Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

GAT สำคัญขนาดไหน!! #dek61 ต้องดู **พร้อมเรื่องเล่าประสบการณ์จริง**

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีค่ะ พี่ก็เป็น #dek60 ที่เพิ่งผ่านการ admissionมาหมาดๆเลย พี่ตั้งใจไว้ว่าถ้าติดแล้วจะมาเขียนแชร์ประสบการณ์ให้น้องๆฟัง ซึ่งตอนนี้พี่ก็สอบติดอันดับ 1 ได้จุฬาอย่างที่หวังแล้วจ้า เอาหล่ะเข้าเรื่องกันเลยเนอะ :)

ขอเล่าก่อนว่าพี่เป็นเด็กสายวิทย์-คณิต แต่ชอบภาษาอังกฤษมากๆ และก็ชอบชีววิทยามากเช่นกัน555เลยลงตัวที่คณะทางสายวิทย์คณะหนึ่งที่ไม่ใช่แพทย์

ซึ่งพี่ก็หาข้อมูลเรื่องการสอบเข้ามหาวิทยาลัยมาตั้งแต่เนิ่นๆ ถามรุ่นพี่เก็บข้อมูลมาตลอดระยะเวลาสองสามปีก่อนจะถึงปีตัวเองสอบเลยทีเดียว สิ่งที่พี่ๆทุกคนแนะนำและย้ำมากๆ คือ "ทำแกทให้ได้เยอะๆเข้าไว้นะ มันช่วยดึงคะแนนขึ้นมาก" พอพี่กลับมานั่งดูเกณฑ์การรับสมัครพวกคะแนนที่ต้องใช้ยื่นก็พบว่า "ทุกคณะ" ใช้แกท จะมากน้อยต่างกันยังไงก็ใช้แกท

พี่ตั้งใจว่าถึงจะไม่ได้เข้าแพทย์แต่ก็อยากสอบไว้ ตอนแรกเห็นว่าแพทย์ไม่ใช้แกทแพทเลยไม่ได้คิดอะไร

แต่มาลองดูกันดีๆ แพทย์ต้องสอบความถนัดแพทย์ ซึ่งก็มีเชื่อมโยงแพทย์ และสอบเก้าวิชาสามัญ ซึ่งก็มี อังกฤษ น้องเห็นอะไรมั้ย มันก็คือแกทที่แอบแฝงตัวอยู่เงียบๆนั่นเอง!! เพราะฉะนั้น เราต้องอ่านแกทกันให้เเน่นๆแล้วแหล่ะ

ขั้นตอนต่อมา พี่ก็เริ่มชำแหละข้อสอบเลย ไปโหลดข้อสอบเก่าตามเว็บต่างๆ และเพจดังๆ ที่มีคลังข้อสอบขนาดใหญ่(มากๆๆ) มานั่งดู สิ่งที่พี่ค้นพบคือ...

วิชาภาษาอังกฤษในแกทกับเก้าวิชาสามัญ ค่อนข้างต่างกัน มีเหมือนกันบ้างแต่น้อย เพราะฉะนั้นเราต้องวางกลยุทธ์ในการทำข้อสอบต่างกันละ

แกทเชื่อมโยงกับเชื่อมโยงแพทย์ มีหลักเกณฑ์เหมือนกัน ต่างกันแค่จำนวนคำเชื่อม และการขีดเส้นใต้เน้นให้ เพราะฉะนั้นเราฝึกพร้อมๆกันได้

** รายละเอียดความเหมือนต่างหาดูได้ทั่วไปนะจ๊ะ**

เนื่องจากกระทู้นี้แค่อยากให้รู้ว่าแกทมันสำคัญขนาดไหน เลยขอยกประสบการณ์ตรงมาเล่ากันเลยจ้า

Alert!! ยาวมากๆ ไม่อ่านข้ามไปสรุปได้เลย

พี่ฝึกทำแกทเชื่อมโยงครั้งแรกตอนอยู่ ม.5 เทอม2 หยิบมาทำทุกวัน อย่างน้อยๆก็ต้องได้ 1บทความ ฝึกตั้งแต่ผิดเเทบทั้งบทความ จนทำถูกหมด ลบทำใหม่วนๆทำไปจนแน่ใจว่าคุณภาพการทำข้อสอบต้องคงที่ สำหรับพี่ พี่ตั้งเป้าคะแนนที่ต้องทำได้
สำหรับ GAT รวม 260++ เพื่อเข้าคณะในฝันได้ง่ายขึ้น (เพราะPATที่ต้องใช้อีกอันยากมากและไม่ถนัด)

การจะได้ 260 ง่ายหน่อย ก็ต้องมีแกทไทยไว้ให้สบายใจก็คือ 150 คะแนน ใช่แล้วค่ะ เป้าแกทไทยพี่ก็คือ "ต้องได้เต็ม"นั่นเอง ส่วนอังกฤษ เป็นวิชาที่พี่ชอบพี่ลองทำข้อสอบเก่าแล้วก็ได้100+ทุกครั้งเลยค่อนข้างเข้าข้างตัวเองว่าน่าจะได้100+ไม่ยากนักในสนามจริง

อีกทั้งตอนช่วง มิถุนา(ปีที่แล้ว) พี่ก็สมัครสอบdek-d preadmission ด้วย เพื่อไปลองสนาม คะแนนแกทรวมของพี่ได้ 260พอดีเป๊ะๆเลย เลยคิดว่าเออ เเค่ทบทวนศัพท์อีกนิดหน่อย วันจริงก็คงอัพอีกซัก 5-10คะแนน

ทุกอย่างดูสวยหรูมากจริงๆค่ะ จนวันสอบจริงออกมาจากห้องสอบพี่ก็รู้สึกว่า "ง่ายและทำได้" ออกมาเช็คคำตอบแกทไทยก็คำตอบตรงกับคนส่วนใหญ่ด้วย อิ๊งคงไม่น่าผิดพลาดอะไร

จนวันประกาศผลเท่านั้นแหล่ะค่ะ......
ปีพี่สทศ.ดันประกาศตอนเที่ยงคืน พี่ก็ตื่นมาดูและมันก็เป็นคะแนนที่ทำให้พี่นอนไม่หลับอีกเลย!!!

พี่ได้ แกทรวม 247.5 ค่ะ แกทไทยเต็มตามคาด แต่แกทอิ้งนี่สิ!!! อึ้งเลยค่ะ อึ้งจริงๆ

ส่วนแกทอื่นของพี่ที่ต้องใช้ก็คะแนนแย่พอกัน วิชาที่พี่ไม่ถนัดอย่างเลข พี่ได้มา 36 คะแนน (อนาถใจมากน้อง) ยอมรับว่าทำได้เเค่สองข้อจากทั้งหมดแต่ก็ไม่คิดว่าจะดวงซวยมั่วไม่ถูกขนาดนี้

จบแล้วค่ะ รับตรงที่หวังก็พังทลายลงตรงหน้า จุฬาเป็นแค่ชื่อว่าวไปแล้วค่ะ..

ก็ได้แต่ให้กำลังใจตัวเองเพราะอีกไม่ถึงสองเดือน สอบอีกแล้วค่ะ ความถนัดแพทย์ และเก้าวิชา!!!

ความถนัดนี่พี่บอกตรงๆเลยว่าไม่ได้อ่านเลยค่ะ อาศัยผลบุญจากแกท กะมาทำแต่เชื่อมโยงโดยเฉพาะ เพราะพี่ไม่ได้อยากเข้าแพทย์อะเนอะ แต่สอบเพื่อครอบครัวล้วนๆ คะแนนออกมาก็พอใช้ค่ะ และก็ตามคาด เราหวังพึ่งบุญแกทได้ พี่ได้เชื่อม 100 เต็ม และทำให้ได้คะแนนรวมสำหรับความถนัด 20.7 ค่ะ

ต่อมาสอบเก้าวิชา พี่ไม่พูดไรมากเพราะไม่ใช่จุดประสงค์ แต่จะบอกว่าได้ดีวิชาเดียวคืออังกฤษ เพราะอยากกู้หน้าจากแกทที่ผิดหวังมา ได้อังกฤษ 78.75 ค่ะ

พอสอบเก้าวิชาเสร็จสิ้น ก็รู้สึกว่า เราไม่น่าจะได้ในรอบรับตรงแล้วแหล่ะ เพราะคะแนนไม่ดีพอ ก็ลองยื่นๆไปบ้างค่ะ ก็มีได้อยู่สองสามที่ แต่ไม่ได้ชอบมาก (ที่จริงคือไม่ผ่านสัมภาษณ์555) เลยมุ่งแอดอย่างเต็มตัว

สิ่งที่พี่ตั้งใจที่สุดในการจะแอดครั้งนี้ พี่ต้องอัพแกทอังกฤษให้ได้ และต้องทำแกทไทยให้ได้เต็มเหมือนเดิม เพื่อเป้าเดิมคือ แกทรวม 260 คะแนน

จะขอแนะนำแทรกตรงนี้เลย ช่วงที่พี่รู้คะแนนแกทแพทรอบแรก พี่เอาคะแนนไปคำนวณในเว็บเด็กดีเลยค่ะ จะได้รู้ว่าคณะที่จะเข้า ต้องการคะแนนขนาดไหน ขาดอีกเท่าไหร่ มโนเกรดหกเทอมและโอเน็ตเอาตามชั่วโมงบิลการทำข้อสอบของตัวเองเลยค่ะ.
พี่จะเข้าคณะทางสายวิทย์ที่ต้องใช้ gat 20% pat2 30% แต่คะแนนพี่ที่มี ถ้าไม่อัพยังติดลบอยู่มาก บอกให้ก็ได้ว่า ได้คะแนนรวม198XX ซึ่งต่ำสุดปีที่แล้วก็ 201XX ยึ่งเทียบปี 58นะ โอโหติดลบเป็นพัน

เรียกว่าต้องปฏิวัติตัวเองเลยดีกว่า ถ้ายังอยากเข้าคณะนี้ สอบโอเน็ตก็ต้องตั้งใจมากๆ เพราะหลังจากนี้ทุกคะแนน นำไปคำนวณ

พี่เอาจริงก็ช่วงเดือนกุมภา แต่ก็ชะงักไปอาทิตย์กว่าๆเพราะมีสอบปลายภาคและงานจบม.หก ความรู้สึกตอนนั้น เพื่อนพี่เริ่มติดรับตรงมีที่เรียนกันไปเยอะเเล้ว บางคนรอผล กสพท.ออกแบบมั่นๆ เพราะคำนวณแล้วยังไงก็ติด ซึ่งพี่เนี่ย รอบกสพท.ตัดออกไปได้เลยค่ะ คะแนนเท่านี้ไม่มีใครรับแน่นอน เคว้งค่ะ ไม่รู้จุดหมายเลย (น้องรุ่นต่อไปที่ต้องเผชิญการติดรอบ1234ของเพื่อนทำใจสตรองรอไว้เลยค่ะ)

พอปิดเทอม พี่อ่านแกทอังกฤษแทบทั้งวันทั้งคืนเลยค่ะ หาจุดพลาดของตัวเองครั้งที่แล้วให้เจอ ตัวพี่เนี่ย สอบอังกฤษมากี่สนามไม่เคยทำทันเวลาเลย โดยเฉพาะแกทเนี่ย อ่านรีดดิ้งไม่เคยได้ครบทุกเรื่อง จำต้องฝนดิ่ง 1 เรื่องตลอดๆ

เลยซื้อนาฬิกาจากไดโซะ 60 บาท มาจับเวลาทำข้อสอบ(เพิ่งคิดได้เหรอ?) ทำจนมั่นใจว่าทัน บริหารว่าจะทำพาร์ทไหนก่อนหลัง

*****แชร์เทคนิค*****
พี่ทำ conver - vocab-grammar(พวกเติมจุดหาย)-sentence completion-reading-error เรียงตามความถนัดของตัวเองเลย

ก็พบว่าใช้ได้อยู่นะ เพราะคนชอบไปคิดว่าerror เนี่ยยาก ฝึกไปเยอะๆ ต้องเก็บได้ ส่วนreadingค่อยไปตายเอาดาบหน้า ซึ่งบางคนก็ตายจริงๆค่ะ เพราะมัวเเต่ไปหาคำตอบให้errorแค่5ข้อนั้น แล้วไม่ทัน reading 15 ข้อ (ที่บางทีง่ายกว่ามากด้วย) ซ้ำร้ายกว่านั้น error ที่คิดนานยังตอบผิดอีก!! ลองไปชั่งน้ำหนักเอานะคะแต่ใครเก็บได้หมดก็ดีใจด้วยค่ะ น้องได้ไปต่อ

ฝึกวนซ้ำๆ แล้วก็กลับมาทวนแกทไทยช่วงสองวันใกล้สอบ มีช๊อตๆบ้างแต่ฟื้นฟูทันค่ะ

วันสอบจริงพี่ค่อนข้างกลัวมากๆนะ เพราะนี่มันสนามชี้ชะตา แถมสอบวิชาแรกอีก ก็เข้าสอบไปด้วยความคิดที่ว่า ไม่มีอะไรจะเสีย ดับเครื่องชนไปเลย ตอนทำแกทไทยรู้สึกมั่นใจค่ะว่าเต็ม เป็นความโชคดีของ dek60ที่เชื่อมโยงรอบสองง่ายลงมากกว่าครั้งแรกแบบชัดๆ พี่คิดในห้องสอบเลยว่า ถ้าง่ายอย่างนี้ คนต้องได้เต็มเยอะ และมีนสูงขึ้นแน่ๆ สิ่งที่จะทำให้เราต่างจากคนอื่นก็คือแกทอังกฤษนั่นเองค่ะ ข้อสอบอังกฤษรอบสองยากค่ะ ยากขึ้นจริงๆ แต่ก็ฝึกมาตรงเยอะขึ้น โดยเฉพาะศัพท์ พอออกจากห้องสอบ เฉลยจากหลายสำนักก็พุ่งตรงมาในโทรศัพท์อย่างรวดเร็วทันใจ ลองตรวจๆดู พี่ทำvocabและconverถูกทุกข้อเลย แต่errorผิดหมด5ข้อ (ให้ตายเหอะ555) บวกลบคูณหารดูแล้ว คะแนนน่าจะขึ้น แต่readingนี่ ไม่มีเฉลยจริงๆค่ะ ออกจากห้องสอบก็ลืมไปเลยว่าอ่านอะไรมา555 เลยต้องมโนเอา(อีกแล้วหรอ)ว่าน่าจะได้เท่าไหร่

ต่อจากสอบแกทเสร็จในตอนเช้า พี่ก็สอบแพท 1 ต่อด้วย แม้จะไม่ได้ใช้แต่ก็สอบเอาไว้ เพราะก่อนหน้านี้อ่านสถิติมา หวังว่าจะทำถูกบ้าง ไม่ซีเรียสเลยค่ะน้องพี่ชิลลลมากๆๆๆ

สอบทุกอย่างเสร็จก็รอค่ะ นอนรอ ไปเที่ยว ตะลุยบุฟเฟ่ต์ ก็สรรหาทำเอาเลยค่ะ คะแนนที่รอก็มีโอเน็ตกับแกทแพทรอบสองนี่แหล่ะค่ะ โอเน็ตจะออกมาก่อน พี่ได้คะแนนค่อนข้างดีเลยค่ะ เฉลี่ยแล้วเกิน65%และอังกฤษก็เกินเกณฑ์คณะศิลปศาสตร์ ของ มธ.ด้วย (เผื่อเข้าคณะสายวิทย์ไม่ได้ก็จะเรียนอันนี้ค่ะ) สบายใจไปเปราะนึง คราวนี้แหล่ะของจริง แกทแพทรอบสอง ปีนี้ดันจะมาออกตรงเวลา เราก็อุตส่าห์ร๊อรอ เพราะทุกครั้งประกาศก่อนตลอดเลย ปีนี้ออกสามทุ่มค่ะ ออกปุ๊บพี่ดูปั๊บเลยค่าา และคะแนนที่ได้ก็คือ........

พี่ได้แกทรวม275คะแนนค่ะ!! อึ้งอีกแล้วค่ะ เรียกว่าช๊อคเลยดีกว่า คือแค่เกิน 260พี่ก็ดีใจมากแล้วค่ะ นี่ได้เกินมาตั้ง15คะแนน แกทไทยเต็ม ส่วนอังกฤษนี่ได้120เลยซึ่งเยอะสำหรับพี่

คะแนนตัวอื่นพี่ก็เพิ่มทุกตัวเลยนะ
จำได้มั้ยพี่บอกว่ารอบแรกพี่ได้แพท 1 36คะแนน
ครั้งสองพี่ได้มา 96 คะแนนเลยค่าา (อ่านสถิติมาเรื่องเดียวเนี่ยนะ5555) แพทสองก็ 150 ค่ะ

รีบคำนวณคะแนนเร็วไว ได้ 212XXค่าา จาก 198XX ทีนี้เกมพลิกเลยค่ะ เราเป็นผู้เลือกที่แท้จริง5555

น้องจะรู้สึกฟินจริงๆนะ เวลาคำนวณคณะไหนที่ไหนแล้วแบบ อันนี้ชั้นก็ติด อันนั้นชั้นก็ติด และที่สำคัญที่สุดคือ คณะที่น้องฝันมหาลัยที่น้องต้องการ น้องมีโอกาสติดสูงอะ

พี่ก็รอยื่นแอดอย่างสบายใจเลยค่ะ ถึงแม้จะต้องรอสองเดือนกว่าจะรู้ผล แต่มันเป็นการรอที่มีความหวังอะน้อง มันไม่ใช่การรอที่ทรมาน เพราะคะแนนติดลบต้องลุ้นปาฏิหาริย์

แล้วพี่ก็ติดคณะที่ต้องการแล้วจ้าาา บอกเลยว่า GATดีมีชัยเกินครึ่งจริงๆนะจ้ะ รีบอ่านกันได้แล้วววว


สรุป
1. แกทใช้ทุกคณะในรอบแอดมิชชั่นและรับตรงส่วนใหญ่
2.อ่านแกทยังไงก็คุ้ม เพราะเอาความรู้ไปapplyได้กับสนามแพทย์ เก้าวิชา โอเน็ต ไม่มากก็มากๆ
3.คนอ่อนเลขอย่างพี่ ลองคำนวณคณะบัญชี แพท 1 ได้96 แต่แกทเยอะ ยังติดบัญชีจุฬาอะน้อง แปลว่ามันช่วยดึงคะแนนที่พลาดส่วนอื่นได้ โดยเฉพาะกับแพท 1ตัวปัญหาเนี่ย
4. ภาษาอังกฤษในแกทไม่ได้ยากเกินไป ควรค่าแก่การลงทุน(อ่าน) อย่างน้อยก็น่าอ่านกว่าเก้าวิชานะ
5. เชื่อมโยงเต็มควรค่าแก่การทำ เพราะบางทีได้อังกฤษเยอะแต่แกทไม่เต็มน่าเสียดายนะ ควรรักษามาตรฐานแกทไทยไว้ให้คงที่
6. เอาเป็นว่ามันสำคัญอะ พี่ลองให้คะแนนทุกอย่างคงที่เพิ่มลดแต่แกท คะแนนที่เพิ่มขึ้น5คะแนนอาจเปลี่ยนจาก"ไม่ติด" เป็น "ติด"ได้เลย เดี๋ยวมาคำนวณคะแนนจะรู้เองว่าเฉือนกันแค่ไม่กี่คะแนนเนี่ยแหล่ะมีมาเยอะเเล้ว

สุดท้ายนี้ขอบคุณน้องๆทุกคนเลยค่ะ ที่อ่านจนจบ พี่อยากให้น้องเห็นจริงๆ ว่าแกทมันสำคัญม้ากมากกก อาจยาวเยอะเกินไปก็ขอโทษด้วยจ้า อันนี้ละเอียดจริงๆ ขอให้ได้แกทดีๆ กันทุกคนเลยเด้อ

ครั้งหน้าอาจจะมารีวิวที่เรียนแกทนะจ้ะ บุยๆ!


แสดงความคิดเห็น

>

10 ความคิดเห็น

Dektips 19 มิ.ย. 60 เวลา 01:13 น. 1

ขออภัยจ้า แกทอิ๊งรอบสองได้ 125 คะแนนนะจ๊ะ เห็นมะว่าอ่อนเลขจริงไรจริง55555

0
Gsvs 19 มิ.ย. 60 เวลา 03:55 น. 2

จขกท.เก่งมากๆเลย เเกทรอบเเรกเราได้240 รอบ2เพิ่มเป็น252.5คือดีใจนะที่คะแนนขึ้นมาตั้งเยอะเพราะเคยหวังเเค่250ก็พอเเล้ว เเต่เออเร่อเราผิด5ข้อเลยในรอบ2คะแนนเลยแป็กๆ55555 อุตส่าฝึกไปตั้งเยอะTT ไม่มีอะไรเเค่อยากบอกประสบการณ์เหมือนกันว่าคะแนนเเกทมันสำคัญพอๆกับเกรดเลย เฉือนกันไม่กี่คะแนนนี่ตัดอันดับเราได้เลยนะ เด็ก61รีบอ่านหนังสือกันนะจ๊ะ

0
Anonymous_tko 19 มิ.ย. 60 เวลา 16:44 น. 3

จขกท. พูดไปหมดละ 555 Gat สำคัญมากจริง ๆ ครับ อันนี้พูดได้เลยเหมือนที่ จขกท. พูดไว้
...จขกท. เก่งจังอ่ะ เราได้ Gat ประมาณ 220 เอง โดยเฉพาะอิ้งแบบต่ำเตี้ยเรี่ยดินมมาก ๆ 555+

0
DadyDaw 19 มิ.ย. 60 เวลา 21:13 น. 5

Dek61 ยังต้องใช้ gat pat อยู่ใช่ไหมคะ ไม่ค่อยเข้าใจระบบใหม่เท่าไหร่

ปล.dek62น๊าค๊าาาา

1
Dektips 20 มิ.ย. 60 เวลา 00:18 น. 5-1

ใช่เเล้วค่ะ ข้อสอบหรือแนวต่างๆคิดว่าสทศ.น่าจะออกเหมือนเดิมและมีแนวทางเดิม ตราบใดที่ชื่อข้อสอบยังชื่อแกทแพทนะคะ :)


ส่วนปี62อันนี้ตอบไม่ได้เลยจ้าา ต้องดูกันปีต่อปี แต่พี่ว่าก็น่าจะต้องสอบแกทแพทนะคะ

0
Dektips 20 มิ.ย. 60 เวลา 00:16 น. 6-1

เพราะฉะนั้นยิ่งต้อง อ่านแกทให้มากๆเลยค่ะ ก็ยอมรับว่าถ้าปีนี้มีสอบรอบเดียวเราก็ไม่รอดเหมือนกันค่ะ


ส่วนการเอาคะแนนมาเผยเพราะอยากให้เห็นชัดๆว่าถ้าตั้งใจ ก็ทำได้จริงๆ ผลลัพธ์ที่เห็นเป็นตัวเลขคำนวณได้น่าจะทำให้เทียบเห็นชัดกว่าการบอกว่าคะแนนรอบสองขึ้นแต่ไม่บอกว่าเท่าไหร่ค่ะ จขกท.คิดงี้จ้าา :)

0
Takkkkkkk 20 มิ.ย. 60 เวลา 22:42 น. 8

รบกวนช่วยแนะนำหนังสือที่อ่านหน่อยได้มั้ยคะ นี่Dek61เลยยยย อยากได้คำแนะนำง่ะ ขออะไรที่สามารถติดต่อได้หน่อยได้มั้ยง่ะ

0
qnsect 1 ก.ค. 60 เวลา 14:03 น. 9

อยากติดต่อสอบถามได้มั้ยคะะะ จัดเวลาอ่านหนังสือยังไงคะ แล้วใช้แกทอิ้งเล่มไหนคะ


0
Von Flicker 13 พ.ย. 61 เวลา 20:14 น. 10

GAT คือ การสอบวัดความถนัดทั่วๆไป มีชื่อเต็มว่า General Aptitude Test ซึ่งจะมีข้อสอบอยู่ 2 ส่วน ได้แก่ ... ส่วนที่ 2 เรียกว่า GAT ENG นั้น จะเป็นความสามารถในการสื่อสารด้านภาษาอังกฤษ ส่วนนี้จะมีคะแนนเต็มที่ 150 คะแนน


เครดิต https://www.chulatutor.com/gat/

0