Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

แม่ไม่ให้เรียน CommArts ทำอย่างไรดี :(

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
คะแนน SAT รอบเดือนตุลาคมพึ่งออกมาค่ะ
คะแนนเราก็ใช้ได้อยู่ คุยกับแม่ไว้ว่าจะเลือก
BBA EBA กับ Comm Arts เราอยากเรียนคอมอาร์ท
มากๆๆๆ แต่แม่ก็พูดมาเสมอตั้งแต่ต้นปีแล้วว่า
ให้เราเรียนแค่ทางสายการเงิน แต่ตอนนั้นมันยังไม่เร่ง
ด่วนอะไรเลยยังไม่เซ้าซี้อะไรมาก

มาถึงอาทิตย์ที่ผ่านมาคะแนน SAT ประกาศมาแล้ว
เราได้ 1380 ค่ะ Verbal 610 กับ Math 770 ค่ะ
พอคะแนนออก เราก็เริ่มคุยจริงจังกับทางบ้าน
พ่อเราโอเคนะ ไม่ได้บังคับเราอะไร แต่แม่บอกให้
เราเอา BBA เท่านั้น ท่านให้เหตุผลว่า ทางบ้านมี-
ธุรกิจส่วนตัวอยู่แล้ว ถ้าเข้าคอมอาร์ทไป จบไปจะไปหา
งานอะไรทำ คนเรียนคณะนี้จะเกิดได้ก็ต้องโดดเด่น
มีพรสวรรค์จริงๆ ไม่งั้นก็หน้าตาดีมากๆ ไปเป็นดารา
ซึ่งคือเราสนใจศาสตร์ทางด้านคณะนี้มาตั้งนานแล้ว
เราศึกษาคณะนี้มาตั้งแต่ขึ้น ม.ปลายมา
เราไม่ได้อยากเรียนคณะสายการเงิน เดือนธันวานี่ก็จะส่งคะแนน BBA ไปแล้ว เราคาดตามแนวโน้มว่าเราน่าจะติดสัมภาษณ์ไปอยู่ แล้วปีนี้เป็นปีแรกที่สอบหว่านแห
ไม่ได้ คณะนี้จะประกาศพร้อมตัด Clearinghouse ก่อนที่คอมอาร์ทจะประกาศเสียอีก

เราจะกล่อมแม่ให้เราสละสิทธิ์ เพื่อไปยื่นเข้าไปรอบสอบ Writing+Interviews ของคอมอาร์ทยังไงดีคะ
เครียดมากเลย แม่ยืนกรานคำเดียวเลยค่ะ ว่าจะไม่ให้เรียนคณะนี้แน่ๆ เราอยากเรียนมาก
เราพยายามอ่าน SAT ทุกอย่างเพื่อคอมอาร์ทมาตลอด
ขอคำแนะนำเพื่อนๆ ทุกคนหน่อยนะคะ :(

แสดงความคิดเห็น

4 ความคิดเห็น

เกย์อักษรฯเอกปรัชญา 25 ต.ค. 60 เวลา 15:01 น. 1

แล้วน้องคิดว่า CommArts นี่จริงๆแล้วเขาเรียนเกี่ยวกับอะไรบ้าง

มีอาชีพอะไรบ้างที่จบไปแล้วสามารถทำได้บ้าง เหมือนน้องจะไม่ได้ ศึกษาข้อมูลตรงนี้ดีพอเลยตอบแม่ไม่ได้ และก็เหมือนน้องยอมรับกับแม่กลายๆว่านิเทศน์คือการเรียนเพื่อไปเป็นดารา ซึ่งมันเป็นความคิดที่ผิดถนัด สะท้อนถึงความไม่รู้อะไรเกี่ยวกับคณะนี้เลยสักนิด ตลกจริงๆที่ยังมีคนคิดว่าคณะนิเทศน์=เรียนเพื่อไปเป็นดารา โอ้ย..ตลก!

0
#DEK61 25 ต.ค. 60 เวลา 18:46 น. 2

จาก จขกท. นะคะ

บอกได้เลยค่ะว่าเราบอกเหตุผลของเราให้ทางแม่ฟังหมดแล้วนะคะ เราหาข้อมูลทั้งคลิปแนะแนวการศึกษา, Open house ของคณะ ทั้งข้อมูลทางเว็บต่างๆ เราถึงต้องใช้คำว่า’ยืนกราน’ค่ะ ว่าท่านจะไม่ให้เรียนแน่ๆ เจ้าของคอมเม้นท์ก็ดูลักษณะมีความรู้ดีนะคะ น่าจะ’วิเคราะห์’ได้นะคะ ว่าในบทความที่เราเขียนเนี่ย ไม่มีส่วนเชื่อมโยงไหนที่บอกว่าเรายอมรับในความเห็นของแม่เราเลยนะคะ อ่านแล้วอยากให้ฝึก Interpret ให้มากๆ หน่อยค่ะ เรามาถามต้องการคำปรึกษาจากเพื่อนๆ พี่น้อง ไม่ได้ต้องการการพูดจาถากถาง ประชดประชัน

5
ออทท 26 ต.ค. 60 เวลา 00:01 น. 2-1

พี่ให้คำตอบไม่ได้ แต่จะบอกว่าอย่าไปสนใจกับขยะสังคมข้างบนเลย

0
เกย์อักษรฯเอกปรัชญา 26 ต.ค. 60 เวลา 16:32 น. 2-2

จาก คห.1 ที่ได้เม้นไว้นะครับ

พี่ก็วิเคราะห์ได้ถูกแล้วนี่ครับ ตรงไหนในคอมเม้นท์ที่พี่บอกว่า" น้องยอมรับความเห็นของแม่น้อง" หรอครับ

พี่แค่บอกว่าน้องยอมรับกลายๆในประเด็นหนึ่งที่ว่านิเทศน์คือการเรียนเพื่อไปเป็นดารา

แล้วน้องไม่ได้ให้ข้อมูลตั้งแต่แรกนี่ว่าน้องได้บอกเหตุผลไปหมดแล้ว ลองย้อนกลับไปอ่านที่ตัวเองพิมพ์ตอนแรกสิ

แล้วทำไมตอนที่แม่น้องบอกว่า"นิเทศน์คนจะเรียนคณะนี้ได้ต้องโดดเด่น มีพรสวรรค์จริงๆ ไม่งั้นก็หน้าตาดีมากๆไปเป็นดารา" นี่พี่ยกคำพูดของน้องเองมาเลยนะ มันไม่เมคเซ้นนะถ้าน้องบอกแม่ไปแล้วว่านิเทศน์มันไม่ใช่การเป็นดารา บอกไปว่านิเทศน์เรียนเกี่ยวกับอะไรทำงานอะไรบ้าง มันไม่ใช่ดารา เขาจะแย้งทำไมว่านิเทศน์คือเรียนเพื่อไปเป็นดารา

ขอโทษนะที่น้ำเสียงคำพูดพี่ตอนแรกอาจจะฟังดูถากถาง แต่ขอบอกว่าถ้าน้องคิดกับคำพูดพี่ดีๆ เหตุผลของพี่นับว่าเป็นหนึ่งในบรรดาความเห็นที่ทรงอิทธิฤทธิ์ที่สุด แล้วพี่ก็เรียนปรัชญามาด้วยซึ่งเป็นหนึ่งในสาขาที่มีเหตุผลแรงมากที่สุด วิเคราะห์สังเคราะห์วิจารณ์ตีความได้ฉกาจมากที่สุดในบรรดาการเรียนอย่างอื่น

น้องเคยรู้ไหมว่าพิษงูเอาไปทำเซรุ่มได้ บางทีคำปรึกษาที่ดีที่สุดไม่ใช่การเอาอกเอาใจเสมือนการป้อนขนมหวาน แต่บางทียาขมและยาพิษคือคำปรึกษาชั้นดี มันอยู่ที่ว่าเราจะเปิดใจรับฟังแล้วนำกลับไปคิดวิเราะห์ให้ถ่องแท้หรือเปล่า

แล้วในความเห็น #1 ขอโทษนะที่มันแค่ดูเหมือนถากถางประชดประชัน แต่เอาเข้าจริงๆมันไม่ได้มีการประชดประชันเลยจ้ะ พี่ใช้คำว่า"คน" ในประโยค"ตลกจริงๆที่ยังมีคนคิดว่านิเทศน์คือการเรียนเพื่อไปเป็นดารา"่ คำว่าคนในที่นี้พี่ไม่ได้หมายถึงน้องแต่หมายถึงแม่น้องจ้ะ เห็นไหม? ว่าจริงๆพี่เข้าข้างน้องมากกว่าที่น้องคิด แต่น้องกลับมองพี่เป็นศัตรู อืมลองเอากลับไปคิดทบทวนดีๆนะ

0
เกย์อักษรฯเอกปรัชญา 26 ต.ค. 60 เวลา 16:37 น. 2-3

พี่ให้คำปรึกษาเพื่อช่วยในการตัดสินใจได้ ไม่ใช่คำตอบตายตัว อย่าตัดสินคนอย่างไร้วิจารณญาณเลย เพราะมันเป็นขยะสังคมยิ่งกว่า

0
มลพิษสังคม 26 ต.ค. 60 เวลา 17:15 น. 2-4

555 สอนคนอื่นปาวๆ แต่ไม่คิดจะสอนตัวเอง ไม่ให้ตัดสินคน แต่ตัวเองกลับไปตัดสิน จขกท ทั้งที่ยังไม่รู้ข้อมูลทั้งหมด พอเค้าแย้งกลับก็พล่ามซะยืดยาว อ้างโน่นอ้างนี่ ได้เรียนจริงรึเปล่าก็ไม่รู้ คำแนะนำมันควรจะเป็นเรื่องของ "ข้อเท็จจริง" โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีการใช้คำที่ทำให้คนฟังรู้สึกไม่ดี และคำแนะนำที่ดีไม่เกี่ยวกันเลยกับว่าต้องใช้คำพูดไม่ดี เพราะคำไม่พูดที่ไม่ดีมันมาจากพื้นฐาน "นิสัย" ส่วนตัวของแต่ละคนมากกว่า

.

ถ้ามีข้อเท็จจริงอะไรตรงไหนก็บอกไปก็จบ คำพูดแย่ๆกับอีโก้สูงๆ เก็บไว้ใช้กับคนใกล้ตัวหรือครอบครัวตัวเองเถอะ

.

.

ขอโทษ จขกท อีกทีนะ ทำให้ออกทะเลไปไกล

0
เกย์อักษรฯเอกปรัชญา 26 ต.ค. 60 เวลา 17:33 น. 2-5

ตรงไหนหรอที่เราบอกว่าไม่ให้ตัดสินคนอื่น? ประโยคที่ว่าอย่าตัดสินคนอื่นอย่างไร้วิจารณญาณ มีความหมายว่าตัดสินได้ แต่ต้องมีวิจารณญาณต่างหาก

ตรงไหนหรอที่เราไปตัดสินเจ้าของกระทู้? ยกข้อความมาแล้วอธิบายสิ

ทำไมคำแนะนำมันจำเป็นต้องทำให้คนรู้สึกดีตลอดด้วยหรอ? ทั้งๆที่คนๆนั้นเขาอาจจะยังไม่มีวิจารณญาณเพียงพอ

นั่นน่ะสิ คำพูดไม่ดีมันบ่งบอกพื้นฐานของแต่ละคน คห#2-4 ก็ช่วยดูด้วยนะว่าการเริ่มต้นพูดว่าใครเป็นขยะสังคม นี่คือคำพูดที่ดี? อืมบ่งบอกนิสัยส่วนตัวจริงๆ ฟังดู 2-4 ก็ไม่ได้อีโก้ต่ำเลยสักนิด แล้วเอาคำพูดแบบนี้ไปใช้กับครอบครัวตัวเองด้วย!? คนในครอบครับเขาก็คนนะ เป็นคนที่มีบุญคุณมีความผูกพันมากกว่าคนอื่นๆ สมควรแล้วหรอที่ 2-4 จะพูดคำพูดแย่ๆกับคนในครอบครัว มันมีวิจารณญาณยังไงเนี่ย??


0
dom9914 26 ต.ค. 60 เวลา 02:59 น. 3

#ยาวโคตร #แต่อยากให้อ่านให้จบนะ


แนะนำว่าลองดึงพ่อ/ญาติผู้ใหญ่คนอื่นๆมาเป็นพันธมิตรโดยทำให้ท่านเห็นถึง "ความสุขชั่วชีวิต" ที่จะเกิดขึ้นทุกๆวันและทุกๆวินาทีที่เราได้ทำงานที่รัก มากกว่าให้มองเแค่ "ความสุขเพราะความมั่นคง" ที่เราจะมีความสุขที่ได้จากเงินและเกิดได้เฉพาะในเวลาว่างเถิด แล้วค่อยช่วยกันยกพลมากล่อมท่านแม่อีกทีหนึ่ง


อนึ่ง เราต้องมั่นใจว่าเราเป็นคนที่ "รัก" ในสายงานนี้จริงๆ Born to be จริงๆ รักที่ได้ทำมัน รักที่ได้ใช้เวลาให้กับมัน ไม่ได้รักเพราะผลตอบแทนที่มันจะให้ ไม่ได้รักเพราะชื่อเสียงที่จะตามมา ไม่ได้รักเพระาความมั่นคงที่จะทำให้เราเอาไปทำอย่างอื่นในภายหลังได้ พี่เชื่อว่าเราจะโน้มน้าวให้พ่อช่วยพูดไม่ยากหรอก จงไปลากเขามาให้ได้ 5555 พี่มองว่าชีวิตนี้สุดท้ายมันขึ้นอยู่กับความสุขของตัวเองนะเออ เรื่องอย่างอื่นสุดท้ายมันก็ของนอกตัวที่สังคม/คนอื่นหวังต่อเราล้วนๆ ถ้าเรามั่นใจว่าความสุขของเรามาจากการได้อยู่กับ "งานสายนั้น" นับแต่วันนี้จนถึงวันสุดท้ายก็จงไปเคลียร์เถิด สุดท้ายชีวิตนี้และจิตใจดวงนี้ก็ของเราเองนะเออ และถ้าเรามัน่ใจชัวร์ๆแบบล้านเปอร์เซ็นต์ว่าเราเกิดมาเพื่อมัน ก็จงเดินตามทางนั้นไป ถ้าเราทำให้แม่เราหันมองที่ "ความสุขของลูก"เป็นตัวตั้ง(แต่แน่นอน เราต้องชวร์ว่าเราตัวเองเข้าเงื่อนไขนี้นะ) พี่ว่าเขาต้องยอมรับได้ล่ะ


ปล.1 อนึ่ง ความมั่นคงโดยรวมของสาย BBA มันมากกว่าจริงๆอ่ะนะ ถ้าเราเลือกที่จะโยนมันทิ้ง ขอให้มั่นใจว่าเราเข้าเงื่อนไขมนุษย์สาย Born to be แท้ๆแบบที่พี่กล่าวมาก่อนนะเออ ถ้าเราไม่รักจริงแต่แค่อยู่ในระดับ "ชอบ" แล้วดันมารู้ตัวเอาทีหลังเราจะเสียใจไปอีกนาน ต้องเข้าใจว่ามุษย์สาย Born to be มันหายากกกก และแม่เราคงไม่ค่อยเชื่อว่าเราจะเป็นน่ะ พี่เองก็ไม่ค่อยเชื่อนักหรอกเพราะมันหายากมากกกกจริงๆ-คนที่มันพร้อมสละของที่ดูดีกว่าเพราะเป้าหมายที่แน่วแน่สุดๆแบบนั้นโดยไม่ใช่หลอกตัวเองเพราะแค่ความชอบระยะสั้น อันนี้เราจงไตร่ตรองดูเองเถิดว่าเราน่ะใช่แน่ไหม เคยทำอะไรด้านนี้เป็นชิ้นเป็นอันหรือยังนั่น? ถ้ามีหรือถ้ามัน่ใจว่าอีกไม่เกินคึร่งปีนี้มันต้องมีแน่ๆก็จงชี้แจงท่านพ่อหรือญาติผู้ใหญ่คนอื่นๆตามนี้แล้วช่วยกันกล่อมท่านแม่เอา ฟฟฟฟ


ปล.2 ถ้าเรามั่นใจแล้ว และสุดท้ายก็ยังจะต้องยื่น ก็จะบอกว่าจงกรอก SOP 3 ข้อของ BBA ตามที่เราคิดล่ะ และถ้าไปสัม ก็ให้พูดตามความคิดเราไปเลย ถ้าเขาจะให้ติดก็ให้ แต่ถ้าฟ้าจะเข้าข้างเราเดี๋ยวกรรมการจะเข้าใจเราแหละเอง


ปล.3 สำคัญสุด!! แต่ถึงอย่างนั้นอยากจะบอกว่าพี่เองนี่แหละ BBA นะ และน่าจะเป็นมหาลัยที่แม่น้องอยากให้เข้าด้วย 55555 จะบอกว่าถึงเวลาต่อให้เราต้องเข้ามาที่นี่มันยังมีทางไปต่อนอกสายจากคณะนี้อีกเยอะมากกกก(เกรดพังนิดหน่อยช่างมันเถอะ พวกเราไม่แคร์เพราะเราไม่ได้มาเรียนการเงินแต่ต้น เรามาเสพย์ความรู้ไปต่อยอดของๆเราเฟร้ย 5555) พี่เองคือหนึ่งใน BBA ที่แหวกไปทำของข้ามคณะรัวๆแทน(แถมบ้ากว่าเราเยอะด้วยเพราะของพี่คือสาย ครุนิดๆ + อักษรนิดหน่อย + สังคมสงเคราะห์อีกเล็กน้อยมาผสมกัน 5555) จะบอกว่าความรู้ด้านธุรกิจในนี้ต่อยอดได้เยอะมากจริงๆนะเออ ความรู้การตลาดเอย บัญชีเบื้องต้นเอย สารสนเทศเพื่อธุรกิจเอย ของพวกนี้ถ้าเราไม่ปิดตัวเองคณะนี้อาจต่อยอดฝันเราได้ไกลกว่าเรียนที่คณะนั้นๆเองด้วยซ้ำ และนี่คือเหตุผลที่ทำให้คนอย่างพี่ที่จริงๆโคตรเกลียดการเงินยังยอมทนเรียนแคลคูลัสและสถิติทั้งๆที่พี่กำลังจะตายกับมันอยู่ทุกอาทิตย์นี่แหละ 5555

0
M i Y U 29 ต.ค. 60 เวลา 16:43 น. 4

-เราก็พ่อแม่ตามใจเนอะ

ดังนั้นถ้าเป็นเราเราก็บอกแค่ หนูอยากเรียนxxx

แม่ก็มีขัดบ้างแรกๆ แต่สุดท้ายก็บอกว่าเอาที่ลูกชอบอ่ะแหละ

เพราะยังไงเราก็จะกดแบบนี้อ่ะ 555555

ถ้าจขกท.ชอบจริงๆ ตั้งใจจริงๆ ก็บอกให้ชัดเจนไปเลยค่ะ แล้วทำตัวให้เหมือนกับมันเป็นเรื่องปกติ ตัดสินใจไปแล้ว เวลาคุยอะไรก็พยายามพูดแต่คณะที่ต้องการให้เหมือนมันคือชีวิตของเราไปแล้ว 555 ทำตัวเหมือนเรียนคณะนั้นๆ เราทำแบบนี้อ่ะ 555 เราค่อนข้างหัวรั้นเนอะ พ่อแม่ก็เลยต้องตามใจ 555

0