[สอบถามและชวนคุย] คุณวางแผนการเขียนอย่างไร
ตั้งกระทู้ใหม่
เราเป็นนักหัดเขียนคนหนึ่งที่หัดเขียนมานานมากแล้ว (แต่ไม่เคยแต่งนิยายได้เกิน 5 ตอน หรือหากมีมากกว่านั้นก็จะเป็นไปแบบชุ่ยๆ เลยไม่กล้านำไปลงเว็บ 555 ถือว่าเป็นคนที่เปลี่ยนความสนใจเร็วมาก พลอตตัวเองนี่มาแล้วก็ไป มาๆหายๆเหมือนแมวจรจัดแถวบ้าน แค่ก!)
จึงมาขอความเห็นว่า ควรจะเขียนยังไงให้นิยายจบ
อยากทราบว่า
1. คุณวางแผนในการเขียนยังไง เช่น การวางพลอตและสร้างตัวละคร คุณสร้างตัวละครเริ่มต้นมากี่ตัว เริ่มต้นจะเขียนเป็นแผนภาพความสัมพันธ์ก่อนไหม ฯลฯ
2. วางพลอตเรื่องก่อนหรือเขียนด้นสดตามอารมณ์ ถ้าเคยทำทั้งสองแบบ เราอยากทราบความเห็นของคุณว่าแบบไหนทำให้มีแรงบันดาลใจมากกว่ากัน
3. (สำหรับคนที่วางพลอตก่อนเขียน) คุณเขียนตามพลอตที่วางไว้ทั้งหมดหรือเปล่า มีการเพิ่มอะไรเข้าไปบ่อยไหม พลอตวางไว้ละเอียดขนาดไหน
4. ตัวละครเด่นๆที่เพิ่มเข้ามาทีหลังเป็นตัวละครที่คุณวางไว้ตั้งแต่ทีแรก หรือว่าเพิ่มเข้ามาตามอารมณ์
5. แต่ละบทของคุณยาวกี่หน้า มีมาตรฐานไหมว่าแต่ละตอนต้องยาวประมาณเท่าไหร่ ถ้าวางพลอตแล้วเขียนได้ไม่ถึงจะทำยังไง เอาตอนต่อไปมายัดใส่ไหม
6. มีสต็อกกี่ตอนก่อนจะนำนิยายมาลง (เราไม่เชื่อหรอกว่านายไม่มี!!)
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบ //อย่าให้เราต้องขอบคุณเก้อเลย ถถถถถ
25 ความคิดเห็น
ขอรวบตอบ 1-3
- วางพล็อตไว้ กำหนดทิศทางของเรื่องว่าจะสื่ออะไร ไปในรูปแบบไหน หลักๆ จะมีพล็อตเรื่อง โครงเรื่อง เริ่มต้นยังไง บทสรุปจบยังไง คือไม่ถึงกับทำทรีตแยกเป็นตอนๆ ว่าจะมีอะไรบ้าง แต่จะมีการกำหนดคร่าวๆ ว่า เนื้อเรื่องแต่ละตอนจะเป็นยังไง มีประมาณกี่ตอนจบ (ตรงนี้จะไม่ซีเรียสมากเวลาเขียนจริง เพื่อไม่ให้เส้นเรื่องตึงเกินไป) เรารู้บทสรุปของเรื่องแล้วก็จะเขียนไปเรื่อยๆ จนจบตามที่วางไว้
4. เรื่องตัวละคร
- ถ้าเป็นตัวละครเด่น มีบท เราเกลี่ยบทไว้ตั้งแต่เริ่มเขียนแล้ว ไม่มีมาแบบ จู่ๆ มีบุคคลปริศนาโผล่เข้ามา มีอิธิพลกับเรื่องอะไรแบบนี้ ทุกอย่างกำหนดไว้ตามบทแล้ว
5. แต่ละตอนยาวกี่หน้า
- อันนี้แล้วแต่ ถ้าหากว่าต้องการสื่อออกมาครบตามที่วางไว้ 2-3 หน้าก็ปิดจบได้ บางตอนก็ยาวหน่อยอาจถึง 9 หน้า หรืออาจยาวกว่านั้นก็ได้ ขึ้นกับสิ่งที่ต้องการนำเสนอในตอนนั้นๆ (ใช้ฟอนท์ 14pt Cordia New เวลาพิมพ์ใส่ Word)
6. มีสำรองไว้ไหม
- แล้วแต่อารมณ์ ส่วนใหญ่ไม่มี แต่เขียนจบแล้วจะไม่ลงทันที อาจลงช่วงกำลังแต่งตอนต่อไปอยู่ สุดแต่อารมณ์ล้วนๆ
สรุปคือมีการเตรียมตัวก่อนเขียน หาข้อมูล ทำโครงเรื่อง เราต้องรู้ก่อนว่าจะเขียนอะไร มีภาพในหัวที่ชัดเจน บทสรุปของเนื้อเรื่องเป็นแบบไหน แต่ก็ไม่ตึงเป็นเส้นตรงเกินไป ทำให้เขียนแล้วไม่กังวลว่าจะออกนอกลู่นอกทาง
edit แก้คำผิด
1. คุณวางแผนในการเขียนยังไง เช่น การวางพลอตและสร้างตัวละคร คุณสร้างตัวละครเริ่มต้นมากี่ตัว เริ่มต้นจะเขียนเป็นแผนภาพความสัมพันธ์ก่อนไหม ฯลฯ
-เเผนภาพในสมุดครับ ความสัมพันธ์กำหนดเเล้ว ทเหตุการณ์ทั้งหมดกำหนดไว้เเล้ว
2. วางพลอตเรื่องก่อนหรือเขียนด้นสดตามอารมณ์ ถ้าเคยทำทั้งสองแบบ เราอยากทราบความเห็นของคุณว่าแบบไหนทำให้มีแรงบันดาลใจมากกว่ากัน
- วางพล็อตใหญ่ๆเอาไว้เเละใจไปเข้าพล็อตเล็กๆในพล็อตใหญ่อีกที ส่วนมากผมจะด้นสดสิ่งที่เกิดในพล็อตใหญ่ไปเลย ว่าจะให้มันเกิดเหตุการณ์เเบบนี้ยังไง
3. (สำหรับคนที่วางพลอตก่อนเขียน) คุณเขียนตามพลอตที่วางไว้ทั้งหมดหรือเปล่า มีการเพิ่มอะไรเข้าไปบ่อยไหม พลอตวางไว้ละเอียดขนาดไหน
- ตามข้อ 2 เขียนตามพล็อตครับ
4. ตัวละครเด่นๆที่เพิ่มเข้ามาทีหลังเป็นตัวละครที่คุณวางไว้ตั้งแต่ทีแรก หรือว่าเพิ่มเข้ามาตามอารมณ์
- ถ้าเพิ่มเข้ามาตามอารมณ์มันจะผิดพล็อตครับ ดังนั้นกำหนดเอาไว้เเล้ว เว้นเสียเเต่ว่ามีตัวละครที่ยังไม่ได้สร้างเเต่มันจะมีบทในช่วงๆนี้ ก็จะค่อยๆสร้างหรือรับสมัครหรืออะไรก็ว่าไป
5. แต่ละบทของคุณยาวกี่หน้า มีมาตรฐานไหมว่าแต่ละตอนต้องยาวประมาณเท่าไหร่ ถ้าวางพลอตแล้วเขียนได้ไม่ถึงจะทำยังไง เอาตอนต่อไปมายัดใส่ไหม
- 2-3 หน้าใน Word เเต่ถึงยังไงก็สั้นมากๆอยู่ดี ผมไม่มีมาตรฐานครับว่าจะเอาเท่าไหน บางตอนสั้นบางตอนก็ยาว
6. มีสต็อกกี่ตอนก่อนจะนำนิยายมาลง
- ส่วนมาถ้าจะทำสต็อกไว้ คงเอาไว้กันช่วงอยากดองครับ จะสต็อกเอาไว้เยอะๆเเล้วค่อยๆลงเอา
1. คุณวางแผนในการเขียนยังไง เช่น การวางพลอตและสร้างตัวละคร คุณสร้างตัวละครเริ่มต้นมากี่ตัว เริ่มต้นจะเขียนเป็นแผนภาพความสัมพันธ์ก่อนไหม ฯลฯ
ตอบ (ข้อ1.) การวางตัวละครเราแยกออกเป็นสามประเภท 1.ตัวละครหลัก (ที่มักจะโผล่ออกมาอยู่บ่อย ๆ) 2.ตัวละครรอง (คือบุคลที่สำคัญ ๆ และจะโผล่ออกมาเป็นพัก ๆ) 3.คือตัวประกอบทั่วไป (อาจจะมีแบบใช้แล้วทิ้งด้วย) ส่วนจะกี่ตัวนั้น นั่นมันก็ขึ้นอยู่กับความยาวของนิยายค่ะ
2. วางพลอตเรื่องก่อนหรือเขียนด้นสดตามอารมณ์ ถ้าเคยทำทั้งสองแบบ เราอยากทราบความเห็นของคุณว่าแบบไหนทำให้มีแรงบันดาลใจมากกว่ากัน
ตอบ (ข้อ2.) เราวางพล็อตเรื่องทั้งหมดไว้ก่อนค่ะ เราคิดว่าถ้าด้นสดมันมีโอกาสที่จะล่มสูง
3. (สำหรับคนที่วางพลอตก่อนเขียน) คุณเขียนตามพลอตที่วางไว้ทั้งหมดหรือเปล่า มีการเพิ่มอะไรเข้าไปบ่อยไหม พลอตวางไว้ละเอียดขนาดไหน
ตอบ (ข้อ 3.) แน่นอนค่ะว่าเราต้องเขียนไปตามพล็อตเรื่องทั้งหมดที่ได้วางเอาไว้ และมีเพิ่มเข้าไปบ้างตามความเหมาะสม พล็อตที่วางไว้ละเอียดมากค่ะ เราแยกออกเป็นช่วงๆ โดยที่ไม่ได้กำหนดเอาไว้ตายตัว ว่าแต่ละช่วงจะมีกี่บท
4. ตัวละครเด่นๆที่เพิ่มเข้ามาทีหลังเป็นตัวละครที่คุณวางไว้ตั้งแต่ทีแรก หรือว่าเพิ่มเข้ามาตามอารมณ์
ตอบ (ข้อ 4.) ตัวละครทุกตัวของเราจะถูกวางเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้วค่ะ
5. แต่ละบทของคุณยาวกี่หน้า มีมาตรฐานไหมว่าแต่ละตอนต้องยาวประมาณเท่าไหร่ ถ้าวางพลอตแล้วเขียนได้ไม่ถึงจะทำยังไง เอาตอนต่อไปมายัดใส่ไหม
ตอบ (ข้อ 5.) แต่ละบทของเรายาวประมาณ 10 - 15 หน้า A4 ไม่ได้กำหนดตายตัวว่าต้องกี่หน้ามันขึ้นอยู่กับเนื้อเรื่องในส่วนนั้น ๆ มากกว่าค่ะ ไม่เคยเขียนไม่ถึงนะมีแต่จะเขียนเกิน
6. มีสต็อกกี่ตอนก่อนจะนำนิยายมาลง (เราไม่เชื่อหรอกว่านายไม่มี!!)
ตอบ (ข้อ 6.) ไม่มีค่ะ เราลงแบบตอนต่อตอน เพราะไม่มีเวลามาเขียนสต็อก เนื่องจากมีงานประจำต้องทำ ถ้าเห็นเราอัพเมื่อไหร่ก็แสดงว่าเพิ่งเขียนเสร็จนั่นแหละค่ะ
สรุปว่าก่อนที่จะลงมือเขียนจริง เรามีการวางตัวละคร และโครงเรื่อง รวมถึงการหาข้อมูลในการเขียนเอาไว้ล่วงหน้า ซึ่งจะว่ากันตามตรงแล้ว เวลาที่เราใช้ในการหาข้อมูลยังมากกว่าเวลาที่ใช้ในการเขียนซะอีก ส่วนเรื่องที่เขียนสด ๆ แบบไม่มีพล็อต จะเป็นพวกเรื่องสั้นมากกว่าค่ะ
ข้อ 1 2 3 4
ยุคแรก ๆ ไม่วางแผน แค่มีพระเอกตัวเดียวกับนางเอกหมายเลข 1 ที่เหลือก็ลุยไปเรื่อย ๆ เจอนางเอกหมายเลข 2 3 4 ตามลำดับ เหตุการณ์คิดอะไรได้ก็เขียนไปแบบนั้น
ยุคหลัง วางแผนว่ามีกี่ตัวละคร ตัวละครนั้น ๆ ทำอะไรได้บ้าง และมีส่วนสำคัญกับเรื่องอย่างไร ทุกตัวจะต้องมีความสำคัญ แก้ปัญหาให้กับตัวเอกได้ พร้อมทั้งวางปมใหญ่ ปมเล็ก วางแผนการปล่อยปมต่าง ๆ ทีละน้อย --- ทุกอย่างในนิยายผ่านการวางแผนมาทั้งหมด พลังทุกอย่าง ความบังเอิญทุกอย่าง (ไม่ทั้งหมด) ไม่มีการคิดหน้างาน ทุกอย่างถูกร่างมาไว้หมดแล้ว
ข้อ 5
2500 คำ คือมาตฐาน ไม่มีน้อยกว่า 2000 คำ ตอนไหนดูยืดเยื้อเกิน 2500 จะโดนแยกออกไปอีกตอนย่อยหนึ่ง --- ตอนย่อยจะไม่ต่ำกว่า 2000 คำด้วย
ข้อ 6
ไม่มีการเก็บตอนไว้ในคลัง ทุกตอนที่ลง ออกมาร้อน ๆ จากมือของคนเขียน
จากเรื่องที่เขียนจบไปแล้ว ‘อนุบาลมังกรน้อย’ จำนวน 67 ตอน จบ (รวมตอนพิเศษบางตอนไปด้วย แต่ไม่รวมตอนพิเศษที่งอกขึ้นมาทีหลังตามเทศกาลที่มักจะเขียนเสริมให้)
1. คุณวางแผนในการเขียนยังไง เช่น การวางพลอตและสร้างตัวละคร คุณสร้างตัวละครเริ่มต้นมากี่ตัว เริ่มต้นจะเขียนเป็นแผนภาพความสัมพันธ์ก่อนไหม ฯลฯ
สร้างตัวละครหลักที่มีผลกับการดำเนินเรื่องก่อนค่ะ ไม่ได้กำหนดว่ากี่ตัวแต่ขึ้นกับว่าสถานการณ์นั้นจำเป็นต้องใช้มากไหม เช่น ในฉากสถานศึกษา จะมีตัวหลักๆ คืออาจารย์ 1 ลูกศิษย์ ตัวเอกที่สำคัญ 2 ตัวช่วยดำเนินเรื่อง 2 ตัวที่มีผลกับตัวเอกอีก 1
2. วางพลอตเรื่องก่อนหรือเขียนด้นสดตามอารมณ์ ถ้าเคยทำทั้งสองแบบ เราอยากทราบความเห็นของคุณว่าแบบไหนทำให้มีแรงบันดาลใจมากกว่ากัน
เรามีพล็อตยาวๆ แล้วค่ะ ด้วยส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องจบในตอน อาจมีเกี่ยวพันกันบ้างเพื่อนให้เห็นว่าเป็นเรื่องเดียวกัน ซึ่งถ้าอ่านเรียงไปจะเห็นลำดับพัฒนาการ ประมาณนี้ ด้นสดมีบ้างถ้าปิ๊งไอเดียขึ้นมาและไม่ขัดกับโครงเรื่องหลัก
3. (สำหรับคนที่วางพลอตก่อนเขียน) คุณเขียนตามพลอตที่วางไว้ทั้งหมดหรือเปล่า มีการเพิ่มอะไรเข้าไปบ่อยไหม พลอตวางไว้ละเอียดขนาดไหน
เขียนตามที่วางค่ะ พยายามตบให้เข้าโครงเรื่องดังกล่าว ส่วนที่เพิ่มอาจเป็นส่วนขยายหรือเติมเต็มเป็นการพัฒนาการของตัวละครที่เกิดจากอินเนอร์มันมาค่ะ ซึ่งตอนแรกอินเนอร์อาจจะยังไม่ออกเท่าไร อินเนอร์จะมาเต็มเมื่อสักครึ่งเรื่องผ่านไปประมาณนี้
4. ตัวละครเด่นๆที่เพิ่มเข้ามาทีหลังเป็นตัวละครที่คุณวางไว้ตั้งแต่ทีแรก หรือว่าเพิ่มเข้ามาตามอารมณ์
ตัวละครเด่นช่วงหลังส่วนใหญ่วางไว้อยู่แล้ว ถ้าตัวประกอบอดทนคือ บางทีของมันต้องมี
5. แต่ละบทของคุณยาวกี่หน้า มีมาตรฐานไหมว่าแต่ละตอนต้องยาวประมาณเท่าไหร่ ถ้าวางพลอตแล้วเขียนได้ไม่ถึงจะทำยังไง เอาตอนต่อไปมายัดใส่ไหม
ไม่ได้กำหนดจำนวนหน้าไว้ตายตัว แต่กำหนดว่าในตอนนั้นมีอีเวนท์-อีไม่เว้นใดๆ เกิดขึ้นบ้างเสมือนจุดเช็คอินว่าเรื่องดำเนินไปถึงช่วงไหนแล้ว คล้ายๆ กำหนดเส้นทางเดินรถไฟฟ้าไว้ แต่ละสถานีคือจุดเช็คพ๊อยต์ค่ะ
6. มีสต็อกกี่ตอนก่อนจะนำนิยายมาลง (เราไม่เชื่อหรอกว่านายไม่มี!!)
สต็อคไว้ราวๆ 10-15 ตอนค่ะ เนื่องจากช่วงแรกเราจะลง 2-3 วัน ตอน ตอนหนึ่ง 4-6 หน้า A4 ช่วงหลังลง อาทิตย์ละตอน ยาว 8-10 หน้า A4 แต่เมื่อนำสต็อคไปใช้ก็ต้องหาซัพพลายมารอต่อคิวไว้เช่นกัน แต่ก็มีตอนที่ ‘เกิดอยากจะเขียน’ ขึ้นมาเช่นกัน เนื่องจากของเรามักจะจบในตอน และนักอ่านบางคนถึงขนาดกระโดดข้ามไปอ่านเพื่อดูว่า ‘เรือ’ ล่มรึยัง
ยังเขียนไม่จบครับ แต่มันใจพอว่าจะไม่เลิกแน่ๆ 555+
อยากช่วยให้ จขกท. เข้าใจอย่างนึกว่า 'คนเรามันถนัดไม่เหมือนกัน' อันนี้ผมได้ข้อสรุปจากการศึกษาพวกเทคนิควิธีการของรุ่นพี่นักเขียนหลายๆคน แล้วมาเทียบกรองกับความรู้ด้านจิตวิทยา เราเลยดิ้นรนหาวิธีสร้างงานเขียนได้ไม่เหมือนกัน (รวมทั้งความไม่มั่นใจในตัวเองจนต้องหาดูตัวอย่างจากคนอื่นก่อนด้วย)
1. คุณวางแผนในการเขียนยังไง เช่น การวางพลอตและสร้างตัวละคร คุณสร้างตัวละครเริ่มต้นมากี่ตัว เริ่มต้นจะเขียนเป็นแผนภาพความสัมพันธ์ก่อนไหม ฯลฯ
ตอนแรกผมกะว่าจะวางพล็อตตั้งแต่ต้นจนจบ แต่พอเอาเข้าจริงๆทำไม่ไหวครับ ผมเป็นพวกมีกระดาษทดในหัวเล็กมากๆ จดจำแผนการยาวๆไม่ได้ จนแอบสงสัยว่าคนอื่นเขียนเขาเขียนกันไหวได้ยังไงพวกเชิดตัวละคร 10-20 ตัวพร้อมกัน ผมเลยเริ่มแค่ 3 ตัวละครหลัก ที่ระบุที่มา หน้าที่ และความสัมพันธ์ในเรื่องให้ชัดเจนก่อน
2. วางพลอตเรื่องก่อนหรือเขียนด้นสดตามอารมณ์ ถ้าเคยทำทั้งสองแบบ เราอยากทราบความเห็นของคุณว่าแบบไหนทำให้มีแรงบันดาลใจมากกว่ากัน
ของผมเป็นนิยายแฟนตาซีต่างโลกมันเลยเป็นอะไรที่เปิดกว้างมากๆ จะเล่นตรงไหนก็ได้ ผมเลยกันการออกทะเลด้วยการวางพล็อตหลักก่อน ว่าช่วงไหนต้องจบลงแบบไหน พอเห็นจุดจบแล้วก็ด้นสดตามอารมณ์เลยจนมันไปจบตรงพล็อตที่เราวางไว้ ถ้าจบแล้วรู้สึกไม่ชอบก็ลบเขียนใหม่ พอทำแบบนี้แล้วมองย้อนกลับไปมันให้กำลังใจผมนะ ว่าเรามาถึงจุดนี้ได้ทั้งที่มองไม่เห็นทางไป
3. (สำหรับคนที่วางพลอตก่อนเขียน) คุณเขียนตามพลอตที่วางไว้ทั้งหมดหรือเปล่า มีการเพิ่มอะไรเข้าไปบ่อยไหม พลอตวางไว้ละเอียดขนาดไหน
ตามที่บอก ด้นสดล้วนๆ ถ้าดูแล้วรู้สึกว่าเนื้อหามันเบาบางไปก็เพิ่มเติม พล็อตผมวางไว้แค่ประมาณว่า 'อ่านจบแล้วต้องเข้าใจนิสัยใจคอของตัวละครนี้ + บอกสิ่งคนอ่านต้องรู้ซึ่งเป็นปมส่งให้ตอนต่อไป' ยิ่งวางข้อจำกัดเยอะ สำหรับผมมันทำให้ยิ่งเครียดแล้วจะพาลเขียนไม่ออกเอา
4. ตัวละครเด่นๆที่เพิ่มเข้ามาทีหลังเป็นตัวละครที่คุณวางไว้ตั้งแต่ทีแรก หรือว่าเพิ่มเข้ามาตามอารมณ์
ของผมเป็นแนวผจญภัยเพิ่มขึ้นมาได้เรื่อยๆ แต่ต้องเตือนตัวเองไว้เสมอว่ามันไม่ใช่ตัวละครหลัก เอามาใช้ให้ถูกสถานณ์การแล้วก็ทิ้งลักษณะเด่นเอาไว้ให้คนจำก่อนหายไป (เพื่อครั้งหน้าถ้าโผล่มาคนอ่านจะได้ "อ้อ...จำได้")
5. แต่ละบทของคุณยาวกี่หน้า มีมาตรฐานไหมว่าแต่ละตอนต้องยาวประมาณเท่าไหร่ ถ้าวางพลอตแล้วเขียนได้ไม่ถึงจะทำยังไง เอาตอนต่อไปมายัดใส่ไหม
ครั้งแรกตอนที่ 1 ผมยาว 18 หน้า A4 ฟอน Arial ขนาด 15 ปรากฏว่ามันกินเวลาในการเขียน + อ่านต่อตอนเกินไป ส่งผลให้เรื่องของผมมีโอกาสอัพเดทให้คนเห็นน้อยครั้งเกินไปด้วย ผมเลยแบ่งครึ่งให้เหมาะกับคนยุคใหม่ที่อ่านผ่านมือถือฆ่าเวลาช่วงว่างสั้นๆ ตั้งใจว่าไม่เกิน 10 หน้าคือกำลังดีสำหรับผม ถ้าเขียนไปแล้วหน้ากระดาษมันยังน้อยเกินไปก็เพิ่มประเด็น แต่จะไม่พยายามยืดการบรรยายให้ยาวขึ้นนะ คนอ่านเขารู้ แถมมันเสียเวลาเขาด้วย
6. มีสต็อกกี่ตอนก่อนจะนำนิยายมาลง (เราไม่เชื่อหรอกว่านายไม่มี!!)
ไม่มีครับ 555+ ว่าจะทำอยู่ เกิดฉุกเฉินขึ้นมาจะได้สำรองไว้ก่อน
เพราะว่าผมวางพล็อตใหญ่ๆไม่ได้ ผมเลยกำหนดแค่สิ่งที่จะเกิดขึ้นผ่านนิสัยของตัวละครเองเลย พอเราเห็นนิสัยใจคอตัวละครชัด เนื้อเรื่องมันก็ไหลออกมาเองอะครับ
1. คุณวางแผนในการเขียนยังไง เช่น การวางพลอตและสร้างตัวละคร คุณสร้างตัวละครเริ่มต้นมากี่ตัว เริ่มต้นจะเขียนเป็นแผนภาพความสัมพันธ์ก่อนไหม ฯลฯ
- ตอนแรกมีตัวละครหลักๆ เลย 4 ตัว คือมีนางเอก ซึ่งเป็นตัวเดินเรื่อง ผู้ชายสองคน (แนวรักสามเศร้า) แล้วก็เพื่อนนางเอกอีกหนึ่งคน เราไม่ได้เขียนแผนภาพความสัมพันธ์ไว้ชัดเจนมาก แต่จะทำตารางไว้ ว่าแต่ละครเป็นยังไง หน้าตา นิสัย ปม ประวัติตัวละครนิดๆหน่อยๆ และใช้เป็นแนวทางตอนเขียน
2. วางพลอตเรื่องก่อนหรือเขียนด้นสดตามอารมณ์ ถ้าเคยทำทั้งสองแบบ เราอยากทราบความเห็นของคุณว่าแบบไหนทำให้มีแรงบันดาลใจมากกว่ากัน
- สมัยเด็กๆ (เมื่อสิบกว่าปีก่อน) เคยเขียนแบบด้นสด แต่ตอนนั้นเป็นการเขียนแฟนฟิกที่เน้นเอาความสนุกคนเขียนเป็นหลัก และไม่ได้คิดอะไรมากค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องสั้นๆ ด้วย แต่ตอนนี้เขียนแบบวางพล็อตก่อน เพราะเรื่องค่อนข้างใหญ่ เรื่องยาวสามภาค ซับซ้อนกว่าที่เขียนสมัยก่อนมาก เลยต้องมีการวางปม มีการวางพล็อตค่อนข้างมาก ความจริงในตอนนี้เราก็ยังปล่อยให้จินตนาการโลดแล่นไปโดยไม่ได้จำกัดอะไรมันนะคะ เพียงแต่ว่าเราต้องคิดล่วงหน้าให้เสร็จ (คร่าวๆก็ได้) ก่อนจะเขียน เพื่อให้มีทิศทางที่ชัดเจนค่ะ จะได้มีจุดจบที่แน่นอน ไม่ออกทะเล
3. (สำหรับคนที่วางพลอตก่อนเขียน) คุณเขียนตามพลอตที่วางไว้ทั้งหมดหรือเปล่า มีการเพิ่มอะไรเข้าไปบ่อยไหม พลอตวางไว้ละเอียดขนาดไหน
- ตอบตามประสบการณ์จากนิยายภาคสองที่กำลังจะจบของเรื่องปัจจุบันนะคะ เพราะเราเพิ่งกลับมาเขียนเมื่อปีที่แล้ว หลังจากเลิกเขียนไปประมาณสิบปี ในภาคแรกยังงงๆ อยู่ มีมั่วๆหน่อย 555 ส่วนภาคสองเราวางพล็อตไว้ค่อนข้างแน่น ตอนแรกจะวางเป็นสถานการณ์ก่อน คือภาคนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง กำหนดปม และจุดคลายปมไว้ จากนั้นสร้างเหตุการณ์ขึ้นมาโยงสิ่งที่เราอยากให้เกิดขึ้น (แต่ละตอนจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง)
เวลาเขียนจริงก็มีปรับเปลี่ยน เพิ่มลดบ้างเหมือนกันค่ะ แล้วแต่เห็นสมควรในตอนนั้น ไม่ได้ยึดเป๊ะๆ หรอกค่ะ แต่หลักๆ จะไม่ให้ฉีกออกไปจากที่วางไว้มาก
4. ตัวละครเด่นๆที่เพิ่มเข้ามาทีหลังเป็นตัวละครที่คุณวางไว้ตั้งแต่ทีแรก หรือว่าเพิ่มเข้ามาตามอารมณ์
- ตัวละครเด่นส่วนใหญ่จะกำหนดมาแต่แรก แต่ก็มีตัวละครที่เราเพิ่มเข้ามาเพราะจุดประสงค์เล็กๆ แต่กลับเติบโตกลายเป็นตัวละครหลักเลยก็มีเหมือนกัน แต่มีแค่ตัวเดียวนะคะ ส่วนใหญ่ที่เพิ่มเข้ามาจะเป็นตัวประกอบที่ใส่เข้ามาเพื่ออำนวยความสะดวกในการดำเนินเรื่องมากกว่า
5. แต่ละบทของคุณยาวกี่หน้า มีมาตรฐานไหมว่าแต่ละตอนต้องยาวประมาณเท่าไหร่ ถ้าวางพลอตแล้วเขียนได้ไม่ถึงจะทำยังไง เอาตอนต่อไปมายัดใส่ไหม
- ขอตอบจากนิยายภาคสองเหมือนเดิมนะคะ เพราะว่าตั้งแต่ท้ายภาคหนึ่ง การเขียนค่อนข้างนิ่งขึ้น ความยาวจะเท่าๆเดิมตลอด ปกติเราจะแบ่งลงเป็นตอนย่อย ตอนละประมาณ 3000 คำ อาจจะมีมากน้อยกว่านี้นิดหน่อย แต่ไม่ห่างจากนี้มาก ยกเว้นตอนที่มีเนื้อหามากจริงๆ แล้วตัดไม่ได้ พอเขียนมาได้สักพักมันจะเริ่มชินเหมือนกันค่ะ แล้วเราจะพอกะได้ว่าสำหรับตัวเรา เราแบ่งตอนหนึ่งเท่าไหร่ มันจะเขียนออกมาได้ค่อนข้างเท่าเดิม
6. มีสต็อกกี่ตอนก่อนจะนำนิยายมาลง (เราไม่เชื่อหรอกว่านายไม่มี!!)
- เมื่อก่อนมีเขียนเก็บไว้ค่ะ สองสามตอนค่อยลง ตอนแรกที่ลงใหม่ๆ มีเกือบสิบตอน แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว สามวันลงหนึ่งตอน เขียนมันทุกวันเพื่อให้ทันลงครั้งต่อไป
1. วางแผนเขียนนิยายยังไง
- คิดพล็อตหลักก่อนครับว่าเป็นยังไง แล้วมโนไปจนตอนจบว่าอยากให้จบยังไง คราวนี้ก็มองมุมกว้างของพล็อต จะใช้ตัวละครไหนเดินเรื่องตรงไหนบ้าง แล้วตัวละครแต่ละตัวมีความสัมพันธ์กันยังไง รายละเอียดและลักษณะนิสัยของตัวละคร ความสมเหตุสมผล แล้วก็ร่างไว้คร่าวๆ เลยว่ารายละเอียดแต่ละตอนจะเป็นอย่างไร ร่างไว้หมดครับ
ขอตอบ 2 กับ 3 รวมกันนะครับ
- ผมทำทั้งสองแบบนะ เราเขียนตามพล็อตที่ร่างไว้ไม่ได้ตลอด หลายครั้งเวลาจมไปกับความคิด มันก็จะมีไอเดีย หรือมีลูกเล่นบางอย่างเพิ่มเข้ามา ก็กลับไปดูตรงข้อแรกครับ ที่เราร่างไว้ เราจะเอาลูกเล่นใส่เข้าไปตรงไหนของเรื่อง มีผลอะไรต่อตัวละคร หรือเนื้อเรื่องมากน้อยแค่ไหน
- ถามว่าอันไหนดีกว่ากัน ขอบอกว่าการร่างพล็อต และร่างรายละเอียดคร่าวๆ ไว้แต่ละตอน ดีกว่าด้นสดอยู่แล้วครับ เป็นกรอบไม่ให้ตัน และไม่ออกทะเล
4. ตัวละครเด่นๆ ที่เข้ามาทีหลัง
- มีบ้างที่โผล่มาตามอารมณ์ แต่ตอนร่างพล็อตผมจะกะเผื่อไว้ว่าน่าจะมีมาอยู่แล้ว เว้นว่างไว้ประมาณ 3-4 ตัวละครที่น่าจะโผล่มาขณะเขียนเพลิน
5. ไม่มีมาตรฐานว่ายาวกี่หน้าครับ ถ้าเขียนถึงตรงที่ผมกำหนดจบ ก็ตัดแค่นั้น บางตอนของผม 6-7 หน้า บางตอนก็ 10 หน้า
6. 5 ตอนเป็นอย่างน้อยครับ ผมอัพทุกวัน เลยต้องเขียนเตรียมไว้เยอะๆ ก่อนเอามาอัพ
//เข้ามาเก็บข้อมูลจากท่านอื่นๆ
1. คุณวางแผนในการเขียนยังไง
วางแก่นเรื่องว่าอยากสื่ออะไรให้คนอ่าน
ติดพล็อต พยายามคิดพล็อตไม่ซ้ำ หาแรงบันดาลใจจากเรื่องราวรอบตัว หรือนิยายที่เคยอ่าน เพียงแต่ดัดแปลงมาจับเรื่องนั้นผสมเรื่องนี้ บางทีก็เอาข่าวที่เกิดในชีวิตจริง
ตัวละครตามพล็อต ก็มีตัวเอก พระเอก พระรอง นางเอกนางรอง ตัวร้าย ฯลฯ
เราไม่ได้สร้างแผนผังมากเพราะเรื่องเราตัวละครน้อย แต่ถ้าเยอะก็ควรสร้าง
สำคัญที่สุด***นิสัย บุคลิก ลักษณะภายนอกของตัวละคร คนอ่านจะได้อินว่ามีจริงๆ
2.วางพลอตเรื่องก่อนหรือเขียนด้นสดตามอารมณ์
ทำทั้งสองแบบ แต่วางพล็อตก่อนสำคัญที่สุดจะได้ไม่ตันและไม่ออกทะเล
ชอบแนวคิด แบบ free-writing คือให้เวลากับตัวเองสงบๆ บรรยากาศผ่อนคลายและเขียนทุกอย่างในหัวออกมา ไม่ว่าจะเป็นพล็อตนิยายเราหรือไม่มันอาจเอามาเชื่อมโยงทีหลังได้
ถ้าเขียนตามอารมณ์ สำหรับเรามันตันง่ายอะ
3.คุณเขียนตามพลอตที่วางไว้ทั้งหมดหรือเปล่า มีการเพิ่มอะไรเข้าไปบ่อยไหม พลอตวางไว้ละเอียดขนาดไหน
ไม่ได้เขียนตามพล็อตทั้งหมด มีเปลี่ยนได้ตลอด แต่มักจะคงตอนจบไว้ว่าจะให้จบแบบไหนจะได้ไม่ออกทะเล
พล็อตมีแบบโครงเรื่องคร่าวๆ กับเรื่องย่อ แบบละเอียด แบบใส่ข้อมูล หรือคำพูดตัวละครที่อยากใส่ลงไปด้วย
4.ตัวละครเด่นๆที่เพิ่มเข้ามาทีหลังเป็นตัวละครที่คุณวางไว้ตั้งแต่ทีแรก หรือว่าเพิ่มเข้ามาตามอารมณ์
สำหรับเราไม่มีตัวละครที่เพิ่มมาตามอารมณ์มักมีเหตุผลเสมอ อย่างเรื่องที่สองของเรา เพราะพล็อตมันติดขัดในใจคนหลายคนที่คอมเมนต์ เรารู้สึกไม่สบายใจเลยสร้างพระรองออกมารองรับความไม่สบายใจของตัวเอง แต่มีเหตุผลว่ามาทำให้เห็นความรักพระ_นางมากขึ้น
5.แต่ละบทของคุณยาวกี่หน้า มีมาตรฐานไหมว่าแต่ละตอนต้องยาวประมาณเท่าไหร่
ไม่มีมาตรฐานอะไร แต่มักยาว 3-10 หน้า A4 Angsana new16 และถึงแม้จะสั้นมากแค่หน้าเดียวแต่ถ้าเป็นคนละอารมณ์คนละฉาก เราก็แยกบทอะ
6.มีสต็อกกี่ตอนก่อนจะนำนิยายมาลง
บางวันไม่มีสต็อกเลย พิมพ์เสร็จลงเลย เดี๋ยวค่อยrewrite555
แต่จะมีวินัยให้ตัวเองค่ะเขียนวันละครึ่งถึงหนึ่งตอน หรือถ้าไม่ไหวจริงๆหนึ่งหน้ากระดาษก็ยังดี
พยายามเขียนทุกวันทำให้เป็นนิสัยค่ะ
นักเขียนไม่ได้เป็นกันง่ายๆ อยากเขียนแล้วโด่งดังก็ต้องมีวินัยและสม่ำเสมอ และพัฒนาตัวเองไม่หยุด โดยอ่านงานเขียนของคนอื่นๆ ดูภาพยนต์ ดูงานศิลปะ หาข้อมูล
เขียนยาวที่สุดที่เคยเขียนมา แต่ขอให้เป็นประโยชน์กับ จขกท.นะคะ
1. คุณวางแผนในการเขียนยังไง
ก็ต้องคิดพล็อตก่อน ขบให้แตก ชัดแจ้งแทงตลอด มีที่มาที่ไป เอาให้สมเหตุสมผล รายละเอียดปลีกย่อยไม่มีให้หลุดรอด สิ่งหนึ่งนำไปสู่อีกสิ่งหนึ่ง
จนถึงที่สุดของที่สุดแล้ว มั่นใจแล้วค่อยเริ่มเขียนค่ะ
3. (สำหรับคนที่วางพลอตก่อนเขียน) คุณเขียนตามพลอตที่วางไว้ทั้งหมดหรือเปล่า มีการเพิ่มอะไรเข้าไปบ่อยไหม พลอตวางไว้ละเอียดขนาดไหน
จะลิสจำนวนบทก่อนว่าจะลำดับเนื้อเรื่องยังไงดี ส่วนมากจะไม่ให้เกินสามสิบตอนค่ะ เป็นคนชอบอ่านนิยายเล่มเดียวจบ เลยไม่ชอบเขียนอะไรยาวๆ
4. ตัวละครเด่นๆที่เพิ่มเข้ามาทีหลังเป็นตัวละครที่คุณวางไว้ตั้งแต่ทีแรก หรือว่าเพิ่มเข้ามาตามอารมณ์
วางไว้ตั้งแต่ตอนคิดพล็อตเลยค่ะ
5. แต่ละบทของคุณยาวกี่หน้า มีมาตรฐานไหมว่าแต่ละตอนต้องยาวประมาณเท่าไหร่ ถ้าวางพลอตแล้วเขียนได้ไม่ถึงจะทำยังไง เอาตอนต่อไปมายัดใส่ไหม
พยายามที่สุดที่จะเขียนให้ได้ตอนละ สามพันคำ ก็โดนว่าเหมือนกันว่าเขียนสั้น เราก็บอกไปว่าความสามารถเรามีแค่นี้แหล่ะ55
6. มีสต็อกกี่ตอนก่อนจะนำนิยายมาลง (เราไม่เชื่อหรอกว่านายไม่มี!!)
บอกเลยว่าไม่มีสต็อคค่ะ55
ขอเสริมที่ไม่ได้ถาม
เวลาเราเขียน เราจะทำสี่่ขั้นตอน หลังจากได้พลอตใหญ่และเล็กแล้วนะ
1.นอนฝัน เห็นฉากและเรื่องราวคร่าวๆตัวละครสื่อสารกันอยู่ยังไง
คิดบทพูด แล้วหากมีความรู้สึกก็ใส่ไปเลย
2.นอนต่อ เห็นท่าทางสีหน้าของตัวละครที่กำลังพูดกันมากขึ้น
ใส่ท่าทางความรู้สึกเพิ่มเติมให้ได้อารมณ์ละเอียดมากขึ้น แล้วใส่เสริมบทพูด
3.นอนอีก มองเห็นภาพที่ฉากให้ชัดว่าบรรยากาศเป็นยังไง
บรรยายฉากและบรรยากาศโดยรวมที่ไม่เวิ่น แต่เอาที่สะท้อนอารมณ์ความรู้สึกของฉากนั้นๆได้ดี
4.RE-write ตรวจทานคำผิด ขั้นตอนนี้ยังไงก็ต้องมี เติมส่วนที่ขาด ตัดส่วนที่เกิน!
1. คุณวางแผนในการเขียนยังไง เช่น การวางพลอตและสร้างตัวละคร คุณสร้างตัวละครเริ่มต้นมากี่ตัว เริ่มต้นจะเขียนเป็นแผนภาพความสัมพันธ์ก่อนไหม ฯลฯ
เราวางแผนแค่ตัวนางเอกกับพระเอก และตอนจบไว้(คิดตอนจบไว้ก่อนเลย อิอิ) ที่เหลืองอกมาเองตามกาลเวลา
2. วางพลอตเรื่องก่อนหรือเขียนด้นสดตามอารมณ์ ถ้าเคยทำทั้งสองแบบ เราอยากทราบความเห็นของคุณว่าแบบไหนทำให้มีแรงบันดาลใจมากกว่ากัน
ตามอารมณ์เรา แต่ยังอิงพลอตเดิมอยู่ประมาณ 10%
3. (สำหรับคนที่วางพลอตก่อนเขียน) คุณเขียนตามพลอตที่วางไว้ทั้งหมดหรือเปล่า มีการเพิ่มอะไรเข้าไปบ่อยไหม พลอตวางไว้ละเอียดขนาดไหน
พลอตดั้งเดิมสุดเนื้อเรื่องแนวคอมเมดี้ ประชดนิยายแนวจีนทะลุมิติ แต่ตอนนี้คำตอบอยู่ในข้อสอง
4. ตัวละครเด่นๆที่เพิ่มเข้ามาทีหลังเป็นตัวละครที่คุณวางไว้ตั้งแต่ทีแรก หรือว่าเพิ่มเข้ามาตามอารมณ์
เพิ่มตามอารมณ์ เอาไว้คอยขัดขวางไม่ให้คนเขียนทำบ้า ๆ ไป
5. แต่ละบทของคุณยาวกี่หน้า มีมาตรฐานไหมว่าแต่ละตอนต้องยาวประมาณเท่าไหร่ ถ้าวางพลอตแล้วเขียนได้ไม่ถึงจะทำยังไง เอาตอนต่อไปมายัดใส่ไหม
อย่างน้อยห้าหน้า A4 แต่เกินทุกครั้ง แต่เคยขาดเลย ไม่เข้า่ใจเหมือนกัน
6. มีสต็อกกี่ตอนก่อนจะนำนิยายมาลง (เราไม่เชื่อหรอกว่านายไม่มี!!)
ไม่มี เพราะคิดว่าเดี๋ยวก็เปลี่ยนอีกแล้ว คนอ่านเดาทางไม่ถูก คนเขียนยังให้ตัวเอกในเรื่องนำทางอยู่เลย
เป็นคนหนึ่ง ที่ชอบเขียนอะไรตามอารมณ์(โดยเฉพาะตอนเริ่มเรื่อง) เพราะฉะนั้นจะมีเรื่องที่อาจจะมีแค่ครึ่งหน้า หรือมากกว่านั้น และไม่มีแววว่าจะแต่งจบแอบซ่อนอยู่ในทุกที่ บางครั้งประโยคที่ชอบก็จะถูกโน้ตไว้แบบเกลื่อนกลาด
วิธีที่คิดว่าจะแต่งนิยายให้จบได้
1. คุณวางแผนในการเขียนยังไง เช่น การวางพลอตและสร้างตัวละคร คุณสร้างตัวละครเริ่มต้นมากี่ตัว เริ่มต้นจะเขียนเป็นแผนภาพความสัมพันธ์ก่อนไหม ฯลฯ
แน่นอนว่าตอนแรกที่เขียนไม่ได้วางแผนอะไร เพราะทำตามอารมณ์ล้วน ๆ บางครั้งตัวละครที่คิดได้ก่อน อาจเป็นได้แค่ตัวประกอบ สุดท้ายเราอาจหยิบคนอื่นขึ้นมาเป็นพระเอก
การสร้างตัวละครเริ่มต้น จะยกมาทั้งบ้าน(ครอบครัว) มีตัวเอกก็ต้องมีญาติพี่น้องของตัวเอก มีคนในสังคม (เพราะชอบแนวประมาณนี้โดยส่วนตัว)
ไม่ได้เขียนแผนภาพความสัมพันธ์อะไรชัดเจนนัก แค่ร่าง ๆ ไว้ในกระดาษบ้างในบางที กันว่าจะลืม
เรื่องพลอต ตอนที่เริ่มต้นเขียนคือ ไม่มี เขียนตามอารมณ์ไปสักระยะ ถ้าคิดชื่อเรื่องได้ เมื่อนั้นคือจะมีพล็อตตามมา แปลว่ามีโอกาสเขียนจบมากกว่า 50%
2. วางพลอตเรื่องก่อนหรือเขียนด้นสดตามอารมณ์ ถ้าเคยทำทั้งสองแบบ เราอยากทราบความเห็นของคุณว่าแบบไหนทำให้มีแรงบันดาลใจมากกว่ากัน
เคยทำมาทั้งสองแบบ ส่วนใหญ่เรื่องที่อาศัยการวางพลอตล้วน ๆ แล้วค่อยเขียน โดยส่วนตัวมักจะเขียนไม่ค่อยจบ แต่เรื่องที่เริ่มต้นด้วยแรงบันดาลใจอะไรสักอย่างนำมาก่อน จากนั้นค่อยร่างพลอตมาเสริมความสมเหตุสมผล แบบนั้นโอกาสเขียนจบ(และเขียนไปได้อย่างมีความสุข) มีมากกว่า
***แต่เมื่อเขียนไปถึงจุดหนึ่ง แม้จะเริ่มต้นเขียนขึ้นมาด้วยแรงบันดาลใจบลา ๆๆ มาก่อน เราควรตัดอารมณ์นั้นออก และเดินตามพลอต เพราะถ้ามัวแต่ยึดอารมณ์มากไป มันจะเขียนไม่จบ...(เป็นคนสับสนเล็ก ๆ 55+)
3. (สำหรับคนที่วางพลอตก่อนเขียน) คุณเขียนตามพลอตที่วางไว้ทั้งหมดหรือเปล่า มีการเพิ่มอะไรเข้าไปบ่อยไหม พลอตวางไว้ละเอียดขนาดไหน
เมื่อวางพลอต แน่นอนว่า ไม่ได้เขียนตามพลอตทั้งหมด ขึ้นกับว่าพลอตละเอียดแค่ไหน ถ้าแค่วางโครงหลวม ๆ มันจะไม่ช่วยอะไรเท่าไร โดยเฉพาะกับคนที่เบื่อง่าย เราจะเบื่อได้เร็ว
ดังนั้นสมควรเขียนโน้ตไว้เป็นประเด็นย่อย ๆ เป็นข้อ ๆ ไป เช่น อยากเขียนเรื่องที่ยาวสัก 10 บท ควรมีประเด็นในมือสัก 8 ประเด็น ประเด็นที่ว่านั้น เช่น
AพบBวันที่ฝนตก
AบอกรักBใต้ต้นไม้...
AไปหาBที่...
เขียนอะไรไปในบทไหนแล้ว ให้กลับไปขีดฆ่า เพื่อจะได้ไปเขียนประเด็นอื่นต่อ ท้าทายดี ไม่เบื่อ เหมือนเล่นเกมกับตัวเองนิด ๆ (ส่วนตัวใช้วิธีนี้)
4. ตัวละครเด่นๆที่เพิ่มเข้ามาทีหลังเป็นตัวละครที่คุณวางไว้ตั้งแต่ทีแรก หรือว่าเพิ่มเข้ามาตามอารมณ์
ตัวละครเด่น วางมาตั้งแต่ต้นที่เขียน
อาจไม่ได้ประกาศต่อทุกคนว่ามีตัวละครนี้อยู่ แต่ ณ จุดที่ ได้ชื่อเรื่อง+ได้โครงเรื่องใหญ่ ๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ = ตัวละครเด่นทุกตัวควรมีลิชอยู่ในมือคนเขียนทั้งหมดแล้ว ไม่เพิ่มตามอารมณ์ เพราะเดี๋ยวจะเขียนไม่จบ
5. แต่ละบทของคุณยาวกี่หน้า มีมาตรฐานไหมว่าแต่ละตอนต้องยาวประมาณเท่าไหร่ ถ้าวางพลอตแล้วเขียนได้ไม่ถึงจะทำยังไง เอาตอนต่อไปมายัดใส่ไหม
ส่วนตัวเขียนตามใจ แต่คิดว่ามีกรอบไว้จะดีกว่า เรื่องก่อน ๆ ที่เคยเขียน จะติดชอบเขียนตอนหนึ่งยาว ๆ
แต่ว่าเรื่องล่าสุดที่เขียน เขียนตอนยาวไม่ไหว เพราะไม่มีความสามารถ+ไม่มีเวลามากเหมือนอดีต
ตอนนี้จึงอยู่ที่ 2หน้า A4 ตัวอักษร Arial 11 (ปล. ไม่ได้ตั้งมั่นอะไรที่ตัวอักษรและขนาด มันเป็นพื้นฐานมาตอนกดสร้างเอกสารในกูเกิลdocsเฉยๆ )
ปัจจุบันจะคอยเช็คดูคำในแต่ละบทด้วย ให้อยู่ประมาณ 2000 คำ
ปล. ตอนแรก ๆ ที่เขียนก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ แต่ตอนนี้คิดว่านับที่จำนวนคำจะดีกว่าจำนวนหน้า เพราะว่าเวลาเราเว้นบรรทัด หรือบางบทเขียนตัวอักษรเยอะ ๆ จำนวนหน้ามันไม่ได้ช่วยให้ควบคุมเรื่องได้ง่าย
นับจำนวนคำดีกว่าค่ะ...
6. มีสต็อกกี่ตอนก่อนจะนำนิยายมาลง (เราไม่เชื่อหรอกว่านายไม่มี!!)
เรื่องนี้ จากเรื่องล่าสุดที่เขียนคือ...ก่อนจะนำมาลง มีอยู่ในมือ 50บท พึ่งคิดชื่อเรื่องออก ก็ตอนที่เขียนไปถึงจุดนั้น และพลอตมันก็พึ่งชัดเจนตอนนั้นเหมือนกัน
ลงในเว็บวันแรก จึงได้บ้าพลังลงไปเลยทีเดียว 41 บท (เป็นจำนวนของบทที่ไม่ดิ้นอีกแล้ว เพราะเป็นไปตามพลอตแล้ว ซึ่งก็คือ--พลอตที่พึ่งเกิดมาประกบทีหลัง 55+)
จากที่ลงไปแล้วจึงมีผู้อ่านใจดี แนะนำว่าควรลงวันละบท(จะได้คนอ่านมากกว่า) จากนั้นจึงพยายามลงให้ได้วันละบท
ปัจจุบัน เขียนให้ได้วันละบทก็รู้สึกว่าเต็มที่แล้ว
และจะเขียนไว้ แบบคิดอะไรออกก็เขียนไปก่อนในวันนี้
จากนั้นทำเหมือนบางความเห็นข้างบน คือ ไปนอน ตื่นมาอีกวัน อ่านทวน+แก้ไข แล้วจึงสามารถนำลงให้อ่านได้
ตอนในมือที่เก็บไว้ ณ ปัจจุบัน....
จึงสมควรเรียกว่า เศษอิฐที่ยังไม่ได้ก่อ... หรือ ครึ่งสุกครึ่งดิบ ไม่สดและยังไม่ควรกิน 55+ และมันมีในแบบที่นับจำนวนไม่ได้...
1. คุณวางแผนในการเขียนยังไง ... วางนางเอก/พระเอกและแกนหลัก เท่านี้ค่ะ เช่น สมมุติจะเขียนซินเดอเรลล่า พล็อตคือ ผู้หญิงไปเจอเจ้าชายแล้วเจ้าชายมาตามตัวกลับวัง แค่นี้ค่ะ
2. วางพลอตเรื่องก่อนหรือเขียนด้นสดตามอารมณ์ ... วางเฉพาะแกนหลักค่ะ กิ่งรองด้นสดเอา คิดว่าด้นสดแล้วสนุกแต่ยาก ควรมีแกนหลักไว้ด้วยจะได้ไม่ออกทะเลสะเปะสะปะค่ะ เน้นให้เรื่องอยู่ใกล้ตัวจะได้คิดสดง่ายเพราะข้อมูลอยู่ในหัวอยู่แล้ว แล้วก็ต้องคอยดูไม่ให้ที่เราคิดสดมันขัดกับเรื่องบทเก่าๆด้วยค่ะ
3. (สำหรับคนที่วางพลอตก่อนเขียน) คุณเขียนตามพลอตที่วางไว้ทั้งหมดหรือเปล่า ... เปลี่ยนพลอตแค่ตอนจบค่ะ
4. ตัวละครเด่นๆที่เพิ่มเข้ามาทีหลังเป็นตัวละครที่คุณวางไว้ตั้งแต่ทีแรก หรือว่าเพิ่มเข้ามาตามอารมณ์ ... วางแค่นางเอก-พระเอก ที่เหลือคิดสดหมดค่ะ ตัวที่เด่นคือตัวที่อยู่กับเราตั้งแต่ตอนแรกๆ ที่เพิ่มมาท้ายๆคือไม่เรียกว่าตัวเด่นแล้วค่ะ
5. แต่ละบทของคุณยาวกี่หน้า มีมาตรฐานไหมว่าแต่ละตอนต้องยาวประมาณเท่าไหร่ ถ้าวางพลอตแล้วเขียนได้ไม่ถึงจะทำยังไง เอาตอนต่อไปมายัดใส่ไหม .. แบ่งบทตามอารมณ์ค่ะ กะให้ยาวประมาณพอที่จะไม่ทำให้ผู้อ่านรู้สึกว่ากดอ่านแล้วไม่คุ้มก็พอค่ะ
6. มีสต็อกกี่ตอนก่อนจะนำนิยายมาลง (เราไม่เชื่อหรอกว่านายไม่มี!!) ... เชื่อเถอะค่ะ พิมพ์สดในมือถือเลย แล้วบันทึกแบบร่างไว้ มาใช้คอมปรับอักษร แก้คำผิด แก้ภาษาที่ขัดหู เพื่ออัพจริงทีหลังค่ะ มีบทเดียวที่พิมพ์ในแบบร่างไว้ยาวมากจนมาแบ่งได้เกือบ 3 ตอนเพราะอยู่ต่างประเทศเลยไม่มีคอมเช็คงานก่อนอัพค่ะ
ตอบค่ะ ^_^
1. คุณวางแผนในการเขียนยังไง เช่น การวางพลอตและสร้างตัวละคร คุณสร้างตัวละครเริ่มต้นมากี่ตัว เริ่มต้นจะเขียนเป็นแผนภาพความสัมพันธ์ก่อนไหม ฯลฯ
เราวางแผนในการเขียนจากแรงบันดาลใจก่อนเลย คือ มีตัวละครหนึ่งตัวเกิดขึ้นในหัว จากนั้นจะเกิดว่า คนๆ นี้ เขากำลังจะไปเผชิญกับเรื่องแบบไหน มีใครอยู่ในเรื่องราวที่เขาเผชิญบ้าง ซึ่งในส่วนนี้เราไม่จำกัดจำนวนตัวละคร เราจะคิดแค่ว่าเรื่องนั้นๆ ควรจะมีคนสำคัญกี่คน แล้วจากนั้นจะเขียนทุกอย่างเกี่ยวกับตัวละครแต่ละตัวลงไป เช่น นิสัย อายุ ลักษณะภายนอก ปมในใจ ประมาณนี้
2. วางพลอตเรื่องก่อนหรือเขียนด้นสดตามอารมณ์ ถ้าเคยทำทั้งสองแบบ เราอยากทราบความเห็นของคุณว่าแบบไหนทำให้มีแรงบันดาลใจมากกว่ากัน
3. (สำหรับคนที่วางพลอตก่อนเขียน) คุณเขียนตามพลอตที่วางไว้ทั้งหมดหรือเปล่า มีการเพิ่มอะไรเข้าไปบ่อยไหม พลอตวางไว้ละเอียดขนาดไหน
ตอบข้อ 2-3 เราวางพลอตเรื่อง เพราะนิสัยส่วนตัวเราเป็นพวกโลเล ถ้าด้นสดปุบออกทะเลแน่นอน เลยต้องวางไว้ แต่จะวางแค่สามจุดใหญ่ คือ ต้นเรื่อง กลางเรื่อง และตอนจบ รายละเอียดปลีกย่อยระหว่างทางจะปรับไปเรื่อยๆ ค่ะ
4. ตัวละครเด่นๆที่เพิ่มเข้ามาทีหลังเป็นตัวละครที่คุณวางไว้ตั้งแต่ทีแรก หรือว่าเพิ่มเข้ามาตามอารมณ์
บางตัวก็ตามอารมณ์ แบบว่าเขียนๆไปเริ่มไม่ make sense ต้องเอาตัวละครเหล่านี้มาช่วยแก้ให้พอไปได้ 555+
5. แต่ละบทของคุณยาวกี่หน้า มีมาตรฐานไหมว่าแต่ละตอนต้องยาวประมาณเท่าไหร่ ถ้าวางพลอตแล้วเขียนได้ไม่ถึง จะทำยังไง เอาตอนต่อไปมายัดใส่ไหม
ของเราที่จะลองส่งสำนักพิมพ์เราแบ่งไม่เหมือนที่ลงในเด็กดีค่ะ ในเด็กดี (ยังงงๆ อยู่เพิ่งมาใหม่ แนะนำได้นะคะ)
- ของเด็กดีเราจะลงแค่บทละฉาก หรือ สองฉากในกรณีที่สั้นมากๆ แบบไม่ถึง 3000 ตัวอักษร เพราะกลัวว่ายาวไปคนจะท้อไม่อยากอ่านไปก่อน
- ของที่จะลองส่งสำนักพิมพ์ เราจะใส่ไว้บทละไม่ต่ำกว่า 3-4 ฉาก โดยที่ให้มันสอดคล้องไปด้วยกัน หรือแบ่งตามความเหมาะสม ว่าควรจะขึ้นบทใหม่ที่จุดไหน
6. มีสต็อกกี่ตอนก่อนจะนำนิยายมาลง (เราไม่เชื่อหรอกว่านายไม่มี!!)
แล้วแต่วันเลยค่ะ แต่มีแน่นอน เพราะเราโลเล ชอบแก้ไปเรื่อย เราต้องมีเผื่อไว้จะได้ลงแล้วไม่ต้องตามมารีไรท์ซ้ำ
1. คุณวางแผนในการเขียนยังไง เช่น การวางพลอตและสร้างตัวละคร คุณสร้างตัวละครเริ่มต้นมากี่ตัว เริ่มต้นจะเขียนเป็นแผนภาพความสัมพันธ์ก่อนไหม ฯลฯ
ด้นสดเอาครับ กำหนดตัวละครก่อนเลย เดวโยงให้มันเอง
2. วางพลอตเรื่องก่อนหรือเขียนด้นสดตามอารมณ์ ถ้าเคยทำทั้งสองแบบ เราอยากทราบความเห็นของคุณว่าแบบไหนทำให้มีแรงบันดาลใจมากกว่ากัน
พล็อตคร่าวๆครับ แล้วก็ตามอารมย์ไปเลย
3. (สำหรับคนที่วางพลอตก่อนเขียน) คุณเขียนตามพลอตที่วางไว้ทั้งหมดหรือเปล่า มีการเพิ่มอะไรเข้าไปบ่อยไหม พลอตวางไว้ละเอียดขนาดไหน
4. ตัวละครเด่นๆที่เพิ่มเข้ามาทีหลังเป็นตัวละครที่คุณวางไว้ตั้งแต่ทีแรก หรือว่าเพิ่มเข้ามาตามอารมณ์
เป็นตัวละครหลงทางจากหิมพานต์ 555555555555555555
5. แต่ละบทของคุณยาวกี่หน้า มีมาตรฐานไหมว่าแต่ละตอนต้องยาวประมาณเท่าไหร่ ถ้าวางพลอตแล้วเขียนได้ไม่ถึงจะทำยังไง เอาตอนต่อไปมายัดใส่ไหม
5หน้าขึ้นไปครับ ถ้าต่ำกว่านี้คือ บทนำ555
6. มีสต็อกกี่ตอนก่อนจะนำนิยายมาลง (เราไม่เชื่อหรอกว่านายไม่มี!!)
ไม่เชื่อก็ไม่ต้องเชื่อครับ เขียนเสร็จลงเลย สต็อกมีเท่าไหร่เทลงแม่งให้หมด
How to Badwriterอย่างแรง
1. คุณวางแผนในการเขียนยังไง เช่น การวางพลอตและสร้างตัวละคร คุณสร้างตัวละครเริ่มต้นมากี่ตัว เริ่มต้นจะเขียนเป็นแผนภาพความสัมพันธ์ก่อนไหม ฯลฯ
ตอบ เราวางพล็อตแบบคร่าวๆไปก่อนค่ะ แล้วค่อยมาลงดีเทลแต่ละเหตุการณ์ว่าเกิดอะไรเพิ่มขึ้นมาอีกในแต่ละฉาก แล้วนำพล็อตทั้งหมดมาเขียนเรียงเป็นแผนผังอีกทีเพื่อจะได้เรียงลำดับเหตุการณ์ถูกและเขียนไม่งง ไม่ออกทะเลค่ะ ส่วนการสร้างตัวละครเราสร้าง"ตัวหลักที่ใช้ดำเนินเรื่อง"ก่อน(เช่น ใครเป็นนางเอก-พระเอก ชื่ออะไร ลักษณะนิสัยเป็นอย่างไร) แล้วค่อยสร้างตัวละครย่อย (เช่น คนรับใช้นางเอก พ่อพระเอก บลาาๆๆๆ) พอวางพล็อตวางตัวละครทั้งหมดเสร็จปุ๊บ ก็มาสร้างแผนภาพความสัมพันธ์ต่อ โยงใยเป็นเส้นไปเรื่อยๆค่ะ (แต่ต้องโยงอย่างมีระเบียบนะ ไม่งั้นเดี๋ยวจะงง)
2. วางพลอตเรื่องก่อนหรือเขียนด้นสดตามอารมณ์ ถ้าเคยทำทั้งสองแบบ เราอยากทราบความเห็นของคุณว่าแบบไหนทำให้มีแรงบันดาลใจมากกว่ากัน
ตอบ เราชอบวางพล็อตก่อนค่ะเราชอบทำงานอย่างเป็นระบบ เพราะเราเคยแต่งแบบด้นมาแล้วค่ะสรุปคือไปไม่รอด 55555 ออกทะเลจากที่เคยคิดพล็อตไว้คร่าวๆในหัวไปไกลมากๆ TwT แต่บางคนเขาก็ถนัดแต่งแบบด้นสดนะคะ อันนี้แล้วแต่คุณจขกท.แล้วแหละค่ะว่าคุณชอบแบบไหน หาสไตล์ของตัวเองให้เจอ
3. (สำหรับคนที่วางพลอตก่อนเขียน) คุณเขียนตามพลอตที่วางไว้ทั้งหมดหรือเปล่า มีการเพิ่มอะไรเข้าไปบ่อยไหม พลอตวางไว้ละเอียดขนาดไหน
ตอบ เขียนตามพล็อตทั้งหมดที่วางไว้ตั้งแต่ต้นค่ะ เพราะเราวางพล็อตไว้ค่อนข้างละเอียด ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องเพิ่มส่วนไหนอีก เราชอบทำงานครั้งเดียวค่ะคือทำให้ละเอียดชัดเจนไปเลย เราไม่ชอบทำงานซ้ำๆหลายครั้งเช่น วางพล็อตไว้แต่บางช่วงยังมีรูโหว่ก็ค่อยๆมาแต่งเพิ่มเติมทีละนิดเอา เราขี้เกียจทำแบบนั้นค่ะเลยวางพล็อตไว้ละเอียดตั้งแต่แรกไปเลย
4. ตัวละครเด่นๆที่เพิ่มเข้ามาทีหลังเป็นตัวละครที่คุณวางไว้ตั้งแต่ทีแรก หรือว่าเพิ่มเข้ามาตามอารมณ์
ตอบ เป็นตัวละครที่วางไว้แต่แรกค่ะ ไม่มีการเพิ่มกลางคันเพราะลำพังตัวละครเดิมที่มีอยู่ในมือก็เยอะและคิวแน่นกันจะแย่แล้ว 55555
5. แต่ละบทของคุณยาวกี่หน้า มีมาตรฐานไหมว่าแต่ละตอนต้องยาวประมาณเท่าไหร่ ถ้าวางพลอตแล้วเขียนได้ไม่ถึงจะทำยังไง เอาตอนต่อไปมายัดใส่ไหม
ตอบ เราไม่มีการกำหนดค่ะว่าต้องกี่หน้า อย่างต่ำสุดต้องกี่หน้า เขียนตามที่ตัวเองต้องการค่ะว่าอยากได้ยาวหรือสั้นแค่ไหน แต่บางคนเขาก็ชอบกำหนดปริมาณหน้านะคะ แต่เราไม่กำหนดเพราะไม่รู้จะไป fix กับจำนวนหน้าทำไม
6. มีสต็อกกี่ตอนก่อนจะนำนิยายมาลง (เราไม่เชื่อหรอกว่านายไม่มี!!)
ตอบ เราไม่ได้เอานิยายมาลงเว็บค่ะ เลยตอบไม่ได้ 555555 กำหนดจบน่าจะประมาณปลายปีนี้ เราเขียนในword แล้วรอส่งยื่นสนพ.ทีเดียวเลยค่า ^^
1. คุณวางแผนในการเขียนยังไง
คิดโครงเรื่องหลักก่อนว่าหลัก ๆ แล้วเรื่องนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
บังเอิญว่าเรื่องที่เขียนเป็นแนวเกมออนไลน์ที่ตัวเอกต้องไปทำเควสท์ตั้งแต่ต้นจนจบ ก็เลยเป็นว่ามาวางเควสท์ที่เป็นเมนหลักของเรื่อง วางว่าเควสท์จะมีกี่ขั้น แต่ละขั้นจะเกิดอะไรขึ้น เควสท์แต่ละขั้นก็กลายเป็นจุดเช็คพอยน์ของนิยายเราไป แต่เราไม่ได้วางพล็อตเรื่องละเอียดขนาดว่าในแต่ละขั้นต้องไปเจอใคร ทำอะไรขนาดไหน เชื่อมแต่ละขั้นยังไง
เสร็จแล้วก็มาวางนิสัย บุคลิก ของตัวละครหลักของเรื่อง กับตัวละครที่โผล่มาในช่วงแรก
2. วางพลอตเรื่องก่อนหรือเขียนด้นสดตามอารมณ์
ด้นสดงับ แต่ไม่เชิงว่าด้นสดทั้งหมดซะทีเดียว ก่อนเขียนในแต่ละตอนเราจะมาร่างพล็อตแบบละเอียดของตอนนั้น ๆ ก่อน
เนื่องจากนิยายเราเป็นแนวเกมออนไลน์ เราจะดูว่าสถานการณ์ของตอนปัจจุบันของตัวละครมันเกิดอะไรขึ้น ถ้าเราเป็นตัวละครนั้น ที่นิสัยบุคลิกอย่างนั้น มิความสามารถกับไอเทมในมืออย่างในขณะนั้น แล้วอยู่ในสถานการณ์นั้น เราจะใช้สิ่งที่มีอยู่ยังไงให้พยายามไปถึงเช็คพอยน์ที่ใกล้ที่สุดในปัจจุบัน ก็วางแผนเหมือนตอนเล่นเกมออนไลน์นั่นแหละ
แต่ก็ต้องมากะดูด้วยว่า ปริมาณของพล็อตละเอียดของตอนนั้น ต้องให้เรื่องดำเนินไปได้ประมาณ 1 ตอนพอดี ไม่มากไม่น้อยไป แต่ก็ต้องมากพอที่จะมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเพื่อให้ไปถึงเป้าหมาย
เสร็จแล้วก็มานั่งจัดวิธีการนำเสนอของบทนั้น ว่าจะขึ้นยังไงให้น่าสนใจ ใช้วิธีการเล่าเรื่องแบบไหน พอเขียน ๆ ไปก็เริ่มมาคิดว่าจะจบบทยังไงให้พีค จบให้น่าติดตาม
สรุปว่าเรามาร่างพล็อตบทต่อบทให้แต่ละบทเริ่มและจบในตอนน่ะ โดยแต่ละบทต้องมีส่วนผลักเนื้อเรื่องให้ไปตามโครงตามเช็คพอยน์หลัก
3. (สำหรับคนที่วางพลอตก่อนเขียน)
ไม่ได้วางพล็อตทั้งหมดก่อนงับ
4. ตัวละครเด่นๆที่เพิ่มเข้ามาทีหลังเป็นตัวละครที่คุณวางไว้ตั้งแต่ทีแรก หรือว่าเพิ่มเข้ามาตามอารมณ์
เป็นทั้ง 2 แบบ
ตัวละครเด่นจริง ๆ อย่างเช่นตัวร้ายหลักได้วางไว้พร้อมกับโครงเรื่องแล้ว แต่อาจจะโผล่มาช้าหน่อย
ส่วนตัวละครเด่นอื่น เนื่องจากว่าแต่ละตอนต้องกลับไปอ้างอิงจากสถานการณ์ก่อนหน้า ตัวละครบางตัวที่มีอยู่แต่แรกแต่ไม่เด่นก็อาจกลับมากลายเป็นตัวเด่น ถ้าตัวละครนั้นสามารถมาช่วยผลักให้สถานการณ์วิ่งเข้าหาเช็คพอยน์ไหลไปตามโครงเรื่องได้
แต่ตัวละครเด่นหลาย ๆ ตัวก็เพิ่งโผล่เข้ามา โดยจุดประสงค์ก็เพื่อทำให้เรื่องวิ่งเข้าหาเช็คพอยน์ไหลไปตามโครงเรื่องได้เหมือนกัน
สรุปคือ ตัวละครจะมาจากไหนก็ได้ แต่ต้องทำให้สถานการณ์ไหลไปหาจุดจบ แต่ถ้าเลือกได้เราจะกลับไปเลือกตัวละครที่มีอยู่เดิม
5. แต่ละบทของคุณยาวกี่หน้า มีมาตรฐานไหมว่าแต่ละตอนต้องยาวประมาณเท่าไหร่ ถ้าวางพลอตแล้วเขียนได้ไม่ถึงจะทำยังไง เอาตอนต่อไปมายัดใส่ไหม
แต่ละตอนกะไว้ให้อยู่ระหว่าง 2000-3000 คำ แต่ถ้าเนื้อหาไหลไปถึงจุดที่ต้องการแล้วแต่ยังไม่ถึง 2000 คำดีก็จบแค่นั่น อาจไปเพิ่มการบรรยายรายละเอียดนิดหน่อย
ถ้าเกิน 3000 คำแต่เนื้อเรื่องเกือบถึงจุดจบของบนที่กะไว้ก็เขียนต่อจนจบ
ถ้าเกิน 3000 แล้วยังไม่มีวี่แววว่าเรื่องจะเดินไปจนถึงจุดที่กะไว้ก็จะหาทางลง หาจุดจะสวย ๆ ของบทนั้นใหม่ ตัดพล็อตที่เหลือไปบทถัดไปแทน
6. มีสต็อกกี่ตอนก่อนจะนำนิยายมาลง
สายด้นสดของแท้งับ สต็อกน่ะไม่มีหรอก ถ้าไม่เสร็จตามเวลาที่ตั้งใจจะลงก็ถือว่าดีเลย์ไป ทำอะไรไม่ได้
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?