รีวิวโครงการวมว. มธ-สกร 2019 : มีอะไรเปลี่ยนไปบ้างนะ?

ตั้งกระทู้ใหม่

สวัสดีค่า เราเป็นนักเรียนโครงการ วมว. มธ-สกร.รุ่นที่ 4 หลายๆคนอาจจะเคยอ่านรีวิวโครงการนี้ในปี 2017 แต่ในปีนี้เราจะมารีวิวว่าในปี 2019 นี้โครงการเรามีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปบ้าง รวมถึงรายละเอียดเล็กๆน้อยๆในการอยู่ในโครงการนี้ด้วย
เริ่มต้นด้วย
Q : โครงการวมว คือโครงการอะไร ?
A : โครงการสนับสนุนการจัดตั้งห้องเรียนวิทยาศาสตร์ในโรงเรียน โดยการกำกับดูแลของมหาวิทยาลัย หรือโครงการ วมว. เป็นโครงการจัดตั้งห้องเรียนวิทยาศาสตร์ในโรงเรียนสำหรับผู้เรียนที่มีความสามารถพิเศษทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยมีมหาวิทยาลัยเป็นผู้กำกับดูแลการดำเนินการ ภายใต้การสนับสนุนของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (กระทรวงอุดมศึกษาฯ ในปัจจุบันนั่นเอง)

Q : แล้วโครงการ วมว. มธ-สกร อยู่ในความร่วมมือของใคร?
A : อยู่ในการดูแลของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย รังสิตค่ะ

Q : เรียนทุนมั้ย ทุนเท่าไหร่ ทุนผูกมัดหรือให้เปล่า?
A : เรียนทุนค่ะ อารมณ์คล้ายๆกับโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณ ทีนี่มีทุนให้เด็กแต่ละคน 200,000 บาท/ปีหรือสรุปรวม 3 ปีคือ 600,000 บาทต่อคน เป็นทุนให้เปล่า ไม่ผูกมัด หลังจากเรียนจบ ม.6 สามารถไปต่อที่คณะอื่นๆหรือมหาวิทยาลัยอื่นๆก็ได้

Q : รับเด็กในโครงการกี่คน?
A : เนื่องด้วยมีการขยายห้องเรียนจาก 1 ห้องเป็น 2 ห้อง จึงทำให้รับเด็กทั้งหมด 60 คน (รุ่น1-4 รับ 30คน ส่วนรุ่น 5 รับ 58คน) หรือก็คือน้องๆที่จะเข้าเรียนในปีการศึกษา 2563 เป็นต้นไปจะมีทั้งหมด 60 คนนั่นเอง

Q : การอยู่หอพักเป็นยังไง เดินทางไปเรียนยังไงบ้าง?
A : น้องๆจะได้อยู่ในหอพักของมหาวิทยาลัย ผู้หญิงอยู่หอF7 ส่วนผู้ชายอยู่หอM2 เป็นห้องนอนรวม 4 คน เตียง2ชั้น มีตู้เสื้อผ้า โต๊ะเขียนหนังสือ และชั้นวางหนังสือให้ครบหมด มีแอร์และพัดลมให้ เวลาจ่ายเงินก็หารค่าไฟกัน 4 คน ห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวม มีตู้เย็น,ไมโครเวฟ,ตู้กดน้ำ,อ่างซักผ้า,ที่รองรีดผ้า (แต่เอาเตารีดมาเองนะ) เป็นของส่วนรวมที่ให้บริการใช้ร่วมกับพี่ๆนักศึกษา เมื่ออยู่หอเราจะมีการเช็คชื่อในตอน 3 ทุ่ม และ4 ทุ่มเมื่ออยู่ในช่วงสอบ

เวลาไปเรียนที่โรงเรียน ทางโครงการจะมีรถตู้ให้บริการคอยรับส่งตอนเช้าและตอนเย็น ส่วนเวลาเรียนที่ม.เราจะเดินทางไปเอง นอกจากนี้เวลาอยู่ในม.เรามีสิทธิ์เป็นนศ. สามารถใช้บริการต่างๆของมหาลัยได้ เช่น หอสมุด สนามกีฬา ฟิตเนส สระว่ายน้ำ โรงอาหารต่างๆได้

Q : การเรียนในแต่ละปีเป็นยังไง ?
A : ขอแบ่งเป็นแต่ละชั้นปีเลยนะคะ คือ
ม.4 : ในช่วงครึ่งเทอมที่ 1และเทอมที่ 2 ก่อนสอบกลางภาค จะเรียนกับทางโรงเรียนทั้งหมดทุกวิชา แต่พอหลังสอบกลางภาคไปจนถึงสอบปลายภาค จะเรียนวิชาวิทย์-คณิตกับทางอาจารย์มหาลัย ส่วนวิชาพื้นฐานเช่น ไทย สังคม อังกฤษ จะเรียนกับทางโรงเรียนเหมือนเดิม ม.4 จะมีกิจกรรมระหว่างเรียนคือ การทำพาเหรดกีฬาสี การเดินทางไปดูงานที่สาขาในคณะวิทย์ฯรวมถึงเดินทางไปดูงานที่คณะอื่นๆในมหาลัย และที่สนุกสุดคือ การไปร่วมค่ายสานสัมพันธ์กับโครงการ วมว.อีก 17แห่งทั่วประเทศช่วงปิดเทอมใหญ่
ม.5 : เป็นปีที่หนักหน่วงจนน้ำตาไหลพราก (555T^T) เนื่องจากมีการปรับหลักสูตรใหม่ ทำให้จากเดิมที่ต้องทำโครงงานในม.4เทอม 2 เปลี่ยนมาเป็นม.5 ชีวิตมันก็จะหนักๆหน่อย ปั่นโครงงานกันหัวยุ่งๆหน่อย แต่ก็เป็นสีสันดีนะ ในครึ่งเทอม1ก่อนสอบกลางภาคจะเรียนวิชาเกือบทั้งหมดกับทางโรงเรียนยกเว้น วิชาหลักเคมีและปฏิบัติการเคมี หลังจากสอบกลางภาคจะกลับมาเรียนกับทางมหาลัยในวิชาวิทย์-คณิต เหมือนกับ ม.4 ส่วนเทอม 2 จะเรียนกับโรงเรียนทั้งหมดครึ่งเทอมและกลับมาเรียนกับทางมหาลัยครึ่งเทอมเหมือน ม.4 เป๊ะเลย ม.5 จะมีกิจกรรมค่อนข้างเยอะ เนื่องจากต้องเป็นแม่งานในการจัดกิจกรรมทุกอย่าง เช่น รับน้อง งานonce งานbyenior หรือสแตนด์กีฬาสีโรงเรียน นอกจากนี้ด้วยต้องทำโครงงานจึงทำให้ม.5จะต้องมีการเรียนสัมมนาและสอบข้อเสนอโครงงานอยู่เป็นระยะๆด้วย มันก็จะได้ฟีลในการรวมกลุ่มใต้หอทำข้อเสนอ ทำpowerpoint โดนที่ปรึกษาสั่งแก้นู่นนี่นั่น แก้จนนาทีสุดท้ายก็มี และม.5ต้องลงประกวดโครงงานของYSC รวมถึงเมื่อปิดเทอมใหญ่จะต้องแข่งประกวดโครงงาน SCiUS FORUM กับศูนย์อื่นๆอีก17ศูนย์เหมือนกัน และไฮไลต์คือ ปิดเทอมใหญ่จะได้ไปเที่ยวต่างประเทศด้วยยยย
ม.6 : เป็นปีที่ค่อนข้างกดดันกับการสอบเข้ามหาลัย พี่ๆม.6จะเรียนวิชาวิทย์-คณิตกับทางมหาลัยทั้งเทอมตั้งแต่เทอม1ถึงเทอม2 และเรียนวิชาพื้นฐาน(ไทย,อังกฤษ,สังคมและอื่นๆ)กับทางโรงเรียนทั้งหมด หลักสูตรใหม่จะมีวิชาเลือกให้ม.6ได้ลงเรียนคือวิชาของมหาลัย เช่น แคลคูลัสมหาลัย ชีววิทยามหาลัย เคมีมหาลัย ฟิสิกส์มหาลัย เลือกเรียน 3 ใน 4 ซึ่ง!!!! ต้องลงเรียนในช่วงม.6เทอม2จ้าาา (ปาดน้ำตาได้มุ้ย) ม.6จะไม่ค่อยได้มีกิจกรรมมาก เนื่องจากต้องเตรียมตัวอ่านหนังสือสอบกันแล้วนั่นเอง

Q : ตัดเกรดกันยังไง?
A : วิชาที่ต้องเรียนกับทั้ง2ที่จะแบ่งกันคนละ50-50 ส่วนใหญ่เป็นวิชาจำพวก วิทย์-คณิต คือ สกรเก็บ50 คะแนน และมธ.ก็เก็บ50คะแนนเหมือนกัน ส่วนวิชาไหนที่ทางสกร.หรือทางมธ.รับผิดชอบทั้งหมดก็จะเก็บ100 คะแนนเลย ซึ่ง!!! ก็นั่นแหล่ะค่ะ ด้วยความที่เก็บคนละ50-50 มันทำให้พวกขาดไป1คะแนนจะเปลี่ยนเกรดได้ก็กินแห้วกันมาแล้ว เช่น 79 คะแนนคือ3.5 80 คะแนนคือ 4 ถ้าได้ 79 ก็คือ 79 ไม่ปัดให้ (มันก็จะเป็นความเศร้าหน่อยๆ) นอกจากนี้คือสำคัญมาก ทางโครงการจะมีการพิจารณาเกรดคือ เกรดรวมวิชาวิทย์-คณิตรวมกันต้องไม่ต่ำกว่า 3.00 และ เกรดวิชาฟิสิกส์ เคมี ชีวะ คณิต แยกย่อยออกมาต้องไม่ต่ำกว่า 2.50 ไม่งั้นจะเกิดการติดสถานะพินิจ หรือที่เรียกกันง่ายๆว่าติดโปรนั่นเอง ซึ่งเมื่อติดโปรแล้วก็ต้องแก้ไขให้เทอมหน้าไม่ติดโปร และถ้าติดโปร 2 เทอมติดกันก็อาจจะมีการพิจารณาให้พ้นสภาพการเป็นนักเรียนทุนนั่นเอง( คือ ทุนไม่ได้ ถ้าอยากเรียนต้องจ่ายตังค์เองทั้งหมด ค่าเทอมเอย ค่ากิจกรรม ค่ารถตู้เอย) หรือไม่ก็ต้องลาออก ซึ่งต้องจ่ายค่าปรับ1.5 เท่าของเงินที่ใช้เรียนไป
Q : สมัครเรียนกับสอบยังไง?
A : ในการสอบจะมีทั้งหมด 2 รอบ คือ
รอบแรก(รับ250) : สอบพร้อมกับโรงเรียนมหิดลวิทยาณุสรณ์ มีรูปแบบการเลือก 2 รูปแบบคือ
1.เลือก วมว.ได้ 2 ศูนย์
2. เลือกมหิดลวิทยาณุสรณ์และวมว.ไม่เกิน 2 ศูนย์ เรียงตามลำดับเหมือนกัน
* อยากให้น้องๆเลือกอันดับให้ดี เนื่องจากอันดับจะมีผลต่อการพิจารณาให้สอบรอบถัดไป พูดง่ายๆคือ ถ้าสมมติคะแนนน้องไม่ติดอันดับ 1 แต่น้องเลือกอันดับ2 เป็นศูนย์ มธ. แล้วน้องคะแนนเท่ากับคนที่เลือก ศูนย์ มธ.เป็นอันดับที่ 1 เขาจะพิจารณาเอาคนที่เลือก ศูนย์ มธ. เป็นอันดับแรกก่อนนะ ข้อสอบใช้ชุดเดียวกับมหิดลฯ
กำหนดการออกมาคือ สอบวันที่ 17 พ.ย. 2562 เวลา 9.00 - 15.30น.
รอบสอง(รับ60) : สอบที่มหาลัย จะแบ่งข้อสอบเป็น2ชุดคือ ข้อสอบกลาง และข้อสอบของศูนย์
รีวิวข้อสอบรอบ2 ปี61-62
ข้อสอบกลาง - ส่วนใหญ่เขียนสลับช้อยส์ เน้นความเข้าใจในวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ข้อสอบจะค่อนข้างง่ายกว่าข้อสอบของศูนย์ จะมีการทดลองมาให้ ให้วิเคราะห์ผลที่จะเกิดขึ้น อธิบายปรากฏการณ์นั้นๆด้วยหลักวิทยาศาสตร์ สรุปคือต้องรู้ทุกเรื่องถึงจะอธิบายได้ เน้นความเป็นเหตุเป็นผล ข้อสอบจะมีคณิต,ฟิสิกส์,เคมี,ชีวะแยกเป็นชุดๆ อย่างปีพี่ก็เคยมีเรื่องการออกแบบโครงงานว่า เจียวไข่อย่างไรให้อร่อย โจทย์มาแค่นี้ แต่น้องต้องเขียนตัวแปรต้น ตัวแปรตาม ตัวแปรควบคุม ออกแบบการทดลองยังไง น้องต้องเป็นคนกำหนดเอง แนะนำว่าต้องรู้จักการที่จะเขียนเชื่อมโยงสิ่งที่เรารู้กับสิ่งที่โจทย์ถาม ส่วนคณิตศาสตร์มันไม่ค่อยออกเกินหลักสูตรม.ต้นที่เรียนมานะ
*แนะนำว่าอย่าเทข้อสอบกลาง เพราะข้อสอบกลางคือตัวตัดสิน เช่น น้องได้คะแนนรวมทั้งหมดเท่าเพื่อนอีกคน แต่น้องได้คะแนนข้อสอบกลางเยอะกว่า น้องจะได้อันดับดีกว่าเพื่อน
ข้อสอบศูนย์ - เป็นผสมระหว่างเขียนกับกา แต่ข้อเขียนก็ยังเยอะกว่าอยู่ดี ข้อสอบศูนย์บางทีบทจะถามง่ายก็ง่าย แต่บทจะถามยากก็งงว่าถามอะไรกันแน่ อย่างคณิตศาสตร์ก็จะยากง่ายสลับกันเป็นบางข้อ ปีพี่ข้อยากคือกรวยไอศกรีม3อันเรียงกันเป็นวงกลมกำหนดขนาดไอติมอะไรประมาณเนี้ยถามรัศมีของวงกลมที่เกิดจากกรวยวางเรียงกัน แนะนำว่าไม่ให้เว้นนะ ถึงทำไม่ได้ก็ลองเขียนสูตรที่รู้ใส่ลงไป ถ้าเว้นก็คะแนนหายไปเลย ส่วนวิทยาศาสตร์ ก็จะมีพวกดาราศาสตร์เล็กๆน้อยๆ ธรณีวิทยา การแบ่งเซลล์แบบ mitosis meiosis ประมาณนี้ แต่ก็ไม่แนะนำให้เท แนะนำให้อ่านทั้งหมดอยู่ดีแหละ แล้วก็จะมีข้อสอบLab ให้ออกแบบการทดลอง จะมีอุปกรณ์มาให้ ให้น้องเลือกอุปกรณ์เหล่านั้นไปออกแบบโครงงาน เช่น ปีพี่เป็นแลปการนับจำนวนสัตว์หน้าดิน ก็จะมีพวกอุปกรณ์เช่น ผ้าขาวบาง ตะแกรง กล่องพลาสติก ผ้าสีทึบอะไรพวกนี้มาให้ หรือปีล่าสุดเป็นแลปเรื่อง oxin น้องต้องเขียนปัญหา สมมติฐาน อุปกรณ์ที่จะใช้ วิธีการทดลอง ตารางบันทึกผลการทดลอง กราฟ สรุปผล อภิปรายผลเองทั้งหมด ส่วนภาษาอังกฤษจะมีทั้งlistening reading และ conversation ไปลองฝึกทำโจทย์เข้าเตรียมฯได้ แนวมันคล้ายๆกัน listeningเป็นพาร์ทที่เก็บคะแนนได้ง่ายนะ เพราะเทปเขาไม่ได้พูดเร็ว แถมเขาพูดซ้ำ 2 รอบด้วย ส่วน conver เป็นพาร์ทที่ถ้ารู้บริบทของมันจะตอบได้ รวมถึง reading ให้อ่านโจทย์ว่าเขาถามอะไรแล้วค่อยไปหาคำตอบ อย่าอ่านทีเดียวทั้งหมดเพราะมันเยอะมาก555 ยาวเป็นหน้าเลย

สุดท้ายนี้ที่พี่เขียนยาวก็เพื่อให้น้องๆได้เข้าใจโครงการฉบับขั้นต้น พี่ก็หวังว่าน้องๆจะอ่านและตั้งใจที่จะสอบเข้าที่นี่ ที่นี่พร้อมรอต้อนรับน้องๆเสมอ อยากเห็นน้องๆมาอยู่ในโครงการเป็นครอบครัวด้วยกัน รอเสมอน้าาาา
ปล.1 สงสัยอะไรถามมาเลยจ้า พวกพี่พร้อมตอบ
ปล.2 เรามี Facebook ของโครงการนะ ตามนี้เลย : SCiUS TU (ทางการ)
SCiUS TUSKR (พวกพี่ดูแลกันอยู่)

ปล.3 สุดท้ายแล้วขอแปะรูปกิจกรรมซะหน่อย เผื่อน้องๆจะอยากเข้ามากขึ้น
เครดิตภาพจาก SCiUS TU