HOW TO (Part1) รู้จักตัวเอง ค้นพบตัวเอง และวางแผนการเรียนให้เป็น!!! (แนะนำสำหรับ ม.ต้น และม.ปลาย)

[tiit_er]

                    สวัสดีโคนนนน   วันนี้ก็ถึงคิวของเราสักทีที่จะได้มาเขียนกระทู้การเรียนหลังจากแอบอ่านเงียบๆ ของคนอื่นมาหลายปี   ต้องบอกก่อนว่า ยังเป็นนักเรียนม.6  อยู่ dek64 ยังไม่ได้ผ่านการสอบเข้ามหาลัยในระบบ TCAS64  แต่อย่างใด                          ถ้าสำหรับใครที่ไม่โอเค เราก็เข้าใจได้ค่า ไม่ว่ากันนนนน
 เราเข้าใจว่าเราเองก็ยังไม่มีเครดิต แบบคนอื่นๆที่มารีวิว อย่างพวกคะแนนสอบ  แต่ด้วยความที่ว่าสิ่งที่เราจะมารีวิวมาแนะนำ มันไม่ใช่เรื่องของการอ่านหนังสือ หนังสือที่ใช้และที่เรียนพิเศษ แต่เป็นการค้นพบตัวเองและวางแผน ดังนั้นเราคิดว่ามันน่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่อ่านแน่ๆ!!!
 
                ก่อนที่จะเลื่อนลงไปอ่านเนื้อหาเต็มๆ เรามาดูกันก่อนว่ากระทู้มีอะไรบ้างง
 
 

มาเริ่มที่ 

 
                      เราจะบอกว่าเราได้มานั่งวิเคราะห์ตัวเองจริงๆจังๆว่าตัวเองต้องการอะไร เป็นคนแบบไหน ไม่ชอบอะไร จะทำอย่างไรอนาคต    เราเริ่มตั้งคำถามต่างๆกับตัวเองมากมาย  เราพยายามหาคำตอบต่างๆพวกนี้ ในช่วงปิดเทอมของ ม.3 ขึ้น ม.4 ซึ่งนั่นรวมถึงคำถามที่ว่า อยากเป็นอะไร และอยากเรียนอะไร  แต่หลายๆ อย่างก็ปรับเปลี่ยนตามกาลเวลา ให้เข้ากับตัวเราหลังจากผ่านเหตุการณ์ต่างๆ ประสบการณ์ต่างๆมากมาย   ดังนั้สิ่งที่เราต้องการจะบอกก็คือ ประสบการณ์   เป็น   KEY ที่สำคัญมากๆ ในการค้นพบตัวเอง แล้วประสบการณ์เองก็เกิดจาก การกล้าแสดงออก

                สำหรับส่วนนี้เราจะแบ่งเป็น2 วิธีตามความเหมาะสมของช่วงวัยคือ ม.ต้น และ ม.ปลาย เหตุผลที่แบ่งแบบนี้ เราจะสรุปให้อีกทีในด้านล่างของส่วนนี้แล้วกันนะ
 


 
-สำหรับ น้อง ม.ต้น
  =พี่เข้าใจน้องๆเลยว่ามันเป็นสิ่งที่ยากเหมือนกันในการที่จะค้นพบตัวเองในระดับที่บอกได้ว่า อยากเรียนคระอะไร ดังนั้นวัยของน้อง สิ่งที่น้องควรทำให้ได้และต้องทำให้ได้คือ รู้จักตัวเอง      

       ยิ่งน้องค้นพบตัวเองไวเท่าไหร่ มันก็ยิ่งเกิดผลดีกับตัวเองเท่านั้น เพราะมันจะทำให้ง่ายในการค้นพบแนวทางสำหรับคณะ อาชีพ และความสุขในชีวิต ซึ่งทำให้มีเวลาในการวางแผนและทำตามแผนมากขึ้น และนั่นส่งผลต่ออัตราความสำเร็จของแผนในอนาคตของน้องๆด้วย
       สิ่งที่อยากให้น้องสนใจคือ การรู้จักตัวเอง

                1.การแสดงออกในการเป็นตัวตนของเรา หรือสิ่งที่อยากจะทำ
                 2.ทำให้รู้ว่าในการเป็นตัวเอง การทำในสิ่งที่เราอยากทำ  มันเกิดอะไรขึ้นทั้งคนรอบตัวเรา และภายในตัวเราเอง
                                  2.1 ถ้าสิ่งที่เราทำไปแล้วมีความสุข น้องๆจะวนเวียนกับมัน น้องๆจะทำมันไปซ้ำอย่างไม่รู้ตัว   จนรู้ตัวอีกที เราก็รู้สิ่งที่เราชอบทำไปแล้ว
                                  2.2 แต่ถ้าสิ่งที่เราทำไปแล้วมันไม่โอเค?
                                                                  -เราไม่มีความสุขกับมัน ทั้งที่ตอนแรกเราคิดว่าเราอาจจะชอบมัน จะทำมันได้ดี แต่พอมาทำเข้าจริงๆแล้ว กลับไม่โอเคกับมัน ทำให้ไม่มีความสุขเลย ตัวอย่างง่ายๆ เช่นการเริ่มร้องเพลง ถ้าทำแล้วรู้สึกไม่ชอบ  หลายคนอาจล้มเลิกไปเลย หรือหลายคนยังมีความฝัน ความชอบอยู่ แต่แค่ทำมันไม่ได้ดี เลยทำให้ไม่ชอบ แต่ถ้าน้องๆลองฝึกฝนเรื่อยๆ น้องๆอาจชอบมันในที่สุดก้ได้ ฉนั้นการที่จะเลิกแล้วไปค้นหาตัวเองใหม่ๆ หรือฝืนทำต่อ ก็เป็นสิ่งที่น้องๆต้องเลือก พี่ไม่สามารถให้คำแนะนำอะไรได้
                                               -แต่ถ้าสิ่งที่เราทำแล้วมีความสุข แต่คนรอบข้างเราไม่มีความสุขกับสิ่งที่เราทำ จะทำยังไงดี  ข้อนี้มันเป็นคำตอบที่ยากจะหามา มากกกกกกกก เพราะเหมือนน้องจะต้องเลือกระหว่างเป็นตัวเอง ทำในสิ่งที่มีความสุข หรือจะใส่ใจผู้คนรอบข้าง คนใกล้ตัวและบุคคลที่มีอิทธิพลสุดๆก็ต้องเป็น  เพื่อน แต่น้องอย่าลืมว่าน้องสามารถหาจุดกึ่งกลางได้ น้องไม่จำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแปลงอะไรมากมาย แค่ปรับตัวให้ได้ เพื่อตัวเราและคนรอบตัว  หรือใครจะใจกล้าตัดเพื่อนก็สุดแล้วแต่น้อง แต่ขอบอกว่า อย่าหาทำ อันนี้ออกจะเกินไป  ถ้าการเป็นตัวเองแล้วต้องตัดเพื่อนขนาดนี้ ตัวตนของน้องที่น้องอยากเป็นมันจะโอเคแน่หรอเมื่อต้องอยู่ในสังคม จะเข้ากับคนอื่นได้มั้ย ถ้ามันทำให้เพื่อนเราไม่โอเค น้องต้องลองกลับมาทบทวนในจุดนี้ด้วยนะ            
  ดังนั้นกรณีนี้         พี่แนะนำให้น้องปรับตัว เพราะบางทีสิ่งที่น้องชอบอาจทำให้ตัวเองลำบากในอนาคตได้ ฉนั้นปรับตัวตั้งแต่มีโอกาสจะดีที่สุด!   (ตัวอย่างของพี่คือพี่ชอบเป็นคนที่รักการแข่งขัน พูดแบบไม่ดีก็คือการเอาชนะคนอื่นนั้นแหละ หรือจะเป็นการชอบเปรียบเทียบข้อมูลต่างๆ รวมไปถึงเปรียบเทียบความเก่งของเพื่อนๆด้วย โอ้โหหห พูดแค่นี้ก็พอจะเดาเหตุการณ์ต่อๆไปได้เลย ใช่แล้วว่าเพื่อนๆไม่โอเคกับตัวพี่ที่เป็นแบบนี้ ซึ่งพี่ก็เข้าใจ และก็ผ่านมาได้ เพื่อนๆปัจจุบันก็มีทั้งรับได้และรับไม่ได้  พี่จะบอกว่าความชอบพวกนี้มันทำไปสู่การที่พี่รู้ตัวว่า พี่ชอบวิเคราะห์ และมองในแง่ความจริง พี่ชอบความท้าทาย ที่รักการคำนวณบวกลบคูณหารมาจากการวิเคราะห์ความเก่ง และเปรียบเทียบเพื่อนจากเกรดจากคะแนน เพราะพี่เคยไปนั่นคิดร้อยละ ของเพื่อนในห้อง และเรียงลำดับในตอนม.ต้น  สิ่งเหล่านี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พี่รู้ว่า คณะบริหารพวกนี้ คือที่สุดที่เหมาะกับพี่   แต่พี่เลือกที่จะเข้าบัญชี มธ.และเรียน 2เอกนะ  ทำไมถึงเป็นบบนี้ เดี๋ยวพี่จะเล่าให้ฟังในpart สุดท้ายย
3. แต่ถ้าใครทำตาม2ข้อแล้วยังไม่เจอ ก็ทำมันวนไปจนกว่าจะเจอนะ หรือก็คือ ทำซ้ำ/ปรับปรุง
ถ้าน้องทำตามขั้นตอนนี้ซ้ำไปซ้ำมาตลอด 3 ปีพี่มั่นใจว่าน้องจะรู้จักตัวเองแน่ๆ เอาใจช่วยนะหนูๆ สู้เค้า
 



-สำหรับ น้อง ม.ปลาย
            จากนี้ขอพูดแบบเพื่อนกัน เพราะวัยใกล้กัน ว่าหรือไม่พอใจเราได้นะ แต่อย่าเพิ่งปิดกั้น
                วิธีการมันไม่ต่างจาก ม.ต้นเลย แต่คำว่าค้นพบตัวเอง สำหรับ ม.ปลาย แน่นอนว่ามันรวมถึงการที่รู้ตัวว่าอยากเข้าคณะอะไร อยากเป็นอะไรในอนาคตด้วย ดังนั้นสำหรับคนที่รู้ตัวว่าตัวเองเป็นคนยังไง มันจะง่ายในการเลือกคณะที่ต้องการ อาชีพที่ต้องการได้ง่ายๆ

อารมณ์มันจะประมาณว่า ถ้าใครที่รู้จักตัวเอง มันจะเลือกคณะ เลือกอาชีพ หรือเลือกว่าเป้าหมายในชีวิตต้องการอะไรได้เลย จากตัวตนของตัวเอง
 
แต่ แต่!!! คนที่มันไม่รู้จักตัวเอง จนถึงวัยนี้ ม.ปบลายแล้วเนี่ยยยย จะทำยังไงดี สำหรับเราจากประสบการณ์ที่ช่วยเพื่อนให้รู้จักตัวเอง เราช่วยเพื่อนผ่านการยิงคำถามที่ถูกต้อง

                                  สำหรับเราแนวทางนี้มันก็คล้ายๆกับ นำประสบการณ์ในอดีต ประสบการณ์ที่ไม่ค่อยจะสมบูรณ์เพราะไม่ได้เกิดจากความตั้งใจสร้างมัน เหมือนแบบวิธีที่แนะนำสำหรับ.ต้นไป เพราะสำหรับน้องม.ต้น มันคือประสบการณ์ที่เจาะจงไปถึงว่า สิ่งๆนั้น(ความต้องการความสุข การเป็นตัวเอง) หลังจากที่เราทำหรือแสดงมันออกมา ผลลัพธ์ที่ได้มันคืออะไร แต่การยิงคำถามมันแค่วิเคราะห์ประสบการณ์อะไรก็ไม่รู้ในอดีตเพื่อกลั่นกลองเป็นคำตอบที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด ฉะนั้นจุดบอดมันคือ คำตอบที่ตอบมา มันก็สร้างจากประสบการณ์ในอดีตอยู่ดี ใครที่มีเยอะ ชัดเจน ก็สามารถรู้จตักตัวเองผ่านคำถามที่ต้องใช้ประสบการณ์ช่วยตอบได้ แต่ถ้าใครดันมีน้อย ไม่ชัดเจน ดังนั้นคำตอบก็จะไม่ชัดเจน และสุดท้ายก็ลังเลอยู่ดี ฉะนั้นทำอะไรไม่ได้นอกจาก คิดดีๆ ให้เวลากับตัวเอง เอาความต้องการลึกๆของตัวเองมาตอบ นั่นแหละคือการแก้จุดบอดนี้
 

มาที่คำถามกันเลยยย คำถามมันจะมีสิ่งที่คล้ายๆกับสิ่งที่แสดงออกในม.ต้น แต่เปลี่ยนมาเป็นคำถามและตอบ ไม่ได้ประสบจริง และคำใหม่ๆ

 

คือเราสามารถอธิบายคำถามว่าแต่ละคำถามมันช่วยอะไรสื่ออะไร คำตอบควรเป็นแนวไหน แต่อย่าลืมว่าโตๆกันแล้ว บางอย่างมันไม่สามารถบอกได้ ที่เราทำได้แค่เป็นแนวทางเท่านั้น ยังไงก็ต้องงพยายามหาคำตอบที่ดีที่สุดกับตัวเองให้ได้นะ เมื่อได้คำตอบที่ดีที่สุดก็จะรู้จักตัวเองเอง

สรุปการรู้จักตัวเอง

ขอสรุปได้ว่า ถ้าอยู่ม.ต้น เราแนะนำให้รู้จักตัวเองผ่านการปฏิบัติจริง จะได้ประสบการณ์ที่มีค่ามีประสิทธิภาพมากๆ แต่ถ้าอยู่ม.ปลายนแล้ว ก็อยากให้ใช้ผ่านการณ์ตั้งคำถามและใช้ประสบการณ์ในอดีตมาช่วยในการหาคำตอบ คำตอบจะชัดก็แล้วแต่ว่าผ่านอะไรกันมา ดังนั้นต้องให้เวลากับมัน แต่ใครที่ทำผ่านวิธีแรกอย่างลงมือทำจริงก็อยากที่จะให้มาตั้งคำถามอีกครั้ง หรือก็คือกรณีของคนที่จะได้คำตอบที่ชัดเจนนั่นแหละ เพราะมีประสบการณ์ที่ดีมา ที่ไม่อยากให้ม.ปลายไปนั่นหาตัวเองจากการลงมือทำเพราะ มันจะไม่ทัน ที่ไม่ทันยังไงก็ต้องตามต่อในส่วนของการวางแผน!!
และสิ่งที่มันจำเป็นจริงๆในการทำให้สิ่งพวกนี้สำเร็จ คือการกล้าแสดงออก   อยากให้ทุกคนกล้าที่จะทำมัน กล้าที่จะถามในสิ่งที่อยากรู้ กล้าจะทำในสิ่งที่ต้องการ ถ้าทุกคนมีความกล้าตรงนี้ ที่เหลือมันก็จะเกิดตามๆมา  อยากให้กล้าออกมาจริงๆ  อยากให้ทุกคนมีอนาคตที่ดีที่ตัวเองวางแผนและกำหนดไว้นะ สู้ๆ!!!
 



 

มาต่อที่ 

 
               สำหรับส่วนนี้มันไม่ได้มีวิธีอะไรเลยมันก็แค่การมานั่งคิดว่าเราจะไปเป็นอะไร คณะอะไรดี ถ้าคนที่ข้ามมาส่วนนี้โดยที่ไม่รู้จักตัวเอง ขอพูดเลยว่า ชีวิตต่อจากนี้จะยาก ถ้าไม่โชคดีจริงๆ ดังนั้นเหล่าคนที่รู้จักตัวเองแล้ว สิ่งที่สำคัญเลยในการรู้จักเป้าหมายหรือคณะที่จะเข้าคือ

 
อย่าลังเลที่จะเลือก อย่าลังเลที่จะตัดสินใจ ยิ่งคิดให้ดี ตัดสินใจให้ถี่ถ้วน เลือกแนวทางที่เหมาะที่สุดให้ได้ มันจะทำให้วางแผนการเตรียมตัวง่าย และอัตราการสำเร็จจะสูงขึ้นเมื่อมันชัดเจน

 

การรู้จักเป้าหมาย!!! ยังไม่จบบบบ 

 

ขอค้างไว้เท่านี้ก่อนนนนนนน คือแบบว่า เนื้อหามันเยอะแล้วลงไม่ได้อ่าาา    
ไปตามต่อกันที่ part2  เพื่อความต่อเนื่องเลยยยย 
****สำคัญทั้ง2 part อยากให้อ่านให้จบจริงๆ****

https://www.dek-d.com/board/view/3989269/

 

เราหวังว่ามันจะเป็นประโยชน์กับคนหมู่มากจริงๆ แต่เราเองก็ไม่ได้เก่งอะไร แต่รู้สึกว่ากำลังมีคนรอความช่วยเหลือตรงนี้  เราหวังจริงๆว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคน ถ้าเป็นไปได้ช่วยแชร์หรือส่งต่อไปให้เพื่อนที่อยากส่งต่อให้ทีนะ  มันจะต้องเกิดประโยชน์ไม่มากก็น้อย !!!!!

                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                             

 

(

Comments

[นี่ฉันไง]

มีข้อมูลมาให้เราได้เลือกรู้จักตัวเองเยอะมากๆเลย ขอบคุณนะค้า

[Aww]

เป็นประโยชน์มากๆเลยค่ะ ปลื้มมมมม