การสอบข้อเขียนทุนรัฐบาล (ทุนคิง ธปท สายวิทย์) [วิธีการเตรียมตัว+แนวข้อสอบล่าสุด]
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีน้องๆทุกคนนะครับ วันนี้พี่ก็จะมารีวิวข้อสอบทุนรัฐบาลสายวิทย์ ประจำปี 2563 นะครับ
ขอเกริ่นก่อนว่าตอนนี้พี่ผ่านข้อเขียนทุนเล่าเรียนหลวงสายวิทย์ และทุนธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อไปศึกษาเศรษฐศาสตร์ ณ ประเทศอังกฤษ
ทุนรัฐบาลสำหรับสายวิทย์แต่ละทุนก็จะมีเงื่อนไขทุนที่มีรายละเอียดต่างกันเล็กน้อย น้องๆที่สนใจอยากศึกษาเกี่ยวกับเงื่อนไขทุนต่างๆ ก็ลองอ่านตามลิงค์ที่แปะเลยยยย
http://scholar2.ocsc.go.th/Main/FrmAnnounce.aspx?TestTypeId=iep%2frNIfLH0%3d&Year=ZQSbfyYV%2bcE%3d&PeriodNo=iep%2frNIfLH0%3d
สำหรับวิชาที่สอบของสายวิทย์ก็จะมีวิชา
1. คณิตศาสตร์ (100 คะแนน)
2. วิทยาศาสตร์ รวมฟิสิกส์ เคมี ชีวะ (35+35+30=100 คะแนน)
3. สังคม (100 คะแนน)
4. ภาษาไทย (100 คะแนน)
5. ภาษาอังกฤษ (100 คะแนน)
****ถ้าหากคะแนนเลขกับวิทย์ของน้องรวมกันไม่ถึง 60% เขาจะไม่ตรวจข้อสอบวิชาอื่นๆของน้องเลย (สำหรับทุนคิง) เช่นเดียวกับวิชาภาษาอังกฤษ ถ้าไม่ถึง 60% และผ่านค่าเฉลี่ยก็เช่นกัน
น้องๆหลายๆคนก็อาจจะสงสัยว่า อีพี่เนี่ยมันจะมาทำกระทู้อะไรแบบนี้ทำไม ซึ่งพี่ก็มีเหตุผลอยู่ประมาณนี้อะนะ
1. พี่เคยพยายามหาอ่านกระทู้รีวิวข้อสอบทุนแบบน้องๆนี้แหละ แต่แบบมันก็ไม่อัพเดตเท่าที่ควรอะนะ ซึ่งก็จะมีของพี่ป่านซึ่งดีมากๆๆๆๆๆตามลิงค์นี้เลย
https://www.dek-d.com/board/view/3755496/ และลิงค์นี้ก็เป็นแรงบันดาลใจให้พี่เขียนอีกด้วย
2. พี่อยากให้กระทู้นี้เป็นเครื่องหมายที่บอกว่าทุนคิงหรือทุนอื่นๆก็ตามไม่จำเป็นต้องเป็นนักเรียนในโรงเรียนใหญ่ๆก็ได้ แม้แต่ตัวน้องเองที่อาจจะไม่คิดว่าตัวเองทำได้ หากมีวิธีการเตรียมตัวและมีคำแนะนำให้ ก็สามารถไปถึงทุนได้เช่นกัน เราไม่จำเป็นต้องเป็นเด็กโอลิมปิก ไม่ต้อง 4.00 ก็ได้ แต่เราแค่ต้องพยายาม ขวนขวายหาความรู้ คิด วิเคราะห์ และมีความคิดสร้างสรรค์ให้มากๆ
ขั้นตอนที่ 1 หาแรงบันดาลใจ สำคัญมากกกกกกก !!!!!
สิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำอะไรก็ตามคือการหา passion ของตัวเองในสิ่งนั้น เริ่มคิดว่า ทำไมเราอยากไปเรียน เราจะไปเรียนอะไร ตอนกลับมาไทยเราจะมาทำอะไร แต่เราไม่ต้องพยายามนึกมากก็ได้ แต่ให้พยายามหาอะไรที่เป็นตัวเอง ศึกษาสิ่งนั้น เปิดโอาสให้ตัวเองมากๆ เปิดรับสิ่งใหม่ๆ และที่สำคัญอย่าลืมศึกษาเกี่ยวกับประเทศที่วาดฝันไว้ อย่างพี่กว่าจะรู้ว่าจะทำอะไรจริงๆ ก็เกือบๆสอบข้อเขียนแล้ว555555555
เมื่อน้องๆมีแรงบันดาลใจกันแล้ว ก็เอาแรงบันดาลใจเหล่านั้นไปลุยยยกับการเตรียมตัวเลยดีกว่า
ขั้นตอนที่ 2 การเตรียมตัวก่อนสอบ
ก่อนอื่นเลยข้อสอบเก่าอะตามลิงค์นี้เลยยย http://scholar2.ocsc.go.th/Main/FrmSimpleTest.aspx?TestTypeId=iep%2frNIfLH0%3d&Year=ZQSbfyYV%2bcE%3d&PeriodNo=iep%2frNIfLH0%3d
เริ่มจากวิชาแรกเลยคือวิชา คณิตศาสตร์ ซึ่งน้องๆหลายคนกลัวและกังวลเป็นอย่างมาก ซึ่งข้อสอบจะแบ่งออกเป็น 5 ส่วน ส่วนละ 20 คะแนน
1. เซต ตรรกศาสตร์ ฟังก์ชัน
2. จำนวนจริง ทฤษฎีจำนวน เลขยกกำลัง log ลำดับของจำนวน
3. ตรีโกณ เรขาคณิตวิเคราะห์
4. เมตริกซ์ แคล เวกเตอร์
5. สถิติกับความน่าจะเป็น
แต่ความจริงแล้วมันก็ปนๆกันทุกเรื่องแหละ55555 แต่แนวโน้มในปีพี่ก้จะประมาณนี้
การเตรียมตัว
เนื่องจากพี่อยู่ห้องกิฟท์เลขเตรียมอุดมอยู่แล้วและก็ชอบเลขในระดับนึง ก็เลยไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาก ทำข้อสอบเก่าเยอะๆ ให้ครบทุกปีเลยก็ดี แต่เน้นๆแบบปีล่าสุดไรงี้อะ ใครที่รู้ตัวว่าตัวเองไม่เก่งเลขก็อาจจะทำสองรอบ ทำซ้อมๆก่อนรอบแรก อีกรอบก็ใกล้ๆสอบ เพราะข้อสอบบางข้อก็จะวนๆ แค่เปลี่ยนเลขไรงี้อะ (โดยเฉพาะสถิติ) สำหรับข้อสอบและหนังสือที่แนะนำก็ พวก pat1 อะไรแบบนี้ก็จะทำข้อง่ายถึงกลางๆได้แล้ว ส่วนถ้าอยากได้ข้อยากก็ลองแนวเข้าสอวน.ค่าย1เลข ไม่ก็สมาคมคณิตดู แต่ก็เลือกข้อทำหน่อยบางข้อก็แบบยากเกิน5555 แต่ก็ต้องระวังการเขียนวิธีทำนะ ต้องเขียนดีๆ
แนวข้อสอบปี 2563
สำหรับพาร์ทแรกจะมีโจทย์ตรรกศาสตร์ที่แนวๆเดียวกับปี 2562 ที่ว่าให้คำพูดคน 4 คนมาแล้วแต่ละคนก็ จะกล่าวหาว่าใครพูดจริงใครพูดเท็จ แล้วก็จะให้พวกเราสรุปเหตุการณ์โดยใช้หลักตรรกศาสตร์ ซึ่งก็สนุกดีทำเพลินๆไป 555555 แต่วิธีทำต้องเขียนดีๆหละ ส่วนบางพาร์ทแบบพาร์ทที่ 2 แอบยากขึ้นเยอะ เพราะแนวมันต้องประยุกต์ฝันๆนิดนึง จำได้ว่ามีข้อนึงใช้ am-gm ไรงี้ พาร์ทอื่นๆก็ตามๆข้อสอบเก่าๆอะ ทีสำคัญเลยพาร์ทที่ควรเก็บมากที่สุดก็คือ สถิติ (ซึ่งข้อสอบง่ายและโจทย์ซ้ำๆทุกปี 55555555)
ต่อมาคือวิชา ภาษาอังกฤษ ซึ่งพี่บอกก่อนเลยว่าพี่ไม่ค่อยถนัดวิชานี้เท่าไหร่ ข้อสอบเป็น multiple choice ก็จะแบ่งเป็น 3 ส่วนอะนะ
1. Structure and Writing (30 คะแนน) คือพวก error กับ sentence completion ที่เป็นแกรมม่า
2. Vocaburary (30 คะแนน) คือพวก cloze test แต่เติมศัพท์ไรงี้
3. Reading (40 คะแนน) ก็แบบอ่านๆกาๆปกติๆ
การเตรียมตัว
ก็อย่างที่เกริ่นไปว่าพี่ไม่ถนัดวิชานี้อะนะ ก็เลยฝึกเยอะกว่าคนอื่นเยอะมากๆ ตอนนั้นพี่เคยได้ยินมาว่ามันคล้าย tuget บางคนก้บอกว่าเหมือน cutep กับ toefl itp ซึ่งข้อสอบจริงก้มีโครงสร้างข้อสอบแบบ tuget แต่ความยากราวๆ cutep กับ toefl itp แต่พี่ก็แนะนำให้ทำทั้งสามแบบไปเลย555555 เพื่อความสบายใจอะเนอะซึ่งหนังสือของ tuget ก็มีขายตามศูนย์หนังสือทั่วๆไปเลย แต่ขอให้เป็นของ official อะ cutep toefl itp ก็ด้วย ถ้าหาไม่เจอยังไงลองไปที่ศูนย์หนังสือจุฬามีแน่นอน แล้วช่วงใกล้ๆสอบพี่เห็นรุ่นพี่ทุนคิงคนนึงทำข้อสอบจำลองในเพจ ent eng ในเฟส ตรงมากๆ ตามลิงค์ก็ตามนี้เลยย
ซึ่งน้องๆเอาไว้ทำช่วงใกล้สอบก็ดีนะอารมณ์ทดสอบตัวเองอะ
แนวข้อสอบปี 2563
ตามลิงค์ในเฟสที่พี่แปะไว้เลยย ความยาก โครงสร้าง แนวข้อสอบตรงกันเป๊ะเลยยยยย
วิชาที่ 3 คือ วิทยาศาสตร์ ซึ่งข้อสอบเคมีของทุนคิงก็ขึ้นชื่อเรื่องความโหดที่พูดต่อกันมาหลายรุ่นแล้ว
การเตรียมตัว
เนื่องจากพี่เคยเป็นผู้แทนประเทศไปแข่งวิทย์ตอนม.ต้นหรือ ijso แล้วก็เป็นผู้แทนเคมีโอลิมปิก ซึ่งก็เลยพอมีความรู้ติดมาบ้าง ในส่วนวิทยาศาสตร์ก้เลยเน้นทบทวนไม่ได้เรียนจริงจังมาก ทำข้อสอบเก่า ข้อไหนทำไม่ได้ก็ลองไปถามเพื่อน อาจารย์ไรงี้ก้ได้ ถ้าจะเรียนพี่เห็นสถาบันสอนพิเศษหลายที่มีสอนนะ ก็ลองไปทดลองเรียนดูก็ได้ จริงๆที่ไหนก็น่าจะเหมือนๆกันอะ ลองเลือกสถาบันที่น้องคิดว่าชอบเลยยย แต่จะมีวิชาชีวะที่พี่ไม่ค่อยชอบก็มีไปเรียนคอร์ส pat2 อะแบบทบทวนความรู้สรุปประเด็นแล้วก้พบว่ามันเยอะไป จริงๆแค่เล่มปู(essential biology) ก็เพียงพอในระดับนึงแล้ว แต่ก็อย่าลืมวิทยาศาสตร์ก็เหมือนเลขอะ ถ้าทำบ่อยๆหยิบมันมาอ่านบ่อยๆ ก็จะไม่ลืมและทำได้ โดยเฉพาะฟิสิกส์ที่น้องๆหลายคนเกลียดซึ่งความเป็นจริงมันไม่ได้ยากมาก สำหรับวิชาเคมีก็ไปทบทวนในเชิงความเข้าใจ ลองสงสัยในเนื้อหาต่างๆไรงี้มากขึ้น อาจจะเริ่มจาก บัฟเฟอร์ทำไมเมื่อ หยดกรดหรือเบสไปเล็กน้อยแล้ว pH ถึงไม่เปลี่ยนไปเยอะ อะไรแบบนี้ เน้นอีกครั้งคือต้องเข้าใจในเนื้อหาและประยุกต์ให้ได้นะ(ซึ่งมันยากมาก5555)
แนวข้อสอบปี 2563
- ฟิสิกส์ : พี่ไม่แน่ใจเรื่องจำนวนข้ออะ ประมาณ 8-9 ข้อมั้งนะ555 แต่ออกครอบคลุมทุกเนื้อหาเลยอะ ตั้งแต่กลศาสตร์ ไปจนถึงนิวเคลียร์ พวก E=mc^2 ไรงี้ แต่เลขค่อนข้างถึกเลย ไม่ลงตัวสักข้อ แต่ตอนพี่คิดไปก็แบบประมาณให้เขา ประมาณหยาบๆไรงี้เลย ส่วนข้อไหนที่คิดไม่ไหวจริงๆ ก็ควรแก้สมการให้เขาแต่ติดเป็นตัวเลขกับหน่วย
- เคมี : พี่รู้สึกเลยว่าแบบประยุกต์มากออกพวก H-bond ของ DNA ซึ่งในม.ปลายเขาก็ไม่มีใครมาเน้นอะไรแบบนี้หรอก แล้วก็จะมีพวกปฏิกิริยาทั่วๆไปที่เราควรรู้ปีพี่ก็จะเป็น iodine กับ iodide ใส่น้ำแป้งไรงี้ แล้วก็ถาม concept กรดเบส สมดุล ที่คนมักเข้าใจผิดอะ หลักๆเลยน้องต้องมีความเข้าใจในเคมี เพราะมันเป็นข้อสอบเขียนเชิงอธิบายเลย ท่องมาจะลำบาก แต่ถ้าข้อไหนทำไม่ได้ก็ลองแถๆเหตุผลดู ให้คิดซะว่าเขียนไปก็คงดีกว่าไม่เขียน55555 (จริงๆใช้ได้กับทุกวิชานะ)
- ชีวะ : จากการทำข้อสอบเก่าๆมาอะพี่คิดว่าแนวค่อนข้างซ้ำ ปีนี้ก้เช่นกัน ถ้าถามว่าลึกไหมก็ตอบได้เลยว่าไม่ลึกเลย แต่ออกกว้าง แต่ละปีจะเอาเรื่องอะไรมาออกก็ได้ตามใจกรรมการ เพราะฉะนั้นทวนทุกเรื่องมาดีๆ การเก็บคะแนนชีวะสูงๆจะไม่ใช่เรื่องที่ยากเลย แต่อย่าลืมไปดูพวกรูปหน่อยนะ เพราะชีวะมันออกรูปเยอะมาก ข้อสอบเก่าก็สำคัญเหมือนกัน อย่าลืมไปทำหละ
วิชาที่ 4 คือ ภาษาไทย ซึ่งเป็นข้อสอบที่หลายๆคนอาจจะไม่เคยเจอคือการเขียน
การเตรียมตัว
น้องๆหลายคนอาจจะคิดกันว่า ภาษาไทยมันก็ง่ายๆแหละ ก็มันภาษาบ้านเกิดของเราเอง แต่ความจริงแล้วแค่เขียนให้ถูกต้องยังยากกว่าที่คิด เพราะคำพูดที่ติดปากกันล้วนเป็นสำนวนภาษาต่างประเทศ ซึ่งผิดหลักภาษาไทย รวมถึงการใช้ภาษาที่อาจจะไม่สละสลวย ใช้คำผิด ฟุ่มเฟือย ตอบไม่กระชับ แบ่งเนื้อหาไม่ดี ไม่มีแบบฟอร์มย่อความ บลาๆๆๆๆอีกเยอะแยะ น้องจะไม่มีทางรู้จุดอ่อนวิชานี้ ถ้าไม่มีคนมาตรวจทานภาษาให้ ส่วนอีกด้านที่ควรดีควบคู่กันไปคือแนวคิดต่างๆ ข้อสอบภาษาไทยนอกจากที่วัดการใช้ภาษาแล้วยังเกี่ยวกับเนื้อหาที่จะนำเสนอ เพราะฉะนั้นถ้าน้องแตกต่างจากคนอื่นมากเท่าไร่ เนื้อหาของน้องก้จะไม่จำเจซ้ำกับเพื่อนๆ น้องลองคิดภาพคนตรวจข้อสอบที่อาจจะต้องอ่านเรื่องเดิมๆซ้ำกันร้อยๆพันๆเรื่อง ถ้าน้องเขียนเรื่องที่แบบต่างจากคนอื่น มันจะน่าตื่นตาตื่นใจขนาดไหน เพราะฉะนั้นการเตรียมตัวของพี่คือ คุยกับคนเยอะๆแลกเปลี่ยนความคิด ถ้ามีเพื่อนที่จะสอบทุนด้วยก็ลองแชร์ไอเดียกันอะไรแบบนี้ เป็นการเปิดมุมมองเรา อ่านข่าวรู้ทันเหตุการณ์เพราะข้อสอบก็มักเมาเหตุการณ์ในช่วงที่น้องจะสอบมาออก อาจจะให้น้องวิเคราะห์อะไรแบบนี้ ซึ่งปีพี่เป็น การพัฒนาการศึกษาไทยกับในยุคใหม่อะไรแนวๆนั้น
แนวข้อสอบปี 2563
ปีนี้โครงสร้างข้อสอบค่อนข้างต่างจากปีก่อนๆมากเลย จากเดิมที่จะมีข้อสอบย่อความ ปีนี้ไม่มี แต่ยังคงข้อสอบเรียงความ วรรณคดี และการแก้ไขภาษาอยู่ (ศึกษาตามข้อสอบเก่าเลยจ้าาา) แต่เพิ่มส่วนที่เป็นแสดงความคิดเห็นและวิเคราะห์กลอน(ที่ไม่ใช่วรรณคดี) ซึ่งถ้าน้องไปดูข้อสอบวิชาภาษาไทยปี 2562 ข้อ2 ก็จะเป็นแนวๆนั้น สิ่งที่สำคัญอีกอย่างคือบรรทัด ถ้าโจทย์สั่งว่าไม่เกิน 10 บรรทัด ต้องไม่เกินจริงๆนะ หรือถ้าเรียงความก้จะเป็น 18-20 บรรทัด ก็พยายามควบคุมให้อยู่ในนั้นจะดี เพราะข้อสอบบางข้อกรรมการให้นับเลขหน้าบรรทัดเลย ถ้าน้องเตรียมมาดี มีคอนเท้นดี มีความแตกต่างที่โดดเด่น ยังไงวิชานี้น้องก็ไม่มีปัญหาจ้าา
วิชาที่สุดท้ายคือ สังคม ซึ่งเป็นข้อสอบที่หลายๆคนอาจจะไม่เคยเจอคือการเขียน
การเตรียมตัว
วิชานี้พี่ถือว่าเป็นหนึ่งในวิชาที่ยากที่สุดในการสอบทุนเลย เพราะข้อสอบแบ่งออกเป็น
1. ศาสนา
2. หน้าที่พลเมืองและการเมือง
3. ภูมิศาสตร์
4. ประวัติศาสตร์
5. เศรษฐศาสตร์
แล้วแต่ละวิชามันค่อนข้างจะมีแนวคิดเป็นของตัวเองเลย และข้อสอบที่ออกน้องก็ต้องมีหลักการที่ชัดเจนในการสนับสนุน ให้คำอธิบาย พร้อมทั้งตัวอย่าง ดังนั้นน้องต้องมีความเข้าใจในไอเดียของแต่ละหัวข้อ มีเหตุการณ์ในหัวอะไรแบบนี้ อีกอย่างที่ยากคือการคิดนโยบายหรือปัญหา แนวทางแก้ไข ซึ่งหากพยายามคิดให้โดดเด่นอะไรแบบนี้จะทำได้ยากกว่าวิชาภาษาไทยมากๆ เพราะมันตั้งอยู่บนหลักการ อีกประเด็นเลยที่หินี่สุดคือ ข้อสอบมักนำเหตุการณ์ปัจจุบันมาผนวกกับแต่ละหัวข้อ อย่างปีพี่ก็มีเรื่อง fake news ตอนนั้นร้อนแรงๆก็เรื่องคดีของ facebook ที่เราต้องตอบเขาบนหลักการให้ได้ พร้อมปัญหา ผลกระทบ แนวทางการแก้ไข การเตรียมตัวของพี่เลยอ่านข่าวเยอะๆ ไม่ว่าจะทางออนไลน์ วิทยุ ทีวี คุยกับพ่อแม่ ผู้ใหญ่ เพื่อนๆ ระดมสมองกันคิดประเด็นต่างๆ แล้วลองจินตนาการว่าถ้าเป็นรับบาบอะไรแบบนี้จะแก้ปัญหายังไง ช่วงใกล้ๆสอบพี่ก็จะไปอ่านบทวิเคราะห์ของธนาคารแห่งประเทศไทย ของกสิกร ต่างๆนาๆ เพื่อเพิ่มความรู้ข้อมูลอ้างอิง ซึ่งเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือของเราไปในตัวด้วย
แนวข้อสอบปี 2563
ข้อสอบสังคมก็มีโครงสร้างคล้ายๆเดิมในแต่ละปีอยู่แล้วส่วนหัวข้อที่ออกก็
1. ศาสนา : การพูดที่ไม่ตรงกับใจคิด เป็นการกระทำที่ผิดจริยธรรม เพราะไม่ซื่อสัตย์ต่อตนเอง และแสดงความไม่เป็นตัวของตัวเองอีกด้วย จงวิเคราะห์และอธิบาย
2. หน้าที่พลเมืองและการเมือง : fake news คืออะไร ส่งผลกระทบอะไร ในฐานะนักเรียนจะป้องกันอย่างไร
3. ภูมิศาสตร์ : เกี่ยวกับ gis
4. ประวัติศาสตร์ : ข้อเสียของประวัติศาสตร์
5. เศรษฐศาสตร์ : บทบาทของทรัพยากรมนุษย์ในระบบเศรษฐกิจ
ก็พยายามตอบให้เยอะๆ คิดให้กว้างๆ ยกตัวอย่างต่างประเทศว่าเขาทำอะไร ทำยังไง เพื่ออะไร แล้วลองเอามาตอบดูก็อาจจะเป็นวิธีที่ดีเหมือนกันนะ
ขั้นตอนที่ 3 ใกล้สอบและวันสอบ
ตอนเตรียมตัวสอบถือว่าเราเหนื่อยมามากพอละ ช่วงใกล้ๆแบบอาทิตย์สองอาทิตย์ก่อนสอบพี่ก็แบบปล่อย ชิวเลย ทำใจให้สบายๆ อยากทำอะไรก็ทำ แต่เย็นๆถึงดึกๆ ก็มีเปิดหนังสือมาดูประเด็นที่เราลืมไรงี้บ้าง แต่อย่าให้ตัวเองหนักและกดดันเกินไป วันสอบก็รีบไปสนามสอบ เพราะคนเยอะมาก กำลังใจจากพ่อแม่ก็สำคัญเหมือน อย่าลืมเสื้อกันหนาว บัตรปชช. ดินสอ ปากกา ยางลบด้วย
สุดท้ายนี้ พี่ก็หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์ต่อการเตรียมตัวรวมถึงอัพเดตแนวข้อสอบใหม่ซึ่งกว่าข้อสอบปีล่าสุดจะออกก็ก่อนสอบข้อเขียนหนึ่งถึงสองเดือน ไม่มากก็น้อย และหวังว่ากระทู้นี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่พาน้องไปสู่ความสำเร็จในการรับทุนรัฐบาลไปศึกษาต่อ ณ ต่างประเทศครับ ถ้าหากผมผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ทีนี้ด้วย
ปล. ถ้าหากมีใครอยากปรึกษาหรือขอคำแนะนำเพิ่มเติม ก็แปะคอมเม้นไว้ด้านล่างได้เลย หรือไม่ก็ direct ig มาก็ได้ ig : bigguuuuu
Bigguuuuu
12 ก.พ. 63 เวลา 01:24 น.
14,516
views
6 ความคิดเห็น
สุดยอด ขอบคุณครับพี่่่่่
ข้อที่ 2. ของพี่คือเป็นกำลังใจให้หนูมาก ฮือ ขอบคุณมากๆ ค่ะ
จริงไหมครับที่ว่าโรงเรียนเตรียมสัมปทานทุนเล่าเรียนหลวงหมดแล้ว
สัมปทานคืออะไรหรอคะ
ขอบคุณที่โฆษณาเพจให้พี่นะครับ น้องๆ คนไหนสนใจทำข้อสอบจำลอง 9 วิชา แกทหรือทุนเรียนต่อต่างประเทศ ลองมาดูที่นี่นะครับ-->
https://bit.ly/2vBo3iG
ขอบคุณมากๆเลยนะคะ ;-; ถึงหนูจะไม่มีผลงานต่างๆ นานาเหมือนพี่ แต่หนูจะพยายามทำให้สุดความสามารถ แงงงงงงงง
มีเราเป็นเพื่อนค่ะเตง 55555
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?