Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

อยากเข้าพบจิตแพทย์(แบบไปคนเดียว) ต้องทำยังไงบ้างคะ กลัวตัวเองจะเป็นโรคซึมเศร้า

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
การจะไปพบจิตแพทย์ เพื่อไปตรวจดูว่าเสี่ยงจะเป็นไหมต้องทำอะไรบ้างคะ ตอนแรกคิดว่าเราแค่เศร้าบางเรื่อง อาจจะไม่ได้เป็น แต่พอไปอ่านมา เค้าบอกว่าทั้งคนที่เป็นและคนรอบข้างเองบางทีมันจะไม่รู้ตัวหรือรับรู้ถึงอาการ


อยากให้ลองอ่านอาการหนูดู แล้วทุกคนคิดว่าควรจะไปพบจิตแพทย์เรื่องโรคซึมเศร้าไหมคะ


เป็นคนเบื่ออะไรง่ายๆ

เป็นคนชอบอยู่กับตัวเอง

รู้สึกสิ้นหวังตลอดเวลา(ไม่แน่ใจ แต่คือตลอดเวลาไม่ค่อยมีความสุขกับอะไรหรือสิ่งต่างๆ รอบตัวเลยแม้แต่น้อย)

เคยคิดจะฆ่าตัวตาย - อันนี้แต่ก่อนเป็นไม่บ่อยค่ะ แต่เคยมีครั้งหนึ่งที่หนูนั่งรถทางผ่านร้านขายโลงศพ อยู่ดีๆ ก็รู้สึกเหมือนอยากตายขึ้นมา ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร แต่ตอนนั้นรู้สึกว่าอยากตายมากๆ อยู่ดีๆ ก็รู้สึกหดหู่แบบไม่เคยเป็นมาก่อน หลังจากนั้นมามันก็เริ่มมีมาอีก หนูเป็นคนที่มีปัญหากับครอบครัวบ่อยมากๆ เลยค่ะ ตอนเด็กๆ เป็นเด็กที่ไม่ค่อยมีเพื่อน ขี้กลัว แล้วตอนนี้แม้แต่ครอบครัวก็ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้มีความสุข ในชีวิตไม่มีเป้าหมายอะไรเลย อยู่แบบใช้ชีวิตไปวันๆ กลับมาก็ต้องเสียใจกับการกระทำของคนในครอบครัวแทบทุกวัน มีวันหนึ่งที่มีปัญหาเรื่องอะไรก็จำไม่ได้) จำได้แค่ว่าตอนนั้นเสียใจมากๆ ตอนนี้ความรู้สึกแบบนั้นยังติดอยู่ในอก (ตอนนั้น)หนูลองเอาเชือกแถวนั้นมารัดคอให้ขาดอากาศหายใจ(พูดง่ายๆ ว่ารู้สึกแย่แบบมากๆ แล้วก็รู้สึกอยากตายมากๆ) ปรากฎว่าพอเอาเชือกมารัดคอ หนูรู้สึกมีความสุขมากกว่าที่เป็นอยู่ เหมือนกำลังจะหลุดพ้นเรื่องต่างๆ ตอนนั้นไม่อยากเอาเชือกออกเลย อยากรัดให้แน่นขึ้นอีก รัดไปจนกว่าจะตายไป เพราะมันรู้สึกมีความสุข(ตอนนั้นเลยเริ่มกลัว) แต่ก็เพราะนึกได้ถึงบางอย่าง เลยฝนเอาเชือกออก [อาจจะฟังดูไร้สาระ แต่เพราะว่าจองกุกค่ะ(ไอดอลเกาหลี) เหมือนหนูชอบเค้าแค่คนเดียวเพราะเป็นแรงบันดาลใจให้มีความสุข เคยตั้งปนิทานกับตัวเองไว้ตลอดเวลา ว่าจะยังไม่ตาย จนกว่าจะได้เจอจองกุกจริงๆ เพราะในชีวิตหนูเหมือนมันไม่มีอะไรแล้ว เค้าเป็นไอดอลคนเดียวที่ทำให้หนูยิ้ม] 


แล้วมาวันนี้เป็นอีกวันที่หนูอยากจะฆ่าตัวตายค่ะ ปัญหาก็เรื่องครอบครัวอีกแล้ว(ทุกวัน) เรื่องเดิมเลย รู้สึกว่าตัวเองโชคร้ายมากๆ ที่เกิดมาในครอบครัวแบบนี้ ทำไมทุกคนมีชีวิตเดียวถึงเลือกเกิดมาไม่ได้นะ อาจจะดูเลว(มากๆ) แต่ตอนนั้นคิดว่าไม่อยากเกิดมาเจอพ่อแม่แบบนี้แล้ว แต่จะทำอะไรได้ ในเมื่อถึงชาติหน้ามันจะมีจริง แล้วจะมีชีวิตครอบครัวที่ดีขึ้น แต่แล้วที่เป็นอยู่ตอนนี้มันก็เลวร้ายอยู่ดี หนูพยายามติดจะฆ่าตัวตายอีกครั้ง พยายามเอาเหล็กมารัดคอ บีบคอตัวเอง ร้องไห้บ่อยมากๆ กับการกระทำของแม่(ร้องเกือบจะทุก4นาที) เสียใจซ้ำๆ ถึงตอนบีบคอตัวเองมันจะทรมาน แต่มันก็มีความสุขมากๆ อยากหายไปซักที่ แล้วมันก็มีความคิดนึงขึ้นมาในหัว 'ไม่อยากอยู่แล้ว ให้มันจบสักที ไม่รู้แล้วว่าตายมันจะเป็นยังไง ขอแค่ได้หายไปจากอะไรแบบนี้ซักที ไม่เจอมันแล้วหน้าจองกุก เป้าหมายยังไม่มีเลย ใช้ชีวิตอยู่ไปก็มีแต่เหมอนเดิม' ประมาณนี้ค่ะ 


แต่หนูก็ดึงตัวเองกลับมาอีกครั้งจนได้ ถึงจะไม่รู้ว่าดึงมาอยู่ต่อเพราะอะไรก็ตาม ที่ทำให้ฉุกคิดขึ้มาคือ หนุบอกทุกคนไปแล้ว ว่าจองกุกคือคนเดียวที่ทำให้หนูมีความสุขหรือยิ้มได้บ้างในแต่ละวัน แต่อยู่ดีๆ ก็กลัวเพราะมีความคิดว่า ถึงจะไม่ได้เจอจองกุกก้ไม่เป็นไร ถ้าสักวันหนุได้เจอเค้าแล้วชีวิตมันยังเป็นแบบทุกวันนี้ หนูจะห้ามตัวเองยังไง จะห้ามมันได้อีกไหม กลัวว่าจะห้ามตัวเองไม่ได้อีกแล้ว 


อยากกอดใครซักคนมากๆ อยากกอดแล้วก็ร้องไห้หนักๆ ออกมาซักที ตั้งแต่เกิดมายังแทบไม่เคยได้กอดใครเลย อยากกอดแล้วร้องไห้ออกมานานๆ


...ปัญหาหลักๆ มันมาจากเรื่องครอบครัวของหนู ถ้ามันเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ กลัวว่าสักวันตัวเองจะกลายเป็นโรคซึมเศร้า เพราะขนาดครอบครัวเองยังไม่ใช่สิ่งที่จะให้กำลังใจหรือปกป้องหนูจากโรคนี้ได้ด้วยซ้ำ มันเป็นแบบนี้มานานมากๆ แล้ว ทุกวันๆ จนหนูเก็บมา(เป็นมาเกือบึ6-7ปีแล้ว ตั้งแต่หนุเด็กๆ เพราะตอนนี้อายุหนู14) จนช่วงนี้ความคิดเรื่องพวกนี้มันเริ่มมาถี่มากขึ้น(คิดจะฆ่าตัวตาย) แล้วปัญหาอีกเรื่องคือ พอลองทำแล้วหนูดันมีความสุขกับการที่จะฆ่าตัวตาย หนูเลยกลัวมากๆ กลัวว่าถ้ายังเป็นแบบนี้อีกหนูอาจจะเข้าข่ายเป็นโรคซึมเศร้า ไม่อยากเป็น

แสดงความคิดเห็น

>

13 ความคิดเห็น

Sspringlove 16 ก.ย. 61 เวลา 00:17 น. 1

วันนี้ครั้งที่สามที่คิดอยากจะตายมากๆ ค่ะ ครั้งแรกตอนขี่รถผ่านร้านขายโลงศพ


ครั้งที่สองจำไม่ได้ แต่เป็นครั้งแรกที่เอาเชือกมารัดคอตัวเองแบบจริงๆ จังๆ แล้วมันมีความสุขมากๆ


ครั้งที่สามคือวันนี้ รู้สึกว่ามันมาถี่ขึ้นเรื่อยๆ พยายามจะฆ่าตัวตายแล้วมีความสุขแบบบอกไม่ถูก แถมจองกุกที่เป็นจุดยึดเหนี่ยวสิ่งเดียวมาตลอด เหมือนจะไม่มีค่าขณะที่คิดจะฆ่าตัวตาย(หนักๆ) ครั้งที่สาม ก็คือวันนี้ เลยมาตั้งกระทู้ และไม่เข้าใจว่าทำไมถึงดึงตัวเองกลับมา

0
lavender_blue 16 ก.ย. 61 เวลา 00:57 น. 2

ด้วยความเป็นห่วงนะคะ รีบไปพบแพทย์เลยค่ะ หรือ อย่างน้อยโทรสายด่วน 1323 ก็ได้นะคะ

ติดต่อเข้าไปได้เลยนะคะ ตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ถ้าไม่กล้า อาย หรืออะไรก็ตาม เอกชนก็มีค่ะ บางที่ใช้คำว่าคลีนิคพิเศษ (ไม่ระบุว่าเป็นแผนกจิตเวช) แต่เด็กอายุ 14 ไม่มีผู้ปกครองอาจจะลำบากหน่อย หาผู้ใหญ่ไปด้วยสักคนน่าจะดีกว่าค่ะ

ช่วงนี้พยายามอย่าอยู่คนเดียว บางทีเคมีในสมองแปรปรวนอาจจะควบคุมตัวเองไม่ได้ค่ะ

ถ้าไม่สะดวกบอกใคร ยังไงเริ่มจากสายด่วน 1323 หรือ page สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ก่อนก็ได้นะคะ

สู้ ๆ ค่ะ ทุกปัญหาย่อมมีทางออก ตอนนี้ยังหาไม่เจอ บางทีสักวันมันก็จะหาเจอเองค่ะ

0
MarsChin 16 ก.ย. 61 เวลา 03:02 น. 3

มาๆๆ กอดๆๆๆ


จากผู้มีประสบการณ์ กินยารักษาโรคซึมเศร้ามา 5 ปีกว่า(และตอนนี้ยังกินอยู่)​ พี่แนะนำให้หนูไปพบจิตแพทย์โดยด่วนค่ะ เดินเข้า ถ้า จนท.ถามว่ามาตรจอะไร ก็บอกว่ามาพบจิตแพทย์ หนูอยากตาย แค่นี้เค้าก็ไม่ถามอะไรแล้วค่ะ ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น ถ้าอยากกอดมากอดพี่ค่ะ ชีวิตเราสองคนเหมือนกันเลย พี่มีปัญหากับคนในครอบครัวทุกวัน


แต่พี่ตื่นมาเห็นกระทู้นี้ตอนตี 2 เพื่อนส่งมาให้ พี่ง่วงมากๆค่ะลูก พรุ่งนี้เช้าเข้ามาทักทายพี่ในเฟซบุ๊คได้ค่ะ fb : : Pinyada Kittithanin


ปล.ตอนนั้นพี่มี ทีมB (ikon) เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เลยผ่านมาได้

สู้ๆนะจ๊ะ ️

2
G.Tenju 16 ก.ย. 61 เวลา 05:03 น. 4

ถ้าจะไปหาจิตแพทย์ก็ทำเหมือนเข้าโรงพยาบาลตามปกติพกบัตรประชาชนไว้ด้วยพร้อมเงินเผื่อค่ายา (ที่ผมจ่ายประมาณ 500-1,200) ไปให้ทันช่วงเช้า 06:00 - 08:00


เข้าใจว่าเธอสงสัยว่าตัวเองเป็นซึ่มเศร้าหรือเปล่าเลยอยากตรวจ แต่ถ้าจากประสบการณ์ส่วนตัวไม่ค่อยอยากให้เธอตรวจสักเท่าไหร่ เพราะเธอจะยิ่งเชื่อว่าตัวเองอาการหนักจนเชื่อว่าต้องเศร้าหนักกว่าเดิมตามผลทดสอบ ถ้าเป็นไปได้อยากให้จัดการกับต้นตอของความเครียดให้ทันก่อนถล่ำลึก แล้วถ้าเธออยากหลุดจากความทุกข์จริงๆ ก็ลองอ่านที่ผมเคยให้คำแนะนำกระทู้อื่นๆดู อาการซึมเศร้ามันมีต้นตอของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ถ้ามันโชคดีดันตรงกับเธอขึ้นมาก็อาจช่วยอะไรเธอได้


ส่วนตัวแล้วผมต้องหาวิธีเยียวยาตัวเอง เพราะยาหมอใช้ไม่ได้ผลกับผม มันเลยมีประสบการณ์บอกเล่าเยอะมาก


https://www.dek-d.com/board/view/3875126/ <<< อ่านคอมเม้นที่ผมตอบไว้

https://www.dek-d.com/board/view/3869592/ <<< กรณีของผม


ถ้ามีอะไรสงสัยก็ถามทิ้งไว้แล้วกัน

3
Sspringlove 16 ก.ย. 61 เวลา 07:47 น. 4-2

ลองอ่านแล้วนะคะ คนละแบบกันกับของหนูค่ะ ของหนูพ่อไม่ค่อยอยู่บ้าน ทุกครั้งที่คุยกันแทบไม่ได้คุยอะไรดีๆ เพราะพ่อเราจะพูดเชิงตำหนิตลอด ไม่ว่าจะเร่องไหนก็จะพูดแบบนั้น ส่วนคุณแม่ อยู่บ่อยกว่า แต่ก็เหมือนเดิมค่ะ ไม่มีอะไรที่ทำเหมือนมอบความรักให้เราเลย ไม่เคยถามด้วยความเป็นห่วงเลยซักอย่าง(เหมือนในกระทู้) อีกอย่างเค้าเป็นคนอารมย์ร้อนง่ายมากๆ คำพูดไม่ต่างจากพ่อ แต่ทุกครั้งก็จะขึ้น--กู คำเรียกและคำด่ารุนแรงอีกมากมาย เราเสียใจซ้ำๆ ทั้งการกระทำ ทั้งคำพูด ทั้งเรื่องความตำหนิ ไม่เคยใส่ใจหรอเข้าใจความรู้สึกหนูเลยมาตั้งแต่เด็กๆ ที่เป็นมาอยู๋นี่ก็ปาไปเกือบ7ปีแล้วค่ะ แบบเดิมไม่เปลี่ยน รุนแรงมากๆ ขนาดว่าแม่หนูเอาฝักบัวอาบน้ำมาฟาดไปตามตัว แล้วมันโดนใบหน้าหนูเลือดไหลเต็มพื้นห้องน้ำ แม่ก็ไม่ได้อะไรกับมันเลย บอกว่าหนูหลบเอง ส่วนเบอร์02-713-6793 หนูเมมไว้ในเครื่องนานมากแล้วค่ะ แต่ไม่เคยลองกดโทร เพราะเจอกลัวคนที่เค้าไม่ค่อยรับฟัง อยากได้คนกอดปลอบมากๆ อยากไปให้ห่างๆ จากครอบครัวที่เป็นอยู่ตอนนี้

0
G.Tenju 16 ก.ย. 61 เวลา 08:20 น. 4-3

เรื่องการกอดปลอบนี้... บางทีน้องอาจเป็นแบบพี่ก็ได้นะ เป็นพวกเรียนรู้และสื่อสารผ่านการสัมผัสและความรู้สึก (Kinesthetic) เราจะเป็นพวกเซ็นเซอร์ทีฟกับอารมณ์มาก อย่างพี่เองเพิ่งมารู้ที่หลังว่าถนัดเซ้นนี้ เวลาถูกคนพูดหรือชมจะไม่รู้สึกดีใจอะไร แต่ถ้าหากกอด/จับมือ/ตบบ่าจะมีความสุขมากๆ แต่กับบางคนก็ไม่อยากให้มาแตะเนื้อต้องตัวเหมือนกัน


อย่างแม่พี่เองก็พูดหยาบเต็มที่เหมือนกัน เราเพิ่งมาปรับความเข้าใจกันทีหลัง แม่พี่ก็เพิ่งรู้ว่าสำหรับพี่มันบั่นทอนและทำร้ายจิตใจมาก ทว่าสำหรับแม่เขามันคือเรื่อง 'ปกติ' เพราะที่บ้านนอกสมัยเด็กๆ เขาก็โตมากับวิธีการพูดแบบนี้ แต่มันคนละสภาพแวดล้อมกับพี่มันจึงดูรุนแรง


ส่วนเบอร์นั้นถ้าน้องรู้สึกไม่มั่นใจก็ลองดูคลิปนี้นะ พวกพี่ๆที่รับสายก็จะประมาณนี้นั่นแหละ




ส่วนตัวปกติพี่จะพิมพ์ช่วยแนะนำคนซึมเศร้าแบบรายบุคคล ส่วนน้องพี่ไม่พิมพ์เพราะน้องกำลังเลือกวิธีที่จะหนีปัญหาอยู่ จะไม่บอกให้สู้หรอก... เพราะพี่เองก็เคยมีช่วงเวลาหนีแบบเดียวกับน้อง มันละอายปากตัวเอง แต่วิธีแก้มันมีแค่เราต้องกล้าลุกขึ้นมาแก้ปัญหาด้วยตัวเอง พี่จึงจำเป็นต้องปล่อยให้น้องช่วยเหลือตัวเอง


ยังไงก็ระวังตัวไว้หน่อย นี่เป็นช่วงเวลาที่น้องกำลังอ่อนแอ และคนสาย K แบบเราค่อนข้างอันตรายมากเหมือนที่พี่พิมพ์บอกในกระทู้อื่นไว้


"วัยของน้องมันควรได้รับความรักจากพ่อแม่ น้องโชคดีมากที่ยังมีพ่อคอยเติมตรงนี้อยู่ น้องรู้ไหมเท่าที่พี่ศึกษามา ผลของคนที่ขาดความรักจะกลายเป็นยังไง?


ผลก็คือเขาคนนั้นจะ 'รักตัวเองไม่เป็น' มีข่าวแทบทุกวันว่าผู้หญิงโดนแฟนหักอกเลยตัดสินใจฆ่าตัวตาย นั่นก็เพราะผู้หญิงเหล่านั้นเขาเชื่อว่าแฟนตัวเองก็คือตัวแทนของ 'ความรัก' ที่พวกเขาขาดจากพ่อแม่ พอพวกเขาสูญเสียมันเลยรับไม่ได้แล้วตัดสินใจผลาดในที่สุด"


"ถ้าน้องรู้ตัวว่าร้องไห้บ่อยพยายามอย่าให้ใครมาปลอบ พูดคุยรับฟังอันนี้ได้อยู่ แต่ไม่ควรให้ถูกเนื้อต้องตัวเป็นอันขาด ผิวหนังของเราก็มีประสาทสัมผัสเป็นสมองของตัวเอง มันจะจดจำการกระทำของเราไว้ เรียนรู้แต่ทำตัวเป็นใบ้ไม่พูดบอก อย่างบ่านี่ตัวดีเลย ตอนอยู่คนเดียวแค่ซึมๆ พอมีคนมาเห็นอกเห็นใจตบบ่าปุ๊บร้องไห้กระจาย (สังเกตตามงานศพสิ) ร่างกายมันก็จำเอาไว้ว่าจะผ่อนคลายได้ต้องมีคนสัมผัส เหตุผลเดียวกันกับกรณีวัยรุ่นที่มีปัญหาครอบครัวแล้วแก้ด้วยการหนีออกจากบ้านไปนอนกับแฟน"


และข้อความของน้องกำลังเชื้อเชิญให้พวกที่ไม่หวังดีฉวยโอกาส


https://www.dek-d.com/board/view/3875327/ <<< บางทีน้องอาจกำลังโดนเคมีในสมองหลอกอยู่ก็ได้ลองอ่านดูนะเผื่อว่ารู้สึกเหมือนกัน

0
Miran/Licht 16 ก.ย. 61 เวลา 05:26 น. 5

-เท่าที่ทราบมาควรหาคนไปด้วยสักคนค่ะ บางทีคุณหมอต้องการคุยกับคนรอบตัวเกี่ยวกับการดูแลคุณด้วย มีใครที่พอจะเข้าใจและพอไปด้วยกันได้ไหม เพื่อนสักคนก็ได้ บางรายควร admid ด้วยค่ะ


-แล้วก็ถ้าพบคุณหมอที่ไม่โอเค ขอเปลี่ยนหมอได้นะคะ มีบางคนไปพบแล้วคุณหมออาจจะไม่เข้าใจก็มี แนะนำที่มีคุณหมอที่มีประสบการณ์น่าจะโอเค


-ไปสถาบันของรัฐค่ารักษาจะไม่หนักค่ะ


-"สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา" http://www.somdet.go.th ที่นี่รับคิวตั้งแต่ 6 โมงเช้าค่ะ

อ้างอิงกระทู้นี้ https://pantip.com/topic/36925676


-ศูนย์สุขภาวะทางจิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 02-218-0336 จากกระทู้นี้ https://pantip.com/topic/34675783


-รายชื่อรพ. ทั้งหมด http://www.ycap.go.th/km/hospservice.html ใกล้ที่ไหนไปที่นั่นจะสะดวกกว่า


-ลองไปคุยปรึกษากับกับ จขกท.นี้ดูนะ https://www.dek-d.com/board/view/3872113/ เผื่อจะช่วยได้ แต่คุณจขกท.เขาเป็นไบโพล่าร์เหมือนเพื่อนเรา


-คือ เราแนะนำให้พบแพทย์คุยกับจิตแพทย์ในเบื้องต้นก่อนนะคะ ที่หลายคนบอกว่าควรเข้าวัดนั่นไม่ใช่ไม่ดี แต่หมายถึงบางครั้งควรใช้ควบคู่กัน ก็อย่างที่บอกค่ะ คุณหมอก็มีทั้งที่เข้าใจและไม่เข้าใจ ผู้สอนธรรมก็เช่นกันต้องหาคนที่จูนกันรู้เรื่องค่ะ คราวที่แล้วที่สอนให้ทำสมาธิเบื้องต้นไปนั้นเป็นหนึ่งในอิริยาบท 4 + แนวของกรรมฐานน้ำเย็นค่ะ แต่ไม่ใช่ทุกคนจะเหมาะกับแบบนั้น

อิริยาบท 4 ประกอบด้วย ยืน-เดิน-นั่ง-นอน ค่ะ บางคนจะสบายในที่ท่ายืน หรือเดินก็ได้ ท่านอนนี่อยู่คนเดียวไม่แนะนำ การฝึกสมาธิมันทำให้เรารู้จักมองตัวเองวิเคราะห์ตัวเองค่ะ


4
G.Tenju 16 ก.ย. 61 เวลา 07:38 น. 5-2

ขอเสริมเรื่องการเข้าวัดนะ


การนั่งสมาธิหรือกรรมฐานมันได้ผลจริงๆถ้าเราทำถูกวิธี นี่ไม่ใช่เรื่องอย่างบาปบุญคุณโทษ ใจสงบเป็นกุศลบลาๆ เพราะการฝึกวิปัสสนามันมีผลกับระบบ PFC ที่อยู่ในสมอง ส่งผลโดยตรงกับอาการซึมเศร้าโดยหยุดได้ทุกสภาวะเครียดหรืออาการที่เราซ้ำเติมตัวเองให้ป่วยหนักกว่าเดิมจากการ 'รู้ตัว' ว่ากำลังทำอะไรอยู่


ศาสตร์นี้เรียกว่า Mindfulness ซึ่งดัดแปลงมาจากการปฏิบัติธรรม (ทางแพทย์ + ทางธรรม) มันสามารถเยียวยาได้แทบทุกโรคที่มาจากอาการทางประสาท หาก จขกท. สนใจ ผมแนะนำที่นี่


https://www.facebook.com/bojjhangaarcheryclub/ ชมรมธนูโพชฌงค์


ในเพจนี้เขาจะมีกิจกรรมที่ฝึก Mindfulness ประมาณเดือนละ 2 ครั้ง ซึ้งเราต้องหมั่นเช็คบ่อยๆ เพื่อลงทะเบียนให้ทัน (คนรอสมัครเยอะมาก) เพราะอาจารย์ที่เป็นผู้ก่อตั้งชมรมนี้รู้ลึกทั้งทางศาสนาและวิทยาศาสตร์ แต่ท่านจะไม่ได้สอนเพื่อแก้อาการต่างๆโดยตรง เพราะทุกคนที่เป็นลูกศิษย์ท่านจะเรียนรู้วิธีบรรเทาความเจ็บป่วยได้เองหากไม่ดื้อรั้นจนเกินไป ที่อยากเน้นคือในวันที่ 4 พ.ย. ที่จะถึงนี้ เขาจะจัดกิจกรรมอีกครั้งแนะนำให้ จขกท. ลองไปดู หรือไม่ก็ทุกวันศุกร์แรกของเดือนเขาจะรวมตัวนั่งซาเซ็นกัน ก็ลองไปร่วมดูได้ (ส่วนใหญ่ฟรี มีบางกิจกรรมเช่นยิงธนูจะมีค่าบำรุง 200)

0
Miran/Licht 16 ก.ย. 61 เวลา 07:51 น. 5-4

ที่จริงวันนี้เขามีนัดกันไปฝึกอิริยาบท 4 ที่เราว่าไปข้างต้นนั่นล่ะค่ะ (3 เดือนครั้ง)


แต่เราติดอ่านหนังสือสอบเลยไม่ได้ไปร่วมด้วย แต่แม่เราไปอยู่


ที่คุณ G.Tenju แนะนำมาน่าสนใจนะคะโดยเฉพาะคิวโด แต่สถานที่ยังงงๆ อยู่ว่าตรงเอกมัยหรือพหลฯ ถ้าเอกมัยมี BTS ผ่านน่าจะไปไม่ยาก ขอผ่านช่วงยุ่งๆ กับการสอบไปจนถึงสิ้นปีนี้ไปก่อน

0
สมเหมียว@lesserpanda 16 ก.ย. 61 เวลา 08:24 น. 7

ไปพบหมอก็เป็นอะไรที่ควรจะไปอยู่แล้วอะนะ


ก็แนะนำวิธีบริหารจิตใจเบื้องต้นละกัน


ความสุขของคุณจขกท อย่ารอให้ใครมาหยิบยื่นให้ อย่ายึดติดว่าครอบครัวอบอุ่น พ่อแม่เข้าใจคือความสุข


สำหรับเรามันก็ไม่เชิงความสุขอะนะ เวลาทุกข์มาแล้วมันทำอะไรเราไม่ได้ เราชอบมากเลยความรู้สึกนี้ แลบลิ้นปลิ้นตาใส่มันเลย

'แน่จริงมาอีกนะ วะฮะฮะ'


บอกว่าชีวิตไม่มีเป้าหมาย ง่ายจะตาย คิดว่าจะทำยังไง หาวิธีออกจากกรงชีวิตนี้ เรียนจบม.ปลาย เข้ามหาวิทยาลัย หางานพิเศษ ออกจากบ้าน ไปอยู่หอพัก เรียนจบ ทำงาน เก็บเงิน นี่เป้าหมายง่ายๆ อันนี้แค่ยกตัวอย่าง


ถ้าคนเราไม่ทุกข์ย่อมไม่ค้นหาหนทางแห่งการพ้นทุกข์อะนะ


อิริยาบท 4 ก็ช่วยได้นะ แต่เราชอบ ฮาร์ดคอร์ ทุกข์มา สติตะปบ รู้สึกมา สติตะปบ จริงๆ ก็คือใช้สติกำกับนั้นแล55

2
Miran/Licht 16 ก.ย. 61 เวลา 08:33 น. 7-1
0
kks25151 16 ก.ย. 61 เวลา 08:26 น. 8

ผมแนะนำให้ไปฟังเสียงพระสวดนะครับ

บทไหนก็ได้ครับ แปลด้วยยิ่งดี

ผมก็มีช่วงที่เครียดเหมือนกันแต่ไม่เคยถึงขั้นอยากฆ่าตัวตาย

ฟังแรกๆอาจจะเบื่อ.แต่ฟังไปได้ราว5นาที

จิตพี่จะสงบลง เพราะเสียงของพระสวด

เป็นภาษาศักดิ์สิทธิ์ยิ่งเปิดดังยิ่งดี


ถ้าจะไปปรึกษาหมอ

แต่ผมอยากให้ลองฟังพระสวดก่อน

แล้วค่อยไปถ้าทนไม่ไหว

เชื่อผมเถอะถ้าพระพุทธศาสนา

ไม่ดีจริง คงไม่อยู่ถึงทุกวันนี้หรอก

และไม่ควรทำร้ายร่างกายหรือฆ่าตัวเองนะครับ เพราะกว่าจะได้เกิดเป็นคนมันยากมากจนยากสุดๆเลยครับ ปัญหาที่พบ

อยู่ตอนนี้คงเป็นกรรมที่เคยทำไว้


อาจจะฟังดูไร้สาระและไม่เข้ากับคนยุคนี้

ผมไม่บังคับหรอกครับ

แล้วแต่ตัวน้องเลย ว่าจะลองหรือจะไม่ลอง

#ไม่มีล้มเหลว มีแต่ล้มเลิกนะครับ

พยายามต่อไป สักวันมันก็ต้องแก่

และตายไปเองตามกาลเวลา

หมั่นคิดบวกเข้าไว้ คนที่เขาพิการ

ไม่มีกิน เขายังดิ้นรนที่จะมีชีวิต

น้องก็อย่ายอมแพ้ง่ายๆนะครับ


แล้วถ้าสนใจเพิ่มเติมก็หาสามารถไปฟัง

ธรรมะจากยูทูปหรืออะไรก็ได้

แล้วแต่ความสนใจ


เมื่อทำแล้วมันทรมานยังไงไม่รู้

ก็ให้เชื่อว่ามีสิ่งไม่ดีมาขัดขวาง

ไม่ให้เราได้ทำดีครับ


คนเรามีปัญหากันหมดทุกคน

มีมากมีน้อยต่างกันไป

น้องก็เป็นหนึ่งในนั้น

ถ้าน้องรู้สึกเศร้ามากๆก็ต้องหาอะไร

ทำ ฟัง แก้เศร้านะครับ

ไม่ควรคิดสั้นทำลายมันนะครับ

"สู้ๆ"









4
Sspringlove 16 ก.ย. 61 เวลา 09:04 น. 8-1

หนูคิดบวกอยูาตลอดเวลาค่ะ แต่ปัญหาที่เป็นอยู่มาเกือบทั้งชีวิตที่ใช้มา มันไม่สามารถจะแก้ให้ได้จริงๆ ไม่อยากทนอยู่กับมันอีกต่อไป พ่อแม่ไม่ได้คิดอะไร แต่คนที่รู้สึกแย่มากๆ แย่ทุกครั้งที่เค้าทำแบบนั้น มันมีแค่หนูคนเดียว บางทีก็คิดว่า ถ้าตายไปไม่รู้สึกอะไรมันจะไม่ดีกว่าหรอ

0
Miran/Licht 16 ก.ย. 61 เวลา 09:07 น. 8-2

เราเป็นคนมีปัญหากับ 'เสียง' ค่ะ ปกติถ้าเป็นเสียงอัดของตัวเองจะทนฟังไม่ได้ (มีการอธิบายทางวิทยาศาสตร์อยู่ค่ะ ฮา) แต่เสียงคนอื่นไม่ค่อยเท่าไร มีบ้างแต่ไม่มาก อย่างล่าสุดไปสมัครคอร์สออนไลน์ที่ทราบกันว่าต้องเรียนผ่านคลิบแล้วพบว่า เราไม่ถูกกับเสียงและลักษณะการพูดของคนสอนค่ะ เขาพูดไม่ชัดไม่เต็มคำ และเราเดาว่าคนพูดคงดัดฟันอยู่ ตอนแรกไม่เห็นหน้า พอเห็นหน้าแล้วชัดเจนเลยใส่เหล็กดัดฟันจริงๆ แต่เราก็อดทนฟังจนจบเพราะเห็นว่ามีประโยชน์ จนเขาอัพแบบมีข้อความให้ด้วยรู้สึกค่อยยังชั่ว


ส่วนเสียงสวดมนต์นั้นใช่ว่าเราจะฟังได้ทุกคลิบค่ะ ต้องหาอันที่เหมาะและฟังได้ยาวๆ (เรื่องมากเนอะ)


ตย. ที่ฟังได้




อันนี้คือ เราชอบตรงเทศน์แล้วมีแปลเป็นภาษาเยอรมันด้วยค่ะ ท่านพยายามแปลได้ดีมากเลยค่ะ 2 ภาษาฟังเพลินมาก



0
G.Tenju 16 ก.ย. 61 เวลา 09:12 น. 8-3

การฟังบทสวดเพื่อบรรเทาใจจะได้ผลดีกับคนสาย Auditiory (ถนัดสื่อสารผ่านเสียง + เข้าใจได้ด้วยการฟัง) ที่มีจำนวนประชากรแค่ 5% บนโลกครับ


ส่วน จขกท. เท่าที่สังเกตคร่าวๆแล้วเป็น Kinesthetic (ถนัดสื่อสารผ่านการสัมผัส + เข้าใจได้ด้วยการลงมือทำ) ให้ปฏิบัติธรรมจะเก็ทง่ายกว่ามาก เพราะจะสัมผัสอารมณ์ทางความรู้สึกตัวเองได้ไว

0
kks25151 16 ก.ย. 61 เวลา 15:09 น. 8-4

เอิ่ม..พี่หมดปัญญาแล้วแหะ

น้องลองคิดว่าตัวเองเป็นนางเอกของชีวิตนี้

คิดว่าตัวเองเป็นตัวเอก จงมองว่าปัญหาที่น้องพบเจอ

เหมือนบททดสอบให้น้องกลายเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ ถ้าน้องผ่านมันไปได้น้องจะเป็นคนที่แข็งแกร่งขึ้น


พี่อยากให้น้องอดทน พี่อยากจะบอกว่า

จงสู้เพราะเราคือตัวเอกของชีวิตนี้

อย่าทำร้ายตัวเองด้วยความคิดของตัวเองนะครับ

สู้ๆ


อาจดูไร้สาระในสายตาคนอื่นแต่พี่ชอบคิดกับตัวเองแบบนี้

แล้วพี่รู้สึกเหมือนกล้าเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่กล้า ทำให้เชื่อมั่นในตัวเอง






0
นิลิล 16 ก.ย. 61 เวลา 11:59 น. 9

พี่อ่านแล้วสงสารหนูมากเลย ในฐานะคนที่เป็นโรคซึมเศร้า พี่เข้าใจความรู้สึกของหนูในระดับนึง และอยากแนะนำว่า คนที่หนูควรจะคุยด้วยมากที่สุด คือ จิตแพทย์ค่ะ


สำหรับเด็กอายุ14 ไปพบแพทย์โดยไม่มีผู้ปกครอง พี่คิดว่าไม่น่าเป็นปัญหานะคะ ทางโรงพยาบาลน่าจะเข้าใจ


พี่แนะนำที่นึงที่คนไม่ค่อยพูดถึง นั่นคือ สถาบันประสาทวิทยา โรงพยาบาลรามาฯ ค่ะ พี่เองหาหมอที่นี่อยู่


ขั้นตอนการเดินทาง นั่งรถมาลงอนุสาวรีย์ค่ะ จากนั้นจะเดิน หรือ นั่งวิน หรือ นั่งแท็กซี่มาก็ได้ มาที่โรงพยาบาลรามาฯ ( ระยะทางไกลนิดหน่อย แต่ไม่ไกลเกินเดินจ้า ) ขึ้นสะพานลอยที่เชื่อมไปที่โรงพยาบาลรามา ลงตรงอาคารสมเด็จพระเทพฯ สถาบันประสาทฯ จะอยู่ติดๆกัน เดินจากอาคารสมเด็จพระเทพฯ มาไม่ไกล ก็จะเจอสถาบันประสาทค่ะ ( ถ้ากลัวหลง เปิดกูเกิ้ลแมพมาได้ค่ะ )


วันธรรมดา มาตอนเช้า ก่อน 11 โมง พอมาถึงสถาบันประสาทปุ๊บ หนูเข้าไปกรอกประวัติ ทำบัตร เล่าปัญหาคร่าวๆให้พยาบาลฟัง ขั้นตอนต่อๆมา เค้าจะแนะนำหนูว่าต้องทำยังไง จากนั้นรอคิวพบแพทย์ค่ะ อาจจะรอนานหน่อย เพราะคนไข้เยอะ พอได้เจอหมอ ให้เล่าเรื่องที่หนูเจอมาให้หมอฟัง หนูทำอะไรมาบ้าง เล่าให้หมด เล่าตามความจริงนะคะ ไม่ต้องกลัวคุณหมอจะดุ เพราะคุณหมอเค้าเข้าใจว่าทำไมเราถึงทำ


พอเสร็จจากคุณหมอ หนูก็ไปจ่ายเงิน รอรับยา เตรียมเงินค่ายามาประมาณ 1000 บาทค่ะ ( พี่ไม่แน่ใจว่าอาการหนูต้องใช้ยากี่ตัว เตรียมมาเผื่อเหลือ ดีกว่าเผื่อขาดเนอะ^^ อาจจะไม่ถึงก็ได้ )


ส่วนเรื่องอาการป่วย พี่แนะนำให้รอคุยกับคุณหมอนะคะ อย่าปรึกษาอาการป่วยจากผู้ป่วยด้วยกัน อย่าลืมว่าเค้าคือ "คนป่วย" เค้าเองก็ยังต้องการแพทย์ อย่างตัวพี่เอง พี่แนะนำได้แค่ขั้นตอนการไปโรงพยาบาล ไม่สามารถให้คำปรึกษาเรื่องอาการป่วยได้ เพราะพี่เองยังเอาตัวไม่รอด ยังต้องพบแพทย์ ต้องกินยาเหมือนกัน เพราะฉะนั้น หนูต้องรอปรึกษาแพทย์โดยตรงนะลูก


สู้ๆนะคะ ขอให้หนูผ่านมันไปให้ได้

1
Sspringlove 16 ก.ย. 61 เวลา 18:39 น. 9-1

ขอบคุณมากๆ นะคะ ขอบคุณมากที่เข้าใจแล้วก็ให้คำตอบได้ตรงจุด ขอบคุณค่ะ

0
Issaran 16 ก.ย. 61 เวลา 12:18 น. 10

เห็นด้วยกับคอมเมนต์ท่านอื่นๆ ค่ะ ควรหาเวลาว่างไปพบจิตแพทย์ เพื่อประเมินเบื้องต้นก่อนว่ามีภาวะที่ต้องรักษาด้วยยาหรือไม่ ซึ่งภาวะนั้นอาจจะเป็นโรคซึมเศร้าหรืออย่างอื่นก็ได้ค่ะ


ถ้าไม่ได้อยู่ในกลุ่มอาการที่ต้องใช้ยาช่วย คืออาศัยการพูดคุยหรือทำจิตบำบัดอย่างเดียวได้เลย จิตแพทย์อาจจะส่งพบนักจิตวิทยาต่อค่ะ


อายุต่ำกว่า 18 ปีก็สามารถไปพบจิตแพทย์เองได้ เตรียมบัตรประชาชนไปด้วย

แต่ถ้ามีผู้ใหญ่สักคนที่พอเข้าใจไปด้วย อาจจะเป็นญาติหรืออาจารย์ ก็จะได้ประโยชน์ตรงที่หมอช่วยแนะนำเรื่องการดูแลคุณได้ อย่างที่คุณมิรันบอก หรือจะชวนเพื่อนสนิทมาสักคนก็ได้ค่ะ


และถ้าหมอประเมินว่าควรนอนโรงพยาบาลก่อน ทางเจ้าหน้าที่จะติดต่อญาติให้ค่ะ คุณไม่ต้องโทรเอง และญาติไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธการรักษาของคุณด้วยค่ะ คุณมีพรบ.สุขภาพจิตคุ้มครองอยู่


แนะนำไปรพ.ของรัฐเพราะค่าใช้จ่ายน้อยกว่า แต่คิวยาว รอนานหน่อย และเวลาคุยแต่ละครั้งอาจไม่มาก แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะได้แก้ปัญหาของคุณจขกท.ค่ะ


รพ.ที่มีจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1212330558870958&id=483246708446017

1
B.baek#allbaek04 16 ก.ย. 61 เวลา 15:32 น. 11

เราเข้าใจเพราะเราก็เคยเป็นตอนนี้จะ14ปัญหาเริ่มเข้าหาพ่อเเม่มีน้องใหม่เขาไม่ใส่ใจเราด้วยความที่ว่าเคยเป็นรู้คนเดียวไม่เคยโดนด่าพอมีน้องอยู่ๆน้องร้องไห้เองพ่อด่า อีสัตว์ อีเด็กเ-ย จะตบ หรือไม่ก็เอาน้ำร้อนมาเท ทำให้เราคิดตกว่าควรอยู่ดีไหมไม่มีใครต้องการเราเเล้วนี้ เราเป็นคนเรียนเก่ง ออกจะร่าเริง(บ้า)เมื่ออยู่ที่รร. เเต่เมื่ออยู่บ้านเราจะอยู่คนเดียวยิ่งมีน้องยิ่งไม่ได้ออกไปเจอเพื่อน เเล้วเพื่อนก็ไม่มาหาเพราะพ่อ ของเรา เราร้องไห้เเทบทุกวันในห้องน้ำจนเริ่มกลายเป็นคนเย็นชาเพราะไม่อยากให้ใครเห็นความอ่อนเเอของตัวเอง เรามีปู่ กับ ย่า เเละอาเป็นคนมห้คำปรึกษาในบางครั้งเวลาเราไปหาเขาเขาจะพูดว่ามีอะไรบอกอาได้นะ เท่านั้นเเหละน้ำตามันไหลเลย เราเกลียดตัวเองที่ห้ามมันไม่ได้เราได้เเต่กอดเขาเเล้วร้องไห้ เวลาเราคิดฆ่าตัวตายเราจะคิดว่าถ้าเราอยู่เราจะเป็นหมอ เราจะไปให้ไกล จะทำให้เขาเสียใจที่ทำให้เราเป็นเเบบนี้ เราจะคิดเเบบนี้มาตลอด เราจะไม่ทำให้ตัวเองว่าง เอาจะอ่านนิยาย เรียน วีดEXO บลาๆเราก็จะไม่คิดถึงมัน มันค่อยๆน้อยลงไปเราพยายามปรับตัว จนตอนนี้ผ่านมา5-6เดือนตอนนี้เราokเเล้วเราไม่คิดถึงมันเเล้วทุกอย่างจะดีขึ้นถ้าเราก้าวผ่านกำเเพงที่เราสร้างไว้กำเเพงพุๆพังนั้นไม่ได้ดีอ่ะไรหรอก้าวผ่านกำเเพงนั้นมาให้ได้เเล้วเธอจะรู้ว่ามันไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด

1
kAew Dek-D Columnist 16 ก.ย. 61 เวลา 21:19 น. 12

ถ้ามีเวลาว่าง สะดวกก็ไปพบทันทีได้เลยค่ะ ไปคนเดียวได้ ไม่น่ากลัว ไม่ยุ่งยาก ลองหาโรงพยาบาลใกล้บ้าน จะได้เดินทางไปรักษาได้อย่างต่อเนื่องสะดวกๆ

0
ราชินีคือข้า 7 ต.ค. 61 เวลา 21:39 น. 13

เราก็มีปัญหาแบบนี้เหมือนกันค่ะ

เคยอยากที่จะตายหลายครั้งมากเลยค่ะ

ตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้ชีวิตก็ทำทุกอย่างที่พ่อแม่ต้องการมาตลอดเลยค่ะ

แต่ว่าสำหรับพวกท่านก็ไม่เคยดีเลยค่ะ

เป็นลูกคนกลางนะคะแต่รู้สึกว่าเหมือนโดนคาดหวังอยู่คนเดียว

คือแบบเราต้องทำทุกอย่างให้ดี ไม่ว่าจะเรียนหรือเรื่องที่บ้าน

บางทีเราก็อยากพักนะ คือพี่ชายเองก็ไม่ได้เรียนดี งานบ้านก็ไม่เอา ติดเกมติดเพื่อน แต่ก็ไม่เคยบ่นว่าอะไร

กับน้องสาวยิ่งแล้วใหญ่เลยค่ะ ตามใจน้องมาก น้องแกล้งเราเอาของเราไปไม่ว่าไม่กล่าวเลยค่ะ แต่ถ้าเราสอนน้องให้ทำตัวดีสิ่งนี้ไม่เรากลับโดนแม่ว่าแม่ทำโทษ

เมื่อก่อนเพราะได้เจอนิยาย กับอนิเมะ แต่เดี่ยวนี้เองก็ไม่ค่อยที่จะยึดเหนียวเราได้แล้ว

คงเพราะปัญหามันยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ

ทุกครั้งที่เราร้องไห้เราก้เราก็ไม่บอกพ่อแม่นะ บางทีเราก็อ้างว่านิยายมันซึ้งมากทั้งทีไม่ได้อ่านอยู่เลยก็มี

เราเคยถามตัวเองนะว่าเราเกิดมาทำไม และทุกครั้งก็ไม่เคยรู้คำตอบเลยค่ะ

เราตั้งใจทำทุกอย่างให้พวกเขาภูมิใจ ทำทุกอย่างที่เขาบอก ทุกอย่างที่เขาต้องการ แต่เขากับไม่เคยสนใจความรู้สึกเราเลยค่ะ

เราเองก็เคยลองอยากเอามีดปาดคอตัวเอง พอจะทำแล้วตัวเองก็ต้องพลาดทุกที คงเพราะมีคนมาเจอทุกครั้งเลยละมั้ง

เราไม่ชอบให้ใครทำเราเจ็บนะคะ แต่เรากลับเคยใช้คัตเตอร์กรีดตัวเองจนเรื่องออกเลยค่ะ เรากลับรู้สึกดี

พอมีคนมาเจอก็บอกว่าเผลอทำคัตเตอร์บาดซะงั้น เราก็เคยคิดเรื่องอยากพบจิตแพทย์นะ แต่กลัวว่าถ้าเราเป็นจิงๆ พ่อแม่จะรับได้มั้ยนะที่เราเป็นแบบนี้ เราจะไม่จะโดนพวกเขารังเกียจใช้มั้ย ทุกอย่างจะไม่แย่กว่าเดิมใช้มั้ย

ปล.เราก็อายุ14ค่ะ

0