Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

อยากทราบชื่อของทฤษฎีนี้ครับ มีนิยายตัวอย่าง

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ที่ว่ามีการเปรียบเทียบกับลูกเจี๊ยบหรืออะไรนี่แหละ ที่เมื่อมันฟักออกมา มันจะตราตรึงในสิ่งที่เคลื่อนไหวที่มองเห็นเป็นอย่างแรกแม้ว่ามันจะเป็นแค่ตุ๊กตาก็ตาม อยากอ่านให้ละเอียดครับ ไม่ก็เห็นอะไรยิ่งใหญ่มากๆ แบบ...

นิยายตัวอย่าง

     "พ่อ แม่...บ้านของข้า" ร่างเล็กจ่อปืนลูกซองไปที่ชายตรงหน้า ร่างไร้วิญญาณของเหล่านายทหารต่างพากันนอนเกลื่อนอยู่รอบๆ หัวใจของเด็กน้อยเต้นรัว ใบหน้าทั้งแถบบิดเบี้ยวอย่างโกรธแค้น "ข้าสั่งให้เอามันคืนมา!!!" เด็กน้อยตะคอกเสียงดัง แต่กลับไม่ได้มีผลอะไรกับคนตรงหน้า ทั้งที่อีกฝ่ายไม่มีแม้กระสุนปืนและลูกน้องคอยคุ้มกัน แต่ก็ยังทำตัวเหมือนว่ากำลังถือไพ่เหนือกว่า

     

     "พ่อแม่ของแกมันเน่าตายอยู่ในนรกแล้ว ได้ยินชัดหรือเปล่าวะ-พวกอาหรับ!?" นายทหารที่ติดยศสิบเอกชี้นิ้วมาทางไฮน์ริคราวกับเยาะเย้ยแล้วหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง "มันอยู่ในนรก ถ้าคิดถึงก็ตายตามก้นพวกมันไปเลย! ฮ่าๆๆ" จบแค่นั้นร่างเล็กก็อัดกระสุนจากปลายกระบอกปืนลูกซองเข้าไปที่หน้าแข้งของนายทหาร ทำเอาอีกฝ่ายต้องลงไปนอนดิ้นพล่านเป็นหมา ร้องออกมาด้วยเสียงโหยหวน

     

     "ข้าบอกให้เอาคืนมา!" ไฮน์ริคตะคอกอีกครั้ง ก่อนจะกระหน่ำยิงไปตรงข้อพับส่วนต่างๆ ของชายที่กำลังดิ้นพล่าน กรีดร้องออกมาเสียงดังยิ่งกว่าเดิม ร่างเล็กอัดกระสุนเข้าไปอีกครั้ง คราวนี้ได้เจาะกะโหลกของนายทหาร จนเม็ดตะกั่วนั้นพุ่งทะลุออกไปอีกฝั่งพร้อมๆ กับเศษสมองที่กระจายออกไป เด็กน้อยมองดูร่างที่ตายไปเมื่อครู่อย่างเหยียดหยาม พลางลดอาวุธลง "งั้นก็ตามพ่อแม่ฉันไปแล้วกัน..."

     

     ร่างเล็กหันหลังแล้วเดินจากไป น้ำตาสายใหญ่ไหลทะลักออกมาอีกครั้ง ทุกหยดที่ไหลออกมานั้นเปี่ยมไปด้วยความเศร้าโศกและเกลียดชัง "อะ...อา ฮึก" ไฮน์ริคพยายามกลั้นสะอื้น มุ่งหน้ากลับบ้านด้วยใจที่หวาดกลัวอนาคตข้างหน้า ต่อจากนี้ไปจะไม่มีพ่อแม่คอยอยู่ข้างเขาอีกแล้ว

     ทันทีที่มาถึงทางเข้าบ้าน เสียงเทศนายามย่ำรุ่งของนักบวชก็ดังออกมาจากวิทยุที่ถูกเปิดทิ้งเอาไว้ เนื้อหาข้างในมีใจความเกี่ยวกับศรัทธา ความหวัง และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ น่าแปลกที่กระทั่งในสงครามเช่นนี้ การสอนศาสนาก็ยังคงมีตามปกติ และพร้อมๆ กันนั้น แสงอาทิตย์ของวันใหม่ก็สาดมาที่ดวงตาบวมปูดของไฮน์ริค

     "ขอลูกทั้งหลายจงมีความหวังในการใช้ชีวิตต่อไป แม้ในยามสงครามเช่นนี้ก็จงอย่าได้ละทิ้งศรัทธาที่มีต่อพระผู้เป็นเจ้า เพราะพระองค์ทรงเป็นบิดาที่รักและอยู่เคียงข้างลูกทุกคน เมื่อวันใดที่ความตายมาถึง ขอจงรู้ว่าคนดีจะได้อยู่กับพระบิดาไปตราบจนชั่วนิรันดร์"     

     แสงที่สาดมาจากดวงอาทิตย์ช่างทรงพลัง ไฮน์ริคปาดน้ำตาอีกครั้ง รุ่งอรุณของวันใหม่กำลังมาถึง เขาจะมามัวร้องไห้อยู่แบบนี้ไม่ได้แล้ว แม่บอกให้เขามีชีวิตอยู่ต่อไป เขาก็จะต้องทำให้ได้อย่างไม่มีข้อแม้ ตอนนั้นเองเสียงเทศนาจากวิทยุก็ถูกตัดไปเป็นข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์ของสงคราม ไฮน์ริคหยุดกึก ฟังเสียงของชายผู้ประกาศข่าวอย่างตั้งใจพลางคิดต่อไปว่าจากนี้จะทำอย่างไรต่อดี     

     “ชั่วโมงที่ผ่านมานี้ หน่วยจู่โจมจากกองทัพสหพันธ์ยูซี ได้เข้าทำการกำจัดกองฝั่งกำลังศัตรูในเมืองหลวงเรียบร้อยแล้ว คาดว่าอีกไม่นานจะบุกเข้าไปช่วยเหลือเมืองอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียง ขอให้ประชาชนทุกท่านโปรดอย่าวิตกกังวล และคงขวัญกำลังใจเอาไว้ สถานการณ์จะกลับมาเป็นปกติในไม่ช้า…ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด”     

     เสียงประกาศข่าวจบไป กลับมาเป็นเสียงของนักบวชที่กำลังสอนศาสนาอย่างเดิม เด็กชายตัวน้อยเบิกตากว้าง นี่แหละคือสิ่งที่เขาตามหา สิ่งที่แข็งแกร่ง และทรงพลังมากพอที่จะหยุดยั้งสงคราม ภาพลักษณ์ของเหล่าผู้กล้าสำหรับเด็กตัวแค่นี้แล้ว พวกเขาก็เป็นเหมือนกับพระเจ้าดีๆ นี่เอง ความแข็งแกร่งนั้น…ความแข็งแกร่งอันล้นเหลือของพวกเขาที่สามารถจะหยุดความขัดแย้งได้ในพริบตา เหมือนกันกับพระเมสสิยาห์ไม่มีผิด แววตาของเด็กน้อยสั่นระริก นี่แหละพระเจ้า พระเจ้าที่เขาตามหา…

แสดงความคิดเห็น

>

2 ความคิดเห็น

Miran/Licht 12 พ.ค. 61 เวลา 05:38 น. 1

ตามที่ถามมาไม่ใช่ทฤษฏีแต่เป็นพฤติกรรมที่เรียกว่า Imprinting หรือพฤติกรรมแบบฝังใจ ในหนังสือเรียนชีววิทยาของม.ปลายมีแน่แต่ไม่รู้ว่า อยู่ของชั้นไหน (จบมาสิบกว่าปี ตำราคงปรับปรุงไปแล้ว) ไปดูในห้องสมุดก็ได้ เรื่องพฤติกรรมของสิ่งมีชีวิต (Behavior)


https://www.slideshare.net/thitareesomphao/ss-65865069 (อยู่ในข้อ 2.2)

1
คนหล่อมืออาชีพ 13 พ.ค. 61 เวลา 12:19 น. 2-1

พระเอกได้เห็นในสิ่งที่แข็งแกร่งครับ เกิดเป็นการฝังใจ อยากจะเป็นกองทัพเพื่อหยุดสงคราม (หมายถึงมันคนเดียว อยากเก่งให้เท่าคนทั้งกองทัพ)

0