลา 15:52 น. 1

เป็นรีวิวที่สนุกดีครับ (ทำให้นึกถึงสมัยตัวเอง แต่ตอนนั้นไม่มีเข้าค่ายเพื่อเตรียมตัว) ถ้าน้องได้ไปแล้วก็ขอให้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้ได้เยอะๆนะครับ ในหลายๆด้าน ประสบการณ์บางอย่างเงินซื้อไม่ได้นะครับ สนุกให้เต็มที่ครับ

1
DeadMan 30 มี.ค. 60 เวลา 16:50 น. 1-1

ได้มาเยอะจริงๆ ครับ อยากไปอีกมากๆ 5555 (แต่หมดสิทธิ์ล้ะ)

0