นิยายเรื่องโปรดและเป็นแรงบันดาลใจของทุกท่านคือ?
ตั้งกระทู้ใหม่
คุณต้องการจะลบกระทู้นี้หรือไม่ ?
29 ความคิดเห็น
Cultivation Chat Group ห้องแชทผู้บําเพ็ญตน นะ
เพอร์ซี แจ็คสันค่ะ
เรื่องโปรด - เป็นนิยายของตัวเอง
เรื่องที่เป็นแรงบันดาลใจ - ทวิธราดล และ My Wolf หมาป่าในดวงใจ
ถ้าเรื่องแรกที่ทำให้เขียนนิยายก็บารามอสค่ะ
แรงบันดาลใจ - แฮรี่ พอตเตอร์ , เซวีน่า
เรื่องโปรด - คุณหมอครับผมมารับวิญญาณคนไข้ , การุณยฆาต , สัญญารักพัลวันของนังซิน
(ทำไมทุกเรื่องมีแต่หมอ เหอๆ)
น่ารักที่สุดน้องชม ^^
อ้ะ แถวนี้มีหมอหรือเปล่าครับ ขอถามอะไรหน่อย
สมมติว่ามีดบาดนิ้ว(กำลังหั่นผัก) กว่าแผลจะหายต้องใช้เวลาประมาณไหนเหรอครับ
ในเว็บอื่นๆ ข้อมูลมันไม่ค่อยตรงกับที่กำลังหาอยู่น่ะครับ ไม่ได้เป็นแผลมานานแล้วด้วย
-แผลสมานตัว ใช้งานนิ้วได้ตามปกติ ใช้เวลาราวๆ 2 วันหรือเปล่าครับ
-แผลหายสนิทดี ใช้เวลาราวๆ 3-4 หรือเปล่าครับ
คือผมมีตัวละครที่สามารถรักษาบาดแผลได้เร็วราว10เท่าของคนปกติน่ะครับ โดนยิงที่หัวไหล่ จะได้คำนวณเวลาแผลหายดี สามารถใช้งานหัวไหล่ได้เกือบเต็มร้อยเปอร์เซนต์ สัก 5 ชั่วโมงนี่เวอร์ไปไหมครับ
คือผมมีตัวละครที่สามารถรักษาบาดแผลได้เร็วราว10เท่าของคนปกติน่ะครับ โดนยิงที่หัวไหล่ จะได้คำนวณเวลาแผลหายดี สามารถใช้งานหัวไหล่ได้เกือบเต็มร้อยเปอร์เซนต์ สัก 5 ชั่วโมงนี่เวอร์ไปไหมครับ//วูฟเวอรีน X-men????
คนปกติแผลทำครัวบาดไม่ลึก 4-5 วัน //จริงๆขึ้นอยู่กับความลึก กับการดูแลตัวเองหลังจากนั้น
ถ้าแผลเย็บ 7 วัน (นิ้วนะ) //ไม่ใช่หมอตอบได้ปะ
วูล์ฟเวอรีนมันเทพไปครับ
ผมให้อะไรก็ตามของคนปกติเป็น 100% แล้วพวกคนที่เหนือปกติก็จะอยู่ที่ 101-1,000% แบบนี้อะครับ
ส่วนเรื่องความลึกของแผล อันนั้นก็จะพยายามบวก ลบ คูณ หารเข้าไปอีกทีครับ
ชอบ หนุ่มเหงาสาวหวานสานฝันหัวใจค่ะ ยืนหนึ่งมาเลย
ส่วนรองๆลงมาชอบพวกไลท์โนเวล เพราะส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับแฟนตาซี อะไรแฟนตาซีๆ หน่อยเราก็ชอบไปหมด ถ้าตรงสเปคน่ะนะ
เราชอบนิยายภาษาย่อยง่ายค่ะ ส่วนนิยายรุ่นใหญ่ที่เขานิยมอ่านกันเราอ่านไม่ค่อยได้ สมาธิต่ำม้ากกก 555
แรงบันใจหลักต้องให้ LNพี่น้องปริศนาโรงเรียนมหาเวทย์ แต่การต่อสู้ นี่ต้อง โจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษ
ชอบสี่แผ่นดินอ่ะ
ชอบเพราะภาษาสวย ละเมียดละมัยแต่ไม่ยืดเยื้อ
บัลดาลใจ - A Certain Magical Index
เรื่องโปรด - Heavy Object
นักเขียนที่ชื่นชอบ - Kamachi Kazuma
Harry Potter
Colorful เมื่อสวรรค์ให้รางวัลผม
มากมายเลยล่ะครับ ทั้งเรื่องโปรด ทั้งเรื่องที่นำมาใช้เป็นแรงบันดาลใจ
ถ้าจะลองให้ไล่เรียงก็..
เซวีน่า มหานครแห่งมนตรา โดย กัลฐิดา
ราชาแห่งราชัน โดย จางอวิ๋น
ศาสตราคู่กู้แผ่นดิน โดย มือเดียวค้ำฟ้า
Pride Online [สงครามออนไลน์อลเวง] โดย MaSaLaN
ลำนำเทพอสูร โดย เทพสงครามจักรกล
Ragnarok Fiction - The legend of descendant โดย K.W.E.
ที่จริงมีอีก.. แต่รายการข้างต้นน่าจะมีอิทธิพลสูงที่สุดในการเขียนนิยายของผมครับ
แรงบันดาลใจในการเขียนนิยายคือ หัวขโมยแห่งบารามอส โดยคุณแรบบิตค่ะ
ตอนนี้เสียใจมากที่คุณแรบบิตออกจากวงการไปแล้ว ความฝันเล็กๆ ของเราตั้งแต่ประถมเลยเป็นไปไม่ได้เลย T_T เราอยากให้เขาเซ็นนิยายให้เราทั้งห้าเล่มรวมไกด์บุ๊กให้เรามากๆ! เราจะเก็บมาเป็นคอลเลกชันขึ้นหิ้งอ้ะ!
ส่วนนักเขียนในดวงใจ ปัจจุบันคืออ.จุน โมจิสึกิ (Pandora Hearts) และสุ่ยเฉวียน (The Sunken Moon, Wind With Voices) ค่ะ
เรื่องแรกที่จำความได้และทำให้หลงรักตัวอักษร : เทพนิยายกริมม์ เล่มหนาๆเข้ากี่ สันสีฟ้าเข้ม จากนั้นก็หลงทางในแดนจินตนาการมาตลอด
โตขึ้นมาหน่อย หลงทางในเพชรพระอุมา อ่านตามพ่อ แย่งกันอ่าน เป็นความทรงจำที่ดีมาก “ลุกเสียม้า”...ม้านั่งที่นั่งอ่านนิยายได้สบายที่สุดในบ้าน” ปิดเทอม ไม่ต้องทำอะไรนอกจากนอนเขลงข้าง ๆ กองหนังสือนิยายชั้นครู อ่านนิยายมันโต้รุ่งไปเลย ทำไมนักเขียนคนนี้เขียนได้สนุกขนาดนี้นะ รักเลย อาจจะเป็นจุดที่อยากเริ่มเขียนบ้างละมั้ง
ม.ปลาย คลาสวาดรูป เลือกวาดการ์ตูนเป็นหน้าๆ แต่งเป็นเรื่องราวแบบอนิเมะ การ์ตูนเรื่องสั้นขนาด 15 หน้า a4 เริ่มแต่งนิยายเป็นแล้ว เอ...เหมือนจะเป็นนิยายวายเล็กๆ ที่ได้อิทธิพลจากลำนำต่างพิภพ 555
มหาลัย ไม่แต่งนิยาย ไม่วาดการ์ตูน เรียนหนักมาก แต่ยังขนนิยายกลับบ้านไปอ่านเสาร์อาทิตย์ เป็นสิบๆเล่มใส่ถุงผ้ากลับบ้าน
ปัจจุบัน เครียดการเรียนเลยหนีมาสร้างโลกใหม่ขึ้นมาเอง 1 ใบ โลกที่จินตนาการไร้ขีดจำกัด โลกที่เราจะบอกอะไรกับคนอ่านได้ โลกที่นิยายให้ข้อคิดอะไรได้มากกว่าตบตีแย่งผู้ชาย โลกที่นางเอกพระเอกต้องทำงาน แล้วก็เลยมาจนถึงตอนนี้ 7 เดือนแล้วบนถนนสายนี้ กับนิยาย 4 เรื่องในคลัง และเรื่องที่ 5 แนวเทพเซียนจีนที่กำลังออกจากไห...เร็วๆนี้
ช่วงเครียดๆ จะทำให้เขียนนิยายได้บรรเจิดค่ะ เคยมาแล้วเหมือนกัน 555
เหมือนชีวิตต้องการสร้างสมดุลให้ตัวเองมั้งคะ จากสมการเป็นสิบๆหน้า ขอเขียนตัวอักษรดีกว่าก่อนที่ตัวเองจะกลายเป็นหุ่นยนต์ที่พิมพ์สมการได้
ช่วงที่เราเรียนด้วย ทำงานด้วย สอนหนังสือด้วย ตอนนั้นโหดมาก แต่ยิ่งช่วงกดดันแบบนี้ยิ่งอยากเขียนนะคะ ได้ออกมาหลายอยู่
ตอนนี้ไม่ต้องเรียน ไม่ต้องสอน นอนผึ่งพุง เวลาเหลือด้วยซ้ำ แต่ไม่อยากแตะงานเขียนซะงั้น ^^”
เลยเห็นด้วยว่าอาจจะหาทางรอดแก้เครียดหาสมดุลให้ชีวิตก็เป็นได้ พอตอนนี้ไม่เครียดแล้วเลยไม่อยากผลิตงานใดๆ
นิยายที่เป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้เขียนนิยายคือ มนตร์ทศทิศค่ะ ชอบมากเลย ส่วนนิยายเรื่องโปรดนั้นมีหลายเรื่อง ส่วนใหญ่จะชอบอ่านแนวอิงประวัติศาสตร์ เช่น
จันทราอุษาคเนย์ รัตนโกสินทร์ ราตรีประดับดาว และ กิ่งไผ่ใบรักค่ะ
ไม่ได้มีเรื่องไหนที่ให้แรงบันดาลใจเป็นพิเศษจนทำให้ลุกขึ้นมาจับปากกานะคะ เท่าที่นึกออก และอนุมานว่าน่าจะเป็นไปได้
เป็นเรื่องคลาสสิคทั้งคู่นะคะ
เรื่องแรก : "A Diary of Nobody" โดย George and Weedon Grossmith พิมพ์ปี 1892
--- เอาจริงๆ นะ ลืมเนื้อเรื่องไปแล้วล่ะ แต่สิ่งที่จำได้คือสารที่อยู่ในหนังสือนั้น และกระทบใจค่อนข้างมากค่ะ ยังติดใจจนถึงตอนนี้ซึ่งอ่านมาจะยี่สิบปีอยู่แล้ว และกลายเป็นธีมในงานเขียนของตัวเองหลายเรื่องอยู่
อีกเรื่อง : "A Painful Case" หนึ่งในเรื่องสั้นชุด "Dubliners" โดย James Joyce พิมพ์ปี 1914
--- แม้ว่าเรื่องสั้นชุดนี้เรื่องที่ดังที่สุดคือ "The Dead" แต่ไม่เคยอ่าน ไม่อยากอ่าน บ่องตง แค่ Painful case ก็ทำให้ชีวิต Painful พอแล้ว เข้าใจว่าเพราะเรื่องนี้ ทำให้งานเขียนสมัยตั้งไข่เป็นแนวเรื่องสั้นทั้งนั้น และสั่งสมความถนัดในการเขียนเรื่องสั้นมากกว่านิยาย ทั้งที่ตัวเองน่าจะอ่านนิยายประมาณสัก 75% ของหนังสือที่อ่านมาทั้งชีวิตนะ
เหมือนเรากำลังต่อภาพจากจิ๊กซอว์ที่ค่อยๆสะสมมาตลอดทั้งชีวิตเลยนะคะคุณหนิง บางทีก็บอกยากว่าเราสร้างวันที่จับปากกาวันแรกได้ยังไง ทุกอย่างที่อ่านมันหลอมรวมลงมาเป็นตัวอักษรที่มีกลิ่นอายเฉพาะของเราเอง โดยที่เราก็ควบคุมไม่ได้เหมือนกัน ;)
ใช่ค่ะ มันสะสมจนตกผลึกแล้วถึงค่อยเขียน
แค่จะมาตกผลึกที่ตรงเรื่องไหนพอดีมากกว่า
มันเยอะมากค่ะ เอาเป็นว่าตามในกระทู้นี้ เรื่องไหนที่เราหวีดหนักๆ แปลว่าชอบเป็นพิเศษค่ะ
(จากพี่ถึงน้อง) นิยายชั้นครูที่อยากให้น้องๆได้ลองอ่าน
https://www.dek-d.com/board/view/3927515/
ในทู้นั้นออกทะเลอ่าวไทยจากพนมเทียน ทมยันตี ลามย้อนยุคไปถึงทะเลจีนเข้าสู่จักรวาลกิมย้ง โกวเล้ง แล้วกระโดดวืดดดไปทะเลทรายของเหล่าชีคทั้งหลาย ดิ่งลงนาฬิกาทรายแห่งเวลาย้อนยุคไปสมัยสี่แผ่นดิน และข้ามไปอนาคตแฟนตาซีมากมาย 555 จบลงด้วยขนมโดราเอมอนที่เก็บการ์ดสะสมใช่ไหมคะ 555
Harry Potter กับ Princess Diaries ทำให้อยากเป็นนักเขียนจนทุกวันนี้
แต่พอโตขึ้นอ่านงานหลายท่านก็ขึ้น ก็มีไอดอลเพิ่มขึ้น แต่แรกเริ่มคือสองเรื่องนี้
ถ้าในเว็บนี้ นิยายเรื่องโปรด คือ จิ่นเสวี่ยนหวาง ของ Leeau ชอบมากทั้งที่ยังไม่จบ รอมา 2 ปี และยังคงรอต่อ ฮ่า ฮ่า
สำหรับนิยายที่เป็นแรงบันดาลใจให้อยากเรียนภ.ฝรั่งเศสเพิ่มขึ้นอีกสักภาษาหนึ่ง ก็คือ Le Petit Prince หรือเจ้าชายน้อย ของ อ็องตวน เดอ แซ็งแตกซูว์เปรี
นิยายที่ทำให้รู้สึกว่าการเขียนจ.ม.ช่างโรแมนติค และเป็นแรงบันดาลใจทำให้อยากตามหาดอกไม้ที่เป็นเสมือนตัวแทนของนางเอก ซึ่งได้แก่ ดอกหยาดฝน คือ ในฝัน ของ โรสลาเรน ยิ่งฉากที่พระเอกถูกลอบสังหารและก่อนสิ้นใจได้โน้มดอกหยาดฝนมาแนบอก น่าเศร้าจริงๆ ผ่านไปหลายปี ในที่สุดก็หาเจอ และคิดว่านี่แหละใช่ เมื่อไปเที่ยวคามาคุระ คนญี่ปุ่นเรียกว่า ดอก “อาจิไซ” ขึ้นเป็นดง ชูช่อสีน้ำเงิน ฟ้า คราม และม่วง สวยมากแถมยังชอบฝนยิ่งกว่าอะไร
และนิยายที่เป็นแรงบันดาลใจให้เข้ามาหานิยายอ่านในเว็บเด็กดี ก็คือ คิวบิก ของ B 13 s.t หลังจากที่อ่านอีบุ๊กจบทั้ง 4 เล่ม ก็รู้สึกชอบการใช้ภาษาง่ายๆ ความเป็นไปที่แหวกขนบและการประชดหลายต่อหลายสิ่งได้อย่างน่าประทับใจ ว่ากันว่านิยายเรื่องนี้โผล่มาจากเว็บนี้ และนี่คือเครดิตที่ทำให้เชื่อว่าอาจจะเจอนิยายที่สร้างปรากฏการณ์คล้ายๆแบบนี้อีก…ที่นี่
Fate And Relation ภาค ผู้เฝ้ามองธรรมด๊า…ธรรมดาคนนึง
จุดเริ่มต้นของการกลายเป็นหนอนหนังสือ ถึงจะเจอเรื่องที่สนุกกว่า แต่เรื่องนี้ก็เป็นที่หนึ่งในดวงใจเสมอครับ
และเป็นแรงบัลดาลใจให้มาเป็นนักเขียน
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?