อยากเขียนนิยายส่งตัวเองเรียนอะครับ
ตั้งกระทู้ใหม่
แต่ทำเรื่องกู้ กยศ.อะครับ แต่ติดตรงมันไม่น่าจะพอ
เลยอยากจะเขียนนิยายเว็บเด็กดี เพื่อเป็นค่าหอ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ากินอยู่ด้วย อะครับ จะได้ไหม เห็นว่าเว็บนิยายเด็กดี สามารถขายนิยายได้ แต่ผมก็อ่จจะไม่หวังมากนัก ตอนนี้ผมทำงานพิเศษอยู่อะครับ กว่าจะไปเรียนก็ พฤศจิกายน เลยทำงานอยู่หอกับเพื่อน
ตอนนี้พยายามเขียนนิยาย อ่านหนังสือ ทำงาน ไปด้วยอะครับ อยากถามว่าเขียนนิยายมันขายยังไง
ได้เงินยังไง เท่าไหร่ ในใจอยากจะได้เดือนละ
4,000 - 6,000 พอเลย ( รายได้จากเขียนนิยาย ) ถ้าเป็นไปได้ เห็นเคยอ่านเจออะครับ ส่วยเรื่งเรียนก็คิดว่าจะเรียนเอกชนไปสักปีก่อนแล้วค่อยซิ่วไปอะครับ
ใครมีวิธีจากการหาเงินจากนิยายเด็กดีบอกหน่อยนะครับ
N_Tarn
29 ม.ค. 63 เวลา 17:20 น.
5,815
views
16 ความคิดเห็น
ยังไม่เคยเห็นงานเขียนคุณเลยสามารถฟันธงได้ว่า ได้หรือไม่ค่ะ
คุณควรจะคิดว่า คุณจะใช้เวลาในการเขียนนิยายวันละเท่าไร คุณสามารถทุ่มให้การเขียนได้มากแค่ไหน นิยายไม่ใช่สักแต่เขียนแล้วมันจะออกมาดี
ส่วนใหญ่นักเขียนจึงเริ่มจากการสร้างฐานแฟนคลับก่อนค่ะ ซึ่งใช้เวลาไม่แน่นอนนักหรอก แต่ถ้าคุณเป็นนักเขียนที่มีวินัยดี เช่น ลงทุกวัน หรือลงสม่ำเสมอ เขียนจบ ก็จะมีแฟนคลับรักค่ะ
ส่วนการขาย คุณสามารถขายนิยายได้พร้อม ๆ กันหลาย ๆ แพลทฟอร์ม เช่น ลงที่เด็กดี ธัญ ฟิกชั่นล็อก รีดอะไรท์ ซึ่งแต่ละที่จะมีข้อแม้ต่างกัน อย่างเด็กดีห้าม 18+ และต้องเขียนให้จบถึงขายเป็นแพ็คได้ การจะขายตอนล่วงหน้าต้องมีแฟนคลับ
สงสัยอะไรโปรดอ่านในนี้
การเริ่มเขียนนิยาย
https://www.dek-d.com/board/view/3573361
การขายนิยาย
https://www.dek-d.com/writer/academy/selling
แบบรวม ๆ https://www.dek-d.com/writer/help
เว็บอื่นก็ดูในแต่ละเว็บ เขามีบอกอยู่ค่ะ
ส่วนวิธีการเขียนนิยายให้ดี คงเริ่มจากการเป็นนักอ่านที่ดีล่ะค่ะ
เรามือใหม่มาสามปีแล้วค่ะ เป็นนักเขียนขายไม่ค่อยออก มือไม่ขึ้น จั่วไพ่ก็เสีย หวยก็แดรก
เราเป็นหนึ่งในนักเขียนที่เขียนนิยายส่งตัวเองเรียนค่ะ คำแนะนำของเรานะคะ หากอยากจะลงมือทำอะไรสักอย่าง เราต้องศึกษาให้มากๆ ค่ะ และต้องตั้งใจจริงๆ ด้วยนะ เพราะคงไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ โดยไม่พยายาม ลองหากระทู้คำแนะนำการขายนิยาย ลองอ่านนิยายที่ติดท็อปขายดี เปิดอกเปิดโลกทุกอย่างแล้วนั่งศึกษา ตั้งแต่การใช้ภาษา การวางโครงเรื่อง รูปแบบ ไปจนการทำการตลาด ยิ่งทำการบ้านหนัก เราก็ยิ่งมีข้อมูลให้วางแผนเยอะ พอมีอะไรในมือเยอะ ไม่ว่ายังไงก็รู้สิ่งที่ต้องทำอยู่แล้ว (เราอาจจะไม่ได้มาชี้แจงบอกทีละข้อนะคะ เพราะเรื่องแบบนี้ถ้าศึกษาและลงมือทำด้วยตัวเอง คุณจะเข้าใจทุกอย่างเอง เก่งได้ด้วยตัวเอง) ที่สำคัญหลังจากการขายนิยายแล้ว เราที่เป็นนักเขียนต้องมีความรับผิดชอบต่องานสูงกว่าเดิม เนื่องจากนักอ่านที่อ่านนิยายของเรา เขาจ่ายเงินเพื่ออ่านงานเราแล้ว ดังนั้นต้องตั้งใจรักษาคุณภาพนิยาย รับฟังคำติชมอย่างมีเหตุผล และแสดงความจริงใจต่อผลงาน รวมถึงต่อนักอ่านของตัวเองให้มากที่สุดค่ะ เรามาแบ่งปันประสบการณ์นะ เผื่อจะมีกำลังใจในการทำตามจุดมุ่งหมายตัวเองมากขึ้น คำแนะนำของเราคืออย่ารีบตัดสินตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นฐานแฟนคลับหรือยอดวิวหรืออะไรก็แล้วแต่ เพราะเราไม่รู้เลยว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น เรายังจำได้ขึ้นใจ ช่วงหนึ่งเราหยุดแต่งนิยายด้วยความเหนื่อยจากหลายๆ อย่าง แถมเพิ่งเปิดเทอม ต้องจ่ายค่านู่นนี่นั่น จนเดือนนั้นเหลือเงินในบัญชีแค่ 500 (เราเด็กหอค่ะ แล้วก็ไม่อยากรบกวนเงินพ่อแม่) สุดท้ายเราเลยต้องกลับมาแต่งนิยาย และด้วยความตั้งใจสุดๆ ของตัวเอง ในเดือนต่อมาเรามีรายได้จากการขายนิยายอยู่ที่ห้าหลักปลายๆ ค่ะ แต่ถ้ารวมกับเดือนถัดไปก็ถึงหกหลัก ชีิวิตพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือในเวลาแค่เดือนเดียว รูมเมทเรายังงงว่าเดือนที่แล้วกินมาม่า เดือนต่อมาซื้อกุชชี่ (เราไม่ได้ฟุ่มเฟือยนะ แต่เราให้กำลังใจจากความเหนื่อยของตัวเอง) ซึ่งสิ่งที่ได้มาไม่ง่ายเลย ตอนนั้นเหนื่อยมาก แต่ก็ได้ประสบการณ์มาเยอะมากเช่นกัน ดังนั้นสู้ๆ นะคะ เริ่มแรกอาจจะเหนื่อยหน่อย แต่ถ้าตั้งใจจริง เดี๋ยวก็เก่งขึ้นเองนะ
โห เดือนที่แล้วกินมาม่า เดือนต่อมากินกุชชี่ // ล้อเล่นนะ
เก่งมากเลย ขอชื่นชมจากหัวใจ
ขอบคุณมากเลยนะครับ ขอบคุณมากจริงๆแล้วจะขายยังไงหรอครับคือเขียนไปแล้วมีคนอ่าน 8 คนแต่ไม่มีเงินเข่าเลยครับ ผมเขียนในนักเขียนเด็กดีอะครับ
ก่อนจะขายนิยายนะครับ ต้องแต่งนิยายให้จบก่อน เสร็จแล้วจึงสร้างแพ็คเกจส่งให้ทางเด็กดีพิจารณา เมื่อทางทีมงานพิจารณาเรียบร้อย คุณนักเขียนก็จะสามารถเปิดขายได้ครับ ยอดวิวการอ่านเป็นเพียงค่าตัวเลขครับ บ่งบอกว่่านิยายได้รับความนิยมยังไงครับผม https://www.dek-d.com/writer/52292/ นี่ลิงก์การทำแพคเกจครับ
วาดรูปปกเองหรอครับ?
ขอบคุณนะครับ
เราว่าการเขียนนิยายแล้วขายได้ สมมติว่าต้องการเดือนละสี่พันถึงหกพันอย่างที่คุณว่านั้น ก็มีทั้งคนที่ทำได้และคนที่ทำไม่ได้ แต่คุณลองดูก็ไม่เสียหายนะคะ จะได้รู้ว่ามันเป็นยังไง
.
โดยส่วนตัว ยังไม่เคยคิดเสี่ยงเพื่อเขียนนิยายหาเงินดำรงชีพในแต่ละเดือนเลย เราเขียนเป็นงานอดิเรกเฉย ๆ เพราะรู้สึกว่ามันยากมาก มันก็เหมือนการขายอะไรสักอย่าง ขายอะไรคนถึงจะชอบ จะซื้อ จะได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ อยากแนะนำให้ไปทำงานพิเศษเป็นหลักนะคะ ด้วยเงินจำนวนที่ว่านั้นก็คงหาได้ไม่ยาก (เช่น สอนพิเศษ --เห็นเพื่อนทำอยู่)
ปล. ทำไมจะต้องเรียนเอกชนหนึ่งปีแล้วซิ่วล่ะคะ เราว่ามันเปลืองเงินเปล่า ๆ นา เอาเวลาไปหาเงินยังดีกว่าอีก จะได้ไม่ต้องโฟกัสหลายอย่าง
คือผมสอบไม่ติดอะครับ อีกอย่างการสอนพิเศษเพื่อนผมมันทำเยอะแล้ว
การเขียนนิยาย มันต้องใช้สมาธิมากอยู่ รวมทั้งข้อมูลในการเขียน ประสบการณ์ในการเขียนให้จบเรื่องก็สำคัญ
ถ้าเคยทำโครงการ สรุปโครงการ ก็มีแนวโน้มว่าจะตัดจบเป็น
รายได้ที่คุณตั้งเป้า โอเค มีทางเป็นไปได้ แต่หมายความว่าคุณ
อาจต้องมีนิยายในมือที่จบแล้ว 2-3 เรื่องขึ้นไป
ทุกวันนี้รายได้ของเราไม่ได้จากเรื่องที่แล้ว 100 %นะคะ
ได้ประมาณ 60 % อีก 40 % เป็นของเรื่องเก่าที่เราเปิดขาย
เราขาย 2 ที่ ในนี้กับmeb ถึงจะทำให้เราได้เงินตามเป้า
กรณีขายได้ 5000 บาท คุณต้องมียอดซื้อ เป็น100 ครั้ง
เพราะฉะนั้น เรื่องต้องสนุก พล๊อตดี อัพบ่อย ใส่ใจ และฐานแฟนคลับต้องแน่น
แนะนำให้ทำงานพิเศษที่มีอยู่ ดูจะเป็นน้ำเป็นเนื้อมากกว่า //สู้ๆค่ะ
ขอบคุณครับ เออคือเขียนไปในเว็บเด็กดีเขียนนิยายอะครับ แต่มัน 18+ นิดๆตะเป็นอะไรไหมครับแล้วผมมีคนอ่าน 8 คนครับแต่ขายไม่เป็นอะครับ
แต่งให้จบค่ะ กรณี 18 + ให้เลี่ยงใช้คำที่ไม่เสี่ยงกับการโดนแบนค่ะ
ยอดเท่าไหร่ไม่สนค่ะ แต่ขอให้อ่านภาพรวมจนจบแล้วสนุก ....ค่อยขายค่ะ
ถ้าตั้งเป้าขนาดนั้น ฐานแฟนคลับต้องมี เรื่องต้องสนุกเสียจนเงินในกระเป๋านักอ่านอยากจะกระเด็นเข้าหาเลยค่ะ ซึ่งก็ต้องใช้เวลาเหมือนกัน ขยัน อดทน ลงหลายเวบก็ดีนะคะ รายได้จะได้เข้าหลายทางหน่อย
ถ้าประสบการณ์เราเหรอ ถ้าเรื่องมันสนุก มันก็มีคนยอมจ่ายนะคะ แต่รายได้ในแต่ละเดือนนั้นไม่มีอะไรแน่นอนตายตัว เดือนนี้อาจจะสักหมื่น เดือนต่อไปมันก็อาจจะเหลือสักพัน และที่สำคัญคือ ต้องมีผลงานออกมาเรื่อย ๆ
ทำเป็นงานอดิเรกหรืออาชีพเสริมอ่ะได้ค่ะ แต่ถ้าจะจริงจังคงต้องทุ่มสุดตัวเหมือนกัน บางครั้งอาจต้องรอดวง โชค หรือจังหวะบ้าง เพราะไม่ได้หมายความว่า เขียนออกมาแล้วจะเปรี้ยงปร้างทันที
สู้ ๆ นะคะ ความคิดของคุณดีค่ะ เป็นกำลังใจให้
ขอบคุนมากครับแต่ดันเขียนออกแนว. 18+ ในเว็บเด็กดีนักเขียนอะเป็นอะไรไหมครับ แต่คนอ่าน 8 คนอะครับ
วิธีสร้างฐานแฟนคลับที่ง่ายและไวที่สุดคือต้องศึกษา "ตลาด" ในเว็บนั้นๆ
- คนชอบอ่านอะไร
- นิยายแนวไหนกำลังดัง
- กลุ่มแฟนคลับที่มีกำลังเปย์สูง
- กลุ่มเป้าหมายคือคนวัยไหน
ขยัน เขียนดีแต่ดันเขียนนิยายตกกระแส คนอ่านน้อย คนซื้อน้อยยิ่งกว่าจำนวนเงินมันก็ถึงเป้ายากครับ
//ความจริงอยากแนะนำให้ลงเว็บอื่นที่มีระบบโดเนทมากกว่าจะขายแพ็ค ในกรณีที่คิดว่าเขียนจบไม่ทันหนึ่งเดือนน่ะนะ
มีีเว็บอะไรบ่างครับ ที่สามารถขายนิยายได้อะครับ ขอบคุณครับ
"ถ้าคิดอยากจะได้มากกว่าใคร คุณต้องพยายามให้มากกว่าใคร"
"ยิ่งจุดหมายมีค่า เส้นทางที่เชื่อมไปหามันก็จะยิ่งไกล หากจะเดินในทางสายนี้แล้วต้องไม่เหนื่อยและไม่หันหลังกลับ"
- กล่าวโดยผมเอง
ขขอบคุณมากครับ ผมเขียนนิยายเเต่ออก 18+ หน่อยๆ อะครับในเว็บเด็กดีนักเขียนอะครับ มีเว็บอะไรบ่างครับถ้าผมจะขายนิยายอะครับ
มหาวิทยาลัยทุกแห่งในประเทศไทยมีทุนการศึกษาให้นะคะ
ทุนของมหาวิทยาลัยเอง ทุนจากคณะที่นิสิตนักศึกษาสอบติด ทุนของมูลนิธิ
ทุนขององค์กร ทุนของสถานทูต ทุนของสำนักงาน ก.พ. ฯลฯ
ขอทุนจากกยศ.และทำงานพิเศษเนี่ยนะมีเงินไม่พอ
ค่าเทอมของมหาวิทยาลัยเอกชนไม่ใช่แค่หลักพันนะคะ หลักหมื่น หลักแสน
เราวนเวียนไปมาระหว่างบอร์ดนักเขียนกับบอร์ดการศึกษา
อ่่อครับ ขอบคุณมากนะครับสำหรับคำแนะนำคือผมไม่อยากเรียนเอกชนหลอกแต่มันไม่มีทางเลือกครับ
ถ้าไม่อยากเรียนมหาวิทยาลัยเอกชนตั้งแต่แรกแล้วจะไปสมัครทำไมคะ
เหมือนไปแย่งที่นั่งของคนที่มีความมุ่งมั่นอยากจะเรียนมหาวิทยาลัยเอกชนจริงๆนะคะ
ถ้าอยากจะเรียนมหาวิทยาลัยรัฐบาล
ทำไมไม่อดทนรอสมัครและยื่นคะแนนรอบ 3-4
ผมไม่สมัครสอบของคะเเนนรอบ 4 ครับ
ตั้งเป้าไว้สูงก็ต้องเผื่อใจไว้ด้วย ไม่ใช่ทุกคนที่จะทำได้ คนที่ทำได้ก็คือได้เลย ส่วนคนที่ทำไม่ได้ ยอดหลักพันก็ไม่ถึง แต่ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ค่ะ ขอให้ทำได้อย่างที่หวัง
ขอบคุณมากครับผม
เราเองก็เขียนนิยายเป็นอาชีพหลักมาเกือบ10ปีแล้วค่ะ
สมัยก่อนพอเริ่มมีฐานแฟนคลับเราเลยออกหนังสือทำมือเอง พิมพ์ตามยอดจองประมาณ 200-300 เล่ม ทำแบบนั้นประมาณ 2 ปีกว่าแล้วมาขายในรูปแบบอีบุ๊ค ก่อนจะออกผลงานกับสำนักพิมพ์ในปีต่อๆมา ปัจจุบันเราเขียนนิยายขายทางเด็กดี อีบุ๊ค และออกกับสำนักพิมพ์ควบคู่กันไปด้วย เราทำอาชีพเดียวก็เลยต้องขยัน พยายามเขียนให้ได้เดือนละเล่ม จขกท.เพิ่งเริ่มต้นเขียนนิยายใช่ไหมคะ ลองดูว่าชอบเขียนแนวไหนบ้าง อ่านหนังสือสะสมคลังความรู้ ศึกษาแนวทางตลาด อัปงานอย่างสม่ำเสมอ และหาเวลาว่างเขียนให้ได้ทุกวัน เป็นกำลังใจให้นะคะ
ผมพึ่งเขียนครับ แต่ชอบแนวเลสเบี้ยน มาเฟีย แนวหมออะไรทำนองเนี่ยอะครับ ขอบคุณมากนะครับ
ผมจะแนะนำจริงๆแบบความเป็นจริงที่ต้องเจอเลยนะครับ การเขียนนิยายมันไม่ใช่อะไรที่ง่าย "ถ้าคุณคิดว่ามันง่ายถอยออกไปตั้งแต่ตอนนี้จะดีกว่า" การเขียนนิยายมันต้องใช้ประสบการณ์ ต้องเรียนรู้ ต้องศึกษารายละเอียด ต้องศึกษาตลาด การเรียนรู้ที่ดีที่สุดมันก็คือการอ่าน ประสบการณ์หลายอย่างมันต้องสะสมเป็นปี สองปี สามปี ถ้าเป้าหมายคือการหารายได้จากนิยายเพื่อส่งตัวเองเรียน มันก็เปรียบเสมือนการทำงาน ทำเป็นอาชีพอย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นงานอะไร ต่อให้มันคือสิ่งที่เราชอบแต่มันคืองานมันก็เหนื่อยทั้งนั้น เพราะแบบนั้นทำใจไว้ด้วยว่ามันหนัก ความรับผิดชอบต้องมี ผมขอเตือนอะไรไว้ก่อน -ที่บอกว่าจะเรียนเอกชนไปก่อนปีหนึ่งแล้วจะซิ่ว ถ้ามีความคิดนี้อยู่จริงๆก็ปรับเปลี่ยนใหม่เถอะนะ เงินท่านยังไม่มีเลย รู้รึเปล่าว่าค่าเรียนเอกชนมันแพงนะ 1 ปี นี่รายจ่ายหลักครึ่งแสนนะครับ ถ้ายังไม่พร้อมจริงๆก็ไปลงเรียนรามเถอะ ไม่เป็นภาระกับตัวเองและครอบครัวด้วย ส่วนเรื่องเขียนนิยายให้มีรายได้ต่อเดือน เดือนละ 6 พัน มันไม่ใช่เรื่องยากและไม่ใช่เรื่องง่าย ขอแค่มีความพยายามให้มากพอ
เห็นด้วยกับ คห. นี้อย่างยิ่งค่ะ
โดยเฉพาะที่ จขกท. จะไปเรียน ม.เอกชนเพื่อจะซิ่ว จขกท. น่าจะลองคิดทบทวนดูใหม่นะคะ
ควรเลือกเรียนในสาขาที่ตนชอบ ไม่ควรยึดติดกับชื่อของสถาบัน โลกสมัยนี้ถ้าคุณเก่งจริงในสาขาที่คุณสนใจ
ขอตอบตามประสบการณ์ตัวเองนะครับ
กว่าที่นิยายของผมจะขายได้คือต้องใช้เวลาในการสร้างฐานแฟนคลับ 1 ปี ในปีต่อมาถึงได้ทำการเปิดขาย
ซึ่งถ้าจะขาย คุณต้องมั่นใจก่อนว่านิยายของตัวเองสนุกและคุ้มค่าเพียงพอที่จะทำให้คนคนหนึ่งยอมจ่ายเงินให้เรา
ตอนผมจะขายผมเลยเอาตัวเองไปแทนเป็นคนอ่านก่อนว่าจะจ่ายเงินซื้ออ่านไหม ถ้าใจเราคิดว่าไม่ มันก็ยังไม่ดีพอ แล้วต้องไปปรับปรุงงานของตัวเอง อ่านให้เยอะ หาข้อมูลให้เยอะ
เมื่อขายได้แล้วก็ต้องคิดอีกว่าจะทำยังไงนิยายจะขายได้ต่อไป การได้ที่หนึ่งนั้นไม่ยาก แต่การรักษาที่หนึ่งเอาไว้นั้นยากยิ่งกว่า
นักเขียนที่จะขายนิยายต้องมีเวลา มีความมุ่งมั่น และมีความพยายาม มากกว่านักเขียนที่เขียนเป็นงานอดิเรกหลายเท่า
ยิ่งเป็นนิยายแฟนตาซีที่ต้องออกตอนทุกวัน ยิ่งต้องมีวินัยและความรับผิดชอบเป็นอย่างมาก นักเขียนไม่สามารถมีความคิดบรรเจิดได้ทุกวัน นั่นแหละครับเป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งที่ต้องเผชิญ
อีกอย่างเราต้องดูการตลาดไปด้วย ซึ่งจริงๆ แล้วมันก็ไม่จำเป็นต้องเป็นนิยายตลาดแล้วจะประสบความสำเร็จเสมอไป นิยายของผมเป็นนิยายเกิดใหม่ก็จริง แต่ในยุคนั้นผมเป็นคนแรกๆ ที่เขียนนิยายแนวนี้ ท่ามกลางนิยายออนไลน์และนิยายวายที่เป็นเจ้าของตลาดในตอนนั้น มิหนำซ้ำตอนนั้นยังอยู่ในช่วงมรสุมนิยายแปลเกาะชาร์ต
จนตอนนี้นิยายเกิดใหม่ได้คลอดออกมามากมายจนแซงนิยายออนไลน์ จนกลายเป็นแนวตลาดที่นิยมในปัจจุบัน
เพราะฉะนั้นถ้าคิดว่านิยายของคุณเจ๋งพอ ก็ลองเลยครับ เราสามารถทำนิยายตลาดแนวใหม่ขึ้นมาได้
ที่สำคัญก็คือในตอนเริ่มแรกอย่าพึ่งคาดหวังกับการขาย ทำให้การเขียนนิยายเป็นเรื่องสนุกไปก่อน แล้วเราจะไม่พบกับความผิดหวังและเงินที่ได้มาจะกลายเป็นผลพลอยได้
ก่อนจะบอกว่านิยายมันได้เท่าไหร่ อยากให้คิดส่วนนี้ก่อน
ประการแรก ตามข้อมูลที่มีที่รับรู้ อยากบอกว่า ถ้าทำงานพิเศษอยู่แล้ว ควรตั้งใจทำอะไรที่มีรายได้แน่นอนก่อนดีกว่าค่ะ ลำดับความสำคัญดี ๆ ด้วยงานพิเศษคือครบรอบก็ได้เงินแน่นอนตามค่าแรงที่ตกลงเป็นรายชั่วโมง การันตีว่าได้เงินแน่นอน ถ้าเราไปทำงาน
ในขณะนิยายเนี่ย คือ ถ้าคุณเจ้าของกระทู้ทำงานพิเศษแล้วร่างกายจะไหวขนาดแบ่งเวลานอนมาเขียนไหวแน่เหรอคะ ถึงตอนนี้จะไหวเพราะยังไม่ได้เปิดเทอมก็เถอะ การจะหวังเงินจากการเขียนออนไลน์ ต้องใช้เวลาค่ะ กว่าจะอยู่ตัว ด้วยต้องศึกษาว่านักอ่านนิยมอะไร แล้วเขียนแบบไหนจะมีคนอ่าน มีคนซื้อ การเขียนนิยายในแง่อยากได้เงินช่วงเริ่มต้น ค่อนข้างไม่น่าหวัง ด้วยไม่มีฐานคนอ่าน ยิ่งเริ่มเขียนเพื่อหวังสร้างรายได้ ยังบอกไม่ได้ว่าพื้นฐานที่คุณมี เป็นอะไรที่พร้อมจะจ่ายหรือไม่
เอาจริง ๆ ว่ากันตรง ๆ จะเรียนแล้วซิ่วนี่ เสียดายเงินนะคะ นิยายอยากทำขายลองเขียนลองตลาด ศึกษากันไปดีกว่า มันสร้างรายได้แน่นอนได้ค่ะ เพราะมีคนทำ รู้จักแต่ไม่ได้สนิท เขาก็มาเล่า ๆ ให้ฟังเป็นประสบการณ์ ถ้าจะเริ่มก็เริ่มจากการเขียนสร้างฐานไปก่อนแค่นั้น สมัยเรียนเราเขียนขายได้นิดหน่อย มาหยุดช่วงจะเรียนจบ
คิดหารายได้นี่เป็นความคิดที่ดี คิดหาเงินไม่ผิดค่ะ แบ่งเบาทางบ้าน แค่อยากให้นึกถึงความเหมาะสมด้วย
เขียนเลย
แล้วก็ลงนิยาย ถ้ามันปังก็เปิดขายจบ
ไม่ต้องคิดอะไรมากมาย หลักการไม่ต้องเยอะ อย่าไปฟังมาก สมองจะเสื่อม ลองเลย
เขียนวันนี้ ลงวันนี้ จะได้รู้เรื่องเลย
ฉันเป็นนักเขียนอาชีพค่ะ หมายถึง เงินที่ฉันใช้จ่าย ได้มาจากการขายนิยายล้วนๆ
เดือนละ 4,000-6,000.- คงที่ ขายออนไลน์อย่างเดียว ไม่พิมพ์เล่มกระดาษ ทำได้ค่ะ
แต่จะเบียดตัวเข้ามาในวงการนี้ คุณภาพเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เวลาคนอ่านจะจ่ายเงิน เขาก็เลือกนะคะ เลือกอย่างดีด้วย เพราะนิยายออนไลน์ซื้อแล้วขายต่อไม่ได้ค่ะ ^^" แค่จะเอาคอมเม้นต์จากเขา เขาจ่ายแค่ค่าขยับนิ้วกับเวลา ยังไม่ง่ายที่จะได้มาเลย
ถ้าคุณมองเงินเป็นหลัก ขายแพ็คเกจในเด็กดี เงินไม่เร็วเท่าขายอีบุ๊กบน MEB หรอกค่ะ ที่นั่นคือตลาดที่ใหญ่ที่สุดของไทย สิ่งที่คุณต้องมีคือต้นฉบับจบแล้วกับปก ก็สามารถวางขายได้แล้วค่ะ ส่องยอดคร่าวๆ รายวันได้ เงินจะเข้ารายเดือน บน Apple ได้ประมาณ 54% จากราคาปก (แล้วแต่ว่าซื้อจากประเทศไหนและค่าเงินเท่าไหร่ด้วย ตรงนี้ Apple เป็นคนกำหนด "ระดับราคา" จะมาเป็นตารางเทียบค่าเงินเลยค่ะ) บนช่องทางอื่นอย่างเว็บและ android ได้ 67% ของราคาปก ต้นฉบับความยาว 200 หน้า A4 ราคาปกประมาณ 200-350 บาท แล้วแต่ความดังของคุณ (คนดังก็ขายแพงได้ไง คนไม่ดังแล้วยังขายแพงจะเศร้าๆ หน่อยค่ะ หรือจะขายถูกเพื่อเรียกแขกก็ได้) อีกที่ที่คนอ่านแบบจ่ายเงินอยู่กันชุกชุมคือ readAwrite ซึ่งเป็นเครือเดียวกับ MEB แต่สภาพเหมือนเด็กดี ลงขายติดเหรียญทีละตอน สามารถ 18+ ได้ตามใจเลยค่ะ เขามีแบ่งประเภทนิยายไว้ให้ รายละเอียดไม่เยอะ ฉากไม่ถี่ อยู่หมวดนิยายโรมานซ์ ถ้ารายละเอียดยิบๆ ทั้งเรื่องมีแต่ได้กัน อันเชิญลงหมวดนิยายอีโรติก แน่นอนว่าคุณสามารถขายแพ็คเกจบนเด็กดีไปพร้อมกันได้ด้วย แต่เด็กดีไม่ชอบฉากเรตค่ะ แค่มีการผ้าหลุดก็ต้องระวังแล้ว เพราะก่อนวางขาย ทีมงานเด็กดีจะอ่านก่อน ไม่สะอาดก็อย่าหวังเยอะค่ะ ที่นี่ไม่ใช่แหล่ง 18+ แค่เป็นศูนย์รวมของนักอ่านนักเขียนเพราะเว็บเก่าแก่เท่านั้นแหละ คนแห่กันไปที่ readAwriter ก็เพราะ 18+ เป็นหลักเลย
4,000-6,000.- คงที่ คุณต้องมีหลายเล่ม สมมติว่าเล่มนึงของคุณมีราคาปก 200 บาท ตีซุปเปอร์คร่าวๆ ก็ได้อย่างมากเล่มละ 134 บาท (จาก Apple ก็เหลือร้อยเดียว ไม่งั้นต้องขึ้นราคาขายกับทางนี้เพื่อให้ได้เท่าช่องทางอื่นค่ะ) แปลว่าเดือนนึงต้องได้ขั้นต่ำ 30 เล่ม ถ้ามีเรื่องเดียวและโชคดีที่คนอ่านอ่านตัวอย่างแล้วเห็นว่าสนุก ก็อาจจะไหวในเดือนแรกที่วางขายค่ะ แต่เดือนถัดไปจะลดลงจนอาจไม่ได้เลยสักเล่ม จึงต้องมีเรื่องใหม่มาช่วยฉุดยอดของเรื่องเก่า มันจะเริ่มคงที่ก็คงต้องมีประมาณ 10 เรื่องและมีฐานแฟนคลับจำนวนหนึ่ง คนใหม่ทุกๆ เดือนที่ผ่านมาเจอคุณนี่แหละที่เป็นฐานรายรับคงที่ของคุณ รายได้จากทางนี้ถือเป็นแพสซีฟอินคัม คือเข้าทุกเดือนเรื่อยๆ โดยอาศัยการกระตุ้น เช่น มีเล่มใหม่ จัดโปรโมชันลดราคา โปรโมทบนโซเชียล แล้วแต่แผนการตลาดของคุณ
ฉันน่ะปล่อยนิยายไว้เฉยๆ ก็ขายได้คงที่เดือนนึงเกิน 6,000.- แน่นอน แต่กว่าจะสร้างมาได้ก็ 4 ปี ฉันอยู่กับนิยายเต็มเวลาค่ะ ฐานแฟนที่มีคือฉันตีพิมพ์กับ 4 สนพ.มาแล้ว 9 เล่ม ทำมือ 1 เล่ม เน้นแนว 18+ที่สุภาพ (ฉากเรตอยู่ที่ 5-8% ของทั้งเรื่อง) จัดอยู่ในนักเขียนระดับรากหญ้า (จริงๆ นะ ไม่ได้ถ่อมตัว) แต่ก็เชื่อว่าตัวเองชาญสนามพอสมควร ถ้าคุณไม่ได้มีพรสวรรค์ว่าแต่งอะไรออกมาคนอ่านก็ชอบทั้งนั้น (มีรสนิยมตรงกับคนอ่านส่วนใหญ่) ก็เอาฉันเป็นตัวอย่างสำหรับพิจารณาได้ค่ะ
ตลาดนิยายออนไลน์ โดยเฉพาะสาย 18+ เป็นตลาดทะเลแดง หมายถึงมีคนร่วมแข่งขันฟาดฟันกันแก่งแย่งเงินจากกระเป๋านักอ่านจนนองเลือด คนอ่านเขาก็มีงบประมาณ ไม่ได้ซื้อทุกเล่มไปเรื่อยๆ ดังนั้นหากคุณจะเข้ามาและเอาชนะนักเขียนขาเก่าได้โดยหวังรายรับที่ 4,000+ ต่อเดือน ก็ต้องทุ่มเทให้มันนะคะ ถึงมีเวลาแค่วันละชั่วโมงสองชั่วโมง คุณก็ต้องตั้งใจทำ คำผิดต้องน้อยที่สุดเท่าที่ทำได้ น้ำสมองมีเท่าไหร่ก็ไม่ต้องกั๊ก รายได้นี้เป็นแพสซีฟอินคัม นั่นคือคุณนั่งอยู่เฉยๆ เงินก็งอกจากนิยายเรื่องเดิมตลอดไปจนกว่า MEB จะหาไม่ (หัวเราะ) แต่ต้องใช้เวลาในการสร้างค่ะ แต้มบุญของคุณต้องสูงมากถึงจะได้เล่มแรกที่หลักแสน แต่ฉันก็ยอมรับว่ารู้จักหลายคนที่ทำได้ ฉันเองก็มีอีบุ๊กเล่มที่ทะลุแปดหมื่นบาทในเดือนแรกและทะลุแสนไปไกลโพ้นในเดือนที่สอง ค่ามาตรฐานของฉันคือเดือนแรกที่สามหมื่นบาทเป็นขั้นต่ำค่ะ สิ่งนี้เป็นไปได้ คุณเองก็มีสิทธิ์มีได้เหมือนกัน ...นี่ฉันพลีชีพมาพูดเรื่องเงินซึ่งควรจะเป็นความลับแบบนี้เพื่อให้กำลังใจคุณเชียวนะ! ซึ่งถ้าคุณทำเล่นๆ แต่งไปเรื่อยเปื่อย คุณไม่มีทางแย่งลูกค้าไปจากนักเขียนอาชีพอย่างพวกฉันได้หรอกค่ะ เพราะงั้น สู้นะ! แค่เขียนไปเรื่อยๆ ก็จะเรียนรู้และเก่งขึ้นเองแหละ นักเขียนหลายคนเขียนนิยายเป็นอาชีพรองค่ะ ใช้เวลาว่างเหมือนคุณนี่แหละ เด็กดีเป็นแค่ที่โปรโมต ส่วนใหญ่จะเจอสายอ่านฟรีกับวัยเรียนที่มีกำลังซื้อไม่มาก คนจ่ายเงินเป็นกอบเป็นกำสำหรับนิยาย 18+ จริงๆ ต้องอีบุ๊กใน MEB ค่ะ คุณต้องสร้างฐานแฟนในเด็กดีก่อน อัพทุกวันหรือสองวันครั้ง ครั้งละประมาณ 2-5 หน้าก็ได้ (จะดีมากถ้าตัดโดนตรงที่คนอ่านจะขาดใจตาย) นั่นหมายความว่าคุณต้องมีต้นฉบับยาวประมาณหนึ่งสำหรับการอัพได้สม่ำเสมอค่ะ ถ้ามาๆ หายๆ คนอ่านเขาก็ขี้เกียจเข้ามาดูมั้ยล่ะ คุณเองคงไม่ไปร้านข้าวที่วันนี้จะเปิดหรือปิดก็ไม่รู้เหมือนกัน อย่าคิดว่ามันง่ายที่เขาจะยอมขยับนิ้วมาจิ้มเข้าหน้านิยายคุณนะคะ แล้วพอไปถึงสักครึ่งเรื่องก็วางขายที่เหลือได้เลย
เห็นชื่อนิยายในเด็กดีของคุณแล้ว...ถ้าอ่านของสนพ.ไหนอยู่ ก็ส่งสนพ.ได้นะคะ แค่ต้นฉบับเสร็จตามจำนวนหน้าที่เขาต้องการก็พอ หาข้อมูลได้จากประกาศรับต้นฉบับทั่วไปค่ะ สนพ.ใหญ่จะจ่ายเป็นก้อน โป้งเดียวจบ ถ้าไม่ผ่านสัก 5 ที่ก็ค่อยมาขายเอง เสียตรงที่รอนานหน่อย ไม่ใช่ได้ทุกเดือนเหมือนขายบนเว็บ และอย่าอยู่กับสนพ.ที่จ่ายตามยอดขายค่ะ สนพ.รับพิจารณาเฉพาะเรื่องที่ยังไม่เคยถูกขายไม่ว่าในทางใดมาก่อนเท่านั้น ถ้าสนใจก็ลองดู ให้กำลังใจนะคะ >wO)b ปล. นี่เป็นสำนวนคุยของฉันนะคะ ไม่ใช่สำนวนในนิยาย คำวิบัติก็ใช้ แต่คุณควรระวังคำผิดให้มาก อย่าง "หรอก" เนี่ย ไม่ใช่ "หลอก" ค่ะ อย่าได้พิมพ์ผิดกับคำง่ายๆ พวกนี้นะคะ คนอ่านเขายี้มากเป็นพิเศษเชียวล่ะ สนพ.เองก็จะปัดตกก่อนได้อ่านเรื่องเต็มซะอีก
ตอบละเอียดมากเลยค่ะ ได้ข้อมูลที่ไม่ทราบเยอะไปกับ จขกท. เลยได้ประโยชน์มากๆ ค่ะ
ขอบคุณที่กรุณาเขียนแบ่งปันให้ทราบนะคะ
ทุกท่านที่ตอบมาก่อนเป็นความคิดเห็นที่ จขกท. ควรนำไปพิจารณานะคะ ขนาดแค่เราแวะเข้ามาอ่านยังได้ความรู้และข้อคิดที่น่าสนไปจากหลายๆ ท่านไปกับคุณ จขกท. ด้วย
ขอแสดงความเห็นในประเด็นที่มือสมัครเล่นในการเขียนนิยายแต่ไม่สมัครเล่นในการทำงานเพราะทำมานานมากกก
ที่คุณ จขกท. คิดว่าจะไปเรียน ม.เอกชนเพื่อจะซิ่ว คุณน่าจะลองคิดทบทวนดูใหม่นะคะ
ควรเลือกเรียนในสาขาที่ตนชอบ ไม่ควรยึดติดกับชื่อของสถาบัน โลกสมัยนี้ถ้าคุณเก่งจริงในสาขาที่คุณสนใจ จะมหาวิทยาลัยปิดของรัฐหรือเอกชน หรือมหาลัยเปิดต่างๆ ไม่มีอะไรประกันงานของคุณได้เท่ากับความสามารถของคุณนะคะ(ที่พูดได้เพราะเป็นคนหนึ่งที่มีอำนาจรับคนเข้าทำงานของหน่วยงานค่ะ)
ในขณะที่คุณจะต้องหาเงินเพิ่มเพราะต้องเสียเงินจำนวนมากในการเรียน ม.เอกชน แถมเงินที่จะเรียนก็ต้องไปกู้ยืม กยศ. อีก(เสียทั้งเงินและเวลา) ควรเข้าเรียนในสาขาที่ตนมุ่งมั่นจะเอาดีทางนั้นไปเลย ซึ่งหากเป็นสาขาทางมนุษย์/สังคม มหาลัยเปิดมีสาขาเหล่านี้มากมาย เช่น มสธ. รามคำแหง ค่าเรียนก็ไม่แพง เรียนที่บ้านได้ไม่ต้องไปเข้าคลาสนานๆ จึงจะไปที ขอแค่คุณตั้งใจให้จริงจบมาก็ได้งานแทบไม่ต่างกันหรอกนะคะ ลองพิจารณาดูนะคะ
เห็นด้วยเลยค่ะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?