Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

รีวิว!! การเข้าคณะสัตวแพทย์รอบ 1 ของจุฬาและเกษตร

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

          สวัสดีค่ะทุกๆคน ทั้งว่าที่เด็ก 64,65 ทุกๆคนนน คือวันนี้เราจะมารีวิวรอบ 1 ของคณะ

สัตวแพทย์!!!!

ทั้งของจุฬาแล้วก็เกษตรเลยทีเดียว

         

          ก่อนอื่นเราจะมารู้กันก่อนว่ารอบ 1 ของเราที่จะพูดถึงคือโครงการไหนกันแน่

จุฬาฯ: โครงการรับนักเรียนที่มีความสามารถด้านภาษาอังกฤษและมีความสนใจในวิชาชีพสัตวแพทย์

          (ในเอกสารจะเขียนว่ารับ 20 คน แต่มันยืดหยุ่นได้นะ อย่างปีพี่อะรับ 25 คนเลย)

เกษตร: โครงการช้างเผือก

          (อันนี้รับ 5 คน)

 

          เรามารู้รายละเอียดของโครงการกันก่อนว่าต้องมีคุณสมบัติอะไรกันบ้าง

จุฬาฯ:   1. เกรดเฉลี่ยรวมทุกภาคเรียนไม่ต่ำกว่า 3.00

          2. มีคะแนนภาษาอังกฤษตามข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้

                    2.1 IELTS (academic)             ไม่ต่ำกว่า         5.5

                    2.2 TOEFL (internet based)    ไม่ต่ำกว่า         59

                    2.3 CU-TEP                         ไม่ต่ำกว่า         67

          3. เอกสารรับรองจำนวนชั่วโมงฝึกงานใน คลินิกสัตวแพทย์, โรงพยาบาลสัตว์ที่ได้รับการอนุมัติจากสัตวแพทยสภา หรือฟาร์มเลี้ยงสัตว์ที่มีใบมาตรฐานฟาร์มอยู่ภายใต้การควบมคุมของสัตวแพทย์ที่มีใบประกอบวิชาชีพ อย่างน้อย 100 ชั่วโมง (นับถึงวันที่ยื่นสมัคร) อันนี้เอกสารที่จะให้เซ็นรับรองจะอยู่ในเว็บของจุฬา เข้าไปปริ้นออกมาได้เลย

เกษตร: 1. มีเกรดเฉลี่ยรวมรายวิชาวิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์ไม่ต่ำกว่า 3.00, เกรดเฉลี่ยรวมรายวิชา          ภาษาอังกฤษไม่ต่ำกว่า 3.50

          2. มีคุณสมบัติตามข้อกำหนดต่อไปนี้ อันใดอันหนึ่ง

                    2.1 คะแนนภาษาอังกฤษ IELTS (academic) ไม่ต่ำกว่า 6 หรือ TOEFL (internet based)           ไม่ต่ำกว่า 78

                    2.2 ประวัติผลงาน มีเอกสารรับรองว่า ได้ผ่านการแข่งขันทางวิชาการกลุ่มวิทยาศาสตร์ระดับชาติ หรือได้รับประกาศนียบัตรนักเรียนดีเด่นของเขตพื้นที่การศึกษา



          คุณสมบัติที่สำคัญๆก็จะมีประมาณนี้ อีกอย่างที่ต้องรู้คือคะแนนภาษาอังกฤษเนี่ย ผลสอบย้อนหลังได้ไม่เกิน 2 ปีนะคะ

          สำหรับน้องคนไหนที่อยากรู้ว่าคะแนนของพี่ที่ใช้ยื่นเนี่ยได้เท่าไหร่ ขอออกตัวก่อนว่าเราไม่ใช่คนเก่งมากอะเนอะ คะแนนเราคือแค่พอผ่านเกณฑ์หมดเลย          ตัวคะแนนภาษาอังกฤษของเราก็จะประมาณนี้



          เกรดเฉลี่ยอยู่ที่ 3.72

          แล้วก็มีไปแข่ง SIIF2018 ที่เกาหลีใต้ ได้เหรียญทองแดงมา

 

          มาถึงเรื่องพอร์ต พี่อยากให้ทุกคนทำพอร์ตแบบที่อ่านเข้าใจง่าย สรุปประเด็นได้ตรงจุด บางอย่างที่มันเวิ่นเว้อหรือไม่จำเป็นก็แนะนำว่าอย่าใส่ วิธีการเลือกว่าพอร์ตของเราควรใสอะไรบ้างง่ายๆ 2 ข้อเลย อย่างแรกอะไรที่เรารู้สึกภูมิใจนำเสนอมากๆ อย่างที่สองอะไรที่มีความเกี่ยวข้องกับคณะที่เราจะยื่น หรือแสดงเกี่ยวกับจิตอาสา ภาวะความเป็นผู้นำของเรา รวมไปถึงความสามารถพิเศษ อ่านรายละเอียดดีๆว่ามหาลัยมีข้อกำหนดเรื่องจำนวนหน้ามามั้ย อย่าใส่เกินหรือขาด

          เช็คข้อกำหนดเรื่องเวลาดีๆ อย่างของจุฬาเนี่ย เราต้องส่งเป็นเอกสารไปทางไปรษณีย์ เช็คเอกสารให้ครบ เรียงตามลำดับที่เขาเขียนมา ตรงที่ต้องเขียนก็เขียนลายมือที่อ่านออก ไม่ได้จำเป็นต้องตัวบรรจงเต็มบรรทัด แต่สะกดให้ถูก เรียบเรียงคำพูดดีๆ

          ส่วนเรื่องการฝึกงานของจุฬาเนี่ย ก็ใจกล้าหน้าด้านนิดนึง ลองเข้าไปถามคลินิกหรือโรงพยาบาลสัตว์ใกล้บ้าน ว่าเขาพอจะรับเด็กฝึกงานได้มั้ย 100 ชั่วโมงถ้าทำตามเวลาราชการ 8:00-16:00 ก็ประมาณ 2 สัปดาห์รวมเสาร์อาทิตย์ด้วย ไม่ได้นานขนาดนั้น แถมจะช่วยรีเช็คด้วยว่าอยากเป็นจริงๆมั้ย เพราะการไปทำงานจริงๆจะต่างกับภาพฝันของใครหลายๆคนอยู่นะ

 

          ต่อไปพอเรามีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์แล้ว(ฮูเร่!!!!!!!!!)



          ปล. พี่คือชื่อสุดท้ายที่ตัดออกมาไว้นะ55555

 

 สิ่งที่ต้องเตรียมของแต่ละที่ก็จะต่างกันออกไป

          ตัวจุฬาเนี่ยเราส่งเอกสารไปหมดแล้ว แต่เขาต้องการดูพวกเกียรติบัตรตัวจริงของเรา ก็ถือใส่แฟ้มไปวันสัมภาษณ์ด้วยเลยนะ อย่าลืม!! แล้วก็จะมีคำถามนึงที่แนบไว้อยู่ท้ายประกาศที่บังคับให้เราเตรียมตัวไป พี่ไม่แน่ใจว่าของแต่ละปีคำถามจะเปลี่ยนมั้ย แต่ก็เตรียมตัวไปดีๆ ใครถนัดทำ PWP หรืออะไรก็ทำไปได้ เขาจะมีเมลล์แนบให้ส่งไปได้ อีกครั้งเช็ควันเวลาเดดไลน์ดีๆ ตัวคำถามอันนี้จะบังคับให้นำเสนอไม่เกิน 5 นาที เป็นภาษาอังกฤษล้วน รวมไปถึงคำถามที่กรรมการจะถามเราเกี่ยวกับการนำเสนอของเราด้วย แต่คำถามหลังจากนั้นจะตอบเป็นไทยหรืออังกฤษก็ได้ เอาตามที่เราถนัด ภาษาที่ใช้ตอบจะไม่มีผลต่อคะแนนของเราแล้ว

          ส่วนของเกษตรเนี่ยเราต้องถือเล่มพอร์ตของเราไปด้วย ปริ้นมาดีๆนะ แล้วก็จะมีใบรับรองแพทย์ที่เขาจะบังคับให้เราไปตรวจที่โรงพยาบาลนี้เท่านั้น เขาจะมีแผนที่มาให้แล้วก็กำหนดวันด้วย ค่าใช้จ่ายในการตรวจก็ออกเอง เตรียมเงินไปด้วยนะ เอกสารก็จะมีพวกสำเนาบัตรประชาชน เกียรติบัตรตัวจริง เอกสารต่างๆที่เขาให้เตรียมไปจะมีบอกอยู่ในประกาศของผู้มีสิทธิสัมภาษณ์ เตรียมไปให้ครบ เซ็นไว้ล่วงหน้าด้วยเลย

 

          ต่อไปมาพูดเรื่องการสัมภาษณ์ของเรากัน จุฬาจะมีบรรยากาศที่กดดันกว่ามากๆ เพราะห้องแอร์เย็น อะไม่ใช่55555 เพราะมีกรรมการเยอะมากๆ ถ้าจำไม่ผิดประมาณ 7 คนเลย คำถามที่ถามจะเกี่ยวกับความสนใจของเรา เวลาตอบก็ให้แน่ใจนะว่าสนใจเรื่องนี้จริงๆ เพราะเขาจะถามลึกต่อไปเรื่อยๆ พยายามตามข่าวเกี่ยวกับโรคระบาดในช่วงนั้นไปด้วยก็ดี สิ่งที่เราควรรู้อยู่แก่ใจก็คือหน้าที่ของสัตวแพทย์ว่าทำอะไรได้บ้าง อีกอย่างคือ LOGIC ของการเป็นหมอ จริยธรรมต่างๆที่เราต้องมีอยู่แล้วในใจ ตั้งสติดีๆก่อนตอบ ค่อยๆพูดไม่ต้องเครียด คำถามที่โดนทุกคนแน่ๆคือ ถ้าไม่ติดจะเป็นยังไง ตอบไปตามความเป็นจริง แต่ก็ต้องแสดงให้เขารู้ว่าเราจะไม่ยอมแพ้ ไม่ติดรอบนี้ยังมีรอบหน้า รอบถัดไป ถัดๆไป แสดงความตั้งใจของเราออกมา

          ของเกษตรก็จะต่างไปหน่อย กรรมการมี 2 คน พอเข้าห้องไปก็นั่งลงเขาจะถามเราเกี่ยวกับเรื่องทั่วๆไปของเรา เหมือนอยากให้เราผ่อนคลายความเครียด พอผ่านไปสักพักก็จะเริ่มถามคำถามเชิงลึก ก็เหมือนเดิม พยายามคิดอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายแล้วก็ศีลธรรม คำถามสุดท้ายที่อยากให้เราเตรียมไปคือ...นักเรียนมีอะไรอยากถามมั้ยคะ อันนี้โดนถามทุกคนแน่ๆ ถ้ามีก็จะดูดีขึ้น เพราะเป็นการแสดงความกระตือรือร้นของเราว่า เนี่ย เราสนใจจริงๆนะ อยากเรียนจริงๆนะ

          อีกอย่างที่อยากย้ำมากๆเลยคือ ตั้งใจฟังคำถามดีๆ ตอบให้ครบทุกประเด็น อย่ารีบ ค่อยๆพูด เรียบเรียงดีๆว่าเราอยากจะสื่ออะไร ถ้าคำถามไหนไม่ได้เป็นในเชิงปลายเปิดแต่ต้องการคำตอบแบบแน่ๆ ไม่รู้ก็บอกไปว่าไม่รู้ อย่าแถ อย่ามั่ว อย่าพยายามคิดขึ้นมาเอง เขาเป็นอาจารย์เขาต้องรู้คำตอบอยู่แล้ว การยอมรับว่าเราไม่รู้หรือรู้แค่เท่านี้ค่ะ ไม่ใช่เรื่องผิด แต่เราอาจจะย้ำได้ว่าจะลองไปหาข้อมูลเพิ่มทีหลังได้ อะไรที่แสดงถึงความใส่ใจของเรา อย่าพยายามโชว์ภูมิ แสดงด้านดีๆให้เขาเห็นไปพร้อมๆกับความถ่อมตนนิดๆ

 

          และแล้ววันประกาศผลก็มาถึง ในส่วนของพี่ก็คือ...





 

          ส่วนใครที่อยากรู้ว่าทำไมพี่ถึงเลือกจุฬา ก็เพราะว่าจากที่ได้คุยกับเพื่อนหลายๆคนมาที่ไปสัมภาษณ์เหมือนกันเนี่ย ของเกษตรจะดังในเรื่องของพวกสัตว์ป่าหรือสัตว์เศรษฐกิจ แต่จุฬาจะดังเรื่องของสัตว์น้ำสัตว์ทะเล ซึ่งก็ตรงกับความชอบของพี่พอดี เพราะพี่ชอบสัตว์ทะเลมากกว่า ก็เลยเป็นเหตุผลให้เลือกแบบนี้

         

          สุดท้ายนี้อยากให้กำลังใจน้องๆทุกคนที่มีความฝันเหมือนกันกับเรา อดทนแล้วก็พยายามเข้านะคะ อย่างน้อยวันนี้เราทำดีที่สุดแล้ว มองย้อนกลับมาต่อให้จะสมหวังหรือผิดหวัง อย่างน้อยก็ไม่เสียดายที่ครั้งนึงเราเคยได้ทำไปอย่างเต็มที่แล้ว สู้ๆนะ!! หวังว่าเราอาจจะได้เป็นพี่น้องร่วมสถาบันเดียวกัน ก็หวังว่าที่เขียนมาเนี่ยจะเป็นประโยชน์บ้าง ไม่มากก็น้อย

 

          ปล.สำหรับคนไหนที่อยากรู้หรืออยากถามอะไรเพิ่มเติมก็ทักมาถามได้ที่ IG:sharktember เลยนะคะ พี่ใจดีไม่กัดฉีดยาแล้ว55555

 

แสดงความคิดเห็น

4 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

นำรูปถ่าย หรือข้อมูลของผู้อื่น ที่มิได้เป็นบุคคลสาธารณะมาลง โดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม หรือมีลงเบอร์โทรศัพท์/ที่อยู่จริง

yummykung12345 18 พ.ค. 63 เวลา 00:20 น. 2

อยากทราบว่า ตอนยื่นสมัครเค้าจะรับทุกคนที่ผ่านเกณฑ์มาสัมภาษณ์มั้ยคะ หรือรับแค่คนเกรดสูงๆ คะแนนสูงๆมาสัมภาษณ์อย่างเดียวหรือป่าวคะ เราเกรดไม่สูงมาก แต่ผ่านเกณฑ์ ไม่รู้ว่าจะยื่นรอบ1 ติดไปถึงรอบสัมภาษณ์มั้ย ใครรู้บอกด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ;-;

1
NATA_p 14 มิ.ย. 63 เวลา 00:29 น. 2-1

เท่าที่เรารู้คือพอร์ตต่างๆที่เรายื่นไปเขาจะเอาไปคิดเป็นคะแนนนะคะ ถ้าผ่านเกณฑ์ก็จะถูกเรียกสัมภาษณ์ทุกคนนะคะ

0
fff 22 พ.ค. 63 เวลา 12:12 น. 3

ยินดีด้วยนะคะ ตอนสัมภาษณ์เขาจะเรียกเข้าไปในห้องทีละคนใช่มั้ยคะ แบบในห้องมีแค่กรรมการ กับ นักเรียน 1 คน ขออนุญาตถามนะคะ ㅜㅡㅜ

1
NATA_p 18 ต.ค. 63 เวลา 12:47 น. 4-1

ที่เช็คล่าสุดของปีนี้ต้องรอทางจุฬาประกาศแจ้งเรื่องคุณสมบัติการสมัครก่อนนะคะ มันจะแนบมาพร้อมกัน ยังไงก็เซ็นย้อนหลังได้ แนะนำให้ไปฝึกล่วงหน้าไว้ก่อนนะคะ

0