Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

พ่อแม่ภูมิใจ! ลูก ม.6 ใช้พลังติ่งเขียนนิยายหาเงินเรียนต่อแบบไม่ขอพ่อแม่อีกต่อไป : Iliicit Iliicit

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่


“เราเขียนนิยาย เราขายนิยายแล้วเรามีรายได้ เราไม่ขอเงินพ่อแม่แล้ว เราใช้เงินเราเอง เขาก็เลยรู้ เขาเอาไปอวดไปทั่วเลย บอกว่าลูกเขียนนิยายได้เงินก็เลยไม่ขอพ่อแม่แล้ว” 

หลายคนที่มีความคิดอยากเขียนนิยาย อาจคิดว่าเราต้องมีเวลามาทุ่มเทให้กับการเขียนมากๆ ถึงจะประสบความสำเร็จได้ แต่สำหรับเด็กสาววัย 18 ปีคนนี้ ที่กำลังเรียนออนไลน์และเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยอยู่ เธอมีความคิดอยากจะหาอะไรทำคลายเครียดบ้าง เลยลองใช้เวลาว่างหลังเลิกเรียนมาเขียนนิยายออนไลน์ เขียนไป อัปไป ก็เลยลองขายไปด้วย เพียงเวลาไม่กี่เดือนก็มีรายได้จากการขายนิยายออนไลน์มาซื้ออุปกรณ์การเรียน และมีเงินเก็บสำหรับจ่ายค่าเทอมได้อย่างไม่คาดคิด!

เรื่องราวการเป็นนักเขียนของ “Iliicit Iliicit หรือ น้องเอิร์น” เด็กสาวชั้น ม.6 วัยมัธยมคนนี้ เริ่มต้นมาจากการเป็นนักเขียนแฟนฟิคแนวการ์ตูนมานานถึง 6 ปีเต็ม ก่อนที่เธอจะหันมาติ่งรายการไอดอลจีน และผันตัวมาลองแต่งนิยายที่มาจากจินตนาการของตัวเองดูบ้าง โดยผสมผสานระหว่างความติ่งกับความรู้ที่เรียนมา จนได้นิยายสุดฮิตที่กำลังติดท็อปอันดับหนึ่งของหมวดรักแฟนตาซีอยู่ในตอนนี้อย่างเรื่อง ‘จากนักวิทยาศาสตร์สู่หนทางการเป็นไอดอล’ ขึ้นมา 

ซึ่งน้องเอิร์นเล่าให้เราฟังว่า ตอนแรกที่เขียนนิยายเรื่องนี้ เธออยากเขียนเพื่อคลายเครียดจากการเรียนเท่านั้น ไม่คาดคิดว่านิยายที่ยังเขียนไม่จบแถมยังเปิดขายแบบตอนอ่านล่วงหน้า จะได้รับการสนับสนุนจากนักอ่านจนมีรายได้จากการขายนิยายในแต่ละเดือนมากถึงห้าหลัก อีกทั้งการเขียนนิยายยังกลายเป็นงานอดิเรกที่สร้างความภาคภูมิใจให้เธอและครอบครัวได้อีกด้วย

ในบทสัมภาษณ์นี้ เราเลยชวนน้องเอิร์นมาแบ่งปันเรื่องราวดีๆ ในฐานะนักเขียนวัยเรียนคนหนึ่ง ที่ช่วงนี้กำลังเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย ทั้งยังเรียนออนไลน์ และเขียนนิยายไปพร้อมๆ กันด้วย เชื่อว่าเรื่องราวของเธอจะเป็นแรงบันดาลใจดีๆ ให้นักเขียนทุกคนไม่ยอมแพ้บนเส้นทางนักเขียนกันค่ะ
 


คลายเครียดจากการเรียนด้วยการลองเขียนนิยาย!

สวัสดีค่ะ ชื่อเอิร์นนะคะ นามปากกา Iliicit Iliicit   ปัจจุบันเขียนเรื่อง ‘จากนักวิทยาศาสตร์สู่หนทางการเป็นไอดอล’ ค่ะ ตอนนี้อายุ 18 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.6 ค่ะ ช่วงนี้กำลังเรียนออนไลน์แล้วก็แต่งนิยายไปด้วยค่ะ ตอนเช้าเราเรียนตามปกติ ส่วนหลังเลิกเรียนคือเราเอาเวลามาแต่งนิยายค่ะ เหนื่อยมาก แต่มันสนุกก็เลยไปต่อได้ 

เราเขียนนิยายมาประมาณ 6 ปีแล้วค่ะ เขียนตั้งแต่ม. 1 เพราะว่าเราเป็นคนเครียดง่าย และมีคนแนะนำว่าถ้าเขียนนิยายจะช่วยคลายเครียดได้ก็เลยลองเขียนนิยายดู ช่วงนั้นกำลังติดการ์ตูนทุกเรื่องหนักมาก เรื่องไหนมาใหม่จะดูหมด เราก็เลยมาลองเขียนแฟนฟิคดู ที่สนุกก็คือเราอยากให้เรื่องเป็นยังไง เราก็เขียนให้เรื่องมันออกมาเป็นยังงั้น เราก็เลยสนุกที่ทำให้เรื่องมันเป็นไปตามที่เราต้องการค่ะ

ตอนเปลี่ยนมาเขียนนิยายแนวออริยากนะ ยากมากๆ แต่ว่าเราอยากมีเรื่องที่เป็นของเราที่แบบลองลงขายได้ ก็เลยลองเขียนดู 

ที่เราเขียนได้มันเกิดจากการอ่านมากๆ พอเราอ่านของคนอื่น นักเขียนดังๆ เราก็จะรู้ว่าสำนวนเขาเป็นยังไง พอเราอ่านไปอ่านมา พอเราอยากลองเขียนใช่ไหม เราก็แค่จินตนาการภาพในหัวให้ชัดเจนและบรรยายออกมาให้ได้ เราอยากเขียนอะไรก็เขียนได้แค่มีภาพในหัวเข้ามา แล้วเราบรรยายให้ตรงกับภาพในหัวของเรามากที่สุดค่ะ


ผลงานนิยายในนามปากกา Iliicit Iliicit


เอาความติ่งมาเป็นแรงบันดาลใจแต่งนิยายอัปทุกวันจนติดท็อป!

ผลตอบรับดีทุกเรื่อง รู้สึกเกินคาดทุกเรื่องเลย โดยเฉพาะเรื่องนี้ “จากนักวิทยาศาสตร์สู่หนทางการเป็นไอดอล” เป็นเรื่องที่ดีที่สุด เรตติ้งดีที่สุด ดีหมดทุกอย่าง 
r3w
 เราเริ่มลงนิยายช่วงประมาณช่วงปลายเดือนกรกฎาคม  เราอัปนิยายต้องใช้คำว่าเกือบทุกวัน จะมีสักเดือนหนึ่งที่ไม่อัปสักครั้งสองครั้งแค่นั้นค่ะ เป็นไปได้ก็อยากอัปทุกวัน อัปทุกวันแล้วมันสบายใจ เพราะว่าขนาดเรายังรอนิยายเรื่องอื่นทุกวันเลย แล้วนักอ่านที่เขารอนิยายเราอ่ะ เขาก็รอทุกวันเหมือนกัน เราก็เลยลงมาเรื่อยๆ จนถึงเดือนนี้ ฟีดแบ็กดีมาก ดีกว่าที่เราคิดไว้มาก 

เรื่องนี้เราติดรายการเซอร์ไวเวอร์พวก CHUNG, Produce, Youth With You ติดรายการทางฝั่งนี้มาก เราก็เลยดู ดูไปดูมา อยากลองเขียนแนวนี้บ้าง เราก็เลยเอามาเป็นแรงบันดาลใจในการเขียนค่ะ 

 คิดว่าถ้าเขียนจากความชอบยังไงก็ไปต่อได้ เราก็เลยเอาความติ่งที่เราชอบมาเขียนเลย 

ส่วนสาเหตุที่ทำไมต้องเป็นนักวิทยาศาสตร์ เพราะว่าเราเรียนสายวิทย์ เราก็เลยอยากให้นางเอกเป็นแบบนักวิทยาศาสตร์อะไรอย่างนี้ คือมันเป็นสิ่งที่เรารู้อยู่แล้ว มันเป็นความรู้พื้นฐานเราก็เลยกล้าเอามาเขียน ถ้าเกิดเราไม่รู้เราไปหาใหม่ เราถึงจะเครียด 

ตอนแรกเราเขียนเล่นๆ เลย เขียนตอบสนองตัวเองล้วนๆ พอเขียนแรกๆ ตอนมันเยอะ ตอนมันได้ ไปต่อได้ ก็เลยลองลงบนเว็บเด็กดีดู เราเขียนอ่านเองก่อนค่ะ มันต้องอ่านเองก่อน เพราะเราจะได้รู้ว่าพอเราลงไปอ่ะ เราจะเขียนต่อได้หรือเปล่า มันจะไปต่อได้หรือเปล่า เพราะถ้าเกิดเราเขียนเลย ลงเลย บางทีไอเดียเราไม่มา ถ้าเกิดเราเขียนแล้วลงเลย เราก็จะดอง แล้วเราก็จะไม่กลับมาเขียนอีกเลย ฉะนั้นเราต้องลองอ่านเองก่อนค่ะ

นิยายเรื่อง จากนักวิทยาศาสตร์สู่หนทางการเป็นไอดอล ติดท็อปอันหนึ่งของหมวดรักแฟนตาซี
 

ลองขายตอนอ่านล่วงหน้าหาเงินเก็บไว้เรียนต่อมหา’ลัย


ตอนนั้นมันเป็นช่วงที่มีอะไรหลายอย่างเข้ามามาก คือตอนแรก เราก็ไม่คิดจะลงขาย เพราะเราไม่มั่นใจ แต่ไปๆ มาๆ น้องสาวชวน น้องบอกว่า ลองลงขายนิยายดู เราก็เลยลองลงขายดู  เราลองเพราะว่าเราก็มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินบ้าง แล้วอีกอย่างเราอยู่ ม.6 แล้ว มันจำเป็นที่จะต้องเก็บเงินในการไปเรียนต่อมหา’ลัยอีก เราก็เลยคิดว่า งั้นลองลงขายดูละกัน ก็เลยลองดู 

ตอนติดเหรียญสำหรับเรามันเป็นทางเลือกเดียว คือถ้าเกิดเขาอยากอ่านแล้วอ่ะ เขาก็ต้องซื้ออย่างเดียว ซึ่งเราไม่ชอบ เราอยากให้มันเป็นหลายๆ ทางเลือก ถ้าเกิดเขารอได้ก็รอ ไม่ต้องเสียเงิน แต่ว่าถ้าเกิดเขารอไม่ได้ เขาสามารถซื้อตอนต่อไปได้เลย เพราะเราอยากให้เขามีทางเลือกในการซื้อเราก็เลยเลือกขายตอนอ่านล่วงหน้า

คิดว่ามันต้องขายได้แหละ แต่ว่ามันคงไม่เยอะอะไรขนาดนั้น แต่มันเกินคาดทุกอย่าง เราไม่เคยคิดว่าเราจะได้ขนาดนี้หรือมาถึงขนาดนี้เลย

อาทิตย์แรกที่เราลงขาย เราได้ 3,000 บาทในอาทิตย์เดียว ตอนเห็นยอดครั้งแรกมาถึง 3,000 บาท มันเป็นเงินที่เยอะที่สุดเท่าที่เราหาได้แล้ว เราเป็นเด็กธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่เคยทำงาน ไม่เคยทำอะไร คืออยู่บ้านอย่างเดียว อ่านหนังสือ สอบ พอลองขายอาทิตย์แรกได้ 3,000 บาท เราว่ามันได้เยอะแล้ว พอลงขายมาเรื่อยๆ จนจบเดือนมันได้เยอะขนาดนี้ คือมันเกินคาดมาก ห้าหลักแล้วกัน ได้ถึงหลักหมื่น 

นิยายเรื่อง จากนักวิทยาศาสตร์สู่หนทางการเป็นไอดอล


พ่อแม่สุดภูมิใจ ลูกหาเงินเองได้ แถมเก็บเงินไว้เรียนต่อ

ที่บ้านรู้ เพราะเราบอกไว้ว่าเราเขียนนิยาย เราลงขายนิยายแล้วเรามีรายได้ เราไม่ขอเงินพ่อแม่แล้ว เราใช้เงินเราเอง เขาก็เลยรู้ เขาเอาไปอวดไปทั่วเลย บอกว่าลูกเขียนนิยายได้เงิน ก็เลยไม่ขอพ่อแม่แล้ว

ส่วนตัวเราเป็นเด็กเรียน ยอมรับเลยว่าเราเป็นเด็กเรียน เราก็เอาเงินส่วนหนึ่งเก็บไว้เป็นค่าเทอม อีกส่วนหนึ่งเก็บไว้ซื้ออุปกรณ์การเรียน เพราะเดี๋ยวนี้เรียนออนไลน์ เราไม่มีอุปกรณ์อะไรเลยนอกจากโทรศัพท์ เราก็อยากได้อุปกรณ์เพิ่ม เราก็เลยเก็บเงินไปซื้ออุปกรณ์ในการเรียนค่ะ 

ส่วนตอนนี้ความฝันเรายังไม่ชัด เรารู้แค่ว่าเราอยากเรียนคณะต่อไปคณะอะไร แต่เรายังหาตัวเองอยู่ ยังไม่แน่ใจว่าตัวเองจะเป็นอะไรได้ การเขียนนิยายมันเป็นงานอดิเรกค่ะ แต่ว่าตอนนี้เราอยากเป็นนักเขียนนะ 
 


เขียนนิยายคลายเครียดได้จริงๆ นะคะ  ยิ่งเขียนจากความชอบของเรา ยังไงก็ไปต่อได้แน่นอนค่ะ  ดูจากเรื่องราวของนักเขียนวัยเรียนคนนี้ได้เลย 

 แม้ว่าเธอคนนี้จะอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ต้องอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย แถมยังต้องเรียนออนไลน์ทุกวัน  แต่ทั้งที่มีเวลาว่างน้อยขนาดนี้ เธอก็ยังมีวินัยกับตัวเอง ตั้งใจเขียนนิยายอัปลงทุกวัน จนในที่สุด... ใครจะคาดคิดว่า แค่แบ่งเวลามาเขียนนิยายแก้เครียดหลังเลิกเรียน จะทำให้เด็กคนหนึ่งที่ไม่เคยทำงาน เรียนออนไลน์อยู่บ้าน อ่านหนังสือเตรียมสอบ  ได้ค้นพบงานอดิเรกที่ชอบ จนมีรายได้ที่กลายเป็นเงินเก็บก้อนแรกในชีวิต! 

ใครที่อยากเขียนนิยาย แต่คิดว่าต้องมีเวลามาทุ่มเทให้กับการเขียนมากๆ ถึงจะประสบความสำเร็จ ลองดูเรื่องราวจากน้องนักเขียนคนนี้ได้นะ น้องไม่ได้มองว่าเวลาเป็นอุปสรรคในการเขียนนิยายเลย แต่ความชอบและการมีวินัยต่อตัวเองต่างหาก คือสิ่งสำคัญที่ทำให้เราสามารถเขียนนิยายต่อไปได้ 

มาลองแบ่งเวลาวันละนิดเพื่อทำสิ่งที่เราชอบกันค่ะ ^^

เริ่มเขียนนิยายกัน



อ่านผลงานของ  “Iliicit Iliicit” 

แสดงความคิดเห็น