การชื่นชมกับการด่าของอาจารย์ส่งผลอะไรกับผมบ้าง ?
ตั้งกระทู้ใหม่
หัวข้อ : การชื่นชมกับการด่าของอาจารย์ส่งผลอะไรกับผมบ้าง ?
จากหัวข้อด้านบนหลายคนอาจจะไม่เคยรู้สึกเอะใจ หรือบางคนอาจจะเคยรู้สึกตัวว่ามันส่งผลอย่างมากจริง ๆ กับชีวิตของคนเรา
ตัวอย่างเช่นในชีวิตของผม ผมถือได้ว่าเป็นเด็กเรียนที่เก่งคณิตศาสตร์คนหนึ่ง (ไม่เก่งมากเท่ากับเด็กระดับโอลิมปิก แต่ระดับจังหวัดถือว่าค่อนข้างโอเค แต่ไม่ขอพูดรายละเอียดส่วนนี้ลึกมากนะครับ)
ทว่าแม้ผมจะเก่งวิชาคณิตศาสตร์ และชอบมันมาก วิชาอื่น ๆ ที่เน้นท่องจำอย่างเคมี ชีววิทยา
ผมกลับอยู่ในระดับกลาง ๆ ถึงขั้นห่วยแตกเลยด้วยซ้ำ !
แล้วปัญหาอยู่ที่อะไร ? เด็กเก่งคณิตศาสตร์ไม่สามารถเก่งชีวะกับเคมีได้งั้นเหรอ ?
ในช่วงแรกที่เรียนจนจบมัธยมปลายผมก็คิดเช่นนั้นครับ แต่พอได้โตขึ้นมาก็รู้ตัวว่ามันไม่ใช่ !
การเก่งคณิตศาสตร์ส่วนหนึ่งที่นอกเหนือจากการคิดวิเคราะห์แล้ว คุณยังต้องท่องจำ หรือจดจำเรื่องบางอย่างจนเข้าใจ อย่างเช่น บทนิยาม ทฤษฎีบท สูตร เทคนิคการทำ และอื่น ๆ อีกอย่าง
แล้วมันเกิดอะไรขึ้น ? ทำไมผมที่สามารถจดจำสิ่งที่เรียกว่าท่องจำเหล่านั้นได้ไม่ว่าจะเป็นบทนิยาม ทฤษฎีบท สูตร และอื่น ๆ ได้ กลับไม่สามารถท่องจำวิชาอื่น ๆ อย่างชีววิทยาหรือเคมีได้ล่ะ ?
จากที่ผมลองคิดทบทวนกับตัวเองดูนะครับ สิ่งที่ผมค้นพบก็คือทัศนคติต่อวิชานั้น ๆ ครับ !
หลายคนอาจจะมองว่าทัศนคติไม่ได้ช่วยในเรื่องดังกล่าวหรอก ซึ่งจริง ๆ มันก็แค่ส่วนหนึ่งนั่นแหละ แต่ผมอยากให้คุณลองฟังประสบการณ์ที่ทำให้ผมชอบคณิตศาสตร์จนเก่งขึ้นมาก่อนก็แล้วกันครับ
ตั้งแต่เด็ก(อนุบาล) ผมมีญาติที่เป็นลูกพี่ลูกน้องซึ่งเรียนสายบัญชี พี่คนนี้ผมสนิทมาก เขามักจะหาเวลาว่างสอนพิเศษวิชาคณิตศาสตร์(ด้านการคำนวณ)ให้กับผมเสมอ ตัวอย่างเช่นตอนนั้นพี่สอนเรื่องการบวกลบคูณหารให้
ผมก็จดจำเทคนิคเหล่านี้ไว้ เรียนไป ตอบถูกบ้าง ผิดบ้าง แรก ๆ ผมรู้สึกเบื่อด้วยซ้ำที่ต้องมาเรียนอะไรแบบนี้
จนกระทั่งวันหนึ่งผมได้ไปเรียนจริง ๆ ในชั้นประถม
ซึ่งแน่นอนว่าชั้นประถมนั้นมีการเรียนการสอนด้วยวิชาคณิตศาสตร์ แล้วอาจารย์ก็มักจะเอาโจทย์อย่าง
3+3 = ?
4+4 = ?
5+7 = ?
แน่นอนครับว่าคนอย่างผมที่เรียนคณิตศาสตร์กับพี่ชายมานาน จดจำเทคนิคต่าง ๆ จนขึ้นใจนั้นตอบไม่ได้ !
#ล้อเล่นนั่นเป็นมุกเพื่อคลายเครียด
แน่นอนครับว่าผมตอบได้อยู่แล้ว แถมยังตอบถูกด้วย
ซึ่งในจุดนี้กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญเลยสำหรับผมที่ทำให้ชอบคณิตศาสตร์ขึ้นมา เพราะอะไรน่ะเหรอครับ ? ก็เพราะว่าพอผมตอบถูก อาจารย์ก็ชื่นชมผมว่าเก่งยังไงล่ะ !
(การชมเด็กว่าเก่งอาจจะเป็นดาบสองคมในหลาย ๆ เรื่อง แต่เอาเฉพาะด้านบวกก็แล้วกันนะ)
ซึ่งตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เมื่อผมตอบได้มากขึ้นเรื่อย ๆ อาจารย์ก็ชมมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นเดียวกัน จนทำให้ผมรู้สึกชื่นชอบคณิตศาสตร์ และยินดีมากที่ตอบคำถามถูกจนได้รับคำชม
ซึ่งพอผู้ปกครอง(แม่)รู้ว่าผมมีความสามารถด้านนี้ ก็เลยส่งเสริมให้ผมไปเรียนพิเศษให้เก่งขึ้น
แรก ๆ การเรียนมันก็ค่อนข้างยากมากครับ แต่เพื่อรักษาหน้าตา(ต่อสังคมในห้องเรียน) ดังนั้นจึงพยายามตอบไม่ให้ผิด ซึ่งก็คือต้องขวนขวายมากเป็นพิเศษ ตั้งใจเรียนวิชาคณิตศาสตร์มากเพื่อมาตอบคำถามอาจารย์ให้ได้
ในที่สุด แม้ว่าการชื่นชมจะไม่มีความหมาย เพราะมันเป็นเรื่องทั่ว ๆ ไปที่มักจะทำได้จนเกิดความชินชาแล้ว ผมก็ยังต้องพยายามรักษาหน้าตา(ต่อสังคมในห้องเรียน ทำตัวให้เด่นต่อไป) ท้ายที่สุดทัศนคติก็เหมือนถูกปลูกฝังว่า ต้องอ่านนะ ต้องทำให้ได้ ต้องเก่งกว่าคนอื่นให้ได้ (แม้ปัจจุบันเราจะไม่ได้เก่งจนเกินคนอื่น 5555)
สรุป ชีวิตผมได้รับคำชมจนรู้สึกว่าต้องเรียนคณิตศาสตร์ให้เก่ง นี่คือทัศนคติที่ทำให้ต้องตั้งใจเรียนต่อไป
แต่สำหรับวิชาอื่น ๆ อย่างวิชาท่องจำ พอผมไม่ได้รับคำชม ก็ไม่ได้สนใจมัน บางครั้งโดนอาจารย์ด่าก็มีเช่นวิชาสังคม พุทธศาสนา ผมเลยรู้สึกเกลียดมัน อาจจะเป็นเพราะอาจารย์ (เคยโดนด่าว่าควา* เพราะว่าเขียนลายมือไม่สวยในช่วง ม.ต้น WTF ???? )
นั่นก็ทำให้ผมรู้สึกไม่ชอบวิชาเหล่านี้ไป ทัศนคติต่อวิชาเหล่านี้ก็ค่อนข้างแย่ไปเลย ส่วนวิชาชีววิทยา เคมี(ดีหน่อยเจออาจารย์ที่มีเหตุผล) ผมไม่ค่อยได้อ่านไปล่วงหน้า ตอบคำถามไม่ได้ ส่วนใหญ่ก็เอาเวลาไปทุ่มให้คณิตศาสตร์หมด ดังนั้นก็เลยไม่ค่อยอะไรเท่าไหร่
ในส่วนนี้อาจจะไม่ชัดเจนนักเมื่อเปรียบเทียบกับทัศนคติด้านบวก
เอาอย่างนี้แล้วกัน เล่าเรื่องของคนที่ไม่ชอบคณิตศาสตร์ซึ่งผมได้ลองสังเกตดูดีกว่า
จากที่ผมลองถาม และสัมภาษณ์ สาเหตุสำคัญที่คนไม่ชอบคณิตศาสตร์ส่วนใหญ่จะบอกว่า ไม่ชอบคำนวณ ไม่ชอบคิดเยอะ !
นี่เป็นสาเหตุหลัก ๆ ที่คนไม่ชอบ และไม่เก่งเลย
แล้วยังไง ? มันเกี่ยวอะไรกับหัวข้อที่เอามาพูดคุยกัน ?
จริง ๆ มันเกี่ยวครับ ที่คนส่วนใหญ่บอกมานั้น เพราะผมถามไปแค่ครั้งแรก
แต่พอลองถามไปเรื่อย ๆ ครั้งที่ 2 3 4 5 ปรากฏว่ามันมีสัญญาณบางอย่างที่ไม่ใช่แค่เรื่องไม่ชอบคิดไม่ชอบคำนวณ !
ซึ่งสาเหตุที่เป็นแบบนี้เพื่อนผมพูดอย่างนี้ครับ
โดนอาจารย์ด่าเลยไม่สนใจเรียน ไม่ทำการบ้านเลยโดยอาจารย์ด่า ออกไปหน้ากระดานแล้วเขียนอะไรไม่ได้เพราะเรียนไม่รู้เรื่อง และไม่เคยเรียนล่วงหน้า(เรียนพิเศษ) ดังนั้นจึงตอบคำถามไม่ได้ ซึ่งพอมองคนอื่น ๆ เช่นเพื่อนที่เรียนพิเศษมาก่อนกลับตอบได้ จึงได้รับคำชม
นี่ครับสิ่งที่ผมอยากพูดถึงในวันนี้
มันเกิดปมขึ้นในใจจนไม่ชอบคณิตศาสตร์ !
ทั้งการด่า หรือหากไม่ด่าแต่เป็นการเรียกให้ไปแสดงวิธีคิดหน้าห้องแล้วตอบไม่ได้แต่เพื่อนคนอื่นกลับตอบได้ ตัวเองก็รู้สึกเป็นปมด้อยฝังใจว่าไม่เก่งคณิตศาสตร์ !!!
ซึ่งระบบการศึกษาคณิตศาสตร์เนี่ยมันเรียนเป็นลูกโซ่ ถ้าหากเด็กไม่ชอบคณิตศาสตร์ตั้งแต่อนุบาล ประถม เพราะโดนครูด่าจนเกิดทัศนคติลบ เกิดความรู้สึกต่อต้าน ไม่อยากอ่านคณิตศาสตร์เลย นั่นก็หมายความว่าเด็กคนนั้นก็จะไม่เข้าใจเนื้อหาหลาย ๆ อย่างจนไม่เข้าใจเลยนะครับ
ยกตัวอย่างง่าย ๆ อย่างการเรียนยกกำลังเนี่ย เช่น 5^5 จริง ๆ แล้ว
5^5 มันคือการเอา 5 มาคูณตัวเอง 5 ครั้ง ซึ่งเท่ากับ 5x5x5x5x5
แล้วการคูณเนี่ย เช่น 5x5
มันคือการนำ 5 มาบวกกัน 5 ครั้ง ซึ่งก็คือ 5+5+5+5+5
แล้วคุณลองคิดดูสิ ถ้าเด็กมันไม่เกิดชอบคณิตศาสตร์ตั้งแต่ 5+5 แล้วมันจะทำ 5+5+5+5+5 เป็นไหม
ไม่ต้องถามถึงเนื้อหาลึก ๆ อย่างแคลคูลัส ตรีโกณมิติ เรขาคณิตวิเคราะห์
เรื่องพวกนี้มันต้องใช้แนวคิดหลายขั้นตอนในการทำ ถ้าหากพลาดจุดใดจุดหนึ่งไป คุณก็อาจไม่รู้เลยว่ามันจะต้องแก้ไขยังไง
เขียนไปเขียนมาเรื่องมันชักบานปลาย ขอสรุปตรงนี้ก็แล้วกันนะครับว่าจากความคิดเห็นส่วนตัว
การชื่นชมของอาจารย์ มันส่งผลให้เด็กเกิดความกระตือรือร้นในการเรียนมากขึ้น ได้รับกำลังใจมากขึ้น ยิ่งได้รับอย่างต่อเนื่องยิ่งทำให้รู้สึกอยากเรียนมากขึ้น แม้ในอนาคตไม่ได้สอน เด็กก็อาจจะตั้งใจเรียนเองได้ แต่ก็ยังส่งผลกระทบอยู่บ้างสำหรับเด็กคนอื่น ๆ ที่ไม่ได้รับคำชม อย่างที่เล่าไป
การดุด่าของอาจารย์ มันส่งผลให้เด็กเกิดความรู้สึกต่อต้าน รู้สึกไม่อยากเรียนวิชานั้น ๆ อย่างทำการบ้านไม่ถูกก็โดนว่า แสดงวิธีทำหน้ากระดานไม่ได้ก็โดนประจาน
ยิ่งในยุคที่ผมเรียน หรือก่อนหน้านี้ จะรู้ได้ว่ามันมีทั้งการตีร่วมด้วย(ตีก้น ตีด้วยไม้เรียว)ซึ่งไม่ก่อเกิดผลประโยชน์ใด ๆ นอกจากนี้อาจารย์หลายคนจากในประสบการณ์ส่วนตัวมักจะใช้อารมณ์ในการสอนค่อนข้างมาก ยึดติดอารมณ์มากกว่าเหตุผล ซึ่งบางครั้งมันไม่ใช่เรื่องเลยครับ(เหมือนผมเขียนลายมือไม่สวย เจอด่าว่าควา* WTF ??? ยังงง ๆ อยู่จนถึงทุกวันนี้)
ดังนั้นผมก็อยากจะเสนอแนะว่าให้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการเรียนการสอนซะใหม่ ถ้าจะชมก็ควรชมเด็กทุกคน(ไม่จำเป็น แต่ถ้าได้ก็ดีครับ) ส่วนถ้าจะด่ากรุณาเลิกพฤติกรรมนี้เถอะครับ มันส่งผลเสียในหลาย ๆ ด้านต่อเด็ก
ปล. ผมเขียนตอนตีหนึ่ง บางคำอาจจะเขียนผิด บางอย่างอาจจะสื่อสารไม่ตรง ผมไม่ได้ตรวจเช็กด้วย ถ้าหากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยครับ ทุกท่านสามารถแสดงความคิดเห็นถกกันได้ตามสบาย (ของดการด่าทอละกันครับ) นอนแล้วครับ สวัสดี :)
1 ความคิดเห็น
ไม่ได้เรียบเรียงอะไรเลย ถ้าสื่อสารผิดพลาด ผมต้องขออภัยด้วยนะครับ ถ้าเห็นว่าแปลก ๆ ตรงไหนก็แย้งได้เลย :)
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?