Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

พ่อแม่ใช้ #HormonesTheSeries2 เปิดโอกาส หรือปิดโอกาสที่จะได้เรียนรู้ความในใจ จากวัยว้าวุ่นมากแค่ไหน?

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

ไปย้อนดูจากซีนนี้ ทำให้มีคนตั้งคำถามดังนี้..... ผมจึงนำมาขอแชร์ครับ

 
นี่คือบทสนทนาจากยูทูบในคลิปๆหนึ่งครับ
ขออนุญาตไม่เปิดเผยนามครับ


ถ้าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมแล้วทำมาให้เด็กมากมายดูทำไม?

ขึ้นชื่อว่า ผู้ปกครองควรให้คำแนะนำ แล้วผู้ปกครองได้เปิดโอกาสตัวเองกับลูกหลานของคุณจากคำเตือนนี้แล้วหรือยัง?

เพราะไม่มีใครสนใจความหมายของคำเตือนแล้วทำให้ถูกต้องหรือเปล่า สุดท้ายถึงตั้งคำถามไปหยั่งคนทำหนัง ทั้งที่คำถามและคำตอบมันควรอยู่ที่ผู้ปกครอง เช่นกัน

 

จริงเหรอ ไม่ใช่ทุกคนในสังคมช่วยกันเหรอ? ลูกผม ผมเตือนเท่าที่ทำได้ แต่ลองบอกซิว่าอะไรจะรับประกันว่าเด็กทุกคนที่ดูจะมีคนคอยบอกอย่างถูกวิธีและมีจิตวิทยาในการอธิบายจากผู้ปกครองทุกคน?


นี่คือสิ่งที่สังคมต้องรับผิดชอบร่วมกันถูกมั้ยล่ะครับ และคุณก็เป็นส่วนหนึ่งในสังคม ถ้าคุณไม่สามารถรับผิดชอบบุตรหลานของคุณเองได้ นั้นคือคุณมีความรับผิดชอบไม่เพียงพอครับ

ย้อนกลับไปดู EP1 ใหม่ แล้วถามตัวเองว่าคุณเป็นพ่อแม่กลุ่มไหน แล้วพ่อแม่ของลูกคนอื่นเป็นพ่อแม่กลุ่มไหนครับ

เด็กสมัยนี้สามารถหาดูทุกเรื่องต้องห้ามได้หมดแล้วครับ การห้ามปรามสื่อเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลย ยอมรับมั้ยครับ

ส่วน HM นั้น มีเจตนาที่ดีที่สุดแล้วครับ พ่อแม่ทำหน้าที่ของตัวเองได้พร้อมแล้วหรือยังสำหรับสิ่งที่สื่ออย่าง HM ต้องการให้พ่อแม่ให้ความร่วมมือจากการขึ้นคำเตือน

นั้นเป็นสิ่งที่หลายครอบครัวที่ไม่เคยคิดจะหยิบมันมาเป็นโอกาสที่ได้คุยเรื่องต่างๆกับลูกบ้าง เช่น ลูกของบางคนเป็นเพศที่สาม แต่เขาไม่เคยกล้าบอกพ่อแม่ แต่เขายอมที่จะค่อยๆเปิดใจกับพ่อแม่ เมื่อมีตัวแทนอย่างภูในเรื่อง(ผมขออ้างอิงจากภาค1ที่ทำประเด็นนี้ได้ดีมาก)

พวกเขาค่อยๆเปิดใจว่าเขาคิดยังไงกับเรื่องความไม่เหมาะสมเหล่านี้(พูดถึงภาค2) ทำให้พ่อแม่ได้เข้าใจว่า พวกเขาเองก็มีความคิดเหมือนกัน ไม่ได้เห็นสิ่งไม่เหมาะสมเหล่านี้แล้วทำตาม หรือหากว่าลูกมีความคิดที่แปลกแยกอย่างไร พ่อแม่ก็ยังได้ใช้โอกาสนี้ในการเข้าใจความคิดของลูก และแน่นอนครับ พ่อแม่ควรจะเรียนรู้ได้ว่า ลูกของเราเป็นคนยังไง อยู่ในสภาพแวดล้อมที่โรงเรียนแบบไหนมากขึ้น จากมุมมองของเขาต่อเรื่องราวในหนัง

ที่ยกตัวอย่างมา คือมุมมองที่ HM สร้างให้เกิดอีกแง่มุมระหว่างครอบครัวครับ ซึ่งขึ้นอยู่กับ ความร่วมมือของคุณพ่อคุณแม่ ว่าจะด่วนตัดสินความไม่เหมาะสมนี้ไปทางทิศใดก่อนที่จะได้รู้ว่าลูกของคุณมีความเห็นกับเหตุการณ์เหล่านี้ยังไงครับผม หลายครอบครัวใช้มันเป็นโอกาส แต่หลายครอบครัวกลับปิดโอกาสมันครับ


โลกสวยไปไหมครับ เด็กวัยรุ่น จะเชื่อเลียนแบบidolที่เขาชื่นชอบ หรือฟังพ่อแม่มากกว่ากัน ลองคิดถึงธรรมชาติของวัยรุ่นและความเป็นจริง ธรรมชาติของวัยรุ่นติดเพื่อน เลียนแบบดารา เริ่มเชื่อพ่อแม่น้อยลงหรือมีการเถียงมากขึ้น ต่างจากการเชื่อฟังสมัยเด็กๆ เป็นไปได้ไหมครับ?

คุณครับ โลกทั้งใบ ใครจะทำหน้าที่ได้ดีที่สุดหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณเลือกสรรให้คนที่คุณรักครับ พวกคุณพ่อคุณแม่โลกแคบ ไม่เคยยอมเปิดใจ เปิดโอกาสให้ตัวเอง ไม่ยอมรับกับความเปลี่ยนแปลงบนโลกนี้

ปัญหาที่คุณพูดมาทั้งหมดเกิดขึ้นทุกยุคสมัยครับ แล้วยังไงครับ พวกคุณก็แก้ปัญหาแบบเดิมๆ คือดีเฟ้นลูกของคุณอยู่ในคอมฟอตโซน ทั้งที่สักวันนึงเขาก็ต้องออกจากอ้อมอกคุณไป แต่พวกคุณกลับไม่เคยเดินตามพวกเขา และพยายามเข้าไปเป็นที่ไว้วางใจของพวกเขา แล้วเขาจะไปเรียนรู้จากใครล่ะครับ

 ผมโลกไม่สวยหรอกครับ แต่พ่อแม่หลายคนไม่ยอมรับความจริง และปิดประตูที่จะยอมรับว่าโลกนี้มีเรื่องอย่างนี้ต่างหากครับ เมื่อมีสื่อเช่นนี้ออกมาก็กลับเลือกที่จะให้สื่อปิดกั้น ทั้งที่มันคือความจริงครับ แต่คุณไม่สามารถใช้มันเปิดใจกับลูกหลานของคุณได้ แล้วกลับโยนมันคืนสู่สื่อ ผมยอมรับครับ สื่อบางสื่อทำให้เกิดการเลียนแบบในด้านเดียวจริงครับ แต่ก็มีสื่อที่มีเจตนาสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นอีกกระบอกเสียงของวัยรุ่นที่จะได้พูดคุยกับพวกผู้ใหญ่ครับ และผมเชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่ควรจะแยกแยะออกว่าสื่อแบบไหนใช้สอนได้  แบบไหนใช้ระบายอารมณ์แบบผู้ใหญ่ ผมเชื่อว่าคุณสามารถแยกแยะได้ครับ ถ้าเปิดใจสักหน่อย   ย้ำนะครับ โลกผมไม่สวย แต่พ่อแม่หลายกลุ่มไม่ยอมรับความจริงเองครับ และปิดโอกาสของตัวเองเสียเองครับ


มีความเห็นอย่างไร มาแลกเปลี่ยนกันครับ ผมเชื่อว่านอกจากสื่อแล้ว
ผู้ปกครองเองก็ควรปรับเปลี่ยนแนวคิด เปิดใจ ที่จะร่วมแก้ปัญหาของวัยว้าวุ่นไปด้วยกันครับ
ความไว้วางใจ มอบให้พวกเขาบ้าง แล้วเราจะเดินไปด้วยกันกับลูกๆได้ครับ

แสดงความคิดเห็น

2 ความคิดเห็น

dasass 1 ก.ย. 57 เวลา 12:52 น. 1

ฉากพวกนี้ มันจะมีก็ได้ ไม่มีก็ได้ มันไม่มีผลอะไร
ถ้าเราปูพื้นฐานจริยธรรมให้กับลูกมาก่อนแล้ว เราสอนเขาแล้วว่าอะไรควรหรือไม่ควร
แล้วทำไมมันถึงไม่ควร ก็แค่พูดให้เขาฟัง ไม่ต้องเอาฉากโป๊ให้เขาดูก็ได้
การสอนลูก มันไม่จำเป็นต้องเอาภาพแย่ๆมาสอน
มันอยู่ที่การอธิบาย การพูดคุย ผู้ปกครองได้คุยกับลูกบ่อยแค่ไหน
ถ้าเราทำตัวเหมือนเพื่อนเขา เวลาเขามีอะไร เขาก็จะกล้าปรึกษา กล้าถาม

เราไม่ได้โลกสวยนะ แต่เราไม่เห็นถึงความจำเป็นที่ต้องสอดแทรกฉากแบบนี้มา
แล้วก็อ้างว่าทำเพื่อให้เด็กได้คิด ทั้งๆที่ความจริงผู้กำกับแค่ต้องการขายคู่จิ้นแค่นั้นเอง
ซีซั่นนี้มันชัดเจนว่าต้องการจะขายของ ไม่ได้ทำเพื่อสังคม เพราะมันใส่ฉากเซ็กซ์
มาเยอะชนิดที่ว่าดูก็รู้ว่าจงใจยัดใส่มาเพื่อขายนักแสดง

0
teerex 1 ก.ย. 57 เวลา 13:31 น. 2

ผมเห็นด้วยอย่างมากกับมุมมองนี้ ในส่วนของ ภาพในเรื่องที่ไม่เหมาะสมครับผม

0