รีวิวสอบเข้า LLB (TUadlaw) ตามฉบับเด็กTCAS'61 เพราะชีวิตต้องสู้

[nr_prae]

สวัสดีทุกคน แนะนำตัวก่อนนะว่าเราคือเด็กรุ่นทดลองระบบ 61 TCAS นี่เอง โดยเป้าหมายของเราในการเข้ามหาลัยปีนี้คือ คณะนิติศาสตร์ ซึ่งเราเองก็ได้แพลนไว้หลายที่ ซึ่งปกติทั่วไปก็คือ จุฬา ธรรมศาสตร์ ที่ทุกคนรู้จักกัน แต่ที่เราจะมารีวิวครั้งนี้คือ คณะนิติศาสตร์ อินเตอร์ ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ซึ่งกระทู้นี้จะแบ่งออกเป็นส่วนย่อยๆให้เลือกอ่านได้ตามความสนใจเลย โดยที่เราเองได้สมัครเข้าไปเป็น track 2 หรือเป็นการสอบข้อเขียนของทางคณะ TUadlaw ไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ตอนนี้กำลังรอผลอยู่เด้อ

Intro to LLB

ด้วความเป็นมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วในคณะนิติศาสตร์ให้หลักสูตรนี้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ โดยจะเรียนที่ท่าพระจันทร์  ซึ่งเท่าที่เราหาข้อมูลมา คือทางคณะเองจะเหมือนโฟกัสไปเลยทางด้าน กฎหมายธุรกิจเป็นหลัก มากกว่าทางด้านสอบเนติบัณฑิต แต่ถ้าถามว่าไปสอบทางนั้นได้มั้ย ก็ได้ แต่อาจจะต้องไปหาความรู้เพิ่มเติมเน้นไปทางนั้น โดยเราเคยได้คุยกับรุ่นพี่บางคนมา เค้าบอกว่าถ้าอยากเรียนไปทางนั้นแต่เลือกมาคณะนี้แล้วก้ให้ไปสมัครรามเรียนควบคู่กันไปด้วยจะทำให้มีความมั่นใจเพิ่มขึ้น โดยคณะนี้เองจะเรียกว่าเป็นคณะน้องใหม่ก้ไม่เชิง เพราะเปิดมา 4 ปี ปีนี้เป็นปีที่ 5 แล้วจ้า ถ้าเข้าไปปีนี้ก้จะเป็น LLB 05 นั่นเอง

เตรียมตัวTUadlaw

ปีนี้ข้อสอบของทางคณะหรือ TUadlaw จัดสอบที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เมื่อวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลังสอบหลักๆของเด็กม.6 ตามกำหนดการ TCAS ไปหมดแล้ว ซึ่งเพื่อนเราก็จะออกไปลั้นลาเที่ยวเล่นอย่างมีความสุขไปหมดแล้ว แต่เราต้องมาเตรียมตัวสอบของทางคณะ ซึ่งถ้าให้พูดคือ มันเหนื่อย เหนื่อยมาก เพราะลุยสอบรัวๆ มาตั้งเกือบเดือนแล้ว แทนที่จะได้หยุดแต่กลับต้องมาอ่านเพิ่ม แต่ขอให้เชื่อเถอะว่า ถ้าทุ่มเทลงไป ผลที่ได้กลับมามันจะคุ้มมากๆ เพราะถือว่าเราได้ทำเต็มที่แล้ว โดยที่ TUadlaw จะแบ่งเป็น 3 พาร์ท คือ

-Reading

-reasoning

-essay writing

หนังสือที่เราแนะนำให้ฝึกทำจะเป็นหนังสือ แนวข้อสอบของมธเองเลย พวกหนังสือ TUGET ตรงพาร์ทรีดดิ้งจะช่วยได้มาก เพราะข้อสอบรีดดิ้งมีความยาวประมาณหน้า ถึงหน้าครึ่ง อ่านกันจนเเหนื่อย แต่ถ้าเทียบกับพวก 9 สามัญก็จะใกล้เคียง แต่จะมีแนวโน้มไปในทางกฎหมายบ้าง แต่ไม่ได้ละเอียด ไม่จำเป็นต้องไปเรียนกฎหมายมาก่อนเหมือนไปสอบภาคไทย มีประมาณ 5 passages ก้ไม่ยากไม่ง่าย กลางๆ อาจจะโผล่ยากมาบ้างบางอัน

พาร์ทต่อไปเป็นพวก logical test เหมือนเข้าจะให้ conditions ต่างๆมาแล้วถามว่าช้อยส์ไหนถูก พาร์ทนี้เราไม่ได้เตรียมตัวอะไรไปมาก เพราะคิดว่าเซ้นส์ได้ ซึ่งบางข้อมันก็ได้จริงๆ แต่บางข้อก้อ่านวนไปวนมาแล้วงง ทำให้อาจจะไม่ได้มั่นใจเต็ม 100 ซึ่งถ้าคนจะเก็บเต็ม ก็เหมือนจะมีพาร์ทนึงของ SAT ที่มันคล้ายๆจะไปฝึกแทนกันได้

สุดท้ายเป็น essay writing ซึ่งหัวข้อปีนี้มีมาให้อันเดียว ซึ่งต่างจากปีก่อนๆที่มี 2 อันมาให้เลือกอันที่ถนัดกว่าเขียนได้ โดยที่ปีนี้ที่ให้เขียนเป็นเรื่อง เกี่ยวกับ AI หรือ Artificial Intelligence ถามประมาณว่าเราควรจะกลัซพวก AI พวกนี้มั้ยเพราะอะไร ซึ่งวิธีการเขียนมันเขียนได้หลายแบบ หลายสไตล์แล้วแต่คนเลย แต่ของเราเขียนประมาณว่า AI มีข้อดี อย่างงี้ๆๆๆนะ แต่ข้อเสียที่ละเลยไม่ได้ก็มี อย่างงี้ๆๆๆๆ แล้วเหมือนตอนจบสุดท้าย เราค่อยมาตอบคำถามที่เค้าถามมาว่า เราควรจะกลัวหรือไม่ ซึ่งการตอบคำถามจะเป็นสิ่งที่ลืมไม่ได้ ไม่งั้นที่เขียนมาทั้งหมดก็จะหมดความหมายเพราะ ไม่ได้ตอบคำถามที่เค้าถามมาตั้งแต่แรก แต่คนอื่นก็อาจจะมีวิธีการเขียนแต่ต่างกันไป อาจจะ ตอบไปตั้งแต่ต้นเลยว่าควรกลัวหรือ ไม่ควรกลัว เพราะอะไร แต่เราไม่อยากที่จะพูดฟันธงไปตั้งแต่แรก เพราะเราคิดว่าทุกอย่างมันต้องมีข้อเสียในตัวมันเองอะไรประมาณนี้ พาร์ทนี้ถ้าคนเรียน IELTS หรือเคยฝึกเขียนมาบ้างก็จะได้เปรียบในเรื่องของโครงสร้าง แต่สุดท้ายมันก็หน้าผ้าอยู่ดี เพราะเราไม่สามารถเก็งได้ว่าเค้าจะออกอะไร แต่ก็อยากจะให้แม่นๆเรื่อง แกรมม่าอะไรพวกนี้มากกว่า


D-Day วันสอบจริง

สอบจริงเริ่มสอบ 9 โมงที่ตึกของคณะเลย เราไปถึงประมาณ 8 โมงนิดๆก็เห็นคนมานั่งเต็มไปหมดแล้ว มีการรวมกลุ่มติวแบบของติวเตอร์มาติวกันก่อนเข้าห้องสอบเลยก็มี แต่เราก็อย่าไปหวั่นไหวอะไรมาก แค่ทำในส่วนของเราให้ดีที่สุด โดยที่ตรงด้านหน้าคณะเข้าจากฝั่งสนามหลวงจะมีองค์พระตั้งอยู่ สามารถไปไหว้ขอพรกับท่านได้ แต่เนื่องจากสอบวันอาทิตย์ ตัวองค์พระจะถูกล็อกไว้ แต่เราสามารถไหว้จากข้างนอกได้ไม่มีปัญหา ปีนี้เหมือนจะมีคนมาสอบประมาณ 200 กว่าคน เด็กอินเตอร์ เด็กโรงเรียนไทยปะปนกันไป เราไม่ต้องไปกลัวเค้าเพราะบางคนก็เหมือนจะมาสอบเฉยๆ ไม่ได้กะจะเอาทำให้ถ้าดูคู่แข่งจริงๆมันก็จะไม่ได้เยอะเท่าไหร่ มีโอกาสค่อนข้างสูง โดยที่เค้าจะอนุญาติให้ขึ้นตึกตอนประมาณ 8.30 แต่กว่าจะให้เข้าห้องจริงๆก็เกือบเวลาสอบจริง ก็ควรจะไปยืนใกล้ๆประตูเพราะตอนเค้าให้เข้าจะได้รีบเข้า ไม่เสียเวลาทำข้อสอบ ห้องสอบจะเป็นห้องคล้ายๆห้องเลกเชอร์ของทางคณะ จุคนได้เยอะมาก เดินเข้าไปก็เชครหัสผู้เข้าสอบของตัวเองดีๆจะได้ไม่พลาดไปทำของคนอื่น แอร์ไม่ได้เย็นจนต้องเอาเสื้อกันหนาวเข้าไป กำลังสบาย เวลาทำ 3 ชั่วโมงครั่งเลยจ้า ไม่ต้องรีบร้อน แต่ก็สบายมากไปไม่ได้ เผื่อเวลาไว้ด้วย เพราะสุดท้ายสภาพการสอบจะทำให้เรากดดัน 3 ชั่วโมงจะผ่านไปไวเหมือนชั่วโมงเดียว อยากให้บริหารเวลาดีๆ อย่าให้พลาด ถนัดอันไหนทำอันนั้นก่อน อย่าไปพะวงกับข้อที่ไม่ได้ เราไม่จำเป็นต้องทำให้ได้ 100 เต็ม 100 แต่คะแนนที่เราได้ต้องเพียงพอที่จะผ่านเข้าไปแค่นั้นพอ



สุดท้ายนี้ถ้าใครมีคำถามอะไร สามารถฝากไว้ได้เด้อแล้วเราจะเข้ามาตอบ แล้วก็ของให้เด็ก 61 ทุกคนสู้ๆ แล้วติดไปพร้อมกันเด้อ

Comments

[krist]

ทำไมของเพื่อนเราประกาศแล้วอ่ะ มันก่อนกำหนดด้วย เราเลยกลัวว่าเราจะไม่ได้ ToT

[stunning_crew]

ของเราได้มาเปนเมลคณะอ่า แต่ในเว็บหลักของมหาลัย tuadmission ก็ยังไม่มีอัปเดตอะไรนะๆ รอให้แน่ใจวันที่1 ที่เค้ากำหนดประกาศดีกว่าเด้อๆ

[Third]

คะแนนต้องยื่นอะไรบ้างอ่ะคะ

[th20033]

ต้องใช้คะแนนgpaxมั้ยคะ

[TS1989Bbee]

ขอคอนแทคพี่หน่อยได้มั้ยคะ

[สัลบภา]

เตรียมตัว สอบนานไม่ค่ะ