Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เด็กธรรมดา ก็ติดเภสัชได้ #dek63 part2

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่





ขอบคุณที่อ่านต่อนะครับ....
ใครที่ยังไม่ได้อ่านpart1 ตามลิ้งค์นี้เลยครับ  
 
https://www.dek-d.com/board/view/3977649/
 

 
หลังจากที่สอบ GATPAT เสร็จ เราจะมีเวลาเหลือสำหรับ
อ่าน o-net อีก 1 week ซึ่งเราไม่ได้เครียดเหมือนตอน GATPAT เท่าไหร่ เพราะอย่างน้อยเรามีเนื้อหาในหัวบ้างแล้ว ส่วนใหญ่เราเน้นทวนสิ่งที่พลาดและความลับที่สำคัญอีกขอนึง ซึ่งต้องขอบคุณเพื่อนซี้ในห้องมากก คือ เพื่อนได้บอกว่าให้ดูเนื้อหาแกนกลางตามที่ สทศ. บอกไว้ในเว็บ

 

 

 
 ***อันนี้คือย้ำเลยนะ ว่าให้ไปดูเนื้อหาที่ สทศ. บอกไว้ คือมันสำคัญจริงๆ สำหรับคนที่เร่งรัด อ่านไม่ทันและอยสกได้คะแนน50+++ทุกวิชา เพราะมันบอกเนื้อหาส่วนที่ออก และเราจะได้อ่านให้ถูกจุดไม่เสียเวลา เช่น วิทย์ปีที่ผ่านมา 2563 สทศ. ได้บอกจุดประสงค์ว่าจะออกเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน การทำงานของเม็ดเลือกขาว ออกเกี่ยวกับโพลิเมอร์เทอร์โมเซต ฯลฯ ซึ่งเราก็อ่านไป ปรากฏว่า ออกจริงไม่ติงนังๆตังนิง! นอกจากนี้ยังมีวิชาสังคม เลข อิ้ง ที่สำคัญและตรงมากกับที่สทศ.ออกมาบอกในแกนกลางการออกข้อสอบ***เราไม่แน่ใจนะว่าเค้าเรียกว่าอะไร*** แต่ตรงนั้นมันช่วยจริงๆ ซึ่งหาได้ในเว็บเลย ลองพิมพ์ไปเลยว่า onet25xx สทศ. แล้วค้นๆดูนะครับ







วันสอบ
-ทำทัน เว้นวิทย์ ซึ่งเป็นวิชาสุดท้าย ในวันสุดท้าย-
 คือเฟลมากตรง part ใช่/ไม่ใช่ คือเราทำทันแบบมั่นใจแค่ 1 ใน 4 ซึ่งคะแนนสูงมากตรงนั้น เราลนมาก ฝนแบบเดาเลย ออกมาจากห้องด้วยความโศกามาก 
   ผลคะแนนออกมา เราผิดหวังนะ คือมันได้น้อยกว่าที่คิดซะส่วนใหญ่เลย ทั้งเลข อิ้ง สังคม ส่วนวิทย์ตามคาด ว่าน่าจะได้ประมาณนี้ ส่วนภาษาไทยถือว่าดีย์ที่สุดแล้ว เพราะไม่ได้ตั้งเป้าไว้สูงมาก แต่ได้ค่อนข้างสูง เบ็ดเสร็จรวมแล้วเราได้ onet 330-350 ซึ่งเราจะไม่ขอพูดว่าเยอะหรือน้อยละกัน เพราะแล้วแต่คนจริง ๆ ส่วนตัวเรามองว่า เราสามารถที่จะยื่น กสพท.ได้ เพราะ onet>300 ดังนั้นเราถือว่า ผ่าน

 

 

 
*** ณ ตอนนี้ เหลือแค่ความถนัดแพทย์และ 9 วิชา ซึ่งดูเป็นสนามใหญ่สำหรับคณะพวกสายสุขภาพ เช่น med dent phram techmed vet และอื่นๆ สำหรับเราตอนนั้น เราพอรู้ตัวเองแล้วว่า เราจะไม่เข้าคณะสายภาษา ด้วยเหตุปัจจัยหลายอย่าง ทั้งไลฟ์สไตล์การเรียน activity หรือ inner potential คือเราเคยไปทดลองเรียนพิเศษภาษาฝรั่งเศสชื่อดังย่านอโศก รึเปล่าไม่แน่ใจ555 พี่เค้าสอนดีแต่สิ่งที่ทำให้เราไม่ชอบคือสังคม ทุกคนมีenergyที่ต่างจากเด็กวิทย์อย่างเรามาก ทุกคนมีไฟตลอด ซึ่งเราสู้ไม่ไหวมาก หมายถึงข้างในนะ มันบอกว่าอย่าฝืนเลย เลิกเรียนเรานั่งรถเมล์กลับบ้าน โทรหาพี่แล้วร้องไห้เลยตอนนั้น คือเสียใจกับสิ่งที่เราคิด มันใช่เวลามากๆ  แบบวางแผนไว้เยอะเลย แต่มันไม่ใช่แบบที่คิดเลย....
เหมือนเพลงอ้าวของพี่atomมาก
SO แม้ว่าเราอยากใช้ภาษาและอยู่กับมัน นั้นก็ไม่ได้ความว่าเรียนคณะสายวิทย์แล้วจะไม่ได้ใช้ ไม่ได้อยู่กับมัน แต่เราต้องหาว่าอะไร อย่างไรที่ทำให้เราได้ใช้และอยู่กับมันได้มากที่สุด ***ใช้ในที่นี้ของเราไม่ใช่ เรียนตำรานะ แต่มันคือการใช้ประสาทการเรียนรู้มั้งหมดเลย อีกอย่างเราอยากมี fanเป็นคนต่างชาติ5555 life will be completed มักๆ 

 

 

 
มาต่อกันเถอะ....

 

 
แน่นอนเด็กสายวิทย์อยากเราก็ชอบ แพทย์ ทันตะ ตอนนั้นเราอยากได้ทันตะนะ เพราะดูแต่youtube ทันตะ เลยอินมาก    
แต่เราก็ไม่ได้มั่นใจนะ แค่ชอบเฉยๆ    เราก็เลยวางทันตะเป็นอันดับ 1 ณ ตอนนั้น 
เราคิดว่าหลายครอบครัวคงพูดบางประโยคที่เหมือนจะสื่อความคาดหวังและความต้องการเบาๆ    เช่น ลองสอบหมอมั้ย ถ้าไม่ได้ไม่เป็นไร   คำถามคือแล้วถ้าได้ละ55555   

 

 
จนมาถึงวันสอบความถนัดทางแพทย์
 ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา เราดูช่อง youtube พี่ปั้น ตลอดเลยและทำโจทย์ในเว็บ dek d pre ad เกี่ยวกับเชาวน์ด้วย 
ส่วนพวกเชื่อมก็หาไฟล์ตามเว็บๆในอินเตอร์เน็ตและทำให้ได้มากที่สุด ส่วนจริยธรรมก็เข้าใจconceptแค่ อย่าให้เค้าตาย ต้องให้เค้ารอด อย่าให้เค้าทุกข์ต่อไป ต้องให้เค้าทุกข์น้อยลง
***พวก MOCK test สำคัญนะครับ มันฝึกฝนและวัดความรู้ที่เรามีว่าเพียงพอรึยัง
หลังสอบเสร็จ เราเฟลอีกแล้ว555 เฟลตลอดเลยครับบบ
เพราะพาร์ทเชื่อมโยงเราสะเพร่ามาก แบบอ่านแล้วไม่เจอตรงที่เชื่อมเลย ในย่อหน้าสุดท้าย กลับบ้านมางอแงไป2-3 วัน คิดคะแนนเล่นๆคงได้6X/100 ซึ่งจะหวังเชาวน์กับจริยมันก็เป็นไปได้ยาก ซึ่งตอนนั้นเราขอแค่ 16+ พอ และเมื่อผลออกมา ระเบิดลงเลยครับ555..... บอกไม่ถูกอ่ะ55555

 

 

 
ต่อพาร์ทหน้านะครับบบ
ขอบคุณที่ติดตามครับบบ
ฝากig:akstudyz
เป็นigที่เล่าเรื่องราวผมเองในคณะเภสัชต่อจากนี้ครับใครมีคำถามอะไร อยากทราบเพิ่มเติม direct ig ไปได้เลยนะครับ

แสดงความคิดเห็น

>

3 ความคิดเห็น