เผยการอ่านหนังสือ 5 สไตล์ที่ต้องเจอในรั้วมหาลัย

“ถ้าเข้าเรียนมหาลัยแล้ว
จะต้องเจอการอ่านหนังสือยังไงบ้างนะ?”

สวัสดีค่ะทุกๆคน ปกติแล้วเราจะอ่านหนังสือที เราก็มักจะเน้นว่า เราจะต้องจำให้ได้ใช่ไหมคะ? ซึ่งมันก็จริงแหละเพราะว่า ถ้าจำไม่ได้ก็จะสอบไม่ได้เนอะ 555 อย่างไรก็ตาม วันนี้พี่ไอซ์จะมาเล่าการอ่านหนังสือ 5 สไตล์ที่เจอในรั้วมหาลัยมาเล่าให้ฟังกันค่ะ มาดูกันว่าจะโหดขนาดไหน

สไตล์ที่ 1 : อ่านจำ

การอ่านจำ เจอแทบทุกวิชาเลยค่ะ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นวิชาเนื้อหา เช่น วิชาสายสังคม สายภาษา สายวิทย์ (อ้าว ก็แทบทุกสายนี่นา) ที่ต้องจำได้เป๊ะๆ อย่างเช่นคณะนิติศาสตร์ ก็ต้องจำมาตราให้ได้ บางทีคำบิดพลิ้วนิดหน่อยเนื้อหาก็เปลี่ยนแล้ว อย่างสายวิทย์ก็ต้องจำชื่อต่างๆให้ถูก สายภาษาก็ต้องจำการผันกริยา คำศัพท์อันมากมายเป็นล้นพ้นนั่นเอง แต่ข้อเสียคือ จำได้ สอบปุ๊บ ถ้าไม่ใช้ ลืมปั๊บค่ะ

ไม่ว่าข้อสอบจะรูปแบบกา หรือรูปแบบเขียนอธิบาย เราก็ต้องจำให้ได้อยู่นี้ เพราะว่า เวลากา เราอาจจะคุ้นๆผ่านๆตาใช่ไหมคะ แต่ถ้าเป็นอัตนัยปุ๊บ ยิ่งแนวอธิบาย บรรยายเนี่ย จริงๆแล้ว เราจำไปเพื่อบรรยายต่อ แต่แค่มันต้องตอบให้ครบตาม keyword ที่สำคัญของวิชานั้นด้วยนั่นเอง ดังนั้น ถ้าวิชาไหน อาจารย์บอกว่า ข้อสอบเขียนตอบ ใจคอไม่ดีเลยค่ะ

สไตล์ที่ 2 : อ่านเรื่อยๆ

เอ๊ะ อ่านเรื่อยๆ มีกับเขาด้วยเหรอ? จะมีหลายวิชาค่ะ ที่จะมีสิ่งที่เรียกว่า “หนังสือนอกเวลา” กับ “หนังสืออ่านประกอบ” อยู่ค่ะ จะต้องอ่านเรื่อยๆ เก็บข้อมูลไปเรื่อยๆตลอดเทอมค่ะ อย่างพี่เรียนคณะอักษรฯ สิ่งที่ต้องอ่านทุกเทอมคือ หนังสือนอกเวลาค่ะ อ่านไปเรื่อยๆ ตั้งแต่อาจารย์ให้มา บางทีก็เป็นนิยาย บางทีก็เป็นชีทอ่านประกอบ ส่วนใหญ่ภาระที่ได้รับมักจะมาในรูปแบบชิ้นงานค่ะ ไม่แน่อาจจะเป็นสอบ เพื่อเช็คว่าเราอ่านมาหรือเปล่านั่นเองค่ะ

สไตล์ที่ 3 : อ่านกวาด

อ่านกวาด ก็คือการอ่านเอา Concept นั่นเองค่ะ ดึง Concept แล้วเอาไปขยายความต่อในการทำข้อสอบ หรือในการเรียนอีกที จริงๆพี่ชอบวิธีการอ่านสไตล์นี้นะคะ ไม่เน้นจำมาก เราเอาใจความหลักๆ แล้วกวาดเอาเนื้อหาคร่าวๆไปใช้ต่ออีกที จริงๆการอ่านแบบนี้ เหมาะกับคนที่ตั้งใจเรียนมาก่อนค่ะ เพราะว่าเวลาเรามาอ่านอีกรอบ มันทำให้เราอ่านได้เร็วปรี๊ดดดด ไม่ต้องเสียเวลาใช้แบบที่ 1 มากนั่นเอง

นอกจากนี้ ยังสามารถอ่านสไตล์นี้ได้ก็คือ อ่านเนื้อหาที่จะเรียนก่อนเข้าคลาสนั่นเองค่ะ อ่านคร่าวๆ แล้วเวลาเข้าไปเรียน จะได้เข้าใจเนื้อหาจากที่อาจารย์อธิบายเพิ่มเติมได้มากยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ

สไตล์ที่ 4 : แทบไม่อ่าน

แทบไม่อ่าน.. อย่างนี้จะเรียกว่าอ่านไหม 555 ส่วนใหญ่เป็นวิชาปฏิบัติค่ะ อาศัยอ่านเนื้อหาประเด็นที่เราเรียน แล้วนำมาใช้จริงค่ะ อย่างวิชาภาษาๆ นี่ไม่พ้นเลย บางทีทฤษฎีมันจับต้องไมได้ นึกภาพไม่ออก เพราะเราเน้นวิธี “การฝึก” บ่อยๆมากกว่า เช่นวิชาแปล วิชาการเขียน วิชาพูด อย่างด้านอื่นๆก็อาจจะเป็นคำนวณ หรือการผลิตสื่อ ผลงานด้านต่างๆนั่นเอง

สไตล์ที่ 5 : อ่านเข้าใจ

สไตล์นี้ พี่ขอยกให้เป็น “สไตล์การอ่านที่ดีที่สุด” ไม่ใช่แค่ในรั้วมหาลัย ในรั้วมัธยมก็เช่นเดียวกัน มันคือขั้นตอนของการที่เรา “เข้าใจ” มันเลยส่งผลให้เรา “จำได้” สามารถ “อธิบายเป็น” สามารถพบเจอได้ในวิชาทุกจำพวก และมันมักจะเกิดขึ้นในวิชาที่เราชอบเรียนนั่นเองค่ะ

ถ้าถามว่าเราจะสามารถใช้การอ่านรูปแบบนี้ได้ยังไง ก็คือ เราอ่าน แล้วเราทบทวนกับตัวเอง ว่าเราสามารถพูดอธิบายเรื่องที่เราอ่าน ลำดับความถูกไหม เข้าใจทั้งหมดหรือเปล่า ถ้าเกิดเราทำได้ ก็เท่ากับว่า การอ่านสไตล์นี้สมบูรณ์แล้วนั่นเองค่ะ

5 สไตล์การอ่านหนังสือในรั้วมหาลัย เป็นยังไงกันบ้างคะน้องๆ เหมือนกับตอนมัธยมที่เคยเจอกันบ้างไหม? ยังไงก็เอาสไตล์การอ่านต่างๆไปปรับใช้กับวิชาต่างๆที่ใช้ได้ตลอดเลยนะคะ เอาที่เหมาะกับตัวเรา และเหมาะกับเนื้อหาที่สุดนั่นเองค่ะ ส่วนกระทู้ต่อไป บอกเลยว่าอยากให้ติดตามมากๆ เพราะเป็นเรื่องที่ทุกคนเคยเจอแน่นอน แล้วเจอกันกระทู้ต่อไปนะคะ <3

“หัวใจของการอ่านจริงๆ ไม่ใช่อ่านแล้วจำได้

แต่จริงๆมันคือ อ่าน เข้าใจ ใช้ให้เป็น

แล้วการจำได้ มันจะตามมาเอง”

ติดตามกระทู้ก่อนหน้านี้

"อ่าน 1 หน้า = เข้าใกล้คณะในฝันไปอีก 1 ก้าว" แนะนำเทคนิคสอบติดคณะอักษรฯใน 3 เดือน

http://www.dek-d.com/board/view/3616155

5 Facts ถามใจตัวเอง “คุณเหมาะจะเรียนคณะอักษรศาสตร์หรือไม่?”

http://www.dek-d.com/board/view/3616811

แจกสูตรเด็ด ! ปรับพื้น GAT ENG (สำหรับคนที่เริ่มจาก 0 หรือไม่รู้อะไรเลย)

http://www.dek-d.com/board/view/3626387

เผย How to be อัจฉริยะข้ามคืน ที่คุณทำได้ในยามอ่านหนังสือไม่ทัน !

http://www.dek-d.com/board/view/3660189